คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือไม่ พรหมลิขิตที่ลิขิตคนสองคนที่เกิดวันเดียวกันปีเดียวกัน ที่เกิดและโตคนละที่ให้มารักกัน..ในที่ที่ถูกลิขิตไว้

พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้ - บทที่5 ตอนพรหมลิขิตที่เหมือนจะลิขิตให้เจอ โดย ราศี..พฤษภ..ปีฉลู @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,นิยายรัก ,นิยายรักชายหญิง,นิยายรัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นิยายรัก ,นิยายรักชายหญิง,นิยายรัก

รายละเอียด

คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือไม่ พรหมลิขิตที่ลิขิตคนสองคนที่เกิดวันเดียวกันปีเดียวกัน ที่เกิดและโตคนละที่ให้มารักกัน..ในที่ที่ถูกลิขิตไว้

ผู้แต่ง

ราศี..พฤษภ..ปีฉลู

เรื่องย่อ

คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือไม่

พรหมลิขิตที่ลิขิตคนสองคนที่เกิดวันเดียวกันปีเดียวกัน

ที่เกิดและโตคนละที่ให้มารักกัน..ในที่ที่ถูกลิขิตไว้

 

แสงใต้

ใต้พิภพ วงศ์ษานุกูล หนุ่มคณะวิศวกรรมศาสตร์ ปี3

หนุ่มเหนือเชียงใหม่ ทายาทไร่ชาส่งนอก

ที่มีใบหน้าหวาน หล่อ แต่มีนิสัยเย็นชา พูดน้อย

เขาแค่เฝ้ารอใครสักคนที่เขามาเติมเต็มเขา

มีพี่น้อง 2 คน คือ พี่สาวชื่อ ทานตะวัน และพี่ชายชื่อ แผ่นดิน

มีเพื่อนในแก๊งพี่ว้ากปี3 คือ มาร์ค นาย และ คริส

 

 

เเสงเหนือ

เหนือนที วชิระอุดม สาวคณะเกษตรศาสตร์ ปี3

สาวใต้ ที่มีใบหน้าคม สาวใต้ที่มีผิวขาว ตัวเล็ก นิสัยห้าว ขยัน ไม่ยอมคน

ฐานะบ้านไม่ได้ร่ำรวย พออยู่พอกินทำให้เธอสู้ชีวิตทำงานเพื่อจะส่งตัวเองเรียนเพื่อไม่ให้รับกวนทางบ้าน

เป็นสาวที่เป็นดั่งแสงอาทิตย์ให้คนรอบข้าง มีพลังบวกเสมอ

มีพี่สาว 1 คน คือ เหนือวารี

มีเพื่อน 5 คน คือ เบลล์ บิว ภูผา ไทย และ ชีส

 

สารบัญ

พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่1 บทนำ,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่2 ตอนพรหมลิขิตยังไม่ทำงาน,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่3 ตอนพรหมลิขิตเริ่มจะทำงานครั้งแรก,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่4 ตอนพรหมลิขิตกำลังจะทำงาน,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่5 ตอนพรหมลิขิตที่เหมือนจะลิขิตให้เจอ,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่6 ตอนพรหมลิขิตที่ลิขิตให้รู้จัก,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่7 ตอนพรหมลิขิตที่ลิขิตให้เจอเนื้อคู่,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่8 ตอนพรหมลิขิตที่ลิขิตให้เจอ,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่9 ตอนพรหมลิขิตที่ลิขิตให้เป็นข่าว,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่10 ตอนพรหมลิขิตที่ลิขิตให้บังเอิญเจอ,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่11 ตอนพรหมลิขิตที่ลิขิตให้เป็นข่าวรอบ2,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่12 ตอนพรหมลิขิตแบบตั้งใจ,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่13 ตอนพรหมลิขิตที่มาในรูปบทเพลง,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่14 ตอนพรหมลิขิตที่มาในรูปแบบเจ้ากรรมนายเวร EP1,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่15 ตอนพรหมลิขิตที่มาในรูปแบบเจ้ากรรมนายเวร EP2,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่16 ตอนพรหมลิขิตลิขิตเอง,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่17 ตอนพรหมลิขิตที่กับความจริง EP1,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่18 ตอนพรหมลิขิตที่กับความจริง EP2,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่19 ตอนพรหมลิขิตที่กำลังก่อตัวเป็นความรัก,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่20 ตอนพรหมลิขิตที่เรียกว่าความรัก,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่21 ตอนพรหมลิขิตคนมีความรัก,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่22 ตอนพรหมลิขิตมักมาพร้อมกับสิ่งที่ไม่คาดคิด,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่23 ตอนพรหมลิขิตที่เกือบจะสูญเสีย,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่24 ตอนพรหมลิขิตกับการกลับมา,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่25 ตอนพรหมลิขิตกับการเฝ้ารอการกลับมา

