เมื่อความรักกลายเป็นอาวุธที่จะช่วยในการข้ามผ่านฝันร้ายของหมู่บ้านไพรรักษ์ คาลและยินสองเพื่อนรักจึงต้องช่วยกันผจญภัยสู่ป่ามหัศจรรย์เพื่อหาทางช่วยเหลือชาวบ้านจากคำสาปสุดหลอนของผีอรัญญาที่มีชีวิตเดิมพัน
รัก,ผจญภัย,แฟนตาซี,ลึกลับ,ระทึกขวัญ,ปลูกผัก,ผีไทย,ผีหลอก,วายแฟนตาซี,วาย,สืบสวนสอบสวน,ผจญภัย,ผี,แฟนตาซี,ดราม่า,พล็อตสร้างกระแส,สยองขวัญ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
มหัศจรรย์รักข้ามป่าหลอนเมื่อความรักกลายเป็นอาวุธที่จะช่วยในการข้ามผ่านฝันร้ายของหมู่บ้านไพรรักษ์ คาลและยินสองเพื่อนรักจึงต้องช่วยกันผจญภัยสู่ป่ามหัศจรรย์เพื่อหาทางช่วยเหลือชาวบ้านจากคำสาปสุดหลอนของผีอรัญญาที่มีชีวิตเดิมพัน
E-book
Meb: https://shorturl.asia/cmvFf
นายอินทร์: https://www.naiin.com/product/detail/621458
คำนำนักเขียน
สวัสดีคุณนักอ่านที่น่ารักทุกท่านนะครับ กลับมาพบกับนิยายเรื่องที่สามของผมอีกครั้ง สำหรับนิยายเรื่องนี้จะเป็นเรื่องราว ที่เกิดขึ้นในปีพ.ศ. 2515 ณ หมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่ง ในยุคที่ทุกคนสามารถมีความสุขกับการพบปะพูดคุยและใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สวยสดงดงาม ผ่านการทำอาชีพเกษตรกรของชาวบ้าน
โดยเรื่องราวในนิยายเล่มนี้จะเป็นเรื่องราวของคาลและยินสองเพื่อนรักที่มีความรู้สึกพิเศษให้แก่กันและเป็นกัลยานิมิตที่ดีต่อกัน ที่พวกเขาต้องออกเดินทางเข้าไปในป่ามหัศจรรย์เพื่อหาทางแก้ไข คำสาปหลอนของผีอรัญญาที่มีชะตาชีวิตของชาวบ้านเป็นเดิมพัน ที่ภายในเรื่องนักอ่านจะได้เห็นการผจญภัยของทั้งสอง ที่จะทำให้คุณนักอ่านคอยเอาใจช่วยไปกับการเติบโตของตัวละครในการเจอเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ที่มักแฝงไปด้วยข้อคิดและคุณค่าชีวิตที่สำคัญมากมาย สุดท้ายนี้ผมขอฝากนิยายเรื่องนี้ที่เป็นนิยายวายแนวรักโรแมนติก วิชาอาคม และดราม่าแฟนตาซี ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับ และอย่าลืมกลับมารีวิวพูดคุยกันนะครับ รัก รัก เพี้ยง!!
