ใครบอกว่าเด็กเนิร์ดไม่มีประสบการณ์กันล่ะ หมาป่าในคราบแกะมีอยู่จริงนะ

แกงจืด รสแซ่บ - ตอนที่ 6 - โดย ศรกามเทพ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น,โรงเรียนไทย,เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

แกงจืด รสแซ่บ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

โรงเรียนไทย,เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ,แฟนตาซี

รายละเอียด

แกงจืด รสแซ่บ โดย ศรกามเทพ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ใครบอกว่าเด็กเนิร์ดไม่มีประสบการณ์กันล่ะ หมาป่าในคราบแกะมีอยู่จริงนะ

ผู้แต่ง

ศรกามเทพ

เรื่องย่อ

สารบัญ

แกงจืด รสแซ่บ-ตอนที่ 1 -,แกงจืด รสแซ่บ-ตอนที่ 2 -,แกงจืด รสแซ่บ-ตอนที่ 3 -,แกงจืด รสแซ่บ-ตอนที่ 4 -,แกงจืด รสแซ่บ-ตอนที่ 5 -,แกงจืด รสแซ่บ-ตอนที่ 6 -,แกงจืด รสแซ่บ-ตอนที่ 7 -,แกงจืด รสแซ่บ-ตอนที่ 8 -

เนื้อหา

ตอนที่ 6 -

ในที่สุดผมก็ได้มายืนอยู่ที่หน้าหอของหัวกะทิของห้องได้สักทีและกว่าจะมาถึงเขาก็พยุงผมตลอดเหมือนผมเป็นคนป่วยหรือคนพิการที่เดินไม่ได้ด้วยตัวเอง

พอเขาปล่อยตัวผมให้เป็นอิสระผมก็ได้ใช้โอกาสที่หัวกะทิของห้องเผลอรีบเดินให้เร็วที่สุด แต่ความคิดของผมมักจะสวนทางกับความเป็นจริงอยู่เสมอ

เมื่ออยู่ ๆ เขาก็โอบเอวของผมอีกรอบแต่ทั้งที่ผมใช้แรงสะบัดตัวได้แต่ดันยอมให้เขาทำซะอย่างนั้นและที่ผมไม่ออกแรงเพราะยอดอกทั้งสองข้างของผมถูกจับเป็นตัวประกันเพราะแค่ผมจะออกแรงหัวกะทิของห้องก็จะใช้มือบี้ไปที่ยอดอกของผมทันที

แค่เขาเขี่ยยอดอกผมก็ระแวงแล้ว

"ดอกไม้สวยดีนะ" ผมกำลังจะหัวร้อนอยู่แล้วเชียวแต่ก็กลับใจเย็นลงทันทีเมื่อผมเงยหน้ามองต้นไม้ที่มีดอกสีชมพูและเมื่อได้มองนาน ๆ ก็รู้สึกเพลินดีอยู่เหมือนกัน

จนเผลอยิ้มแบบไม่ได้ตั้งใจให้หัวกะทิของห้องได้เห็นเต็มสองลูกตา

จนคนข้าง ๆ อดไม่ได้ที่จะถือวิสาสะมาหอมแก้มคนอีกคนทีเผลอจนคนอีกคนถึงกับสะดุ้งตกใจไปทั้งตัว "นี่นายกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย! นี่มันข้างนอกนะเว้ย!"

"แปลว่าถ้าทำข้างในได้สินะครับ? เอาให้ลึกจนเสียน้ำเลยดีมั้ยครับ ? " รู้เลยว่าหัวกะทิของห้องหมายถึงอะไรในคำพูดก่อนที่ผมจะแก้มแดงด้วยความอายแทนเขาที่ช่างกล้าพูดเรื่องใต้สะดือกันข้างนอก

"ฉันหมายถึงในหอเว้ย!"

"อ้อ.." เขาทำหน้าเข้าใจแต่ในความกวนประสาทของเขาเหมือนจะไม่ค่อยเข้าใจจริง ๆ ซะมากกว่า

"เดี๋ยวคนอื่นเห็นและเข้าใจผิดหรอก"

"มีพวกเราแค่สองคนไม่เห็นมีใครคนอื่นเลยและเพื่อนจะหอมแก้มกันก็เป็นเรื่องปกติ" ไม่ปกติเว้ย! นายไปเอาตรรกะแบบนี้มาจากไหนนะฮะ! "ถ้าเล่นหนังสดก็ว่าไปอย่าง" ก่อนที่จะเหล่ตามองมาทางผมแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เหมือนตัวร้ายในละครหลังข่าวจนผมต้องดีดตัวออกจากการโอบเอวของเขาแล้วกอดตัวเองเพื่อปกป้องร่างกายและความซิงเอาไว้ให้แน่น

"ไอ้แว่นโรคจิต!"

