จะเป็นอย่างไร หากได้เข้าไปในนิยายที่ตัวเองเขียน และได้ไปเจอกับ สถานการณ์สุดป่วน ที่ตัวเองสร้างไว้กับมือ วาริน นักเขียนนิยายแนวบู๋ ได้ไปเจอกับเจ้ากรรมนายเวรซึ่งมาในรูปแบบหมอดู แม่หมอให้ปากกาวิเศษหล่อนมาเพื่อเขียนในสิ่งที่หล่อนต้องการ แต่ปากกานั้นกลับนำทางหล่อนเข้าไปในนิยายของตัวเอง วารินได้ถูกลิขิตให้เดินตามเส้นทางของนิยาย โดยมีใครบางคนกำลังควบคุมตัวหล่อนอยู่ ทางเดียวที่จะหลุดพ้นคือการใช้ปากกา กลับมายังโลกแห่งความจริง แต่…. ปากกานั้นกลับโดน จื่อเทียนเจ้าพ่อมาเฟียตัวร้าย ตัวเอกตัวดี ในนิยายของตัวเองยึดไว้ซะอย่างนั้น เรื่องราวจะปั่นป่วนแค่ไหนติดตามได้ ใน มนตรารักหัวใจมาเฟีย 💖

มนตรารัก หัวใจมาเฟีย - 8 ตัวละครที่ไม่รู้ตัว โดย Tanita P @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ลึกลับ,แอคชั่น,ชาย-หญิง,พล็อตสร้างกระแส,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

มนตรารัก หัวใจมาเฟีย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ลึกลับ,แอคชั่น,ชาย-หญิง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,แฟนตาซี

รายละเอียด

มนตรารัก หัวใจมาเฟีย โดย Tanita P @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จะเป็นอย่างไร หากได้เข้าไปในนิยายที่ตัวเองเขียน และได้ไปเจอกับ สถานการณ์สุดป่วน ที่ตัวเองสร้างไว้กับมือ วาริน นักเขียนนิยายแนวบู๋ ได้ไปเจอกับเจ้ากรรมนายเวรซึ่งมาในรูปแบบหมอดู แม่หมอให้ปากกาวิเศษหล่อนมาเพื่อเขียนในสิ่งที่หล่อนต้องการ แต่ปากกานั้นกลับนำทางหล่อนเข้าไปในนิยายของตัวเอง วารินได้ถูกลิขิตให้เดินตามเส้นทางของนิยาย โดยมีใครบางคนกำลังควบคุมตัวหล่อนอยู่ ทางเดียวที่จะหลุดพ้นคือการใช้ปากกา กลับมายังโลกแห่งความจริง แต่…. ปากกานั้นกลับโดน จื่อเทียนเจ้าพ่อมาเฟียตัวร้าย ตัวเอกตัวดี ในนิยายของตัวเองยึดไว้ซะอย่างนั้น เรื่องราวจะปั่นป่วนแค่ไหนติดตามได้ ใน มนตรารักหัวใจมาเฟีย 💖

ผู้แต่ง

Tanita P

เรื่องย่อ

วาริน นักเขียนนิยายแนวบู๋ ได้ไปเจอกับเจ้ากรรมนายเวรซึ่งมาในรูปแบบหมอดู แม่หมอให้ปากกาวิเศษหล่อนมาเพื่อเขียนในสิ่งที่หล่อนต้องการ แต่ปากกานั้นกลับนำทางหล่อนเข้าไปในนิยายของตัวเอง วารินได้ถูกลิขิตให้เดินตามเส้นทางของนิยาย โดยมีใครบางคนกำลังควบคุมตัวหล่อนอยู่ 

ทางเดียวที่จะหลุดพ้นคือการใช้ปากกา กลับมายังโลกแห่งความจริง 

แต่…. ปากกานั้นกลับโดน จื่อเทียนเจ้าพ่อมาเฟียตัวร้าย ตัวเอกตัวดี ในนิยายของตัวเองยึดไว้ซะอย่างนั้น เรื่องราวจะปั่นป่วนแค่ไหนติดตามได้ 