CokeAuttaphon
จัดทำครั้งที่ 1 สิงหาคม 2567
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามลอกเลียนแบบหรือดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของนิยายเรื่องนี้ รวมทั้งการจัดเก็บ ถ่ายทอด สแกน บันทึก ถ่ายภาพ ไม่ว่ารูปแบบหรือวิธีการใด ๆ ในกระบวนการอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ยกเว้นเพื่อการประชาสัมพันธ์เท่านั้น
Author: CokeAuttaphon
Proof & Editor: CokeAuttaphon
Contact
Facebook: WriteCokeAuttaphon
Instagram: Write_CokeAuttaphon
Tiktok: นามปากกาCokeAuttaphon
“คุณค่าของชีวิตไม่ได้อยู่ที่การยอมรับ
แต่อยู่ที่คุณค่าของมุมมอง
ที่มีต่อสิ่งแวดล้อมที่สวยงามในช่วงชีวิตนี้
ยินดีต้อนรับสู่หมู่บ้านไพรรักษ์”
รุ่งเช้าในหมู่บ้านไพรรักษ์เริ่มต้นด้วยเสียงนกร้องและกลิ่นหอมของดอกไม้ป่าที่ลอยมาตามลมเย็น ๆ คาลและยินตื่นขึ้นมาจากที่นอนในบ้านเล็ก ๆ ของพวกเขา บ้านหลังเล็กนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยไม้เก่าหลังคากระเบื้องทรงไทยสมบัติตกทอดจากคุณตาสานที่รับอุปการะเลี้ยงเขาเมื่อคราวที่ยังเด็กทั้งคู่ก่อนเขาจะลาจากโลกนี้ไปและทิ้งสมบัติหลังน้อยที่แสนอบอุ่นนี้ไว้ให้กับทั้งสอง ที่ภายในบ้านมีเพียงเครื่องใช้พื้นฐาน แต่ก็อบอุ่นด้วยความรักและความห่วงใยที่ทั้งสองมีต่อกันที่พร้อมที่จะร่วมกันสร้างอนาคตด้วยกันไปในหมู่บ้านแห่งนี้
ก่อนคาลจะลุกขึ้นจากที่นอน มองไปที่ยินที่ยังคงหลับสนิท ใบหน้าของยินเต็มไปด้วยความสงบเหมือนเด็กน้อยที่ฝันถึงสิ่งที่ดี จนใบหน้าละมุนนั่นเผลอทำให้คาลยิ้มเล็กน้อยก่อนเขาจะเดินไปเตรียมน้ำเพื่อล้างหน้า เสียงน้ำที่หยดลงในถังไม้ดังเป็นจังหวะ มันทำให้คาลรู้สึกสดชื่นเมื่อสัมผัสกับน้ำเย็น ๆ บนใบหน้า หลังจากนั้นยินได้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงนกร้อง เสียงไก่ขัน ยินจึงลุกขึ้นนั่งและยิ้มให้กับคาลที่กำลังเตรียมน้ำให้
“อรุณสวัสดิ์คาล” ยินกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“อรุณสวัสดิ์ยิน เช้านี้เราไปหาอะไรกินกันที่ตลาดกันดีมั้ย?” คาลถามพลางยิ้มให้
ยินพยักหน้าด้วยความงัวเงียและรีบไปล้างหน้าล้างตาหลังจากนั้นเขาจึงเดินไปเก็บไข่ไก่ตามกิจวัตรประจำวันของเขาให้เสร็จอย่างเร็วไว จนเมื่อทำทุกอย่างในตอนเช้าเสร็จทั้งหมดเรียบร้อยเขาจึงไปเตรียมตัวเพื่อไปตลาด ก่อนทั้งสองจะเดินออกจากบ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ริมป่าประดับประดาไปด้วยดอกบานเย็น ดอกดาวกระจาย คุณนายตื่นสาย เล้าไก่ และแปลงผักสวนครัวเล็ก ๆ ไว้สำหรับปลูกไว้กินเองที่ยินและคาลช่วยกันดูแลและสร้างมันขึ้นมาเพื่อเพิ่มคุณค่าในการมีชีวิตให้กับพวกเขา ก่อนพวกเขาจะมุ่งหน้าไปยังตลาดตอนเช้าของหมู่บ้านด้วยความสดชื่นและอบอุ่นของแสงตะวันอันอ่อนโยน
