พนักงานกินเงินเดือนอย่างผมที่ชอบค้าขายดันต้องมาตายเพราะหมาข้างบ้านวิ่งไล่กัดตอนเดินกลับบ้านให้ตาย ไอ้หมาบ้า! ช่างไม่เห็นใจกันเลย เอาเถอะอย่างน้อย เกิดใหม่ทั้งทีกิจการค้าขายของอาซิ้มต้องร่ำรวย!!
ชาย-ชาย,เกิดใหม่,เรื่องสั้น,วาย,เกิดใหม่ ,ค้าขาย,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เกิดใหม่เป็นเด็กชอบค้าขายพนักงานกินเงินเดือนอย่างผมที่ชอบค้าขายดันต้องมาตายเพราะหมาข้างบ้านวิ่งไล่กัดตอนเดินกลับบ้านให้ตาย ไอ้หมาบ้า! ช่างไม่เห็นใจกันเลย เอาเถอะอย่างน้อย เกิดใหม่ทั้งทีกิจการค้าขายของอาซิ้มต้องร่ำรวย!!
อาซิ้มจะไม่ทน หลังจากเปิดร้านขายของมานานจนโด่งดังในทั่ว
หล่าต้องมาแพ้ราบคาบให้กับร้านคู่แข่งอย่างไอ้บ้าเชสเตอร์ฝั่งตรงข้ามที่เพิ่งเปิดร้านใหม่มาหมาด ๆ เพียงแค่ขายจิ๋มกระป๋องเพียงสองเดือนก็ตีตัวขึ้นมาเป็นคู่แข่งจนเกือบจะแซงหน้ากันไปแล้ว
แบบนี้คนอย่างอาซิ้มคงต้องหาทางกำจัดคู่แข่งอย่างเขาลงให้จนได้
คอยดูเถอะเชสเตอร์ร้านนายต้องไม่ได้เกิดเพราะฉันคนนี้ !!
ร้านของฉันต้องเป็นที่หนึ่งในใต้หล่าสิวะ
(สงสัยผมคงดูหนังจีนกำลังภายในมากไปเลยติดสำนวนมานิดหน่อย)
หึย!!
แต่แล้ว..มันดันไม่เป็นอย่างนั้นนี่สิ…
หลังจากมาเกิดใหม่ดันมาเจอเด็กหัวทองที่ดันชื่อเหมือนเจ้านายเก่าตัวเองแถมนิสัยยังเหมือนกันอีกอย่างกับแกะ
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย
"นี่อาซิ้ม ชาติหน้า ฉันขอจีบนายได้ไหม"
ไหนจะไอ้บ้าเชสเตอร์ขายจิ๋มกระป๋องหน้ากวนบาทาน้อยๆของผมนั่นอีก
****
ไอ้เจ้าบ้าเชสเตอร์หยุดนะ...นี่นายจะทำอะไรฉัน
ปล่อยฉันนะ!!
อึก อัก นั่นอะไร ยะ ใหญ่เท่าแขน
ติดตามตอนต่อไปได้ในเนื้อเรื่อง
เกิดใหม่เป็นเด็กชอบค้าขาย
#อาซิ้มน้อยชอบค้าขาย
“เจ้าซิ้มนายทำงานดีมาก” เจ้านายวัยสามสิบยกมือขึ้นตบไหล่เล็กของอาซิ้มเด็กหนุ่มเบา ๆ เอ่ยปากชมที่ทำงานได้ดีและส่งตรงเวลา
“คุณอคินก็ชมผมเกินไป” เด็กหนุ่มเอ่ย พร้อมกับหันไปยิ้มให้ก่อนจะเก็บเอกสารบนโต๊ะใส่ลงในกระเป๋าสัมภาระของตัวเอง เตรียมตัวกลับบ้าน
“เอาเถอะ ฉันก็ไม่ได้ชมใครบ่อย ๆ ซะด้วยสิ จะมีแค่นายนี่แหละที่ฉันชม ว่าแต่เย็นนี้นายว่างหรือเปล่า”
??
