ใครบอกว่าเด็กเนิร์ดไม่มีประสบการณ์กันล่ะ หมาป่าในคราบแกะมีอยู่จริงนะ

แกงจืด รสแซ่บ - ตอนที่ 7 - โดย ศรกามเทพ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น,โรงเรียนไทย,เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

แกงจืด รสแซ่บ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

โรงเรียนไทย,เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ,แฟนตาซี

รายละเอียด

แกงจืด รสแซ่บ โดย ศรกามเทพ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ใครบอกว่าเด็กเนิร์ดไม่มีประสบการณ์กันล่ะ หมาป่าในคราบแกะมีอยู่จริงนะ

ผู้แต่ง

ศรกามเทพ

เรื่องย่อ

สารบัญ

แกงจืด รสแซ่บ-ตอนที่ 1 -,แกงจืด รสแซ่บ-ตอนที่ 2 -,แกงจืด รสแซ่บ-ตอนที่ 3 -,แกงจืด รสแซ่บ-ตอนที่ 4 -,แกงจืด รสแซ่บ-ตอนที่ 5 -,แกงจืด รสแซ่บ-ตอนที่ 6 -,แกงจืด รสแซ่บ-ตอนที่ 7 -,แกงจืด รสแซ่บ-ตอนที่ 8 -

เนื้อหา

ตอนที่ 7 -

"กลับหอไปเลยไป! ชิ๊ว ๆ " ไม่มีคำตอบออกมาจากปากของหัวกะทิของห้องเลยแม้แต่น้อยแม้กระทั่งสีหน้าก็ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลยแม้แต่นิดเดียวและยังคงมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างเจ้าเล่ห์

แต่บางทีผมอาจจะคิดผิดก็ได้เพราะตอนนี้สายตาของมันที่มองมาที่ผมเหมือนกำลังเห็นผมเป็นกระดูกของโปรด

เพราะนอกจากเขาจะดูเหมือนหมาแล้วยังให้ความรู้สึกที่หื่นกามเหมือนหมาติดสัดอีกด้วย

เห็นแบบนั้นแล้วมือของผมก็สั่นและร้อนเหมือนมีไฟลุกอย่างไรอย่างนั้นก่อนที่จะง้างหมัดเพื่อที่จะต่อยใบหน้าที่แสนหล่อเหลาและกวนประสาทนั้น

แต่ผมก็ไม่คาดคิดว่าคนอย่างเขาที่ดูภายนอกเหมือนเด็กเนิร์ดที่แสนจะอ่อนแอจะสามารถรับหมัดตรงของผมได้ด้วยมือข้างเดียวก่อนที่จะจับหมัดของผมเอาไว้แน่นแล้วเปลี่ยนมาไขว้หลังโดยที่ผมไม่ทันที่จะได้ตั้งตัวจนมืออีกข้างก็โดนล็อคเอาไว้ด้านหลังตามมาติด ๆ เหมือนกัน

"ปล่อยฉันนะเว้ยไอ้เชี้ยนี่!" ก่อนที่จะตะโกนเพื่อขอความช่วยเหลือแต่ดันโดนปิดปากเอาไว้ซะก่อนจนกระทั่งขนลุกตามมาเมื่อหัวกะทิของห้องกระซิบที่ข้างหูด้วยเสียงที่แหบพร่าเหมือนคนกำลังหงี่

'ทำไมวันนี้คุณไมเยอร์ถึงได้หอมเป็นพิเศษเลยล่ะครับเนี่ย?' ฉันไม่รู้เว้ย! เมื่อกี้ก่อนที่ผมจะออกมาจากบ้านของเขาผมก็ไม่ได้ถูสบู่ที่มีกลิ่นน้ำหอมเลยหนิ ?

มันเกิดอะไรขึ้นกันล่ะเนี่ย!

เหมือนจะมีสายตาของใครบางคนมองมาที่พวกผมสองคนก่อนที่ผมจะใช้สายตาดุเขม็งไปที่คนคนนั้นจนเจ้าตัวถึงกับหลบตาแทบไม่ทันด้วยความกลัวโดยที่ไม่ได้กะแรงยื้อเอาไว้จนรู้ตัวอีกทีก็มาอยู่ที่หน้าทางเข้าแล้ว

"คนนอกไม่สามารถเข้ามาในหอนี้ได้นายไม่ได้อ่านกฎหน้าห้องของผู้ดูแลหรือ ? " และห้องของผู้ดูแลก็ดันอยู่ใกล้ประตูหออีกด้วยพูดง่าย ๆ ว่าผ่านประตูปุ๊บก็เจอหน้าห้องผู้ดูแลปั๊บ

"ผมก็ไม่เห็นผู้ดูแลจะว่าอะไรหนิครับ ? " ก่อนที่จะหลุดขำที่ผมได้ยินอีกกี่ครั้งก็หงุดหงิดทุกครั้ง "คนนอกอาจจะหมายถึงคนแปลกหน้าก็ได้นะครับ แต่ผมไม่ใช่คนแปลกหน้าสักหน่อย" เขาหมายถึงนายด้วยไอ้ตัวร้าย! "คุณไมเยอร์ได้เห็นอะไรหลาย ๆ อย่างของผมก็ถือว่าเป็นคนกันเองแล้วเนอะ" ไม่เกี่ยวเว้ย!