ใน มนตรารักหัวใจมาเฟีย 💖

สารบัญ

มนตรารัก หัวใจมาเฟีย-1 ไม่เชื่อและลบหลู่,มนตรารัก หัวใจมาเฟีย-2 ปากกาวิเศษ,มนตรารัก หัวใจมาเฟีย-3 ไม่ใช่ความฝัน,มนตรารัก หัวใจมาเฟีย-4 ตระกูลเทียน,มนตรารัก หัวใจมาเฟีย-5 ลูกพี่ลูกน้อง,มนตรารัก หัวใจมาเฟีย-6 ทุกอย่างเป็นของฉัน,มนตรารัก หัวใจมาเฟีย-7 คุณหนูคนใหม่,มนตรารัก หัวใจมาเฟีย-8 ตัวละครที่ไม่รู้ตัว,มนตรารัก หัวใจมาเฟีย-9 กุญแจสำคัญของเรื่อง

เนื้อหา

8 ตัวละครที่ไม่รู้ตัว

 

 

“ชุดนี้ เป็นชุดของคุณโซเฟีย เธอยังไม่ได้ใส่หรอกค่ะ แค่ตอนที่มาพักที่นี่หลายปีก่อน เธอไปซื้อแล้วก็ทิ้งไว้หลายชุดเลย ใส่ไปก่อน เดี๊ยวตอนไปช็อปปิ้งคุณหนูก็เลือกเสื้อผ้าที่อยากใส่ได้เลยนะคะ”

เฟิง สาวรับใช้เล่าให้ คุณหนูเจี่ยเจีย เจ้านายคนใหม่ของหล่อนได้ฟัง

วาริน มองตัวเองในกระจก ในชีวิตไม่เคยใส่ชุดอะไรแบบนี้เลย เดรสกระโปรงยาวคลุมเข่า ลูกไม้พริ้มเพรา ตัดสลับกันวิจิตรตระการตา เห็นแล้วขนลุกขนพอง แต่ก็ต้องจำยอม เพราะจำเป็น

จะให้ใส่ชุดนอนลายหมีพูของหล่อนที่ใส่มามาจากบ้าน ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ใส่ซ้ำชุดนั้นหลายวัน เกรงว่ามันจะไม่สมฐานะตระกูลเทียน อย่างที่พี่ใหญ่คนใหม่ของหล่อนบอกจริงๆ

“โซเฟีย…นี่ใช่ลูกสาว หมิงจูใช่ไหม” วาริน ถาม

“คุณหนู อย่าไปเรียกชื่อท่านเฉยๆ นะคะ เดี๊ยวจะโดนดุ เรียกว่า นายท่านหมิงจูค่ะ”

วารินแอบเบ้ปากเล็กน้อยโดนที่สาวรับใช้คนใหม่ไม่ทันสังเกตเห็น คนชั่วร้ายอย่างหมิงจู เรียกชื่อก็บุญโขแล้ว

“คุณโซเฟีย แกเป็นลูกสาวของนายท่านหมิงจูค่ะ อายุน่าจะพอพอกับคุณหนูเจี่ยเจีย หน้าตาสวยอย่างกับนางเอกฝรั่ง หุ่นก็ดีค่ะ แต่ว่า… ค่อนข้างเอาใจยากหน่อย” เฟิงเล่าต่อ

“เอาใจยากยังไง”

“ก็ถ้าทุกคนรู้ว่า คุณหนูโซเฟียจะมา เราจะมีการประชุมใหญ่กันหลายครั้ง เพื่อให้ทุกอย่างราบรื่น ถ้ามีอะไรผิดพลาด เราจะโดนลงโทษ”

“แล้วเค้ามีสิทธิอะไรมาลงโทษคนในบ้านนี้ ญาติก็ไม่ใช่” วารินตกใจกับคำบอกเล่าของเด็กรับใช้

“คือ…ที่ฉันเล่าให้คุณหนูฟังก่อน เพราะอยากให้คุณตั้งรับให้ดีค่ะ อย่าไปมีเรื่องกับเธอ เพราะแม้แต่คุณชายจื่อเทียน ก็เกรงใจ นายท่านหมิงจู ไม่กล้าพูดอะไรมาก เราทุกคนจึงต้องพยายามไม่ทำอะไรผิดพลาด ฉันน่ะ เป็นห่วงคุณหนูเจี่ยเจียนะคะ” เด็กสาวรับใช้เอ่ยด้วยใจจริง

“เค้าลงโทษอะไรพวกเธอ หักเงินเดือนหรือว่า ดุด่าเหรอ”

เฟิง ชั่งใจอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะยื่นมือตัวเองออกมาให้วารินดู รอยที่มือเป็นรอยแผลเป็นที่เกิดจากของร้อนลวก

“ฉันเคยไปรับใช้คุณหนูโซเฟียแล้วหล่อนไม่พอใจน้ำชาที่ยกไปให้ เธอราดน้ำร้อนใส่มือดิฉันเป็นการลงโทษค่ะ”

ตึ๊ง!!!!