“ทำไมเหรอครับ คุณอคินจะชวนผมไปไหนเหรอ” อาซิ้มถามขึ้นพร้อมกับยกยิ้มขึ้นมุมปาก
“ก็ว่าจะชวนนายไปหาอะไรกินสักหน่อย ฉันกินคนเดียวมันเหงา”
“อย่างคุณอคินนี่นะเหงา ผมคนหนึ่งล่ะไม่เชื่อ เอาเถอะ เห็นว่าคุณเป็นเจ้านายผม จะยอมว่างไปทานข้าวกับคุณสักวันก็แล้วกัน” อาซิ้มตอบรับคำเชิญของชายหนุ่มตรงหน้า
“งั้นเราก็ไปกันเลย ฉันเริ่มหิวแล้วสิ” อคินเจ้านายลุกขึ้นจากเก้าอี้ ก่อนจะผายมือไปทางประตูให้อาซิ้มเดินออกไปก่อนแล้วชายหนุ่มจึงเดินตามมา
หลังจากเรามาถึงร้านอาหารร้านดังแห่งหนึ่ง
อาซิ้มเดินเข้าไปนั่งลงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามและตามมาด้วยอคินเจ้านายของอาซิ้มเองนั่งลงด้วยเช่นเดียวกัน
“นายอยากกินอะไรสั่งได้เต็มที่เลยนะ”
“ถ้าคุณอคินไม่ใช่เจ้านายผมเนี่ย ผมคงคิดว่าคุณจีบผมแล้วนะเนี่ย” เด็กหนุ่มวัยยี่สิบห้าเอ่ยขึ้น
“งั้นเหรอ แล้วถ้าฉันจีบนายล่ะ” อคินเงยหน้าจากเมนูอาหารถามขึ้น
“คริคริ อาซิ้มไม่กล้าเอื้อมถึงคุณอคินหรอกครับ เรามันคนละระดับกัน คุณเป็นถึงผู้บริหาร อย่าลดตัวลงมาอยู่กับคนอย่างผมเลย เดี๋ยวคนอื่นจะมองคุณไม่ดี” เด็กหนุ่มพูดเอ่ยขึ้นกับเจ้านาย
“หึหึ นายคิดแบบนั้นเหรอ” อคินเอียงคอถามจ้องมองไปที่อาซิ้มเด็กหนุ่มตรงหน้า
“ก็นะ” เด็กหนุ่มยักไหล่ ยกมือเรียกพนักงาน พร้อมกับชี้บอกเมนูที่ตัวเองเลือก และพยักหน้าให้กับพนักงานว่าเอาแค่นี้ก่อน
“คุณอคินจะรับอะไรดีครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยถาม จากนั้นอคินจึงสั่งกับพนักงานไป
พวกเขาทั้งสองคนนั่งคุยกันไป ไม่นานอาหารก็ถูกยกมาเสิร์ฟ
เด็กหนุ่มมองไปที่อาหารในมือของพนักงานที่ถูกนำมาวางลงตรงหน้า
“หืม สั่งสเต๊กเหมือนกันเลย ใจตรงกันนะเนี่ย” อคินพูดขึ้น
“นั่นสินะครับ” อาซิ้มเงยหน้าขึ้นไปยิ้มให้ ก่อนจะหยิบมีดสเต๊กขึ้นมา
“งั้นไม่เกรงใจล่ะนะ”
“เอาสิ ตามสบายเลย ไม่อิ่มก็สั่งใหม่ได้”
“คุณนี่นะ เอาใจผมจัง”
“แน่นอนสิ ก็นายเก่งแถมยังทำงานให้ฉันดีอีกต่างหาก ขายของเก่งแบบนี้ ทำไมนายไม่ยอมให้ฉันจีบสักที” อคินเอ่ย
“ซิ้มก็บอกคุณแล้ว คุณอคินเป็นเจ้านายผมนั่นแหละดีแล้วครับ” เด็กหนุ่มเอ่ย
ที่ผมไม่ยอมให้เขาจีบและปฏิเสธเขาอยู่บ่อยครั้งเพราะผมรู้ว่าครอบครัวของเจ้านายผมเป็นคนที่เซนซิทีฟในการเลือกคู่ให้ลูกชายของเขามาก และผมไม่มีความคิดที่จะเอื้อมของสูงที่ไม่คู่ควรกับฐานะของตนเอง
ผมคงให้เขาเป็นได้แค่เจ้านายและลูกน้องเท่านั้น และผมเองก็ไม่ได้มีความรู้สึกนึกคิดอยากได้เขามาเป็นแฟนของผมสักครั้งเดียว ผมนับถือเขาเป็นเหมือนพี่ชายที่ดูแลน้องชายซะมากกว่าและอีกอย่างเขารู้ว่าผมชอบผู้ชาย คนอย่างคุณอคินน่ะหรือจะยอมลดตัวลงมาจีบผม
