คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือไม่ พรหมลิขิตที่ลิขิตคนสองคนที่เกิดวันเดียวกันปีเดียวกัน ที่เกิดและโตคนละที่ให้มารักกัน..ในที่ที่ถูกลิขิตไว้

พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้ - บทที่14 ตอนพรหมลิขิตที่มาในรูปแบบเจ้ากรรมนายเวร EP1 โดย ราศี..พฤษภ..ปีฉลู @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,นิยายรัก ,นิยายรักชายหญิง,นิยายรัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นิยายรัก ,นิยายรักชายหญิง,นิยายรัก

รายละเอียด

พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้ โดย ราศี..พฤษภ..ปีฉลู @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือไม่ พรหมลิขิตที่ลิขิตคนสองคนที่เกิดวันเดียวกันปีเดียวกัน ที่เกิดและโตคนละที่ให้มารักกัน..ในที่ที่ถูกลิขิตไว้

ผู้แต่ง

ราศี..พฤษภ..ปีฉลู

เรื่องย่อ

คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือไม่

พรหมลิขิตที่ลิขิตคนสองคนที่เกิดวันเดียวกันปีเดียวกัน

ที่เกิดและโตคนละที่ให้มารักกัน..ในที่ที่ถูกลิขิตไว้

 

แสงใต้

ใต้พิภพ วงศ์ษานุกูล หนุ่มคณะวิศวกรรมศาสตร์ ปี3

หนุ่มเหนือเชียงใหม่ ทายาทไร่ชาส่งนอก

ที่มีใบหน้าหวาน หล่อ แต่มีนิสัยเย็นชา พูดน้อย

เขาแค่เฝ้ารอใครสักคนที่เขามาเติมเต็มเขา

มีพี่น้อง 2 คน คือ พี่สาวชื่อ ทานตะวัน และพี่ชายชื่อ แผ่นดิน

มีเพื่อนในแก๊งพี่ว้ากปี3 คือ มาร์ค นาย และ คริส

 

 

เเสงเหนือ

เหนือนที วชิระอุดม สาวคณะเกษตรศาสตร์ ปี3

สาวใต้ ที่มีใบหน้าคม สาวใต้ที่มีผิวขาว ตัวเล็ก นิสัยห้าว ขยัน ไม่ยอมคน

ฐานะบ้านไม่ได้ร่ำรวย พออยู่พอกินทำให้เธอสู้ชีวิตทำงานเพื่อจะส่งตัวเองเรียนเพื่อไม่ให้รับกวนทางบ้าน

เป็นสาวที่เป็นดั่งแสงอาทิตย์ให้คนรอบข้าง มีพลังบวกเสมอ

มีพี่สาว 1 คน คือ เหนือวารี

มีเพื่อน 5 คน คือ เบลล์ บิว ภูผา ไทย และ ชีส

 

สารบัญ

พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่1 บทนำ,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่2 ตอนพรหมลิขิตยังไม่ทำงาน,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่3 ตอนพรหมลิขิตเริ่มจะทำงานครั้งแรก,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่4 ตอนพรหมลิขิตกำลังจะทำงาน,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่5 ตอนพรหมลิขิตที่เหมือนจะลิขิตให้เจอ,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่6 ตอนพรหมลิขิตที่ลิขิตให้รู้จัก,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่7 ตอนพรหมลิขิตที่ลิขิตให้เจอเนื้อคู่,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่8 ตอนพรหมลิขิตที่ลิขิตให้เจอ,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่9 ตอนพรหมลิขิตที่ลิขิตให้เป็นข่าว,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่10 ตอนพรหมลิขิตที่ลิขิตให้บังเอิญเจอ,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่11 ตอนพรหมลิขิตที่ลิขิตให้เป็นข่าวรอบ2,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่12 ตอนพรหมลิขิตแบบตั้งใจ,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่13 ตอนพรหมลิขิตที่มาในรูปบทเพลง,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่14 ตอนพรหมลิขิตที่มาในรูปแบบเจ้ากรรมนายเวร EP1,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่15 ตอนพรหมลิขิตที่มาในรูปแบบเจ้ากรรมนายเวร EP2,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่16 ตอนพรหมลิขิตลิขิตเอง,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่17 ตอนพรหมลิขิตที่กับความจริง EP1,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่18 ตอนพรหมลิขิตที่กับความจริง EP2,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่19 ตอนพรหมลิขิตที่กำลังก่อตัวเป็นความรัก,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่20 ตอนพรหมลิขิตที่เรียกว่าความรัก,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่21 ตอนพรหมลิขิตคนมีความรัก,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่22 ตอนพรหมลิขิตมักมาพร้อมกับสิ่งที่ไม่คาดคิด,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่23 ตอนพรหมลิขิตที่เกือบจะสูญเสีย,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่24 ตอนพรหมลิขิตกับการกลับมา,พรหมลิขิตรักแสงเหนือและเเสงใต้-บทที่25 ตอนพรหมลิขิตกับการเฝ้ารอการกลับมา