บรรยากาศในตลาดตอนเช้าคึกคักไปด้วยเสียงของพ่อค้าแม่ค้าที่กำลังเรียกลูกค้า กลิ่นหอมของอาหารและผลไม้ต่าง ๆ ลอยมาตาม ลมอย่างสดชื่นร่างกาย คาลและยินเดินผ่านแผงขายผักสด ผลไม้ และเนื้อสัตว์ ก่อนทั้งสองจะหยุดแวะซื้อของที่ต้องการสำหรับมื้อเช้า
“อรุณสวัสดิ์ครับป้าไพร เช้านี้ผมขอซื้อผักหวานป่ากับกระเทียมครับ” คาลทักทายในขณะที่ยินมองดูผักอื่น ๆ เหมือนชื่นชมงานศิลปะจากธรรมชาติ
“ได้เลยจ้ะ” ป้าไพรตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะหยิบผักใส่ใบตอง
“อืม ป้าไพรครับ ป้าพอจะรู้จักท่านพุทธรักษามั้ยครับ?” คาลถามแม่ค้าขายผัก
“อ๋อ ท่านพุทธรักษาหรอ? ป้าเคยได้ยินชื่อเขา แต่ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนหรอกนะ” ป้าไพรตอบพลางยิ้มแห้ง ๆ ก่อนคาลและยินจะกล่าวขอบคุณและจ่ายเงินหลังจากนั้นคาลและยินจึงได้เดินต่อไปถามพ่อค้าแม่ค้าคนอื่น ๆ แต่ทุกคนได้ให้คำตอบคล้าย ๆ กันว่าไม่รู้ว่าท่านพุทธรักษาอยู่ที่ไหน แต่เริ่มมีข่าวดีแง้มมาแต่น้อยว่าพวกเขาเคยได้ยินว่าพ่อแม่เคยบอกว่าท่านพุทธรักษาอาศัยอยู่ในป่าลึก?
ซึ่งหลังจากเดินตลาดเสร็จ คาลและยินกลับมาที่บ้าน ทั้งสองนั่งพักกินก๋วยเตี๋ยวแห้งจากตลาดและพูดคุยกันถึงการค้นหาพุทธรักษา
“ทำไมท่านพุทธรักษาถึงเป็นปริศนาจังนะยิน แต่ถึงอย่างนั้นเราก็จะไม่ยอมแพ้และค้นหาท่านต่อไปให้ได้ใช่มั้ย” คาลกล่าวขณะที่เขากำลังนั่งกินก๋วยเตี๋ยวแห้ง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและสงสัยครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา
“ใช่สิคาล แต่ไม่ว่าท่านจะเป็นปริศนาขนาดไหนเราก็ต้องหาท่านให้เจอเพื่อความสุขของชาวบ้านทุกคน” ยินเสริมด้วยความมุ่งมั่นพร้อมหันไปยิ้มให้คาล ก่อนทั้งสองจะกินอาหารเช้ากันอย่างเต็มอิ่ม เพื่อให้เป็นพลังที่เพียงพอสำหรับการมุ่งหน้าถามข่าวของท่านพุทธรักษาต่อไป
จนกระทั่งในยามสายของวันทั้งสองเริ่มออกเดินทางไปทั่วหมู่บ้านเพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับท่านพุทธรักษา พวกเขาเดินเข้าไปถามคนเถ้าคนแก่ แต่ทุกคนก็ให้คำตอบคล้าย ๆ กันเหมือนที่เคยได้รับก่อนหน้าว่าท่านพุทธรักษาอาศัยอยู่ในป่าลึกไกลโพ้นจากหมู่บ้านแต่บางคนก็เล่าว่าท่านอาจเป็นเพียงแค่เรื่องเล่าขานว่ามีอยู่จริงของชาวบ้านรุ่นปู่ย่า ที่ยังไม่สามารถหาคำตอบให้กับพวกเขาทั้งสองได้
จึงทำให้นี่กลายเป็นคำถามของคาลและยินอย่างน่าประหลาดใจว่าทำไมท่านผู้นี้ถึงเป็นคนมีวิชาอาคมที่ลี้ลับเกินกว่าจะหาพบและได้มองเห็นรูปกายของเขา
“ยิน หลังจากที่พวกเราฟังชาวบ้านพูดมา นายคิดว่าท่านพุทธรักษาน่ะมีจริงมั้ย หรือเป็นแค่เรื่องเล่าขานเหมือนที่ตาโนชแกพูดให้พวกเราได้คิด?”
