เดินทางข้ามศตวรรษ สานสัมพันธ์มัดไว้ด้วยเลือด

เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก - 4. สู่ชนบท โดย เขียวขจีคือควายกินหญ้า @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,เลือดสาด,ดาร์ค,ระทึกขวัญ,ไซไฟ,แอคชั่น,สยองขวัญ,วันสิ้นโลก,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,เลือดสาด,ดาร์ค,ระทึกขวัญ,ไซไฟ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,สยองขวัญ,วันสิ้นโลก,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก โดย เขียวขจีคือควายกินหญ้า @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เดินทางข้ามศตวรรษ สานสัมพันธ์มัดไว้ด้วยเลือด

ผู้แต่ง

เขียวขจีคือควายกินหญ้า

เรื่องย่อ

เรื่องราวของน้องเอเรียลกับเอเลี่ยนจากต่างดาวชื่อว่าแมงมุมผู้ครองพลังแห่งเลือด ออกเดินทางตามหาอาหารกันสองคน


อัพทุกวัน เวลาประมาณ 18.30 น.

วาดภาพปกโดย แมวดำหลังบ้าน...นิยายเขียนโดย เขียวขจี...คอมเมนท์ติชมได้ตามอัธยาศัย หากชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์ ขอบพระคุณนักอ่านทุกท่านมากครับ

⚠️TRIGGER WARNING (TAKE CARE OF YOURSELF)⚠️: เลือด ความตาย การฆาตรกรรม การกินเนื้อเผ่าพันธุ์ตัวเอง ซากศพ ยาเสพติด มีการกล่าวถึงเรื่องทางเพศและองคชาติ




สารบัญ

เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-1. ต้นไม้เลือด,เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-2. รอยแผลเป็น,เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-3. ปิกนิกยามกลางคืน,เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-4. สู่ชนบท,เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-5. ทนายความที่ไหนจะตัดสิน,เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-6. พระจันทร์เลือด,เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-7. อาคุมะ (สัตว์ประหลาด),เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-8. แบบทดสอบความเป็นมนุษย์,เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-9. สลับร่างไปเมื่อตอนที่แล้ว,เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-10. เพื่อนบ้านตัวปลอม

เนื้อหา

4. สู่ชนบท

ทั้งสองตื่นนอนกันตอนที่พระอาทิตย์อยู่กลางหัวพอดี เริ่มเดินทางต่ออีกครั้ง


“ทางที่เราไปเคยเป็นชนบทเก่านะ เห็นนายพูดถึงเรื่องหนังสือ ที่นั่นอาจจะพออยู่บ้าง” ขณะเดินกุมมือกันตรงไป จู่ ๆ เอเรียลก็โพล่งขึ้น 


“เอาของทุกอย่างหลบลงหลุมไปหมดแล้ว เมื่อก่อนที่นั่นเหมือนนรก แล้วก็กลายเป็นสวรรค์ตอนที่โลกเกิดระเบิดมลพิษระลอกใหญ่ แต่ตอนนี้ไม่รู้จะเป็นยังไงแล้ว ในหลุมนั่น คนที่ยังเป็นมนุษย์กำลังอาศัยอยู่เป็นกลุ่มสุดท้าย แค่มีชีวิตอยู่เพื่อให้ไม่สูญพันธุ์


และกินมาม่าเผ็ดเกาหลี”


แมงมุมหันหาเธอ มือเกาหัวแกรก ๆ “ทำไมจู่ ๆ ถึงได้พูดขึ้นมา”


“ทำไมล่ะ นายไม่ได้อยากรู้เหรอ”


“เปล่า…ก็แค่…ปกติเธอไม่ค่อยชอบสนทนาเรื่อยเปื่อย…”


“เหรอ? ฉันดูเป็นคนแบบนั้นเหรอ?” เธอพูดเสียงค่อย อย่างกับกำลังคิดอะไรในหัวไปด้วย “แต่นายเองก็เรียกฉันว่าเธอเป็นครั้งแรกนะ ไม่ได้ตั้งใจด้วยนี่ รู้สึกสนิทสนมเหรอ?”