เนื้อหา

บทที่14 ตอนพรหมลิขิตที่มาในรูปแบบเจ้ากรรมนายเวร EP1

หลังวงของแสงใต้เล่นจบก็ลงมาจากเวทีแล้วเอาเครื่องดนตรีไปเก็บบนตึกคณะวิศวะก่อนจะเดินเข้ามาในงานพร้อมนาย ส่วนคริสและมาร์คอาจารย์เรียกไปช่วยคุมเครื่องเสียงของวงดนตรีมหาลัย

แสงใต้และนายได้เดินไปทางที่คณะเกษตร ซึ่งมีแสงเหนือกับบิวและเบลล์ยืนโยกตัวไปมาพร้อมโบกมือให้กับคณะตัวเองเล่น  แสงใต้ไม่รอช้าเดินนำนายไปหาแสงเหนือ   

“เพลงไอไทยร้องมันสนุกกว่าเพลงที่เราร้องตรงไหน”แสงใต้เดินไปข้างหลังแสงเหนือและกระซิบอย่างน้อยใจข้างหูแสงเหนือ  ด้วยเพลงที่เสียงดังและความสูงของแสงใต้ทำให้ต้องโน้มตัวลงมาพูดกับแสงเหนือที่สูงเพียงอก  ส่วนแสงเหนือพอรู้ว่าเป็นใครก็ยืนแข็งทื่อไม่กล้าขยับไปไหนพร้อมกับใจที่เต้นแรง

“นายเก็บของหมดแล้วเหรอแล้วคริสกับมาร์คไม่มาด้วยเหรอ”เป็นเสียงบิวที่ตะโกนถามนายที่มายืนข้างๆตอนไหนไม่รู้ รู้อีกทีเป็นเบลล์ที่สะกิดให้มองคู่แสงใต้

“มันอยู่ช่วยอาจารย์คุมเครื่องเสียง”นายกระซิบบอกบิวก่อนที่บิวจะพยักหน้ารับรู้แล้วยื่นขวดน้ำให้นาย ก่อนจะหันหน้ากลับไปหน้าเวทีเพราะคณะเกษตรที่จะเล่นเพลงสุดท้ายก่อนจะลงจากเวที   เสียงของไทยพูดก่อนที่เพลงสุดท้ายจะขึ้น

          “พวกคุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตกันไหมครับ  พรหมลิขิตก็คล้ายกับเส้นดายแดงหากเรานำดายแดงไปผูกกับคนที่ไม่ใช่เจ้าของด้ายแดงอีกฝั่งไม่นานมันก็ขาด   ก่อนจะขาดมันก็จะเจ็บปวดเสมอ แต่หากเป็นเจ้าของด้ายแดงอีกฝั่งไม่ต้องพยายามผูกหรอกครับ มันผูกกันเองมันค่อยค่อยผูกกันจนเป็นความว่าผูกพัน เขาถึงบอกไงครับคนที่ใช่เจอครั้งเดียวก็รักกันได้ คนที่ไม่ใช่พยายามรักเท่าไรมันก็ไม่ใช่ เพราะพรหมลิขิตได้ลิขิตไว้แล้วไงครับว่า...เราต้องรักกัน”

สิ้นเสียงไทยเอ่ยจบดนตรี เพลง พรหมลิขิต( วง BIG ASS  ) ก็ขึ้น พร้อมเสียงกีตาร์โซโล่เพราะ ๆ

เหม่อมองบนฟ้าไกล
จ้องมองด้วยความสงสัย
ว่าใครกันนะใคร
ที่พาให้เธอเดินหลงทางมาเจอกับฉัน

มีคนเป็นล้านคน
ช่างไร้เหตุจริงจริงที่เราเจอกัน
จากเป็นคนไม่เชื่ออะไร
สุดท้ายก็ได้แต่ถามตัวเองซ้ำซ้ำ

ตกลงคือพรหมลิขิตใช่ไหม
ที่เขียนให้เป็นอย่างนั้น
ตกลงให้เรารักกันใช่ไหม
อย่างนั้นขอได้หรือไม่
โปรดอย่าทำให้เราพลัดพราก
ให้เรารักกัน
เนิ่นนานถึงจนวันตาย โอ้
ฉันขอได้ไหม