คาลกล่าวพร้อมหันหน้ามองยินด้วยความสงสัยก่อนจะมีหยาดเหงื่อไหล่ลงให้กับความทุ่มเทกับพวกเขาทั้งสอง
“ฉันว่ามันก็คิดได้สองแบบนะ เพราะถ้าไม่มีจริงแล้วยายพริ้งและชาวบ้านคนอื่น ๆ จะเอามาเล่าได้ยังไง ฉันว่าท่านคงอยู่ในป่าลึกส่วนไหนสักแห่งของป่าใกล้ ๆ หมู่บ้านเรานี่แหละคาล” ยินตอบพร้อมหันมองกลับไปที่คาลพร้อมนำถุงน้ำแดงรัดยางขึ้นมาดูดเพื่อให้เกิดความชื่นใจ เมื่อดื่มเสร็จเขาจึงส่งน้ำถุงนั้นให้กับคาลได้ดื่มเพื่อความชื่นใจให้หายเหนื่อย
“ก็จริงของนายนะ เออ! แต่ฉันว่าไม่ว่าจะยังไงเราก็จะต้องลองหาท่านดูเพื่อช่วยหมู่บ้านของเราให้ได้ เพราะถึงแม้อย่างน้อยถ้าเราหาท่านไม่เจอเราก็ถือว่าพวกเราได้ทำมันอย่างเต็มที่แล้ว ดีกว่านั่งเล่นอยู่เฉย ๆ และมัวแต่สงสัยอย่างไม่ได้อะไรเลย แถมปวดหัวอีกจริงมั้ยยิน” คาลกล่าวด้วยความมุ่งมั่นพร้อมหันไปยิ้มให้ยิน
“จริงสิคาล อย่างน้อยลงมือทำก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลยเพราะสุดท้ายไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรพวกเราก็ทุ่มเทใจให้กับหมู่บ้านและชาวบ้านทุกคนแล้ว ดังนั้นเรามาสู้กันต่อเถอะ”
ยินตอบด้วยแววตาแห่งความหวังที่มันช่วยสร้างแรงบันดาลใจและเป็นข้อคิดในการใช้ชีวิตต่อไปให้กับพวกเขาทั้งสอง ก่อนพวกเขาจะเดินสืบหาความจริงต่อไปด้วยความมุ่งมั่นมานะพยายามในทุก ๆ วินาทีที่เขาได้ยืนเคียงข้างกัน
ซึ่งการที่คาลและยินไปไหนมาไหนตัวติดกันตลอดนั่นเป็นเพราะว่าคาลและยินทั้งคู่เป็นเด็กกำพร้าและกลายเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก พวกเขาเติบโตมาด้วยกันและอยู่ด้วยกันทุกวัน จนความสนิทนี้ทำให้ยินเริ่มมีความรู้สึกที่พิเศษกับคาล แต่ยินก็ไม่เคยแสดงออกมา เพราะกลัวว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะเปลี่ยนไป และในทุกครั้งที่เขาได้เจอความท้าทายร่วมกันมันเริ่มทำให้ยิน เริ่มมีความรู้สึกในใจกับคาลเปลี่ยนไป ซึ่งมันทำให้เขาทำได้เพียงแค่คอยอยู่ข้าง ๆ และส่งเสริมในสิ่งที่คาลต้องการเพียงเท่านั้น เพราะทั้งหมู่บ้านนี้ไม่มีที่อื่นให้ไปแล้ว เนื่องจากสถานที่อยู่ของทั้งสองมันอยู่ห่างไกลความเจริญลึกไปกว่า 60 กิโลเมตร ทำให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันทุกวันจนกลายเป็นความสนิทที่เขาทั้งสองเริ่มรู้สึกถึงการขาดกันไม่ได้ ซึ่งนั่นทำให้การค้นหาท่านพุทธรักษาของคาลและยินเต็มไปด้วยความท้าทายและอุปสรรค แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความร่วมมือที่พวกเขามีมันมาตั้งแต่เด็ก มันจึงหล่อหลอมให้พวกเขาชื่อว่าสักวันพวกเขาจะสามารถนำท่านพุทธรักษามาช่วยหมู่บ้านและปลดปล่อยวิญญาณของอรัญญาให้จนได้…