จะเป็นอย่างไร หากได้เข้าไปในนิยายที่ตัวเองเขียน และได้ไปเจอกับ สถานการณ์สุดป่วน ที่ตัวเองสร้างไว้กับมือ วาริน นักเขียนนิยายแนวบู๋ ได้ไปเจอกับเจ้ากรรมนายเวรซึ่งมาในรูปแบบหมอดู แม่หมอให้ปากกาวิเศษหล่อนมาเพื่อเขียนในสิ่งที่หล่อนต้องการ แต่ปากกานั้นกลับนำทางหล่อนเข้าไปในนิยายของตัวเอง วารินได้ถูกลิขิตให้เดินตามเส้นทางของนิยาย โดยมีใครบางคนกำลังควบคุมตัวหล่อนอยู่ ทางเดียวที่จะหลุดพ้นคือการใช้ปากกา กลับมายังโลกแห่งความจริง แต่…. ปากกานั้นกลับโดน จื่อเทียนเจ้าพ่อมาเฟียตัวร้าย ตัวเอกตัวดี ในนิยายของตัวเองยึดไว้ซะอย่างนั้น เรื่องราวจะปั่นป่วนแค่ไหนติดตามได้ ใน มนตรารักหัวใจมาเฟีย 💖
ลึกลับ,แอคชั่น,ชาย-หญิง,พล็อตสร้างกระแส,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
มนตรารัก หัวใจมาเฟียจะเป็นอย่างไร หากได้เข้าไปในนิยายที่ตัวเองเขียน และได้ไปเจอกับ สถานการณ์สุดป่วน ที่ตัวเองสร้างไว้กับมือ วาริน นักเขียนนิยายแนวบู๋ ได้ไปเจอกับเจ้ากรรมนายเวรซึ่งมาในรูปแบบหมอดู แม่หมอให้ปากกาวิเศษหล่อนมาเพื่อเขียนในสิ่งที่หล่อนต้องการ แต่ปากกานั้นกลับนำทางหล่อนเข้าไปในนิยายของตัวเอง วารินได้ถูกลิขิตให้เดินตามเส้นทางของนิยาย โดยมีใครบางคนกำลังควบคุมตัวหล่อนอยู่ ทางเดียวที่จะหลุดพ้นคือการใช้ปากกา กลับมายังโลกแห่งความจริง แต่…. ปากกานั้นกลับโดน จื่อเทียนเจ้าพ่อมาเฟียตัวร้าย ตัวเอกตัวดี ในนิยายของตัวเองยึดไว้ซะอย่างนั้น เรื่องราวจะปั่นป่วนแค่ไหนติดตามได้ ใน มนตรารักหัวใจมาเฟีย 💖
วาริน นักเขียนนิยายแนวบู๋ ได้ไปเจอกับเจ้ากรรมนายเวรซึ่งมาในรูปแบบหมอดู แม่หมอให้ปากกาวิเศษหล่อนมาเพื่อเขียนในสิ่งที่หล่อนต้องการ แต่ปากกานั้นกลับนำทางหล่อนเข้าไปในนิยายของตัวเอง วารินได้ถูกลิขิตให้เดินตามเส้นทางของนิยาย โดยมีใครบางคนกำลังควบคุมตัวหล่อนอยู่
ทางเดียวที่จะหลุดพ้นคือการใช้ปากกา กลับมายังโลกแห่งความจริง
แต่…. ปากกานั้นกลับโดน จื่อเทียนเจ้าพ่อมาเฟียตัวร้าย ตัวเอกตัวดี ในนิยายของตัวเองยึดไว้ซะอย่างนั้น เรื่องราวจะปั่นป่วนแค่ไหนติดตามได้
ใน มนตรารักหัวใจมาเฟีย 💖
ลูกพี่ลูกน้อง
จื่อเทียนนั่งบัญชาการอยู่ในบ้านสั่งลูกน้องให้ตามจับคนแปลกหน้าที่บุกเข้ามาถึงในห้องของเขาให้ได้ เจ็บแผลไม่เท่าเจ็บใจ ถ้าหากว่าเป็นเมื่อก่อนที่เขาไม่ได้บาดเจ็บ หล่อนไม่มีทางรอดไปได้แน่
ในมือของเขาถือปากกาด้ามสีดำ ภายนอกมันก็เหมือนปากกาธรรมดา แต่ทำไมผู้หญิงคนนั้น ถึงถือมันไว้ตลอดเวลา ดูเหมือนมันจะไม่ใช่ปากกาธรรมดาแน่ เขาสำรวจมันหมุนไปมา หรือว่า… มันจะเป็นอาวุธ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น อาถิงเดินเข้ามา ภาพแรกที่เห็นคือ ปากกา ที่ผู้หญิงคนนั้นต้องการ อยู่ในมือ ของ จื่อเทียนจริงๆ และเขาก็ดูจะสนใจมันมาก
“ได้ข่าวว่า มีคนเข้ามาในบ้านเรา” อาถิงเอ่ย
จื่อเทียน เหลือบตามามอง อาถิงเล็กน้อย ก่อนจะหันไปกลิ้งปากกาไปมา น้ำหมึกด้านในไหลไปมาในด้าม ส่องแสงประกาย ก่อนจะพูดต่อ