เนื้อหา

บทที่5 ตอนพรหมลิขิตที่เหมือนจะลิขิตให้เจอ

“ มึงเหม่อมองอะไรมึงวะไอใต้ ไหนบอกรีบไง กระเป๋ามึงคงอยู่รอมึงมากมั้ง ” นายพูดขึ้นอย่างเซ็งๆ เพราะเดินไปจนถึงรถและแสงใต้ดันบอกว่าทำกระเป๋าหาย ทั้ง 4คนเลยออกมาช่วยกันตามหา แทนที่จะไปต่อที่บาร์เหล้าอย่างที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก

“เปล่า..รีบเดินไปเถอะมึง น่าจะอยู่ร้านก๋วยเตี๋ยวที่ไปกินนั้นเพราะกูล้วงมาจ่ายเงินก่อนเดินออกมา” แสงใต้บอกเพื่อนทั้ง ทั้ง4เลยรีบเดินไปยังเป้าหมาย

เมื่อทั้ง4เข้าไปในร้านก็สอดส่องและช่วยกันหาอยู่นานจนป้าเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวมองตามและถามด้วยความสงสัย

“ หาอะไรกันพ่อหนุ่ม ” 

“ หากระเป๋าสตางค์ ครับ ป้าเห็นกระเป๋าสตางค์ผมไหม พอดีผมทำร่วงไว้ก่อนออกไปครับ ” เป็นแสงใต้ที่ตอบออกไปพร้อมคำถาม

“ ป้าไม่เห็นหรอกมัวแต่ทำก๋วยเตี๋ยว ” เจ้าของร้านบอกแสงใต้

“ แล้วผมลุกออกไปมีใครมานั่งโต๊ะนี้ต่อไหมคับ ” เป็นคริสที่ถามป้า

“ อ้อ..มีกลุ่มหนูเหนือกับเพื่อนๆ” เจ้าของร้านบอกคริสไป

“ป้ารู้จักไหมหนูเหนือของป้าเรียนคณะไหน ปีไหน เผื่อผมจะไปถามหา” แสงใต้ถาม

“ป้าไม่รู้หรอก..ว่าหนูเหนือเรียนคณะไหนแต่เห็นใส่เสื้อช็อปสีเขียว น่าจะอยู่ปี 3 เพราะเห็นมากินก๋วยเตี๋ยว 3 ปีแล้ว” ป้าเจ้าของร้านบอกกับแสงใต้

“โอเคครับ ขอบคุณครับไว้ผมจะไปถามดู ขอบคุณครับป้า ปะกลับมึงเดี๋ยวค่อยไปถามหาเอาถ้าไม่เจอค่อยไปทำบัตรใหม่” แสงใต้เอ่ยขอบคุณ และหันไปบอกเพื่อนทั้ง 3 คนของเขาก่อนเดินออกมา

“ช็อปเขียว คณะเกษตรศาสตร์ นี้หว่า อยู่ไกลสะด้วยจะไปตามหายังไง” เป็นมาร์คที่ถามขึ้น

“เดี๋ยวอีกไม่กี่วันก็เจอ เพราะถ้าเป็นปี 3 ก็ต้องออกมาช่วยพี่ปี 4 จัดงานเปิดบ้านวิชาการอยู่ดีค่อยถาม” แสงใต้พูดบอกเพื่อนทั้ง 3 คน 

ระหว่างที่ 4 คนเดินออกมา พบกับ ไทยและภูผา ที่เดินออกมาพอดี ทั้ง 4 คนมองหน้าไทยแบบเคืองๆ เพราะไม่ค่อยลงรอยกันเนื่องจากตอนปี 1 ดันไปจีบเด็กคณะนิเทศศาสตร์คนเดียวกันตอนประกวดดาวเดือนวิทยาลัย แต่ผู้หญิงดันเลือกที่จะคุยกับแสงใต้มากกว่า เพราะเป็นถึงเดือนมหาลัย จึงทำให้ไทย เคืองและยกเพื่อนไปต่อยแสงใต้และเพื่อนตอนปี 1 พอมาปี 2 ไปแตะบอลมหาลัยประจำปีรุ่นน้องในคณะไทยดันไปขัดขาคริสอีก จนเจ็บหนักแตะบอลไม่ได้เกือบเป็นปี แม้รุ่นน้องคนนั้นไม่ได้ตั้งใจและรับผิดชอบค่ารักษาให้คริสแล้วก็ตาม คริสดันไปมีปัญหากับรุ่นน้องคนนั้นแต่ดันมีปัญหากับไทยแทน

บวกกับคณะวิศวะเป็นคณะลูกรักเบิกงบเท่าไรไม่มีการค้าน แต่พอมางบคณะเกษตรถูกตัดบ้าง งบไม่เคยได้เต็ม จึงมีการไม่ลงรอยเกิดขึ้น

