เดินทางข้ามศตวรรษ สานสัมพันธ์มัดไว้ด้วยเลือด
แฟนตาซี,เลือดสาด,ดาร์ค,ระทึกขวัญ,ไซไฟ,แอคชั่น,สยองขวัญ,วันสิ้นโลก,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลกเดินทางข้ามศตวรรษ สานสัมพันธ์มัดไว้ด้วยเลือด
วาดภาพปกโดย แมวดำหลังบ้าน...นิยายเขียนโดย เขียวขจี...คอมเมนท์ติชมได้ตามอัธยาศัย หากชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์ ขอบพระคุณนักอ่านทุกท่านมากครับ
⚠️TRIGGER WARNING (TAKE CARE OF YOURSELF)⚠️: เลือด ความตาย การฆาตรกรรม การกินเนื้อเผ่าพันธุ์ตัวเอง ซากศพ ยาเสพติด มีการกล่าวถึงเรื่องทางเพศและองคชาติ
ร่างมนุษย์ของสิ่งมีชีวิตนามว่าแมงมุมกำลังจะวางทั้งสองฝ่าเท้าบนผิวดิน เดินทางมายังโลกได้สำเร็จหลังจากที่เดินงุ่นง่านและวางเมล็ดพันธุ์อยู่บนดวงจันทร์มานานหลายสิบปี จนกระทั่งเขาพึ่งรู้ว่าดวงดาวที่เขาอยู่ไม่ใช่โลก แต่เป็นดาวเคราะห์สีน้ำตาลอ่อนดวงมหึมาข้าง ๆ มาโดยตลอด แมงมุมถึงขดตัวแปลงร่างเป็นอุกกาบาตพุ่งมาหล่นตรงพิกัดนี้
ตุ้บ!! แผ่นดินไหวจากแรงกระแทกทำภูเขาทรุดและพังป่าไม้บ้านเรือนได้ไม่ยาก โชคยังดีที่โลกไม่เหลืออะไรอีกแล้ว เป็นเพียงที่ราบเตียนไร้พรมแดนไพศาล อย่างมากให้เห็นก็มีแค่แง้งซี่โครงที่โผล่ขึ้นมาจากดินและตอไม้สีเถ้าถ่าน แค่นั้น เท่านั้น
แมงมุมตาโพลง ปัดเข่าลุกขึ้นยืน
“ไม่แปลกใจที่เราสับสน” พึมพำ ออกเดินอย่างไร้จุดหมาย “หาที่วางเมล็ดพันธุ์เหมาะ ๆ ก่อนดีกว่า ท่านแม่จะได้ไม่ตามลงมาดุถึงที่”
ครึ่งปีผ่านไป
เขตที่เหมาะสมกับการวางเมล็ดพันธุ์นั้นหาเท่าไหร่ก็ไม่พบจนเริ่มชวนเบื่อหน่าย กำลังจะย่ำก้าวที่หนึ่งแสนเจ็ดหมื่นแปดร้อยสิบ จู่ ๆ เด็กผู้หญิงคนหนึ่งก็โผล่หัวออกมาจากรูไร้ก้นบึ้งถัดไปจากเท้าขวา ทำหน้างง ๆ ใส่แมงมุม ค่อยยื่นมือซ้ายมาประมาณว่าช่วยดึงเธอขึ้นให้หน่อย แมงมุมจับข้อมือและเริ่มออกแรงสุดกำลัง “ฮึบ!” แรงนั้นทำร่างเด็กสาวลอยขึ้นมาได้ในครั้งเดียว
เธอคุกเข่าหอบแฮก ๆ จับแขนข้างที่ถูกดึงบรรเทาความปวด ใช้ดวงตานิ่งงันทั้งสองข้างอันสลักด้วยเส้นเลือดเป็นสีแดงก่ำชำเลืองมองแมงมุมผู้เอาแต่ยืนตัวตรงจ้องร่างเธอตาเป็นมัน
จ้องความงามของผมสีขาวมุกยาวพาดบ่าและผิวเผือกขาวโพลน ชุดแขนกระดิ่งกระโปรงสั้นที่เธอนุ่งไว้ก็เปื่อยยุ่ยและสีแดงจางจนเกือบเป็นชมพูเต็มไปด้วยการฉีกขาดและรอยดำเปื้อนฝุ่น หลายวินาทีถูกกลบกลืนด้วยความเงียบสงัดก่อนที่เด็กสาวจะยอมเปิดปากก่อน
“ไอ้จ้อนเล็ก มาทำอะไรที่เขตนี้เหรอ”
