ฉันตายและย้อนกลับมาในวัยที่ตัวเองเกลียดมากที่สุด เป็นวัยเด็กที่ทุกคนตราหน้าว่าเป็นลูกชู้ แต่เหมือนคุณพ่อ.. จะอ่อนโยนมากขึ้นหรือเปล่านะ?

เมื่อฉันดัน 'ย้อนเวลา' กลับมาเป็นลูกพ่อ - 🐾8🐾 ความลับที่เก็บลึกไว้ข้างใน โดย คุณถั่วแดง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ครอบครัว,รัก,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,รั้วโรงเรียน,ดรามา,ตลก,พี่น้อง,โรแมนติก,พ่อแม่ลูก,เด็กน้อย,รักข้างเดียว,ครอบครัว,ย้อนเวลา,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เมื่อฉันดัน 'ย้อนเวลา' กลับมาเป็นลูกพ่อ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ครอบครัว,รัก,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,รั้วโรงเรียน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดรามา,ตลก,พี่น้อง,โรแมนติก,พ่อแม่ลูก,เด็กน้อย,รักข้างเดียว,ครอบครัว,ย้อนเวลา,ดราม่า

รายละเอียด

ฉันตายและย้อนกลับมาในวัยที่ตัวเองเกลียดมากที่สุด เป็นวัยเด็กที่ทุกคนตราหน้าว่าเป็นลูกชู้ แต่เหมือนคุณพ่อ.. จะอ่อนโยนมากขึ้นหรือเปล่านะ?

ผู้แต่ง

คุณถั่วแดง

เรื่องย่อ



_⁠_⁠_⁠_⁠_⁠_⁠_⁠_⁠_

หากฉันเป็นแค่คนธรรมดา..

ไม่ได้มีชื่อเสียงเงินทอง หรืออยู่ในวงศ์ตระกูลที่ดี

นายจะยังอยากอยู่กับฉันไหม?

หรือที่นายยืนเคียงข้างฉันจนถึงตอนนี้ เป็นเพียงเพราะนามสกุลของฉันกันล่ะ

⁠_⁠_⁠_⁠_⁠_⁠_⁠_⁠_⁠_

❌คำเตือน❌

 นิยายเรื่องนี้ เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิง ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือ เหตุการณ์จริงใดๆทั้งสิ้น อาจมีคำหยาบคายตามอถรรถของตัวละคร โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

🐝🖤🐝🖤🐝

ฝากกดติดตามไรท์ด้วยนะคะ เพื่อเป็นกำลังใจในการอัพผลงาน👇👇

กดใจ ❤️

กดเข้าชั้นหนังสือ 📥

คอมเม้น 📜

กดติดตาม 📌




สารบัญ

เมื่อฉันดัน 'ย้อนเวลา' กลับมาเป็นลูกพ่อ-บทนำ 🐾,เมื่อฉันดัน 'ย้อนเวลา' กลับมาเป็นลูกพ่อ-🐾1🐾 ฉันต้องได้เลี้ยงแมว,เมื่อฉันดัน 'ย้อนเวลา' กลับมาเป็นลูกพ่อ-🐾2🐾 ไม่ได้กินข้าวทำไมไม่บอก,เมื่อฉันดัน 'ย้อนเวลา' กลับมาเป็นลูกพ่อ-🐾3🐾 ความทรงจำเกี่ยวกับทะเล,เมื่อฉันดัน 'ย้อนเวลา' กลับมาเป็นลูกพ่อ-🐾4🐾 คำพูดขอบคุณเล็กๆ,เมื่อฉันดัน 'ย้อนเวลา' กลับมาเป็นลูกพ่อ-🐾5🐾 นอนอย่างแออัด,เมื่อฉันดัน 'ย้อนเวลา' กลับมาเป็นลูกพ่อ-🐾6🐾 ว่าด้วยเรื่องของคุกกี้,เมื่อฉันดัน 'ย้อนเวลา' กลับมาเป็นลูกพ่อ-🐾7🐾 ลูกคนใช้น่ะ,เมื่อฉันดัน 'ย้อนเวลา' กลับมาเป็นลูกพ่อ-🐾8🐾 ความลับที่เก็บลึกไว้ข้างใน,เมื่อฉันดัน 'ย้อนเวลา' กลับมาเป็นลูกพ่อ-🐾9🐾 เกลียดวัยเด็กมากที่สุด,เมื่อฉันดัน 'ย้อนเวลา' กลับมาเป็นลูกพ่อ-🐾10🐾 ลูกควรเลี้ยงหมา,เมื่อฉันดัน 'ย้อนเวลา' กลับมาเป็นลูกพ่อ-🐾11🐾 หนูไม่ได้แกล้ง,เมื่อฉันดัน 'ย้อนเวลา' กลับมาเป็นลูกพ่อ-🐾12🐾 พี่อยากมีลูก,เมื่อฉันดัน 'ย้อนเวลา' กลับมาเป็นลูกพ่อ-🐾13🐾 หนูยกโทษให้