“คนร้ายเข้ามาถึงในห้อง ความปลอดภัยของบ้านเราคงลดมาตรฐานลงมากตั้งแต่พ่อตายไป นายเองก็ควรจะระวังตัวด้วยนะ อาถิง”
“บ้านเรามีมาตรฐานการคุ้มกันสูงอยู่อยู่แล้ว บางทีหล่อนอาจจะไม่ใช่คนร้ายก็ได้”
จื่อเทียน เงยหน้ามาจ้องน้องชายจริงจัง ยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ เหมือนเจ้าป่าที่อ่านเกมส์เหยื่อออกได้แล้ว
“หล่อนเหรอ นายนี่ก็เก่งดีนะ รู้ได้เลยว่าเป็นผู้หญิง”
อาถิง ชะงักไปเล็กน้อย เขาลืมไปว่า คนอย่างจื่ิอเทียนฉลาดอย่างกับอะไร ถึงเขาจะระวังตัวเรื่องคำพูดมากแค่ไหน ก็เหมือนว่าเขาจะเก็บทุกอิริยาบทของคู่สนทนาได้ละเอียดยิบ
“ปากกานั่น…” อาถิงเอ่ยขึ้น แต่ไม่รู้จะพูดอะไรเมื่อเจอสายตาพิคาตจ้องกลับมา
“ทำไม อยากได้เหรอ"
จื่อเทียนลุกขึ้น เดินไปกระซิบที่ข้างหูน้องชาย
“ไปบอกหล่อนให้มาเอาเอง!!! ฉันให้เวลาแค่ชั่วโมงเดียว…”
อาถิง เดินกลับอย่างไม่ค่อยพอใจ เขาเกลียดท่าทางของ จื่อเทียน เวลาวางท่าใส่เขาทำเหมือนตัวเองมีอำนาจเหนือกว่าเขาในทุกอย่าง ตั้งแต่นายท่านเซียงหลี่เทียน โดนลอบฆ่า ไอ้เด็กเอาแต่ใจนั่นก็ขึ้นมาครอบครองตระกูลเทียน ไล่ถล่ม แก็งค์มาเฟียทั่วจนตอนนี้พันธมิตรหลายฝ่ายกลายมาเป็นศัตรู เหมือนตั้งใจจะทำให้สิ่งที่พ่อสร้างมา พังพินาศ
ร่างสูงผลักบานประตูเข้ามาภายในห้อง วาริน ที่แอบอยู่ในผ้าม่าน โผล่ตาแอบดู เมื่อเห็นว่าเป็นอาถิง ก็รีบออกมาอย่างรวดเร็ว
“เจอปากกาไหมคะ”
“เจอ…”
“อยู่ไหนล่ะคะ” วาริน ดีใจเมื่อเขาบอกว่าเจอสิ่งที่หล่อนต้องการที่สุดในตอนนี้
“อยู่ที่คุณชาย”
“ห๋า” จากอาการดีใจ ก็ห่อเหี่ยวในทันที หล่อนรู้เลยว่า ยากที่จะไปเอาคืนมาแน่
“คุณชายรู้แล้ว ว่าผมซ่อนคุณเอาไว้ เขาให้เวลาแค่ชั่วโมงเดียว คุณควรไปพบเขา” อาถิงเอ่ย
วารินหน้าเจื่อน หล่อนจะไปพบเขาได้ยังไง เขาฆ่าเธอแน่ เพราะเธอทำร้ายเขาเมื่อเช้า
“ฉันได้ตายแน่” หญิงสาวกุมขมับ ไม่น่าหาเรื่องเลย คิดถึงธิตา เพื่อนของหล่อน ถ้าหากว่าเธอไม่ดื้อ ตอนนี้เธอคงมีชีวิตที่ปกติสุข ไม่ต้องมาเสี่ยงตายในที่แบบนี้
“ไม่หรอก ผมจะไปเป็นเพื่อนคุณเองไม่ต้องกลัว” อาถิงเอ่ย เสียงของเขาอบอุ่น และให้ความมั่นใจกับหล่อนได้ แต่อีกใจหนึ่ง วารินไม่อยากจะคิดเลย ว่านายจื่อเทียนนั่นจะเอายังไงต่อไป หล่อนเขียนให้จื่อเทียน ฉลาด และอำมหิตเลือดเย็นในเวลาเดียวกัน เพราะการจะปกครองตระกูลได้ เขาต้องไม่ใจอ่อนใจดี แบบที่อาถิงเป็นในตอนนี้
ถ้าหากว่าหล่อนเป็นคนร้ายตัวจริงขึ้นมา ป่านนี้อาถิง คงถือว่าเป็นสายให้โจรไปแล้ว
“คุณบอกความจริงกับผมมาเถอะ ว่าคุณเป็นใครกันแน่”
วาริน ถอนหายใจเฮือกใหญ่ หล่อนจะบอกได้อย่างไร ว่าตัวเองเป็นคนเขียนโลกนี้ขึ้นมา เขาได้หาว่าหล่อนบ้าแน่ๆ
หญิงสาวควานหาของในตัว มันจะมีอะไรยืนยันได้ไหมว่าหล่อนไม่ใช่คนของที่นี่…
แต่สิ่งที่หล่อนค้นเจอ คือ แผ่นกระดาษ มันมาปรากฏอยู่ในกางเกงหล่อนตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