"วันนี้ภาคปฏิบัติจับคู่ใหม่นะคะ" สิ้นเสียงของครูมิ้นคนที่ทำหน้าเหมือนกำลังจะลาโลกไปเป็นคนแรกก็คือคู่ก่อนหน้านี้ของผมอย่างริริน

เขาหันมาอ้อนวอนผมแต่ผมก็ไม่สามารถที่จะช่วยอะไรเขาได้เพราะยังไงผมก็แค่นักเรียนจะมีอำนาจเท่าครูได้อย่างไรกันล่ะ ผมไม่ได้เป็นผอ.ของโรงเรียนนี้สักหน่อยที่จะมีอำนาจทำอะไรก็ได้

แต่ที่จริงถ้าริรินไปอยู่กับกลุ่มใหม่ก็ไม่ได้ลำบากสำหรับเขาขนาดนั้นเพราะยังไงเขาก็เก่งอยู่แล้วและที่เขาเสียใจที่ไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับผมก็เพราะเขาจะไม่สามารถอยู่ได้สบายอีกยังไงล่ะเพราะก่อนหน้านี้โดยส่วนมากจะเป็นผมคนเดียวซะมากกว่าที่เป็นคนทำจนเคยเข้าใจไปเองว่าตัวผมเองอาจจะอยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีกลุ่มตั้งแต่แรกรึเปล่านะ ?

"ยางลบนายมีมั้ยฉันขอยืมหน่อย"

"อยู่ในกระเป๋าดินสอเหมือนเดิมนั่นแหละ" ผมบอกเขาไปโดยที่ไปจับฉลากโดยไม่ได้ทันรู้ตัวเลยว่าริรินได้เอาตลับเทียนหอมใส่เข้าไปในกระเป๋าดินสอพร้อมกับสายตาและรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์อย่างเงียบ ๆ

'ตะเดี๋ยวหลังเลิกเรียนจะต้องมีเรื่องน่าสนุกอย่างแน่นอนเลย อิอิ' ก่อนที่สายตาจะหันไปมองที่ภาพสะท้อนที่ตู้กระจกและมีเด็กผู้ชายคนนึงที่สวมหน้ากากยักษ์ญี่ปุ่นยืนอยู่ก่อนที่จะค่อย ๆ เดินถอยหลังหายไปเมื่อรู้สึกตัวว่าโดนเห็นเข้าแล้ว

"ดาราทอง.." ผมถึงกับพูดไม่ออกต่อเมื่อจับฉลากได้ขนมที่ทำยากที่สุด เหนื่อยที่สุดและร้อนมือที่สุด 'สงสัยคราวนี้คงจะทำคนเดียวไม่ได้แล้วล่ะมั้ง ? ' แล้วเงยหน้ามองคนอื่นที่ไม่ค่อยสนิทด้วยนอกจากริริน

แต่เพื่อนคนอื่นที่มองมาที่ผมจากภายนอกเหมือนนักเลงที่ถึงแม้ตอนนี้ใบหน้าของผมจะหวานขึ้นมากแล้วก็ตามเถอะก็ไม่กล้าที่จะมาร่วมกลุ่มกับผมด้วยสักคน แต่ริรินกลับมีคนอยากได้เป็นคนร่วมกลุ่มทั้งที่เขาชอบกวนประสาทคนก็เยอะ

ผมถึงกับถอนหายใจเบา ๆ เพราะยังไงผมก็ต้องยอมรับกับสังคมในห้องที่กลายเป็นแบบนี้อยู่ดีก่อนที่จะยกมือในขณะที่ก้มลงมองโต๊ะเพื่อที่จะขออนุญาติจากครูมิ้นว่าอยากจะทำคนเดียว

แต่ยังไม่ทันที่จะออกเสียงอยู่ ๆ ก็มีใครบางคนมากุมมือของผมเอาไว้ก่อนที่จะบังคับยกมือของผมลงและเมื่อผมเงยหน้ามองเจ้าของมือก็ถึงกับสบถคนเดียวเงียบ ๆ และพยายามที่จะสะบัดมือออกจากการกอบกุม