เนื้อหา

🐾8🐾 ความลับที่เก็บลึกไว้ข้างใน


คุณปู่หัวหน้าพ่อบ้านเป็นคนรับหน้าที่ไปรับไปส่งฉันที่โรงเรียนอนุบาล เขาเริ่มจะใจดีกับฉัน จากที่เป็นคนเข้มงวดก็ยืดหยุ่นมากขึ้นเมื่อเป็นเรื่องของฉัน


"วันนี้หนูอยากกินไอศกรีมที่ร้านนั้นอีกค่ะ"


"ได้สิครับคุณหนู เดี๋ยวกระผมขอแจ้งให้นายท่านทราบก่อนแล้วเราค่อยไปกัน" น้ำเสียงใจดีเอ่ยบอก ที่ๆ ฉันอยากไปอีกคือห้างที่มีร้านไอศครีมขายอยู่ สมัยเด็กฉันไม่ค่อยได้ออกไปไหนเพราะไม่ค่อยกล้าขอ ที่อยากไปกินไอศกรีมร้านนั้นทุกวันเพราะจะได้ไม่ต้องเจอหน้าพ่อที่เลิกงานเวลาเดียวกันกับที่ฉันเลิกเรียน บางครั้งฉันก็ไม่ชินกับการถูกสายตาดุดันคู่นั้นจับจ้อง และวันไหนที่คุณครูให้การบ้านมา เขาก็จะมานั่งดูฉันทำการบ้านอยู่ที่โต๊ะในสวน การบ้านเด็กอนุบาลไม่คณามือฉันอยู่แล้ว แต่กลัวพ่อจะสงสัยว่าทำไมฉันถึงตอบถูกทุกข้อมากกว่า


ฉันไม่ใช่อัจฉริยะ.. ฉันเป็นแค่ผู้ใหญ่ในร่างเด็ก แถมยังไม่แน่ใจด้วยว่าถ้าขึ้นป.ห้าแล้วจะแก้โจทย์เลขได้ไหม เพราะฉันไม่ชอบวิชาคณิต เสียน้ำตาให้กับการเรียนก็เพราะวิชานี้เนี่ยแหละ ระหว่างที่นั่งรถจนมาถึงห้าง คุณปู่หัวหน้าพ่อบ้านก็มักจะเปิดเพลงภาษาอังกฤษให้ฉันฟังและสอนคำศัพท์ฉันไปด้วย พอตอบถูกเขาก็จะชมและให้ลูกอมฉัน พูดถึงลูกอม.. ครั้งก่อนที่ปั้นหนึ่งพี่ชายฉันซื้อขนมกลับมา ในนั้นมีอมยิ้มอันใหญ่เท่ามือพ่อโผล่มาด้วย ฉันหยิบมากิน แต่ไม่รู้เพราะอะไรตอนที่ขบเบาๆ มันถึงเอาฟันหน้าของฉันไปด้วยสองซี่ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องนั่งเล่นต่อหน้าทุกคน และฉันก็ร้องไห้เพราะยัยพี่รินอัดคริปเอาไว้อีกแล้ว


เพราะแบบนั้น.. ตอนนี้ฉันถึงได้กลายเป็นเด็กฟันหลอที่ดูน่าขันยิ่งกว่าเดิม ยัยพี่รินน่ะตัวร้าย ตอนอยู่ด้วยกันก็รู้จักกันดี แต่พอเพื่อนมากลับไม่มองแม้แต่หน้า


"เอาเหมือนเดิมนะครับคุณหนู"


"ค่ะ" ฉันเอ่ยตอบพร้อมยิ้มแฉ่งหลังจากที่เข้ามาในร้านแล้ว ผ้ากันเปื้อนเด็กอนุบาลของฉันสะอาดกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ก็แน่อยู่แล้วละ.. ฉันไม่ใช่เด็กจริงๆ สักหน่อย วันนี้ยังไม่หายสยองกับเพื่อนร่วมชั้นที่เอาขี้มูกตัวเองไปแปะหน้าเพื่อนอยู่เลย ฉันนั่งแกว่งเท้าพลางเอาการบ้านออกมาทำ ก่อนสายตาจะไปสะดุดกับร่างคุ้นตาที่เดินผ่านโต๊ะไป ยัยพี่รินกับกลุ่มเพื่อนนั่นเอง..