“ก็ไม่เชิง เราอยู่กันมาได้ครบหนึ่งวันพอดี แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจเธออยู่ดี”


เอเรียลได้ยินแล้วก็ปล่อยมือเขา ลงไปนั่งขัดสมาธิกับพื้นทันที 


แมงมุมงงงวยสักพักก่อนจะหย่อนก้นลงบนพื้นตาม ไม่รู้ว่าเธออยากจะพักกายหรือพักใจกันแน่ ดวงตาคู่ที่เคยมีสีแดงก่ำแห้งเหือดมีน้ำเจิ่งออกมาให้ชุ่มชื้น จนกระทั่งหยดน้ำวิ่งจากหางตาผ่านแก้มลงไปเสื้อสีแดงซีด ใช้นิ้วซับรอยเปียกบนเสื้อ ในขณะที่แมงมุมได้แต่งงงวย


“เหรอ? ก็คงไม่แปลกอะไรเท่าไหร่หรอก สำหรับมนุษย์อะนะ” น้ำเสียงเรียบเฉย ไร้ความรู้สึกหรือไม่ต้องการรู้สึกกันแน่ แมงมุมไม่มีทางล่วงรู้ได้เลย เธอพูดต่อ 


“แล้วที่ผ่านมาสนุกมั้ยล่ะ ฉันว่าฉันก็สนุกดีนะ”


“สนุก สนุกมาก ๆ เลย” แมงมุมใช้ภาษามนุษย์ตอบ


“.....” “เด็กทารกหน้าเหมือนนายที่ฉันเคยพูดถึง ฉันเจอตรงนี้แหละ ตรงพิกัดนี้เป๊ะ ๆ เลย” 


นั่นทำให้เขารู้ถึงเหตุผลที่เอเรียลทำตัวผิดแผก ไม่รู้ว่าเธอจดจำตำแหน่งในสถานที่ที่ไม่มีอะไรเลยแบบนี้ได้ยังไงด้วยซ้ำ ปากสีซีดพ่นความในใจที่พรั่งพรู


“แม่คงอยากให้เด็กมีชีวิตรอดนอกครรภ์มั้ง เธอเอาแต่บอกว่าฝากเลี้ยงดูเด็กนี่ด้วย แล้วก็โพละ! เบ่งเด็กออกมาจากท้องให้ฉันต้องรีบจำใจรับมา จังหวะมันฉุกละหุกจนไม่ได้มองหน้าเด็กเลย


ฉันไม่รู้ว่าตอนนั้นสารเคมีมันรุนแรงขนาดไหนนะ นี่ขนาดอยู่ฝั่งชนบทห่างสงคราม แต่เด็กที่เกิดขึ้นมาไม่มีอวัยวะที่จะมีชีวิตอยู่ได้เลย หายใจฟึดฟัดอยู่ใต้ผิวหนัง นึกแล้วก็น่าสงสารเนอะ แม่น่าจะปล่อยให้ตาย ๆ ไปเสียตั้งแต่ตอนแรก เหอะ ๆ”


สายตาเอเรียลคือขดก้นหอยไร้ก้นบึ้ง อากาศที่เธอจดจ้องอยู่แทบจะบิดตัวของมันเอง ท่ามกลางที่ราบเตียนไร้ซึ่งสสารใด ๆ นอกจากดินและดินและเอเรียลและแมงมุม ว่างเปล่าจนเสียงหัวใจเป็นเสียงเดียวที่ดังที่สุดในเวลานี้ แมงมุมงุ่นง่านเพราะทนความอึดอัดไม่ไหว เดินวนรอบตัวเธอประมาณสองชั่วโมงครึ่ง เธอไม่นอน ไม่หลับ แค่หายใจ เขาต้องพูดอะไรสักอย่างแล้ว


“แล้วร่างของเด็กคนนั้นหายไปไหนแล้ว เธอควรเก็บมันเอาไว้”


“เหรอ ฉัน...ไม่ได้โรคจิตขนาดนั้นหรอก”


“ผมถามคำถามเพื่อต้องการคำตอบ ศพเด็กอยู่ที่ไหน” แมงมุมเค้นเสียง


“ทำไมล่ะ จะแดกลูกบุญธรรมฉันเหรอ”


“ผมก็ไม่ได้โรคจิตขนาดนั้นหรอกนะ”


“เอ่อเหรอ? สรุปว่าเป็นฉันที่โรคจิตเองสินะ?” 


