เดินทางข้ามศตวรรษ สานสัมพันธ์มัดไว้ด้วยเลือด

เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก - 5. ทนายความที่ไหนจะตัดสิน โดย เขียวขจีคือควายกินหญ้า @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,เลือดสาด,ดาร์ค,ระทึกขวัญ,ไซไฟ,แอคชั่น,สยองขวัญ,วันสิ้นโลก,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,เลือดสาด,ดาร์ค,ระทึกขวัญ,ไซไฟ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,สยองขวัญ,วันสิ้นโลก,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก โดย เขียวขจีคือควายกินหญ้า @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เดินทางข้ามศตวรรษ สานสัมพันธ์มัดไว้ด้วยเลือด

ผู้แต่ง

เขียวขจีคือควายกินหญ้า

เรื่องย่อ

เรื่องราวของน้องเอเรียลกับเอเลี่ยนจากต่างดาวชื่อว่าแมงมุมผู้ครองพลังแห่งเลือด ออกเดินทางตามหาอาหารกันสองคน


อัพทุกวัน เวลาประมาณ 18.30 น.

วาดภาพปกโดย แมวดำหลังบ้าน...นิยายเขียนโดย เขียวขจี...คอมเมนท์ติชมได้ตามอัธยาศัย หากชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์ ขอบพระคุณนักอ่านทุกท่านมากครับ

⚠️TRIGGER WARNING (TAKE CARE OF YOURSELF)⚠️: เลือด ความตาย การฆาตรกรรม การกินเนื้อเผ่าพันธุ์ตัวเอง ซากศพ ยาเสพติด มีการกล่าวถึงเรื่องทางเพศและองคชาติ




สารบัญ

เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-1. ต้นไม้เลือด,เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-2. รอยแผลเป็น,เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-3. ปิกนิกยามกลางคืน,เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-4. สู่ชนบท,เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-5. ทนายความที่ไหนจะตัดสิน,เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-6. พระจันทร์เลือด,เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-7. อาคุมะ (สัตว์ประหลาด),เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-8. แบบทดสอบความเป็นมนุษย์,เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-9. สลับร่างไปเมื่อตอนที่แล้ว,เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-10. เพื่อนบ้านตัวปลอม

เนื้อหา

5. ทนายความที่ไหนจะตัดสิน

“ในที่สุด เดินทางมาถึงแล้ว”


เอเรียลพูดโพล่งขึ้นเมื่อปะสายตาเห็นสิ่งแปลกปลอมในระยะสี่ร้อยไมล์ผ่านพายุทรายฝุ่นหนาทึบ แมงมุมได้แต่งงงวย บีบนิ้วกุมไว้กับมือของเอเรียลให้แน่น เพราะเธอเริ่มออกวิ่ง วิ่งออกแข้งเต็มแรงจนเท้าทำฝุ่นเตลิดเตะหน้าของแมงมุม


นั่นไม่ใช่ปัญหาอะไรสำหรับเขา และอีกอย่าง เขาเองก็รู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน คิดอยู่ว่าจะแปลงร่างเป็นแมงมุมเลือดให้แซงหน้าเธอไปดีมั้ย แต่ใกล้ ๆ เธอนี่แหละ ดีแล้ว มันอบอุ่นเหลือเกิน…และเอเรียลเองก็คงคิดในทำนองเดียวกันเช่นกัน


ผ่านไปไม่นาน เท้าสองคู่หยุดลง เมื่อต่อหน้าคือหลุมบ่อขนาดใหญ่กว่าร่างแมงมุมเลือดหลายหมื่นเท่า กว้างราวขนาดของพระจันทร์หนึ่งดวง สายตาเอเรียลชะเง้อหน้าลงไปไม่เห็นก้นบึ้ง เป็นแค่แสงสว่าง ๆ สีแสดตรงกลางรู “มาถูกที่แล้ว” เธอว่าอย่างนั้น มอบยิ้มมุมปากให้แมงมุมผู้ได้แต่นิ่งตะลึงงัน 


แมงมุมไม่ได้ตกใจด้วยเหตุผลว่าหลุมนั้นยิ่งใหญ่เกินพรรณาหรือเพราะเป็นทรงกรวยจมลงลึกลงไปถึงแกนโลก แต่เพราะพื้นผิวที่สมควรจะเป็นดินกลับเป็นซากศพที่แห้งกรังจนดำเมี่ยม พวกศพที่ยื่นแขนยื่นขาอันเละเทะออกมาให้ผนังขรุขระตั้งแต่ปากรูลึกลงไปเป็นอนันต์ กลิ่นเน่าประกอบกับไม่รู้กี่ร่างทำประสาทกลิ่นด้านชาไปเสียหมด ไอร้อนและกลิ่นเฉพาะของแมกม่าที่ทั้งคู่รู้ถึงตัวตนอยู่ข้างใต้เหล่าซากตรงแกนโลกนั้นแทบจะรู้สึกถึงไม่ได้เลย