แต่นี่ยังไม่ถึงเวลาที่พวกเด็กม.ปลายจะเลิกเรียนเลยนะ.. โดดเรียนงั้นเหรอ.. แบบนี้ต้องฟ้องพ่อ จังหวะเดียวกันคุณหัวหน้าพ่อบ้านก็กลับมาพร้อมกับไอศกรีมรสโปรด ทำให้ฉันศูนย์เสียความตั้งใจไป พลางนั่งกินไอศกรีมให้หมดก่อนจะขอยืมโทรศัพท์ของคุณปู่ขึ้นมาโทรหาพ่อ รอไม่นานก็มีคนกดรับ


"พ่อคะพี่รินโดดเรียนค่ะ อยู่กับพวกเพื่อนนิสัยไม่ดี"


(ลูกรู้จักคำว่าโดดเรียนด้วยเหรอ)


มันใช่เรื่องที่ต้องสนใจไหมเนี่ย!?


"ยู้.. ถุ้ย..รู้จักค่ะ พี่รินกำลังกินไอติมอยู่ให้หนูทำยังไงดีคะ" ปลายสายเงียบไปครู่เดียวก็ตอบกลับมา


(ถ่ายรูปเป็นหลักฐานก่อน แล้วจับตาดูพี่สาวลูกเอาไว้ดีๆ ) ฉันตอบตกลงและหวังจะได้เห็นยัยพี่รินโดนพ่อดุดูบ้าง ฉันคืนโทรศัพท์ไปให้หัวหน้าพ่อบ้านที่คุยกับพ่อต่ออีกสองสามประโยค ก่อนเขาจะยกยิ้มกว้างคล้ายกับถูกขึ้นเงินเดือน "นายท่านมีบางอย่างให้กระผมต้องไปทำ รอตรงนี้สักครู่นะครับคุณหนู" ฉันพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม ขณะที่ยัยพี่รินยังตาถั่วมองไม่เห็นฉัน(หรือแกล้งมองไม่เห็นกันแน่) อย่างไรก็ตามฉันกำลังตักไอศกรีมเข้าปากไปพร้อมกับจับตามองพี่สาวหน้าตาสะสวย เราเบ้าหน้าไม่เหมือนกันซะขนาดนั้น ไม่แปลกหรอกที่คนอื่นจะเชื่อว่าไม่ใช่พี่น้อง จู่ๆ ยัยพี่รินก็ลุกขึ้นออกมาจากกลุ่ม สีหน้าดูเหมือนกำลังโกรธอะไรสักอย่างอยู่ขณะที่เพื่อนๆ รีบพูดง้อ ทว่าร่างบางก็เลือกที่จะเดินออกมาอยู่ดี


ฉันไม่รู้หรอกว่าทะเลาะอะไรกัน แต่ท่าทางจะค่อนข้างจริงจัง มีผู้ชายคนหนึ่งในกลุ่มที่ฉันไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเดินตามยัยพี่รินไป ก่อนฉันจะได้ยินเสียงบทสนทนาของเพื่อนในกลุ่มนั้นอย่างไม่ตั้งใจ


"คิดว่าตัวเองถูกนักหรือไง จะเป็นที่หนึ่งให้ได้ทุกเรื่องเลยมั้ง"


"อะไรไม่ถูกใจเข้าหน่อยก็ทนไม่ได้ คิดดูนะว่าฉันต้องทนตามใจยัยนั่นมาตั้งแต่ประถม ถ้าไม่ติดว่าพ่อกับแม่ใช้ให้ทำดีกับยัยนั่นไว้นะ ฉันคงไม่อยู่จนถึงทุกวันนี้"


"พวกผู้ใหญ่นี่มันทำไมกันนะ แค่เห็นนามสกุลก็วิ่งแจ้นเข้ามาให้เราเข้าไปเลียแข้งเลียขา"


"ยัยรินเคยเล่าให้ฉันฟังด้วยนะว่าไม่ชอบชีวิตแบบนี้ ยัยนั่นคาบช้อนเพชรมาเกิดแต่บอกไม่ชอบ น่าหมั่นไส้จริงๆ "