น้ำเสียงเรียบเฉยแต่เนื้อหากลับทำเอาแมงมุมต้องก้มเหลือบมองอวัยวะเพศห้อยต่องแต่งของตัวเอง มือซนจับมันคลึงเล่น น่าประหลาดที่เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกกระทบกระเทือนเป็นครั้งแรกที่เกิดมาที่เจ็บปวดทางใจเหลือเกินจนต้องคว้ามือแปะหน้าอกเปลือยเปล่าสงบสติอารมณ์ สักพักค่อยโต้กลับเด็กสาว
“ทั้ง ๆ ที่ท่านแม่อ้างอิงการสร้างร่างนี้มาจากรากฐานอารยธรรมของมนุษย์ที่เรียกว่ายุคกรีกแท้ ๆ ให้สมองผมปราดเปรื่องเปี่ยมด้วยปัญญาลึกล้ำที่สามารถเข้าใจคนได้ ขอร้องอย่าพูดอะไรแบบนั้นอีกเลย ผมรู้สึกเจ็บ”
“อ่อเหรอ? โอเค แก้ตัวแบบนั้นก็ได้” เด็กสาวคว้ามือกุมคาง นั่งชันเข่าเขย่าตัวไปมาเล่น “มีพวกคนทางฝั่งนู้นสนใจให้ลองใช้ยาเหรอถึงเอาเสื้อผ้าไปแลกให้โป๊เปล่า ๆ อย่างฉันไม่เคยใช้เลยนะ ไม่อยากใช้ด้วย ถ้ามีก็แนะนำให้รีบ ๆ ทิ้งไปซะ ชีวิตนายจะมีความสุขขึ้นมากเลยล่ะ”
แมงมุมเอนหัวเป็นงง “แต่ผมเป็นชาวต่าวดาวนะ? ผมไม่ใช่มนุษย์สักหน่อย ผมใช้ยาได้ด้วยเหรอครับ”
“....” “ฉันคิดถึงโลกตอนที่ยังมีคำว่าสถานบำบัดอยู่เหมือนกันนะ”
“สถานบำบัดคืออะไรเหรอ?”
เด็กสาวเผยอปากก่อนจะนอนแผ่หลาลงบนพื้นดินร่วน ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วทำมือซ้ายตั้งฉากกับลำตัว เหยีดนิ้วชี้ไปทางนั้น “นายเป็นคนจากตรงนู้นใช่มั้ย” นัยน์ตาสีฝุ่นเปื้อนแดงเลื่อนลอยมองฟ้าสีอิฐไร้เมฆคล้ายกับกำลังเสาะหาความหวังด้วยการเปิดปากพร่ำเพ้อ
“เออ ได้ยินมาว่าในหลุมหลบภัยนิวเคลียร์มีอาหารอร่อย ๆ เยอะมาก นอนจมซองมาม่าไก่เผ็ดคูณสามกับกระป๋องซุปแคมโบลเลยใช่มั้ย ปลาตราโรเซ่ด้วย อา ชีวิตสุขสบายจนไม่ต้องดิ้นรนเลย ไม่ต้องรับรู้โลกภายนอกเลย น่าดีจังเลยนะ อิจฉาจังเลยนะ ถ้าเอาของกินมาแบ่งให้ฉันได้จะดีสุด ๆ ไปเลยล่ะ ขอบคุณล่วงหน้า…” เธออยากจะพูดต่อแต่ปากเปลี้ยไปเสียก่อน
แมงมุมจับประเด็นได้ จึงเริ่มรู้ตัวว่าทั้งคู่กำลังคุยเรื่องคนละเรื่องเดียวกันอยู่ แต่พอมองไปที่ใบหน้าเธอแล้วเกิดรู้สึกสงสารชอบกล รู้สึกอยากทำความรู้จักขึ้นมาเพราะหัวใจเขาเต้นตึกตักเป็นครั้งแรกที่มาเยือนดาวเคราะห์ดวงนี้ อยากช่วยเหลือ อยากเยียวยาจิตใจเธอตามหน้าที่
“เธอชื่ออะไรนะ มนุษย์หญิง”
“เอเรียล…เอเรียลบนฟากฟ้า…เมื่อฉันเริ่มเสียสติ…ฉันถึงได้ชีวิตคืนมา”
“....” “นั่นคือบทกลอนเหรอ ผมรู้จักหนังสือและการประพันธ์”
“ไม่ใช่ มันคือเพลงที่ฉันเคยฟังบนวิทยุ ฉันตั้งชื่อตัวเองจากในนั้น เพราะจะไม่มีใครมาตั้งชื่อให้กับฉันอีกแล้ว”