แต่ก็ทำให้ไม่ค่อยถูกการยกกลุ่มแม้แต่ภูผาที่เป็นญาติลูกพี่ลูกน้องของแสงใต้ก็พาซวยไปด้วย แต่พอกลับบ้านที่เหนือก็คุยกันได้อยู่ 

 

 

“คริส” หนุ่มชาวกรุงเทพลูกเจ้าของโรงเรียนมัธยมชื่อดังและมีน้าชายที่เป็นอธิบดีมหาลัยแห่งนี้ด้วย

“นาย” หนุ่มอีสานจังหวัดอุบลราชธานี ลูกเจ้าของโรงงานส่งออกข้าว เพราะเป็นเพื่อนโรงเรียนเดียวกับบิวแต่คนละห้อง

“มาร์ค” หนุ่มภูเก็ตทายาทเจ้าของโรงแรมชื่อดัง มีพี่ชายชื่อภาคิน ซึ่งกำลังคบกับพี่สาวแสงเหนือแต่ทั้งสองคนทั้งมาร์คและแสงเหนือไม่เคยรู้จักกัน

แต่ปะทะหน้ากันครั้งนี้ได้แต่มองหน้ากัน และเป็นคริสที่ทำท่าเอามือปาดคอ และไทยที่แลบลิ้นปลิ้นตา ภูผาเลยดึงไทยเดินหนี เพื่อไปหาเพื่อนๆ ที่รออยู่ทางออก พอเจอกันก็แยกย้าย โดย 3 สาวอยู่คอนโดเดียวกัน และห้องติดกัน

โดยคอนโดนี้ห้องที่แสงเหนืออยู่คือห้องของเพื่อนพี่สาว แสงเหนือคือพี่ตะวัน ซึ่งเจ้าของห้องที่เป็นเพื่อนพี่น้ำ เป็นคนปล่อยเช่าในราคาเพื่อนกันทำได้มาอยู่ห้องหรูแบบนี้ ส่วนบิวแหละเบลล์ก็ได้อานิสงส์จากเพื่อนพี่สาวน้ำเหนือเช่นกันเพราะทั้ง3 ตอนปี 1อยู่หอในอยู่ห้องเดียวกัน พอปี 3 ต้องย้ายออกมาอยู่หอนอกโชคดีที่คอนโดแห่งนี้มีห้องเพื่อนพี่สาวแสงเหนือว่าง 3 ห้องพอดี ส่วน3หนุ่ม ไทย ชีส ภูผาก็อยู่คนละที่ถัดกันไม่ไกล และ คนขับรถยนต์ก็มี 2 คัน คือรถของเบลล์กับรถของไทย ที่เหลือมีบิ๊กไบค์ของภูผา และ PCX ของชิส ส่วนบิว มีเวสป้า และ แสงเหนือมีฟีลาโน่ 

ในบรรดาเพื่อนแสงเหนือจัดเป็นที่จนที่สุด จึงทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านกาแฟฝั่งคณะเกษตร เพื่อเป็นค่ากินของตัวเองแม้จะได้ทุนเรียนฟรี แต่ค่ากินค่าอยู่ก็จำเป็นแม้พี่น้ำ พี่สาวแสงเหนือจะส่งค่ากินให้แต่แสงเหนือก็อยากช่วยพี่สาว

 

ฝั่งแสงใต้

พอแสงใต้เดินมาที่รถโดยมีคริสบ่นไม่หยุดเรื่องไทย...

“กูกลับคอนโดแล้วนะ ไม่ไปต่อไม่มีบัตรประชาชนเดี๋ยวตำรวจลงซวยอีก” แสงใต้บอกกับคริส

“เซ็งเลยอดไปต่อ กลับก็กลับ” คริสว่าแล้วคล่อมบิ๊กไบค์ ขับออกไป

ส่วน แสงใต้ มาร์ค คล่อม CPX แต่ง

ส่วนนายมีแต่รถยนต์เลยซ้อนแสงใต้เพราะอยู่คอนโดเดียวกัน ส่วนคริสอยู่บ้านตัวเอง ส่วนมาร์คอยู่อีกคอนโดหนึ่ง

ซึ่งทั้ง 4 คนมีรถสปอร์ตทุกคน แต่ที่ขับมอเตอร์ไซค์เพราะตลาดกลางคืนมหาลัยรถเยอะและรถติด จึงเลือกขับมอเตอร์ไซค์ เพราะสะดวกและคล่องตัวกว่า ส่วนคอนโดมาร์คอยู่คอนโดเดียวกับชีสและไทยเพื่อนของแสงเหนือแต่คนละชั้น

ส่วนภูผาอยู่คอนโดเดียวกับแสงใต้และนายเพราะเป็นญาติกับแสงใต้เลยได้มาอยู่คอนโดเดียวกับญาติตัวเอง

 

 

(ตัวละครแต่ตัวละครทั้งพระเอกและนางเอกมีความเกี่ยวข้องอยู่หลายคนนะคะ เรามาลุ้นกันว่าจะเกี่ยวข้องยังไง)