"นี่ๆ อีกไม่กี่วันจะวันเกิดยัยรินแล้วนี่นา เรามาแกล้งลืมกันดีกว่า สักสองสามวันค่อยไปง้อ ยัยนั่นน่ะง้อง่ายจะตาย แค่เห็นว่ามีคนจัดงานวันเกิดให้ก็ดีใจจนน้ำตาซึมแล้ว" สิ้นเสียงที่หัวเราะคิกคักกันอย่างสนุกสนาน อาจดูเป็นการกลั่นแกล้งที่ไม่ได้รุนแรงอะไร แต่หากโดนกับตัวก็คงจะไม่มีใครชอบ เพราะแบบนั้นฉันจึงห้ามตัวเองไม่ให้เดินเข้าไปไม่ได้ ก่อนจะระบายความโกรธที่คุกรุ่นอยู่ในใจ ด้วยการปีนขึ้นไปเหยียบบนเก้าอี้ที่ว่าง ขณะที่กลุ่มตรงหน้ายังงุนงงกับการปรากฏตัวของฉัน ไอศกรีมช็อคโกแลตที่ละลายเหลวถูกราดลงบนหัวของยัยโรสที่กำลังเบิกตากว้างท่ามกลางสายตาตกตะลึงของคนทั้งกลุ่ม


"หนูถ่ายคริปไว้หมดแล้ว รอให้พี่รินได้เห็นก่อนเถอะ"


"หน็อย.. ยัยเด็กฟันหลอ!"


สิ้นเสียงเกรี้ยวกราด ฉันก็กระโดดลงจากเก้าอี้และรีบวิ่งออกมาจากร้าน เรื่องคริปน่ะไม่มีหรอก เพราะคุณปู่พ่อบ้านไม่ได้ทิ้งโทรศัพท์เอาไว้ให้ฉัน กลุ่มยัยกุหลาบวิ่งตามมา แต่ในห้างนั้นเต็มไปด้วยผู้คนที่เดินกันอย่างพลุกพล่าน การวิ่งมาถึงตัวฉันในทันทีจึงเป็นเรื่องที่ยาก จังหวะที่พวกนั่นมองไม่เห็น ฉันก็วิ่งเข้ามาหลบในห้องน้ำของลานจอดรถ


จังหวะที่คิดว่าทุกอย่างสงบลงแล้วฉันก็ได้ยินเสียงยัยพี่รินจากข้างนอก


"ช่วยด้วย!! ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย!!"


ฉันวิ่งออกไปโดยไม่ต้องใช้เวลาคิด ก่อนจะเห็นร่างบางคุ้นตากำลังถูกจับมัดมือมัดเท้าและใช้ถุงผ้าคลุมหัวโดยชายร่างใหญ่ที่ใส่หน้ากากอำพรางใบหน้า ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากรวมถึงการกระทำของฉันด้วยเช่นกัน


"หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!" ฉันตะโกนสุดเสียงขณะที่พวกโจรรีบเปิดประตูรถตู้คันสีดำ หนึ่งในนั้นตรงมาที่ฉันคล้ายมาขู่ให้กลัว


"เอายังไงดีพี่มีคนเห็นเราแล้ว"


"ก็แค่เด็กปล่อยไปเถอะ รีบไปกันได้แล้ว"


"แกจะเอาพี่ฉันไปไหน!!" สิ้นเสียงตวาดลั่น พวกโจรก็ชะงักไปก่อนจะแสยะยิ้มออกมาพร้อมกัน


"ได้ยินว่าตระกูลนี้มีลูกแค่สามคนนะ แต่เสี่ยงดูดีไหม? ถ้าเด็กนี่รู้จักกับคนในตระกูล แสดงว่าก็ต้องเป็นคนรวยเหมือนกัน อาจจะได้เงินไถ่ตัวน้อยหน่อยแต่ก็ถือว่าไม่แย่นะ ในเมื่อปลามันวิ่งมากินเหยื่อเองแบบนี้" เจ้าคนที่ดูท่าว่าจะเป็นหัวหน้าออกคำสั่งให้จับฉันไปด้วย อย่างไรก็ตามฉันยินดีที่จะตามไปเพราะคิดว่าน่าจะหาทางช่วยอะไรยัยพี่รินได้บ้าง..