เอเรียลยิ้มถลึงตา ใช้นิ้วชี้จิ้มไปบนหน้าท้องของตัวเองผ่านผ้าบาง ๆ จิ้มซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น ไม่เว้นช่วงให้แมงมุมตอบ เริ่มทำเสียงค่อนไปทางตะโกน 


“แล้วคิดว่าอีกหนึ่งหมื่นสองพันแปดร้อยสิบเจ็ดศพที่เคยนอนตายเกลื่อนกลาดกันอยู่แถวนี้มันหายไปไหนล่ะ! ระเหยไปกับอากาศ?! ฉันว่าไม่น่าจะใช่แบบนั้นนะ ไอ้จ้อนเล็ก”


แมงมุมก้มหน้า เหม่อมองพื้น “เธอกินพวกเขาไปหมดเลยเหรอ”


“ก็ฉันก็ทำเท่าที่ฉันทำได้ ฉันต้องกินเพื่ออยู่รอด”


“กระทั่งคนที่หน้าเหมือนผมด้วยเหรอ?”


“อืม มันขมมากเลย…มันรู้สึกขมสุด ๆ ไปเลยล่ะ…”


“.....” “ถ้ายัดผลเลือดเข้าแทนที่หัวใจพวกเขา ร่างกายก็จะกลับมามีชีวิตได้”


เอเรียลปาดน้ำตาทันทีที่ได้ยิน


“นายต้องการจะสื่ออะไร” กลืนน้ำลาย ลุกขึ้นมาอยู่ระดับเดียวกับแมงมุม “จะบอกว่านายชุบชีวิตคนได้ว่างั้นเหรอ”


“เชื่อที่ผมพูดด้วยเหรอ?”


สายตาคู่เดียวหรี่ลงอย่างเอือมระอา จ้องแมงมุมคิ้วขมวด


“โอกาสมีอยู่เก้าในสิบ ถ้าร่างกายยังสมบูรณ์ก็พอได้” ฝ่ายที่ไร้ปากไร้ตาสาธยาย “เลือดของผม เลือดของแมงมุมมีสรรพคุณนับพันที่มนุษย์ไม่อาจเอื้อมถึง”


“แล้วทำไมถึงไม่บอกกันตั้งแต่ทีแรก”


“ก็ผมว่าเนื้อคนอร่อยดี…และตอนนี้ทุกอย่างใกล้จะถึงจุดจบขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว”


“อืม ประโยคแรกฉันเห็นด้วย” เอเรียลเข้ามาที่แขนขวาของแมงมุมและโอบกอด ให้ผิวหนังนุ่ม ๆ สัมผัสกัน ส่งเสียงสูดน้ำมูกเป็นครั้งสุดท้าย ซบหัวลงบนไหล่ของแมงมุม “ถ้าสักวันหนึ่ง ฉันตาย นายจะกินฉันมั้ย”


“เธอตายได้ด้วยเหรอ?”


“ไม่รู้สิ ก็แค่ความเป็นไปได้เล็กน้อย”

“.....”

“.....”

“.....”

“.....”

“เดินทางต่อกันดีกว่าเนอะ อีกนิดเดียวเราก็จะได้กินอาหารอร่อย ๆ กันแล้ว” เอเรียลกุมมือของอีกฝ่ายเอาไว้ เดินนำดึงตัวเขาคล้ายกับเชื้อเชิญให้ช่างแม่งแล้วไปกันต่อ คงหายเศร้าพร้อมสำหรับการผจญภัยแล้ว


“ไอ้จ้อนเล็ก ด้านหน้าคงเป็นหลุมของพวกคนตาย ถ้าเราเจอที่นั่นแสดงว่าเรากำลังไปถูกทางแล้วล่ะ”


“แล้วนอกจากสถานที่นั้นมีอย่างอื่นอีกมั้ย?”


“ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนก็คงจะไม่มีแล้วมั้ง”


“ดูว่างเปล่ากว่าที่ผมคิด ผมนึกว่าจะเจอคนเยอะกว่านี้ สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเลย”


“เอ แน่ใจนะ นายอยากเจอคน? หรือกินคนกันแน่นะ?…เป็นคำถามสิบคะแนน”


“ทั้งสองอย่าง” แมงมุมยิ้มร่าแต่เป็นยิ้มที่ไม่มีใครทั้งนั้นที่จะได้เชยชม