"ฉันไม่รู้จะพูดยังไงดีกับนายแล้วเนี่ย!" พร้อมกับตีหน้าผากด้วยความเครียดสุด ๆ จนเผลอไม้มืออ่อนจนเปิดโอกาสให้คนที่เจ้าเล่ห์อย่างหัวกะทิของห้องกระชากกระเป๋าสะพายออกจากมือของผมอย่างรวดเร็ว

"ก็ไม่ต้องพูดอะไรยังไงล่ะนะสิครับ หึ ๆ " ก่อนที่จะรีบวิ่งขึ้นไปด้านบนด้วยบันไดจนผมถึงกับตกใจจนเผลอตามเขาไปด้วยซะอย่างนั้นโดยที่ไม่ทันที่จะได้คิดว่าตอนนี้ผมได้เปิดโอกาสเปิดถ้ำแสนหวงให้กับเสือหื่นกามตัวนี้แล้ว

จนกระทั่งได้มาถึงครึ่งทางเขาก็หยุดวิ่งกะทันหันจนผมสามารถที่จะกระชากกระเป๋าคืนมาได้อย่างปลอดภัยพร้อมกับหอบและหายใจแรงจนได้ยินเสียงได้อย่างชัดเจน

"ห้องของคุณไมเยอร์อยู่ตรงไหนหรือครับ ? " ก่อนที่หัวกะทิของห้องจะถือวิสาสะมาโอบเอวของผมเอาไว้อย่างกับแฟนข้าวใหม่ปลามันอย่างไรอย่างนั้นทั้งที่ความจริงมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย

"ปล่อยฉัน!" พร้อมกับตีมือมันแต่มันดันโอบแน่บแน่นขึ้นไปอีกจนแก้มของหัวกะทิของห้องกำลังจะมาสัมผัสที่แก้มของผมอยู่รอมร่อแล้ว

"..." ไม่มีคำตอบออกมาจากปากของเขามีเพียงกลิ่นกายฟีโรโมนที่ทำให้คนใจแข็งดุจหินผาอย่างผมอ่อนไหวยวบเหมือนน้ำได้

"ห้องฉันเหมือนรูหนูดูไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกแถมยังสู้ห้องไฮโซของนายยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ" ถึงผมจะทำตีหน้าเศร้าร่วมไปด้วยจนผมสมควรจะได้โล่แห่งความแส่แสร้งอยู่แล้ว แต่มันก็ไม่สามารถทำอะไรคนที่เอาแต่ใจได้โล่อย่างหัวกะทิของห้องได้เลย

จนสุดท้ายผมก็ต้องยอมเขาเผื่อว่าถ้าเขาได้เห็นสภาพห้องรูหนูของผมก็อาจจะเปลี่ยนใจแล้วรีบกลับหอไฮโซของเขาอย่างรวดเร็วก็เป็นไปได้

ผมเดินไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาถึงห้องก่อนที่จะถอนหายใจอย่างปลงแล้วไขประตูเข้าไปและเปิดประตูให้คนที่เอาแต่ใจได้เห็นความเป็นจริงด้วยตาของตัวเอง

ห้องที่โล่งเหมือนกับห้องว่างไม่มีคนอยู่หันไปทางซ้ายเห็นผ้าปูที่นอนที่อยู่บนพื้นและใกล้ ๆ กันนั้นก็มีกระทะไฟฟ้าและเครื่องปรุง

หันไปอีกทางด้านขวาก็มีกะละมังเปล่าที่มีผงซักฟอกใกล้ ๆ กันและเสื้อผ้าก็ยังเป็นปริศนาที่ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงส่วนไหนของห้อง

"ทีนี้นายเข้าใจฉันรึยังล่ะ" ถามคนข้าง ๆ ที่นิ่งจนผมไม่สามารถคาดเดาความคิดได้จนผมรู้สึกอายตัวเองแทนที่ในห้องมีสภาพอนาถาได้ซะขนาดนี้

กำลังจะปิดประตูใส่หน้าเมื่อเห็นว่าหัวกะทิของห้องยังยืนนิ่งอยู่หน้าห้องในขณะที่ผมเดินเข้ามาในห้องของตัวเองแล้วแต่แล้วอยู่ ๆ เขาก็ก้าวเท้าและแทรกเข้ามาผ่านผมจนผมถึงกับตกอกตกใจเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว

ผมที่ไม่ได้คิดอะไรมากจากการเสียมารยาทของหัวกะทิของห้องก่อนที่จะปิดประตูอย่างปกติที่ทำทุกวันเมื่อกลับจากเลิกเรียนในตอนเย็น

และพอหันใบหน้าไปทางเขาปุ๊บหัวใจของผมก็หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มทันทีเมื่ออยู่ ๆ หัวกะทิของห้องก็จับข้อมือของผมเอาไว้แน่นแถมยังกดให้แนบชิดกับผนังห้องอีกด้วยจนแผ่นหลังของผมแนบชิดไปด้วยเพราะตามมาติด ๆ

"จะทำอะไรของนาย! อะ..อื๊อ!!" ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบประโยคด้วยซ้ำก็ต้องครางด้วยเสียงภายในลำคอจนผมรู้สึกอายและเขินมาก