“ลองกระโดดลงไปดูมั้ย แปลงร่างเป็นแมงมุมเกรียมได้เลยนะ”


แมงมุมทำสีหน้าขยักแขยงตอบกลับ (ยังไง? เขาไม่มีหน้า เพียงแต่เอเรียลรู้ว่าเขากำลังทำสีหน้าอะไรอยู่)


“เอ่อ แต่อย่าบ้าจี้ทำแบบนั้นนะ ไม่งั้นฉันเหงาตายเลย”


“ผมไม่เข้าใจอะไรเลย” แมงมุมเมินคำของเอเรียลเพราะเรื่องที่สงสัย “มันเกิดเรื่องอย่างนี้ได้ยังไงครับ?”


ชำเลืองกลับ “อย่างนี้คืออย่างไหนล่ะ ไอ้จ้อนเล็ก”


“...หรือว่านี่คือหลุมศพของผู้คนเหรอครับ?”


“ถ้าเรียกอย่างงั้นจริงก็ดีน่ะสิ ทุกคนจะได้สบายใจ” เอเรียลจับสายตาไปที่แสงสว่างโร่สีออกแดงเหลืองข้างใต้ “คนที่นี่ตายอนาจจนฉันกินไม่ไหวด้วยซ้ำ มัน…ไม่รู้สิ…พี่ป้าน้าอาของฉันอาจจะอยู่ตรงนี้ก็ได้นะ พ่อแม่ฉันด้วย ก็เลย…แต่เรื่องนั้นก็ไม่ค่อยสนหรอก ไม่จำเป็นต้องสนแล้ว ประเด็นคือมันขมมาก สารเคมี แมกม่า ไฟไหม้…เหมือนกินฟืนไม่ก็ถ่านเลย”


“เธอเคยกินถ่านด้วยเหรอ?”


“.....” ไม่มีความจำเป็นอะไรที่เอเรียลจะต้องตอบกลับคำถามนั้น เธอพร่ำเพ้อ “เทคโนโลยีของมนุษย์สามารถขุดดินไปจนถึงนรกได้ด้วยซ้ำ เจาะไปเจาะมา ปรากฏว่านรกไม่มีอยู่จริง แต่ที่เราอยู่นี่ก็นรกของแท้พอแล้วล่ะเนอะ”


“ท่านแม่สอนผมมาว่า…สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ…คิดว่ามนุษย์เชื่อกันแบบนั้น”


“...” “ไอ้โง่เอ๊ย สมองทึบจริง ๆ”


“แล้วสรุปคือที่นี่เกิดขึ้นได้ยังไงเหรอครับ”


“ถามข้ามขั้นจังเลย” เอเรียลตบเท้าก่อนเดินตามขอบโค้งของหลุมนรก ข้าง ๆ เหล่าซากไปคือเส้นทางเดินไปยังหลุมหลบภัย เอเรียลรู้ดี “พวกเราคงต้องเดินอ้อมอีกไกลเลย…ระหว่างนี้จะให้ฉันเล่าจริง ๆ เหรอ? อยู่เงียบ ๆ กันไปก็ได้นะ”


“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณครับ”


เธอชำเลืองใส่แมงมุม กวักมือเรียกให้แมงมุมเดินตามมา “ถ้าฉันร้องไห้ก็ห้ามหยุดฉันเด็ดขาดนะ เรื่องมันเก่าไปแล้ว” เธอถอนหายใจแผ่วเบา แมงมุมคว้ามือเธอกุมหวังปลอบใจจึงรู้ว่าตัวมีอาการสั่นเล็กน้อยก่อนเริ่มพรรณนา


“ที่นี่เคยเป็นเวนิสแห่งอิตาลี”


“เวนิส?”


“พิซซ่าอร่อยมากเพราะไม่ใส่สัปปะรด แต่ฉันเป็นพวกชอบกินอาหารขยะเค็ม ๆ โดยเฉพาะเบอร์เกอร์มาร์คฟิช มาร์คฟิชรสชาติเหมือนพลาสติก แต่ดีเสียด้วยซ้ำที่ฉันได้ประหยัดเงิน เพราะปลาทุกตัวก็เริ่มมีแต่กลิ่นพลาสติกแล้ว…”


“พลาสติก?”


“นี่ เอาแต่ทวนคำอยู่นั่นแหละ! พลาสติกก็คือพลาสติกอะ!”