วารินตบโต๊ะฉาดด้วยความโมโห เธอลุกยืนอย่างไม่รู้ตัว ทำเอาเฟิงตกใจตัวสั่น

“แล้วจื่อเทียนเป็นเจ้าบ้านประสาอะไร ปล่อยให้คนในบ้านถูกรังแก” เธอในฐานะคนเขียนเรื่องนี้ จะไม่ปล่อยให้ตัวละครโรคจิตอย่างโซเฟีย ที่หล่อนไม่เคยเขียนตัวละครตัวนี้ออกมา เข้ามาทำร้ายคนในนิยายของเธอได้

แม้ว่าหล่อนจะไม่มีอำนาจในการเขียนเหมือนก่อนแต่ว่า เธอจะใช้สิ่งที่มีทั้งหมดตอนนี้ สู้เพื่อตัวละครตัวเล็กตัวน้อยของเธอ ยืนหยัดให้ความเป็นธรรมกับพวกเขา ให้ได้

เฟิงรีบเกาะขา คุณหนู ของตัวเอง

“คุณหนูเจ้าขา อย่าโมโหแบบนี้เลยนะคะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว ฉันก็แค่เล่าให้คุณหนูหนีห่างจากคุณโซเฟียเท่านั้น อย่าไปยุ่งกับเธอเลยนะคะ” สาวรับใช้ เหมือนจะร้องไห้อีกครั้ง

วารินยอบตัวลง จับแขนสองข้างของสาวรับใช้่

“การหนี…จะทำให้คนแบบนั้นได้ใจ ฉันน่ะ จะไม่ยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นกับใครอีก เธอสบายใจได้ ตราบใดที่ฉันยังอยู่ที่นี่ เธอเป็นคนของฉัน ถ้าใครมารังแกเธอ ฉันจะจัดการเอง!”

เฟิง มองเจ้านายคนใหม่อย่างไม่เคยมองใครมาก่อน คุณหนูเจี่ยเจีย เหมือนมีพลังอำนาจบางอย่างที่หล่อนไม่เคยได้เห็นจากใคร แววตาเชื่อมั่นของหญิงสาวทำให้ เฟิง ใจชื้นขึ้นมากว่าเมื่อก่อน ที่ต้องอยู่อย่างหวาดกลัวทุกขณะจิต

 

จื่อเทียนมองนาฬิกาข้อมือ เขาไม่เคยต้องมานั่งรอใครแต่งตัวแบบนี้เลย ใบหน้าหล่อเหลาตอนนี้มุ่ยยิ่งกว่าอะไรดี

“วันนี้จะพาเจี่ยเจียไปช็อปที่ไหนเหรอครับคุณชาย” อาถิง ที่นั่งรอเป็นเพื่อนคุณชาย ชวนคุย เมื่อเห็นสีหน้าเบื่อโลกของจื่อเทียน

“ก็อาจจะย่านใจกลางเมือง” เขาตอบไม่ได้มองหน้าคนถาม

“ซื้อโทรศัพท์ให้เธอด้วยนะครับ เธอบอกว่าโทรศัพท์ของเธอหาย” อาถิงกล่าวต่อ

จื่อเทียนหัวเราะในลำคอ

“ไม่สงสัยอะไรบ้างเลยเหรอ ว่าทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงไม่มีแม้กระทั่งกระเป๋าเสื้อผ้ามา โทรศัพท์ หรือเอกสารอะไรเลย”

อาถิงทำหน้า งง

“หมายถึงอะไร”

“นายเชื่อจริงๆ เหรอว่านั่น!!! คือเจี่ยเจีย”