เมื่อก่อนลมหายใจ
ก็คิดว่าเป็นของฉัน
แต่พอได้พบเธอ
เพิ่งรู้จริงจริงลมหายใจคือเธอเท่านั้น

มีคนเป็นล้านคน
ช่างไร้เหตุผลจริงจริงที่เราเจอกัน
จากเป็นคนไม่เชื่ออะไร
สุดท้ายก็ได้แต่ถามตัวเองอีกครั้ง

ตกลงคือพรหมลิขิตใช่ไหม
ที่เขียนให้เป็นอย่างนั้น
ตกลงให้เรารักกันใช่ไหม
อย่างนั้นขอได้หรือไม่
โปรดอย่าทำให้เราพลัดพราก
ให้เรารักกัน
เนิ่นนานถึงจนวันตาย โอ้
ฉันขอได้ไหม

คนมีอีกตั้งล้านคน
ไม่มีเหตุผลที่เธอต้องเลือกฉัน
จากเป็นคนไม่เชื่ออะไร
สุดท้ายก็ได้แต่ถามตัวเองอีกครั้ง

ตกลงคือพรหมลิขิตใช่ไหม
ที่เขียนให้เป็นอย่างนั้น
ตกลงให้เรารักกันใช่ไหม
อย่างนั้นขอได้หรือไม่
โปรดอย่าทำให้เราพลัดพราก
ให้เรารักกัน
เนิ่นนานถึงจนวันตาย โอ้
ฉันขอได้ไหม
โอ้
ฉันขอได้ไหม

เพลง พรหมลิขิตของวง BIG ASS 

ก่อนดนตรีจะค่อยจบลง มือของแสงใต้ค่อยๆกุมมือของแสงเหนือ และแสงเหนือที่เงยหน้าขึ้นมองแสงใต้แล้วแสงใต้ก็มองลงมาที่แสงเหนือ ต่างคนต่างจ้องตากัน  บรรยากาศรอบๆมีแสงดาวจากไฟฉายที่ส่องและโบกไปโบกมา หัวใจที่เต้น ตึก ตึก เป็นจังหวะเดียวกัน

เป็นแสงเหนือที่หันหน้าหลบไปทางอื่นบวกกับเป็นช่วงที่วงดนตรีของคณะเกษตรเล่นจบพอดี  แล้วก็แสงเหนือที่ค่อยๆดึงมือออกจากมือแสงใต้

“เธอเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหมแสงเหนือ”แสงใต้กระซิบถาม

 

“ไม่รู้สิเพราะไม่เคยมีความรัก แล้วนายเชื่อไหมละ”แสงเหนือตอบแล้วถามกลับ

“เชื่อสิเพราะหัวใจเราไม่เคยเป็นแบบนี้”แสงใต้ตอบแสงเหนือ

“กี่โมงแล้วอ่ะ  เราจะต้องไปช่วยนัทปิดร้าน” แสงเหนือถามเวลากับแสงใต้เพื่อเปลี่ยนเรื่องคุยเพราะตอนนี้หัวใจของเธอทำงานหนักมากถ้าอยู่แบบนี้ต่อไปเธอคงตายแน่q

“2 ทุ่มครึ่งร้านปิดกี่โมงให้ไปเป็นเพื่อนไหม”แสงใต้ตอบแล้วถามกลับด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เป็นไร นายจะกลับแล้วเหมือนกันเหรอ”แสงเหนือตอบกลับอย่างเกรงใจพลางมองหาเพื่อน เพื่อจะบอกว่าเธอจะกลับไปช่วยนัทปิดร้าน   

แล้วเป็นจังหวะเพื่อนผู้ชายทั้ง 3 เล่นดนตรีเสร็จเดินกลับมาที่กลุ่มพอดี

“พวกแก เรากลับก่อนนะ จะไปช่วยนัทปิดร้านก่อน พวกแกจะกลับกันเลยไหม”แสงเหนือเอ่ยถามเพื่อนๆ

“ยังเลย  เหนือจะกลับยังไงให้เราไปส่งก่อนไหม ทางมันมืดเปลี่ยวด้วย”ไทยเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงเพื่อน

“ไม่ต้องหรอกพวกแกอยู่สนุกกันไปเถอะ เราเอารถเรามา”แสงเหนือบอกไทย

“อ่าว ไอใต้จะกลับเหมือนกันเหรอ”นายที่เอ่ยถามแสงใต้ที่เหมือนทำตัวจะกลับพร้อมแสงเหนือ

“อืม เพลียๆวะ”แสงใต้ตอบนาย

“ไหนไหน ไอใต้ก็จะกลับเหมือนกัน กูฝากไปส่งแสงเหนือหน่อยสิ อย่างน้อยไปกลับมึงถ้าเกิดอะไรขึ้นมาพวกกูยังตามไปกระทืบถูก”ภูผาเอ่ยชงให้ญาติตัวเอง