"คู่ของผมวันนี้คือคุณไมเยอร์ครับ" หัวกะทิของห้องบอกแบบนั้นด้วยรอยยิ้มระรื้นที่ทุกคนในห้องได้เห็นต่างปลื้มปริ่มและฟินในขณะที่ผมอยากจะอ้วกแทบตายเพราะรู้ว่ายังไงรอยยิ้มนั้นมันก็แค่การแส่แสร้งก็เท่านั้นแหละ

และเพราะได้พึ่งบารมีของหัวกะทิของห้องเลยทำให้ดาราทองของกลุ่มผมขายดีเป็นเทน้ำเทท่าจนแม้แต่ครูมิ้นยังไม่มีโอกาสได้ชิมฝีมือของเขาเลยแม้แต่น้อย

ที่ผมบอกว่าเป็นฝีมือของหัวกะทิของห้องก็เพราะผมดันมีหน้าที่แค่เตรียมวัตถุดิบนอกจากนั้นก็ยืนมองเขาทำอย่างเงียบ ๆ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากจะช่วยเขาหรอกนะแต่เขาไม่ยอมให้ผมช่วยเลยต่างหาก

โดยให้เหตุผลว่า มือนุ่ม ๆ ของผมไม่ควรมาด้านเพราะความร้อนจากกระทะ

นี่หัวกะทิของห้องไม่รู้รึไงว่าที่ผมมาเรียนสาขานี้เพราะอะไร ?จะเป็นเชฟเว้ย! ไม่ได้อยากจะเป็นนายแบบรีวิวอาหาร!

"ฉันขอบใจนายล่ะกันนะที่อุตส่าห์มาอยู่กลุ่มกับคนเชี้ย ๆ อย่างฉัน" ก่อนที่ผมจะสะพายกระเป๋าเพราะตอนนี้ก็ถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว

เป็นการทำขนมที่ยาวนานและร้อนเหมือนอยู่ใกล้ประตูนรกอย่างไรอย่างนั้นแถมยังไม่สามารถเปิดพัดลมได้เพราะแม่งจะพัดเอาฝุ่นเข้ามาในวัตกุดิบอย่างเช่นของเหลวงี้และคนที่มีส่วนผสมแป้งก็อาจจะปลิวจากถ้วยเพราะลมนี่แหละ

"ผมอุตส่าห์ช่วยคุณไมเยอร์ทั้งที่ต้องมีของตอบแทนสำหรับผมแล้วแหละ" ผมหันไปมองคนที่อยู่ด้านหลังอย่างหาเรื่องโดยที่คนที่พูดอย่างหัวกะทิของห้องยืนยิ้มเหมือนไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรเลยแม้แต่น้อย

"แล้วฉันขอเมื่อไรล่ะ ? " แล้วผมก็หันไปทางเดิมและรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งเพื่อให้พ้นสายตาของคนที่เจ้าเล่ห์อย่างหัวกะทิของห้อง แต่ยิ่งเดินผมก็ยิ่งมีความรู้สึกว่าไม่ได้เดินอยู่คนเดียวอย่างไรก็ไม่รู้ก่อนที่จะหยุดอยู่ที่หน้าหอแล้วหันควับไปที่ด้านหลังจนแทบเกือบคอเคล็ด "นะ..นายตามฉันมาทำไม! หอนายยังไม่ถึงไม่ใช่หรือ ?ยังอีกใกลจากนี่หนิ!"

"ผมขอเข้าไปด้วยได้ปะครับ ? " เป็นความปรารถนาที่ตรงกับความคิดจริง ๆ เลยแถมเป็นคำขอที่มีแต่คนหน้าด้านเท่านั้นแหละที่จะพูดแบบนี้ได้

"เมื่อเช้าฉันก็พานายมาดูแล้วไม่ใช่รึไงตอนที่ฉันมาเอากระเป๋าเรียนนะ"

"ก็นั่นมันหน้าหอไม่ใช่ในหอ ผมขอเปิดประสบการณ์ครั้งแรกได้มั้ยครับ ? " ไม่รู้ว่าหัวกะทิของห้องหมายถึงอะไรแต่ผมก็คิดลึกจนรู้สึกร้อนผ่าวที่แก้มแล้วแหละตอนนี้