เขาแค่หาความสุขให้ตัวเองก็เท่านั้นแหละไม่ได้คิดจริงจังกับผมหรอก นิสัยเจ้าชู้แบบนี้ใครเขาก็ดูออกกัน ผมไม่อยากเป็นข่าวเสียหายในบริษัทของตัวเองให้พนักงานในบริษัทนินทาหรือตกเป็นขี้ปากของใครที่ว่า เลียแข้งเลียขาเจ้านายจนได้เจ้านายมาเป็นผัวหรอกนะ เพียงแค่เก็บเขาไว้เลี้ยงข้าวเป็นครั้งคราวก็เพียงพอแล้วสำหรับผม อย่าคิดเป็นอื่นเลยจะดีกว่า
ส่วนสถานะตอนนี้ตั้งแต่เลิกกับแฟนคนล่าสุดไปผมก็อยู่ครองโสดเป็นอมตะไปอีกนาน ไม่รู้จะมีแฟนอีกทีเมื่อไหร่ จะมาเมื่อไหร่ก็อยู่ที่โชคชะตาฟ้าลิขิตละนะ เด็กหนุ่มคิด ก่อนจะจิ้มเนื้อเข้าปาก
“หว๊า รู้จักกับนายมาตั้งหลายปี นายนี่ใจร้ายจังนะ” อคินเอ่ย ก่อนจะหั่นเนื้อและจิ้มมาใส่จานเด็กน้อย อาซิ้มมองเนื้อในจานที่เจ้านายหันมาวางให้ก่อนจะจิ้มมันขึ้นใส่ปาก
“อื้ม อร่อย”
“ร้านนี้ใช้ได้เลย ใช่หรือเปล่า”
“ครับ” คนตัวเล็กตอบกลับและเมื่อทานอาหารจนหมดแล้ว มือเล็กคว้ากระดาษทิชชูขึ้นมาเช็ดปากของตัวเอง การกระทำทุกอย่างของคนตัวเล็กมักจะอยู่ในสายตาของอคินเสมอ อคินเองไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกสนใจในตัวเด็กตรงหน้านี้นัก ชายหนุ่มเองยังแปลกใจตัวเองเหมือนกัน แต่ในเมื่อถูกใจไปแล้วจึงเอ่ยขึ้น
“นี่อาซิ้ม เกิดชาติหน้า ฉันขอจีบนายได้ไหม”
“…”
“เผื่อไง ก็ชาตินี้นายไม่ยอมให้ฉันจีบนายนี่นา”
“คุณนี่นะ”
“ได้หรือเปล่าล่ะ”
เด็กหนุ่มไม่ได้ตอบก่อนจะยิ้มให้ ลุกขึ้นยืนและวางกระดาษทิชชูที่เช็ดปากลง
“มื้อนี้ขอบคุณสำหรับอาหารนะครับ ซิ้มกลับเองไม่ต้องส่งนะ คุณอคินเองก็กลับดี ๆ ละครับเจอกันวันพรุ่งนี้” เด็กหนุ่มคว้ากระเป๋าเอกสารของตัวเองขึ้นมา
หมับ ~
มือหนาคว้าเข้าที่ข้อมือเล็ก ทำให้อาซิ้มหันกลับไปมอง
“นายไม่ตอบ ฉันจะคิดว่านายตกลงนะ” อคินเอ่ยขึ้น
“ไม่รู้สิ” เมื่อเด็กหนุ่มตอบกลับมาทำให้อคินยกยิ้มขึ้น รู้สึกท้าทาย ก่อนจะปล่อยแขนเล็กให้เป็นอิสระ
“กลับบ้านดี ๆ ล่ะ”
อาซิ้มไม่ตอบเพียงแต่ก้มหัวโค้งให้และเดินออกมา
เจ้านายของผมนี่พูดอะไรแปลก ๆ มาขอจีบกันชาติหน้านี่นะ เฮ้อ จะบ้าตาย เอาชาตินี้ให้รอดก่อนเถอะ ทำงานทั้งปีนี่แทบจะไม่มีเงินเก็บเลยแม้แต่บาทเดียว
ถึงบริษัทจะให้เงินเดือนสูงแต่รายจ่ายนี่สิพุ่งปี๊ด ๆ ในทุก ๆ เดือนเป็นอย่างมาก เงินนี่ไหลออกเป็นน้ำเลย อย่างงี้ผมคงต้องหาวิธีลงทุนใหม่เพื่อเงินเก็บในอนาคตของตัวเองซะแล้วสิ เด็กหนุ่มคิด อย่าเพิ่งไปคิดเรื่องจีบเลย เกิดเขามาจีบชาติหน้าจริง ๆ