“รสชาติมันเหมือนถ่านมั้ยครับ”


“.....” เธอเบนหน้าหนีด้วยความเอือมระอา เท้าเดินหน้า ปากและสมองก็ยังทำงานเพื่อย้อนถึงวันวาน “ฉันเคยไปญี่ปุ่นกับพ่อตอนสี่ขวบ กินมากุโระไขมันนุ่ม ๆ แต่พ่อครัวบอกว่า ช่วงนี้ของในทะเลเริ่มรสชาติเพี้ยนไปหมดเลย…ตั้งแต่เกิดสงครามเป็นตุเป็นตะ ชีวิตของมนุษย์เปลี่ยนไปพอสมควร ไม่สิ ก่อนตั้งแต่ที่เกิดเกาะพลาสติกทั่วมหาสมุทรแล้วล่ะมั้ง ยุคนั้นเป็นช่วงที่อาหารรสชาติแย่ที่สุดเลย”


 “เห็นแก่กินครับ”


 “อื่ม ใช่ ฉันเห็นแก่กินโคตร ๆ เลย


แล้วก็…วันที่เกิดเรื่องใหญ่นะ ฉันกำลังกินเบอร์เกอร์อยู่บนสะพานริมแม่น้ำ พวกมันประกาศสงครามโลก แล้วก็…ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม!! ตู้ม!! ตู้ม!! ตู้ม!! ตู้ม!! ตู้ม!! ตู้ม!! ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม…ลงมาจากฟ้าเป็นห่าฝนเลย ทำไมไม่ระเบิดลูกเดียวให้มันจบ ๆ ไป? ฉันก็อยากรู้เหมือนกันนั่นแหละ”


“....” “ผมไม่ได้จะถามเรื่องนั้น”


“เดาผิดไปเหรอ?”


“รู้สึกว่ามันข้ามขั้นเกินไปครับ ข้ามขั้นไปมาก ๆ ครับ”


“....” “งั้นฉันก็ขี้เกียจเล่าแล้ว”


“แค่อยากรู้ว่ามันไปถึงจุดนั้นไปยังไงครับ อาหารไปสงครามโลก”


เธอมองแมงมุมเอนหัวแล้วอมเสียงอืมในลำคอ มือขวากุมคางอยู่พักหนึ่งถึงจะคิดคำตอบที่เหมาะสมได้ 


“เอาเป็นว่า…มีพันล้านปัจจัยที่ทำให้โลกไม่น่าอยู่…ผ่านมานานแล้วฉันก็หลง ๆ ลืม ๆ 


ฉันก็แค่คนดูข่าวบ้างบางเวลา อา…เกิดการทะเลาะกันของพวกที่ว่าจะไปอยู่นอกโลกหรือซ่อมแซมโลก สุดท้ายก็เถียงกันไม่จบ พวกที่จะซ่อมแซมโลกว่าจะเก็บทรัพยากรไว้ใช้แต่ฝั่งนอกก็กลัวว่าอีกฝั่งจะเอามาใช้ตามจองล้างจองผลาญกัน ทนายความก็ทำให้ศาลโลกของยูเอ็นเชื่อไม่ได้เลยว่าควรเลือกทางไหน ต่างฝ่ายเลยต่างเก็บเท่าที่เก็บแล้วระเบิดทิ้งแม่งหมดเลย”


“อา อา” แมงมุมขอแทรก ขณะที่ตากำลังจดจ้องรูแห่งศพลึกลงไปที่ข้างเท้า เตะก้อนกรวดเล็ก ๆ กระเด็นลงรูไปเข้าตากลวงของหนึ่งศพพอดี “ถ้าจำไม่ผิด ผมเห็นดาวอังคารมีหย่อมของหญ้าแล้วก็มีคนเดินอยู่ในโดมด้วย”


เอเรียลเหม่อลอย “จะขอเชื่อเรื่องนั้นก็แล้วกัน”


“ตอนแรกหลุมนี่ก็ยังเป็นที่หลบภัยของคนไม่มีอันจะกินอยู่นั่นแหละ พอเกิดระเบิดล้างโลก ยิงกันมาไม่เลือกเวลา ก็ไม่มีทางเลือกมากนอกจากสร้างที่ใต้ดินอยู่รวมกันอย่างกับเป็นสมาพันธ์คนจน แต่กลายเป็นว่าการมีชีวิตอยู่มันไปแย่งข้าวเขากินไง เลยอยู่ได้แค่ปีสองปีหลังโลกพัง…ส่งทรัพยากรมาเดี๋ยวนี้!!...จำคำพูดแม่น ๆ ไม่ได้แต่เป็นอะไรทำนองนั้นนั่นแหละ 