เธอกางมันออกดู พบว่ามันเป็นจดหมายฉบับหนึ่ง
ใจความจดหมาย
“หลังจากการตายของ เซียงหลี่เทียน พี่ชายอันเป็นที่รัก อาก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปคารวะหลุมฝัง ของพี่เซียงหลี่เลย ด้วยภาวะวิกฤตของครอบครัว อาจำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศแรมปี เพื่อไปขยายธุรกิจให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง แต่ยังมีสิ่งที่ห่วงคือ เจี่ยเจีย ลูกสาวของอา เธอป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับความจำเสื่อม อาการค่อนข้างหนัก อาไม่สามารถพาเธอไปด้วยได้ ดังนั้นอาจะขอฝาก เจี่ยเจีย ไว้กับตระกูลเทียนของเรา ขอฝากให้ คุณชาย จือห่าว และ อาถิง ดูแลเมตตาน้องด้วย
ด้วยความเคารพ
โจว เทียน"
‘จดหมาย ปั๊มด้วยตรายางประจำตระกูลของจริง’
วารินจำได้ว่า หล่อนเคยมีตัวละครหนึ่ง ชื่อโจว เป็นคนที่ตระกูล เทียน เก็บมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก
โจว มีความสามารถในด้านการทำอาหาร เขาเป็นเหมือนกับอาถิงในตอนนี้ เคยเป็นหัวหน้าพ่อครัวประจำตระกูลเทียน แต่แล้ว…พอเขามีครอบครัว โจวจึงย้ายถิ่นฐานไปเขตนอกเมือง เพื่อเปิดร้านอาหารของตัวเอง และไม่ต้องการมีส่วนร่วมในสมบัติและธุรกิจของตระกูล แม้เขาจะถือว่าเป็นลูกเลี้ยงของปู่จื่อเทียนก็ตาม แม้ว่าคนของตระกูลจะตามหาครอบครัวของ โจว มาโดยตลอดแต่ว่า เขาก็ไม่อยากกลับมายุ่งเกี่ยวกับธุรกิจ ให้คนตราหน้าว่า ลูกเลี้ยง จะมาแย่งสมบัติของลูกชายแท้ๆ
โจว เคยเป็นอาจารย์ของ อาถิง ในการทำอาหารตั้งแต่เขาอายุไม่ถึงสิบขวบ ทั้งสองสนิทกันมาก เรียกได้ว่า โจวเหมือนพ่อของอาถิง มากกว่า นายท่าน เซียงหลี่ พ่อที่แท้จริงของเขาเสียอีก
แต่เรื่องที่ว่า โจว เทียน มีลูกชื่อ เจี่ยเจีย และลูกสาวเป็นความจำเสื่อม หล่อนไม่ได้เขียนซักหน่อย ตอนนี้คนที่นั่งเขียนเรื่องราวของหล่อนอยู่ คงกำลังสนุก คิดแล้วมันน่าเจ็บใจนัก แต่อย่างน้อยมันก็เป็นข้อดี ให้หล่อนพอจะมีทางไปในเรื่องนี้ต่อ
ถ้าหากว่าหล่อนเป็นลูกสาวของโจว เทียน หล่อนก็จะมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของ จือห่าวและอาถิง คราวนี้หล่อนก็จะพอมีทางเอาปากกาของหล่อนคืนมาได้ง่ายกว่าเดิม
หญิงสาวยื่นจดหมายให้อาถิง ร่างสูงรับจดหมายมาอ่าน ก่อนจะชะงักไปครู่ใหญ่
“เจี่ยเจีย เธอคือ…เจี่ยเจียจริงๆเหรอ” อาถิง เอ่ยกับหล่อนน้ำเสียงของเขาดีใจมาก จ้องหญิงสาวเขม็ง
“เอ่อ…ตามจดหมายนั่นแหละค่ะ ฉันความจำเสื่อม” วาริน เล่นไปตามน้ำ
อาถิง รวบหล่อนมากอดไว้แน่น
“สิบหกปีแล้ว ที่เราไม่ได้เจอกัน เจี่ยเจีย”
วาริน ตาเบิกโพลงอย่างตกใจ หล่อนยืนตัวแข็งเหมือนโดนสาป
‘อะไรว่ะเนี่ย’ ได้แต่คิดในใจ
ประตูห้องของ อาถิงเปิดออก วารินยังคงอยู่ในอ้อมกอดอาถิง แต่คนที่เดินเข้ามา ถึงกับยืน งง
จื่อเทียนชะงัก มองภาพตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ…