เดินทางข้ามศตวรรษ สานสัมพันธ์มัดไว้ด้วยเลือด

เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก - 7. อาคุมะ (สัตว์ประหลาด) โดย เขียวขจีคือควายกินหญ้า @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,เลือดสาด,ดาร์ค,ระทึกขวัญ,ไซไฟ,แอคชั่น,สยองขวัญ,วันสิ้นโลก,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,เลือดสาด,ดาร์ค,ระทึกขวัญ,ไซไฟ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,สยองขวัญ,วันสิ้นโลก,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

เดินทางข้ามศตวรรษ สานสัมพันธ์มัดไว้ด้วยเลือด

ผู้แต่ง

เขียวขจีคือควายกินหญ้า

เรื่องย่อ

เรื่องราวของน้องเอเรียลกับเอเลี่ยนจากต่างดาวชื่อว่าแมงมุมผู้ครองพลังแห่งเลือด ออกเดินทางตามหาอาหารกันสองคน


อัพทุกวัน เวลาประมาณ 18.30 น.

วาดภาพปกโดย แมวดำหลังบ้าน...นิยายเขียนโดย เขียวขจี...คอมเมนท์ติชมได้ตามอัธยาศัย หากชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์ ขอบพระคุณนักอ่านทุกท่านมากครับ

⚠️TRIGGER WARNING (TAKE CARE OF YOURSELF)⚠️: เลือด ความตาย การฆาตรกรรม การกินเนื้อเผ่าพันธุ์ตัวเอง ซากศพ ยาเสพติด มีการกล่าวถึงเรื่องทางเพศและองคชาติ




สารบัญ

เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-1. ต้นไม้เลือด,เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-2. รอยแผลเป็น,เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-3. ปิกนิกยามกลางคืน,เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-4. สู่ชนบท,เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-5. ทนายความที่ไหนจะตัดสิน,เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-6. พระจันทร์เลือด,เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-7. อาคุมะ (สัตว์ประหลาด),เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-8. แบบทดสอบความเป็นมนุษย์,เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-9. สลับร่างไปเมื่อตอนที่แล้ว,เอเรียลกับแมงมุมในวันสิ้นโลก-10. เพื่อนบ้านตัวปลอม

เนื้อหา

7. อาคุมะ (สัตว์ประหลาด)

เลือดของแมงมุมที่เข้าไปผสมในร่างของเอเรียลช่วยปลดข้อจำกัดทางด้านร่างกายเธอให้ขาเคลื่อนที่ได้ว่องไวจนเธอหยุดเท้าตัวเองได้ด้วยซ้ำ ไม่มีทางที่ฝั่งศัตรูสองคนนั้นจะเดินตามมาได้ทันเลย สับเท้าเร่งรีบ เอเรียลอยากจะถอนหายใจโล่งอกแต่เหนื่อยเกินไปจนทำไม่ได้ ร่างกายรู้สึกราวกับลุกเป็นไฟ เลือดสูบฉีดทั่วร่างร้อนระอุ ขณะนั้นแมงมุมได้แปลงสภาพเป็นของเหลวชอนไชดั่งปรสิตทั่วร่างรวมถึงสมอง สั่งให้เธอเอาแต่วิ่งไม่คิดชีวิต


“ไอ้จ้อนเล็ก!! แกทำอะไรกันอยู่เนี่ย!! ไอ้สัตว์ประหลาด!! เท้าฉันหักไปหมดแล้ว!!” 


ผมกำลังสิงในร่างคุณอยู่…เสียงนั้นก้องในหู สะท้อนไปมาใต้เปลือกกะโหลก ปวดหัว…เท้าเธอจะไม่หัก คุณจะไม่ตาย ขออนุญาตไม่ถนอมร่าง หลุมหลบภัยไปทางไหน


“ทางซ้าย ทางซ้าย!! ซ้ายกว่านี้!! อ๊าาาาาาาาาาาาาาาากกกกกกกกกก!!!” ชิ้นเนื้อยังไม่ย่อยพ่นออกจากหลอดอาหาร อ้วก เธออ้วกแตก สำลัก “แค่ก แค่ก อั๊ก!...ถามจริง เลือดของแกทำอะไรได้บ้างเนี่ย!! บัดซบเอ๊ย!!”


แปลงสภาพ สร้าง ทำลาย อาวุธ ทุกอย่างสารพัดนึก


“แต่นายก่อนหยุดเถอะ!! เราหนีพวกมันพ้นแล้ว!!! หนีพ้นตั้งนานแล้วโว้ย!!”


แมงมุมหยุดเคลื่อนตัวให้เธอสงบสติ เธอหอบ สักพักก็ล้มลงเอาหัวจุ่มพื้น มือกุมหน้าอก ทำเสียงคย้อนปนกับไอค่อกแค่กไปมาเป็นอาหารที่ย้อนสีเหลืองอี๊ปนกับสีเลือดแดงสด อวัยวะภายในของเธอถูกพังจนป่นปี้แต่ก็ซ่อมแซมตัวเองได้ในฉับพลัน เป็นผลของพลังเธอตอนผ่านเหตุการณ์ปล่อยสารเคมีคร่าล้างบางเมื่อเกินร้อยปีก่อน เธอรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ ร่างกายที่ปรับตัวทันฟื้นฟูไวเหนือมนุษย์ไปแล้ว ไม่มีอะไรมาอธิบายเรื่องที่รอดและสถานะของเธอที่เป็นอยู่ เธอแค่ใช้ชีวิตต่อมาเรื่อย ๆ จนถึงวันนี้


เอเรียลไอ ปาดมุมปาก “แล้วทำไมเราไม่เอาแบบนี้ตั้งแต่แรก”


หมายถึงยังไงครับ?


“สิงในร่างฉัน จะได้ใช้ชีวิตไปด้วยกัน เป็นหนึ่งเดียวกันไปเลยแต่แรก”


ผมไม่ค่อยชอบ มันต่อสู้ไม่ได้แข็งแรงเท่าร่างต้น ไม่เป็นตัวของตัวเองด้วย เดี๋ยวผมก็ต้องสร้างร่างใหม่อีก เพื่อที่จะได้แข็งแกร่งได้ตามเดิม

ยิ่งหัวใจเต้นแรง ผมยิ่งแข็งแกร่ง ผมสร้างต้นไม้เลือดได้เมื่อหัวใจผมถึงสถานะขีดสุด แต่ถ้าไปอยู่ในร่างคนอื่น ผมจะไม่มีหัวใจของตัวเองด้วยซ้ำ อีกอย่าง คนนั้นจะตายได้ง่าย ๆ อวัยวะภายใน…สมอง…จะพังจนผมควบคุมเป็นชุดเกราะได้โดยสมบูรณ์ ถ้าไม่ใช่คนอย่างเธอ…เอเรียล…ผมชอบเธอนะ


ได้ยินประโยคทิ้งท้ายนั้นแล้วเธออยากจะอาเจียนเสียอีกหนึ่งรอบ “แหม ไม่น่าดีมั้ง” เธอกุมบีบคอด้วยทั้งมือ “ใกล้ถึงหลุมหลบภัยแล้วล่ะ ในที่สุดเนอะ”


วิ่งไปมั้ยครับ ให้ถึงที่ไว ๆ


“.....” “ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ ฉันไม่อยากอยู่ในสภาพนี้แล้ว ทำยังไงถึงจะเอาเธอออกได้ละเนี่ย”


ได้ร่างสิง ไม่ก็นอนอยู่เฉย ๆ ประมาณสองสามวันให้ผมประกอบร่างตัวเองใหม่


เอเรียลไม่ได้ตอบเพราะเอาแต่กลั้นให้หนังตาไม่ปิด หายใจหอบ เดินกระเผกไปด้วยขาที่กล้ามเนื้อฉีกขาดซ้ำไปซ้ำมาจนเป็นความเจ็บปวดตกค้าง แขนไร้เรี่ยวแรงสร้างสมดุล และทุกครั้งที่เธอจะล้ม แมงมุมก็จะสั่งสมองให้ตั้งสติได้สักสามวินาที เธอเหนื่อย อย่างน้อยก็ดีที่หันไปข้างหลังมองไม่เห็นพวกเดจาเอ็นเท็นดูแล้ว แค่รู้สึกถึงการถูกจับจ้องมาไกลโพ้นออกไป 


อยากดับลมหายใจตัวเองตรงนี้เลย แต่เธอทำไม่ได้ ไม่มีทางทำได้เสียด้วยซ้ำ


นี่ใช่มั้ย หลุมที่เธอว่า


เอเรียลโดนเรียกสติ ท้องฟ้ากลายเป็นดำปนเขียวไปแล้วและเสี้ยวพระจันทร์สีแดงก็ไม่ได้ช่วยฉายแสงเบิกทางในยามค่ำคืนเลย แต่ภาพที่เธอเห็นนั้นชัดเจน ตาโพลงสติตื่นเมื่อเห็นเส้นสีดำเหลืองพาดยาวบนพื้นข้างหน้า จำได้อย่างแม่นยำว่านั่นเอาไว้ระบุทางเข้าหลุม หลุมที่หนึ่งที่ขนาดใหญ่พอ ๆ กับหลุมที่สาม (หลุมที่ถูกทำลายด้วยคนของเดจาเอ็นเท็นดู) ถ้าเส้นสีดำเหลืองแยกออกจากกัน แสดงว่าหลุมหลักได้เปิดออก


ที่นี่เป็นสถานที่กบดานหลักของคนบนพื้นโลก วิทยาการสูงที่สุดคงต้องปิดไว้มิดชิดแน่นหนาด้วยเหล็กนับหมื่นชิ้นและกลไกเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก เอเรียลเคาะประตูก๊อก! ก๊อก! ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใด ๆ เธอจึงเริ่มแหกปากตะโกน


“นี่! ยาม! ฉันเป็นคนภายนอกที่หลงทางมา!! ช่วยเปิดประตูให้หน่อย!!”


“.....”


ดูเหมือนจะไม่มีใครเลยนะครับ


“แต่ฉันมั่นใจว่าต้องมีคนอยู่ในนั้น!! ฉันมั่นใจ!! หลุมยังไม่ถูกทำลายไปเลยนะ!!”


ผมได้ยินความเชื่อมั่นนั้น เสียงในหัวมันชัดเจน เธอหลอกผมไม่ได้…เขาพยายามควบคุมให้การหายใจเธอเป็นจังหวะตรง ช่วยสงบสติอารมณ์ให้…รอเวลาเช้าก่อนก็ได้นะครับ อาจจะยังไม่มีใครมาเปิด


“ไม่ใช่หรอก! ข้างในนั้นมีแต่แสงสว่าง! มีแต่ของดี ๆ วิเศษวิโส! ใช้ชีวิตมีความสุขกันทั้งวันทั้งคืน! มันต้องมีคนมาเห็นฉันสิวะ กล้องหน้าประตูก็มีอยู่ ตรงนั้น!! ตรงนั้น!! ตรงนั้น!! แล้วก็มีอีกตั้งสิบตัวถ่ายภาพพวกเราอยู่นี่ไง”


ปัก! เธอคว้ากำปั้นชกพื้นเต็มแรงหลังจากชี้ไปรอบด้าน


แต่มันโอกาสเป็นไปได้ เป็นไปได้บ้าง ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้เลย เธอรู้อยู่แก่สมอง


“แล้วมาม่าเกาหลีฉันอะ! มาม่าเกาหลีอะ!”


แมงมุมไม่รู้จะตอบคำถามนั้นยังไงดี


“เอามาม่าเผ็ด ๆ ปลากระป๋องโรเซ่มาใส่คลุกแล้วกินแกล้มกับซุปเห็ดแคมโบล ขอแค่นั้นไม่ได้หรือไง ฉันเดินทางมาตลอดสองวันเพื่อให้มันปิดเหรอ คนข้างในที่ได้ยินฉันก็รีบออกมาให้เห็นหน้าสิ ฉันยังเป็นมนุษย์อยู่นะ ฉันไม่ใช่สัตว์ประหลาดข้างทางนะ ฉันหิวแทบท้องกิ่วอยู่แล้ว”


แต่ในกระเพาะเธอยังเนื้อมนุษย์ส่วนต้นขายังไม่ย่อยจากเมื่อวานอยู่เลยนะ


“หุบปาก!! หุบปาก!! หุบปากไปเลย!!” ดวงตาเธอเริ่มเห็นเส้นเลือด น้ำตาไม่ไหล แค่ตาขาวเพี้ยนเป็นสีชมพูอ่อนหยีลงเพราะแสบร้อนขณะการเริ่มร่ำไห้ “ขอแค่นี้ก็ไม่ได้หรือไงวะ ไอ้…ไอ้…ไอ้เหี้ยเอ๊ย!! น่าจะให้เจ้าพวกนั้นยิงตายไปตั้งแต่แรก กูแค่อยากกินมาม่า เอามาม่ามาให้กู ไอ้สัสเอ๊ย มาม่า! กูจะกินมาม่า ฮึก เอามาม่ามาเดี๋ยวนี้นะ!! เอามาม่ามาาา!!!!!”


เธอทุบประตูบาดเปิดทำจากไทเทเนียมเต็มแรงจนกระดูกแหลกละเอียด แต่ทำเท่าไหร่แขนก็ฟื้นฟูกลับสภาพเดิมได้ 


หยุดเถอะ…ขอร้องล่ะ…


“ก็ทำให้มันหยุดเองสิวะ!!! มึงทำได้ไม่ใช่เหรอ ทำสิ…ทำเลย…ฆ่าฉันทิ้งเลยก็ได้ ตอนนี้เลย เอาสิ ทำเลย ทำตอนนี้ให้มันจบ ๆ ไปเลย เร็วเข้า”


ทันใดนั้นเอง


มีคนมายืนอยู่ข้างเธอ จ่อกระบอกปืนใส่ขมับของเธอ เขาใส่ชุดอวกาศ คราวนี้ไม่ใช่ขาวแต่เป็นสีเขียวไข่กา ตั้งปืนข้างไว้ให้เอเรียลถลึงตาใส่จนคิ้วแทบจะชนกัน 


“อยากยิงก็ยิงเลย ไม่ได้ว่าอะไร” เอเรียลว่าอย่างนั้น แต่เธอต้องตกใจตาโพลงเมื่อชุดอวกาศนั้นโยนปืนทิ้งไปกับพื้น ใช้มือหนาสองข้างปลดที่ล็อกหลายจุดและถอดหมวดออก ปรากฏหน้าของชายวัยกลางคนเปื้อนไปด้วยริ้วรอยแห่งกาลเวลาและแผลเป็น เขาทำเสียงหัวเราในลำคอสั้น ๆ ค่อยพูดกับเธอ


“เอเรียลเองเหรอ บอกแล้วไงว่าอย่ามาที่นี่อีก มันอันตรายฉิบหายเลยนะ” 


“.....” เอเรียลปากสั่นเครือ กุมหน้าอก หลบหน้าหลบตาก่อนพูด “ก็ฉันลืมไปหมดแล้ว ที่นายพูด ผ่านมาตั้งนาน”


“เหรอ? ลืมไปแล้วจริง ๆ เหรอ?”


“อืม ลืมไปหมดเลย ทุกอย่างเลย”


และทั้งสองก็หัวเราะร่าอย่างพร้อมเพรียงกัน


“ฮ่าฮ่า บ้าจริง ฉันไม่ได้เจอหน้านายมากี่ปีแล้วนะ…30 ปีได้มั้ง…ตัวสูง หน้าแก่ขึ้นเยอะเลยนี่เราอะ”


“ผมเองก็อยากเป็นเด็กตลอดไปเหมือนเอเรียลเหมือนกันนั่นแหละนะ” เขายกมือขึ้นขอเขย่าทักทาย เอเรียลจับมือเขากลับและส่งยิ้มให้อย่างไม่คิดอะไร


แต่แมงมุมงง…ไม่เข้าใจว่าทำไมหัวใจเธอถึงเต้นแรงกว่าเดิมเป็นสองเท่า