ในสายตาของเอเรียลแฝงไปด้วย ‘ความโหยกระหาย’ ที่แมงมุมได้ชมแล้วไม่มีวันเข้าใจได้เลยว่าในก้อนเนื้อสมองของเธอกำลังประมวลผลสิ่งใดอยู่ ทันใดนั้นเขาถึงพึ่งมารู้สึกได้…ที่นี่แหละ เป็นแหล่งเพาะเมล็ดชั้นยอด เขาสามารถปักหลักอยู่ที่นี่และควรเริ่มกระบวนการสร้างโลกใหม่ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป จะได้ไม่สายเกินไป
“เอเรียล”
เจ้าของชื่อยังไม่ทันได้ขานรับ แมงมุมก็คว้ามือบางของเธอมาจากพื้น ใช้นิ้วลูบไล้ขึ้นไปบนนิ้วกลาง เอเรียลพึ่งได้สติกำลังจะชักมือหนี ทว่าสายไปเสียแล้ว หัวใจเต้นตึกตักขณะที่แมงมุมจับเล็บยาวคมของเธอจิกลงบนฝ่ามือแมงมุมเป็นแผลเล็ก เลือดไหลทะลักออกมาดั่งงูเล็กเลื้อยออกมาจากปากแผล ค่อย ๆ พันวนรอบแขนของเจ้ามนุษย์ต่างดาวผู้ได้แต่ทำสีหน้าคร่ำเครียด เขาหงายมือขึ้น อำนาจวิเศษทำของเหลวสีแดงขดม้วนพันละวัน มัดกันเป็นก้อนทรงกลม แข็งตัวเป็นเมล็ดพันธุ์ขนาดเท่าหัวของเขา
“ต้นไม้เลือด…”
สิ้นเสียง รากจากเมล็ดพันธุ์สีเลือดก็ค่อย ๆ ชอนไชไต่จากซอกนิ้วมือลงสู่พื้นดิน เอเรียลลุกหลบด้วยสีหน้าที่ทั้งตกใจและหวาดหวั่น สัญชาตญาณบอกเธอให้วิ่งหนีให้ไว เท้ายังไม่ทันขยับแมงมุมก็กระชากตัวเธอหยุดไว้และใช้ภาษาของมนุษย์สื่อสารกับเธอให้สั้นกระชับ “เราจะสร้างโลกใบใหม่ที่นี่ ตอนนี้”
ต้นไม้เลือดงอกเงยสูงใหญ่ การเจริญเติบโตเทียบกับไม้ยืนต้นในพันปีเกิดขึ้นภายในห้วงสิบวินาทีที่ก้อนเลือดค่อย ๆ กลบทั้งสองให้กอดกันเกลียวอยู่ในโพรงเล็ก ๆ ของลำต้นขนาดกว้าง
“อือ ฉันอยู่บนโลกมาหนึ่งร้อยสี่สิบแปดปียังไม่เคยเจอคนแบบนายมาก่อนเลย” เอเรียลว่าอย่างนั้น เธออยากตกใจ แต่ตอนนี้สมองเธอปั่นป่วนไปหมดแล้ว มองไปบนใบหน้าอันว่างเปล่าของแมงมุม พึ่งมาสังเกตว่าเขาไม่มีหน้า ไม่มีจมูก ไม่มีปาก ทว่าไม่มีอะไรน่าแปลกสำหรับเธออีกแล้วหลังโลกได้ล่มสลายกลายเป็นดินแดนแห่งใหม่ เธอหัวเราะลั่นโดยไร้เสียง หัวเราะอย่างบ้าคลั่งจนน้ำตามันไหลออกมาของมันเอง
“ด้วยต้นไม้เลือด เธอจะไม่มีวันหิวโหยได้อีก” แมงมุมพูด “ผมมีพลังแห่งเลือด เราจะใช้มันหาของกินอร่อย ๆ กัน ผมอยากลองกินอาหารของมนุษย์ดู”
เอเรียลสะอึกสูดน้ำมูกก่อนถามคำถามสำคัญ “นายชื่ออะไรนะ”
“แมงมุม”
“ฮ่าฮ่าฮ่า แหยะแหยง จ้อนเล็กยังดูเพราะกว่าเลย นามชื่อว่าไอ้จ้อนเล็กไปแล้วกันนะ…ไอ้บ้าเอ๊ย” ขำไปกลืนน้ำลายไป
และการผจญภัยของเอเรียลกับไอ้จ้อนเล็กก็เริ่มต้นขึ้นนับจากนั้น