โดนลักพาตัว.. เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นในชีวิตครั้งก่อนหรือเปล่า แต่ไม่ใช่กับฉันที่ยังไม่เป็นที่รู้จักของใคร แต่เป็นยัยพี่ริน งั้นก็เป็นไปได้ว่าการช่วยเหลือเธอในชีวิตก่อนก็สำเร็จ ไม่รู้ว่าการมีฉันเข้ามาเป็นตัวแปรจะทำให้เรื่องมันจะเป็นอย่างไรต่อ แต่จะให้ปล่อยพี่สาวถูกจับมาคนเดียวแบบนี้ฉันก็ทำไม่ได้เหมือนกัน ฉันเคยผ่านการตายมาครั้งหนึ่งแล้ว ฉันจะช่วยเธอให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม


เด็กอย่างฉันเป็นคนเดียวที่ไม่ถูกปิดตา ทำให้เห็นเส้นทางทั้งหมดและรู้ตัวว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน ยัยพี่รินนอนสลบอยู่ไม่ห่างจากฉัน เราถูกพาตัวเข้าไปในห้องว่างที่มีโซฟาเพียงตัวเดียววางอยู่กลางห้อง มันเป็นห้องที่มีประตูเพียงบานเดียวเป็นทางออก ไฟในห้องถูกปิดพร้อมกับประตู


"อึก.."


เสียงจากร่างบางที่ฟุบอยู่บนโซฟาทำให้ฉันต้องรีบหันไปมอง พลางเช็ดให้แน่ใจอีกครั้งว่ายัยพี่รินไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน ทว่าเมื่อเธอเห็นหน้าฉัน เธอก็นิ่งอึ้งไปราวกับไม่อยากจะเชื่อ ก่อนจะตวาดลั่น


"มาอยู่ที่ได้ยังไงกันยัยฟ้า!?"


"หนูตามพี่มาไง"


"นั่นเป็นเรื่องโง่ที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นใครทำมา ไม่กลัวเลยหรือไงห๊ะ!?" น้ำเสียงกราดเกรี้ยวของคนเป็นพี่ว่าเป็นเชิงสั่งสอน ต้นแขนทั้งสองข้างของฉันถูกจับด้วยความแรงที่ทำให้เริ่มรู้สึกเจ็บ นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้กำลังพลุ่งพล่านไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย แต่ฉันสัมผัสได้ถึงความกลัวที่เด่นชัดออกมามากที่สุด ฉันโอบกอดเธอไว้พร้อมกับลูบแผ่นหลัง


"ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวหนูจะหาทางช่วยพี่เอง" สิ้นเสียง ฉันก็โดนผลักออกอย่างแรง ความรู้สึกผิดฉายในแววตาสวยเพียงชั่วครู่ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น


"ยัยโง่!! คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นครั้งแรกหรือไง เดี๋ยวพ่อก็มาช่วยฉันไว้ทุกครั้งนั่นแหละ เธอตามมาแบบนี้มีแต่จะทำให้เรื่องมันแย่ไปกันใหญ่"


เธอก็พูดได้สิ.. ก็ฉันไม่รู้หนิ และถึงต่อให้รู้ก็คงเลือกที่ตามมาอยู่ดี เพราะฉันคงทนไม่ได้หากต้องปล่อยให้เธอหายไปต่อหน้าต่อหน้าแบบนี้ ฉันเม้มริมฝีปากแน่น น้ำตาเอ่อคลอเบ้า


"หนู.. ขอโทษ"


"ขอโทษแล้วทุกอย่างมันจะดีขึ้นหรือไง หยุดบีบน้ำตาแล้วจำไว้ว่าไม่ต้องเสนอหน้ามาช่วยฉัน เธอช่วยอะไรฉันไม่ได้หรอกยัยฟ้าใหม่" ฉันกลืนก้อนสะอื้นที่ติดอยู่ตรงคอ เธอพูดถูกเรื่องที่ฉันอาจช่วยอะไรเธอไม่ได้ แต่เพราะลึกๆ แล้วฉันก็ไม่ได้เกลียดพี่รินเลย ไม่จะว่าเป็นชีวิตก่อนหรือชีวิตนี้.. จริงๆ แล้วฉันหวังอยู่ตลอดให้เธอสนใจฉัน อยากให้เห็นฉันเป็นน้องสาว ชอบทำทีไปเดินผ่านบ่อยๆ ก็เพราะอยากเล่นด้วย ยอมให้ถูกเพื่อนเธอแกล้งก็เพราะจะได้ใช้เวลากับเธอ และเคยใช้เงินเก็บเกือบทั้งหมดของตัวเองซื้อชุดที่เธอเป็นคนดีไซน์ออกมาเป็นผลงานแรก


ฉันผิดนักรึไง..


เพราะไม่ว่าจะโดนกระทำอย่างไร ฉันก็มองเห็นเธอเป็นพี่สาวของตัวเองอยู่เสมอ