หึย~ เพ้อเจ้อ อาซิ้มส่ายหัว สลัดความคิดเรื่องของเจ้านายออกไปจากหัวก่อนจะเรียกแทกซี่ด้านหน้าร้านอาหารที่จอดส่งผู้โดยสารต่อขึ้นรถไป แต่ไม่รู้ซวยอะไรนักหนาเมื่อใกล้จะถึงซอยเข้าบ้านรถแท็กซี่ดันมาแก๊สหมดกลางทางทำให้เด็กหนุ่มต้องควักกระเป๋าตังค์ออกมาจ่ายค่าโดยสารและเดินเข้าซอยบ้านของตัวเองอีกเป็นกิโล
“ให้ตาย ซวยอะไรขนาดนี้วะ” คนตัวเล็กบ่นพึมพำถือกระเป๋าเอกสารของตัวเดินหอบเข้าซอยด้วยความเหนื่อยล้า แต่แล้วเท้าเล็กต้องหยุดลงเมื่อเจอหมาทั้งฝูงสิบกว่าตัวนั่งมองหน้าหันมาทางเจ้าตัว
อะ เจ้าหมาพวกนี้มาจากไหนกันเนี่ย
“โฮ่ง โฮ่ง”
“เดี๋ยวสิ พวกแกอย่าเห่าสิ” ปากเล็กพูดออกมาบอกหมาจรนับสิบ ที่กำลังส่งเสียงเห่าเสียงดังและมีหมาตัวเล็กขนปุกปุยสีขาวกำลังวิ่งหน้าตั้งมาทางตน
“เฮ้ย ๆ หยุดนะ เจ้าหมาบ้า แกจะทำอะไรฉัน” อาซิ้มส่งเสียงร้องออกมาบอกให้เจ้าขนปุกปุยสีขาวที่กำลังวิ่งมาให้หยุดลง มันทำตามที่อาซิ้มบอกและส่งเสียงเห่าขึ้นอีกครั้ง และแล้วหมาทั้งฝูงนับสิบจึงลุกขึ้นยืนและกรู่กันเข้าหาร่างบาง
อ้าก!!!! ไอ้เจ้าหมาบ้า หยุดวิ่งตามฉันนะเว้ย ใครก็ได้ช่วยด้วย” อาซิ้มตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านสองเท้าเล็กออกแรงวิ่งหนีฝูงหมาไปด้วยแต่กลับไม่มีใครได้ยินเสียงตะโกนเรียกของเด็กน้อยเลยสักคนท่ามกลางความมืดและแสงไฟสลัวจากถนน
โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง
งับ ~
เจ้าขนปุกปุยวิ่งตามงับชายขากางเกงของอาซิ้มได้จึงกัดไว้ไม่ปล่อย เด็กน้อยสะบัดขาแรงจนร่างเจ้าปุกปุยเหวี่ยงตามแรงแต่ไม่หลุด
“งื้อ ปล่อยนะ เจ้าพวกหมาบ้า” หมาช่างไม่น่ารักกับซิ้ม
งับ ~
“โอ๊ย!!” อาซิ้มร้องออกมาเมื่อโดนเจ้าสี่ขาอีกตัวงับเข้าที่ขาอีกข้างจนเลือดสาดและอีกตัวกระโดดงับที่ข้อมือเล็กจนเจ้าตัวล้มลงบนถนน ฝูงหมาตะลุมบอนเข้ากัดร่างบาง ทั้งกัดและเห่าเสียงดัง จนอาซิ้มร้องไห้ออกมา ใครก็ได้ช่วยที ฮือ ฮือ สุดท้ายก็ไม่มีใครเข้ามาช่วย พิษสุนัขบ้าวิ่งเข้าสู่ร่างกายจากการกระทำของเจ้าสี่ขานับสิบ ทำให้อาซิ้มลมหายใจรวยรินนอนอยู่กลางถนนก่อนจะถึงบ้านของตัวเอง
เปลือกตาเล็กหนักอึ้งค่อย ๆ ปิดลง
“ให้ตาย นี่ผมต้องมาตายเพราะเจ้าสี่ขาทั้งฝูงกับไอ้หมาบ้าขนปุกปุยน่ารักนี่จริง ๆ หรือนี่”
โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง และมันก็ยังคงเห่าไม่หยุด อาซิ้มหมดลงหายใจลงและเกิดแสงสว่างสีขาววาบขึ้น
อุ้แว้ อุ้แว้ อุ้แว้
อึก!! ที่นี่ ที่ไหน ทำไมฉันลืมตาไม่ขึ้น อึก อ้า ~