คือบางวันในรอบหลายเดือนก็จะมีพวกมันจากต่างดาวลงมาดูบนพื้นผิวโลก เก็บข้าวของที่ยังเหลืออยู่ที่นี่ เดจา-เอ็นเท็นดู …ใช้ชื่อนั้น โชคดีแค่ไหนที่นายยังไม่เจอกับพวกมัน แค่ปืนรุ่นพระเจ้าเหากระบอกเดียวมันก็ฆ่าเด็ก ฆ่าผู้หญิง ทำอะไรก็ไม่ได้ ชุดอวกาศของมันติดเกราะไว้หนาจนแกร่งกว่าเพชรอีก พอล้างบางหลุมนี้เสร็จก็ไปต่อหลุมอื่น บางทีฆ่าอย่างพวกซอมบี้ข้างทางอย่างที่เราเจอก็เอามากองรวมด้วยเหมือนกัน”


“เดจา-เอ็นเท็นดู?” เผลอทวนคำเพราะชื่อที่พิลึกเกินไป


“เป็นชื่อสมาพันธ์ทางอวกาศ ชื่อของพวกที่อยู่บนดาวอังคาร มันเป็นอักขระกับตัวอักษรยาวสิบห้าตัว บางทีเป็นอีโมจิก็มี ฉันไม่มีทางจำได้หรอก ยุ่งยากกันฉิบหาย เรียกเป็นชื่อหลักเลยง่ายดี”


“...”


ในระหว่างที่สาธยาย แมงมุมเหลือบไปเห็นวัตถุเป็นเงาลาง ๆ ขยับเข้ามาหา จากสุดขอบสายตา ใกล้ขึ้นมาเรื่อย ๆ ทำเอาสงสัยว่ามันคือตัวอะไรกันแน่ เอเรียลทำท่างเหมือนจะมองไม่เห็น แต่มันสะกิดใจเขาอยู่พอสมควร


ทำไมเจ้านั่นมันช่างรูปร่างละม้ายคล้ายมนุษย์เหลือเกิน แต่มันไม่มีทางเป็นมนุษย์ตามนิยามที่ท่านแม่เคยให้ไว้แน่ ๆ มันมีผิวสีขาวผ่อง ใบหน้าสีดำขลับสะท้อนแสงอาทิตย์จากขอบฟ้า ไม่มีตา ไม่มีหู แถมท่าทางการขยับก็แข็งทื่อเก้ ๆ กัง ๆ ราวกับถูกควบคุมอยู่โดยคนอื่น ตาจดจ้อง…หูฟังที่เอเรียลพูดต่อ


“มีกันหลายตัวนะ แต่อย่างเดียวกันที่เจอคือมันชอบใส่ชุดอวกาศเดินไปมา” เธอหันไปหาเงานั้นและชี้นิ้วจูงสายตา “อย่างเช่นที่เดินดุ่ม ๆ อยู่ตรงนั้นยังไงล่ะ ไอ้จ้อนเล็ก เห็นรึยัง ฉันว่าเจ๋งดีออกนะ”


“ส่งทรัพยากรมาเดี๋ยวนี้!!!! ไม่งั้นแกตายแน่!!!”


เสียงตะโกนจากอีกฟากฝั่งดังผ่านฟิลเตอร์พัง ๆ ของลำโพงกึกก้องไปทั่วทุกสารทิศ เอเรียลเขม้นคิ้วทันทีที่เสียงเข้าโสตประสาท มือป้องเงี่ยหูฟังสิ่งที่เขากำลังซุบซิบกับเครื่องมือสื่อสารสีแดงในมือขวาหลังจากตะโกนเรียกทั้งคู่ 


จากเอ็กซ์ซี <นกแก้ว> สามแซ้ดหกแปดสองเก้า <วาฬ>

ทางนี้พบสิ่งมีชีวิตปริศนาหนึ่งตัวกับสัตว์พิการอีกหนึ่งตัวบริเวณหลุมที่สาม

ไม่พบข้อมูลในระบบ ย้ำ ไม่พบข้อมูลใด ๆ ในระบบ


เอเรียลตั้งท่าพร้อมวิ่งหนีในทันที “ไปกันเถอะ…พวกเขาคิดว่านายเป็นสัตว์พิการอะ” มือกำกระตุกต้นแขนของแมลงวัน จ้องถลึงใส่พร้อมใช้น้ำเสียงชวนเคร่งเครียด “ของฉันไม่รู้นะ แต่นายจับไปทดลองแน่ถ้าอยู่เฉย ๆ หลบไว้ก่อนจะดีกว่า”


“มันไม่ใช่มนุษย์เหรอครับ”


“มันเป็นมนุษย์มากกว่าอะไรเลยล่ะ ถึงได้อยากกำลังเสี้ยนหนามให้หมดไป”


แมงมุมรับทราบเรื่องราวทั้งหมดในทันที ตั้งจิตมั่น “เข้าใจแล้วครับ…


“แมงมุมเลือด” พยักหน้าพร้อมกับแปลงร่างก่อนจะเริ่มปฏิบัติการเข้าโจมตี