“นั้นสิ ให้แสงใตตายไปส่งกูจะได้ไม่เป็นห่วง”เบลล์เอ่ยบอกเพื่อนๆ

“งั้นมึงไปส่งอสงเหนือก็ได้  รถมึงเดี๋ยวกูขับกลับเอง”นายบอกแสงใต้  แสงใต้เองก็พยักหน้ารับ

“งั้นกูฝากเพื่อนกูด้วย ถ้าเกิดอะไรขึ้นมากูยกคณะเกษตรไปถล่มวิศวะแน่”ไทยเอ่ยบอกแสงใต้พร้อมชี้หน้าอย่างเอาเรื่อง

“โอเค เราให้แสงใต้ไปส่งก็ได้ จบนะ งั้นเรากลับเลยนะ” แสงเหนือเอ่ยขัดเพื่อนพวกดึงข้อมือแสงใต้เดินออกมาถ้าอยู่นานกว่านี้ไทยคงปะทะอีกนาน

ส่วนแสงใต้ที่ถูกแสงเหนือดึงออกมาก็กระตุกยิ้มมุมปาก พลางยกนิ้วส่งให้นายด้วย

ระหว่างทางที่เดินออกมีคนมองจำนวนมากส่วนแสงเหนือก็คงลืมว่าตัวเองเป็นข่าวกับแสงใต้อยู่   

“รถนายอ่ะ”แสงเหนือเอ่ยถามเพราะตอนเธอมาเอารถแสงใต้ก็เดินตามมาเอารถด้วย

“ให้นายเอากลับไง  ถ้าเราเอารถกลับแล้วนายจะกลับยังไง นายมันมีแต่รถใหญ่”แสงใต้เอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดี

“อ่าว แล้วนายจะไปยังไง  ไปรถเราเหรอ แล้วนายจะกลับหอยังไง”แสงเหนือเอ่ยออกมายังสงสัย

“ก็ เดี๋ยวขับรถเธอเอง เธอก็ซ้อนเราไป แล้วเธอก็ไปส่งเราที่คอนโดไง”แสงใต้เอ่ยออกมาอย่างเจ้าเล่ห์

“โฮ้ คอนโดนายกับเรามันอยู่กันคนละฝั่งกันนะ งั้นเอาอย่างนี้ นายไปส่งเราที่คอนโดแล้วนายเอารถไปที่คอนโดนายพรุ่งนี้นายให้ภูผาขับมาให้เราก็ได้  ยังไงพรุ่งนี้ก็หยุด”

“แบบนั้นก็ได้”แสงใต้ตอบกลับอย่างเจ้าเล่ห์   เรื่องอะไรจะใช้ไอภูผา เดี๋ยวเขาเอามาให้เองจะได้เจอหน้าเจ้ารถด้วย

“อ่ะ กุญแจรถ นายขับนะเดี๋ยวเราซ้อน”แสงเหนือเอ่ยพร้อมยืนกุญแจรถให้แสงใต้

 

แล้วทั้ง 2 คนก็ขับรถจากหน้ามหาลัยไปทางคณะเกษตรผ่านหน้าคณะต่างๆถือเป็นภาพที่น่ารักคนตัวสูงใหญ่ขับรถรถฟีลาโน่คันเล็กสีฟ้าแล้วมีผู้หญิงตัวเล็กๆซ้อนท้ายสร้างความฮือฮาให้คนที่เดินผ่านไปมาแถวนั้น และระหว่างทางนั้นได้ขับผ่านกลุ่มของญี่ปุ่น   เพื่อนญี่ปุ่นที่เห็นก็สะกิดเพื่อนดู ญี่ปุ่นที่เห็นทั้งคู่ซ้อนท้ายกันมาก็กำมือแน่นพร้อมกับสายตาที่แค้นมาก ก่อนทั้งคู่จนขับผ่านไป

“แก โอเค ไหมปุ่น”นิวเอ่ยถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง

“ไม่โอเคได้ปะละ  แกก็เห็นนิ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน อีแสงเหนือ”ญี่ปุ่นเอ่ยบอกเพื่อนสาวทั้ง 2 อย่างแค้น

“ป่ะ งั้นเรากลับกันเถอะ”เข็มเอ่ยกับเพื่อนพร้อมดึงญี่ปุ่นกลับ

“ไม่ ฉันจะไปผับต่อ”ญี่ปุ่นสะบัดมือกลับก่อนเดินกลับไปที่รถตัวเองพร้อมขับออกไปโดยไม่สนใจเพื่อนทั้ง 2 คน