อาถิงหัวเราะออกมาบ้าง

“ทำไมจะไม่เชื่อล่ะครับ ก็หล่อนมีเอกสารของอาโจวมานะ บางทีโรคความจำเสื่อมของเธออาจจะทำให้เธอลืมของไว้ที่ไหนสักแห่งขณะเดินทางมาที่นี่ก็ได้”

จื่อเทียนปรบมือให้น้องชายต่างมารดา ซึ่งอาถิงรู้ดีว่าจื่อเทียนกำลังประชด

“คิดบวกได้โล่เลย”

อาถิง ยิ้มกลับอย่างไม่ถิือสา เพราะโดนแบบนี้จนชิน

“ขอบคุณครับคุณชาย ผมจะถือว่าเป็นคำชม”

 

 

“มาแล้วค่ะ ขอโทษที่่ช้า” วารินเอ่ย รีบเดินลงมาจากบันได

จื่อเทียนเงยหน้าขึ้นไปเจอหญิงสาว ถึงกับชะงักอยู่พักใหญ่ อาการโมโหที่ต้องนั่งคอยกว่าสิบนาทีหายเป็นปริดทิ้ง เมื่อได้เห็นเจ้าหล่อนอยู่ในชุดที่เป็นผู้หญิงเต็มตัวแบบนั้น หล่อนปล่อยผมและแต่งแต้มใบหน้าบางๆ เหมือนเป็นคนละคนกับที่เขาได้คุยเมื่อเที่ยง

อาถิงรีบเดินไปรับน้องสาว

“พอแต่งตัวขึ้นมา ก็สวยจนจำไม่ได้เลยนะเนี่ย” อาถิงยื่นมือไปรับหล่อน เมื่อเดินลงบันไดมาขั้นสุดท้ายพอดี

เจี่ยเจีย ย่อตัวลงเล็กน้อย เหมือนเจ้าหญิงรับเต้นรำเจ้าชาย พาให้คนรับใช้ และบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ตรงนั้นยิ้มกันไม่หุบ

อย่างกับภาพวาดเจ้าหญิงกับเจ้าชาย

 

จื่อเทียนกรอกตา คว้าเสื้อสูทเดินลิ่วๆ ไปหน้าบ้าน เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมตัวเองต้องอารมณ์ไม่ดี เวลาเห็นเจี่ยเจียอยู่กับอาถิงแบบนั้น ดูขัดหูขัดตาพิกล

หญิงสาววิ่งตามจื่อเทียนขึ้นรถได้ฉิวเฉียด เขาบอกให้รถออกทันทีที่หล่อนยื่นขาเข้ารถครบทั้งสองข้าง

‘จะรีบไปไหน’

 

รถเคลื่อนผ่านประตูบ้านตระกูลเทียน ออกนอกถนนใหญ่ วาริน ใจเต้นตูมตาม เมื่อได้เห็นสภาพบ้านเมืองในนิยายของตัวเอง ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบไปหมด เหมือนเป็นอีกโลก ที่ไม่ใช่แค่สิ่งที่ถูกเขียนขึ้นมา

จื่อเทียนนั่งเบาะหลังกับเจี่ยเจีย เลขาจาง อาสาขับรถให้เขา เหว่ย นั่งข้างคนขับ

เขา แอบมองหญิงสาวที่นั่งชะเง้อมองข้างทาง ความสงสัยที่มีในตัวหล่อนทำให้เขาไม่สามารถยอมรับหล่อนเป็นน้องของเขาได้อย่างเต็มที่ ถึงขณะนี้ใจของเขาจะอ่อนให้กับความไร้พิษสงในตอนนี้ของเจ้าหล่อน

แต่เพื่อความไม่ประมาท เขายังต้องค้นหาข้อมูลของหล่อนให้ได้มากที่สุด…

แต่ถ้าเขาจะประเมินในตอนนี้ คนอย่างหล่อน คงไม่ใช่พวกนักฆ่า ที่ถูกส่งมาในคราบของน้องสาวเขาแน่

ไม่ใช่นักฆ่า แล้วหล่อนเป็นใครกันแน่นะ

จังหวะที่เขากำลังครุ่นคิด จื่อเทียนนั่งจ้องหล่อนโดยไม่รู้ตัว

เมื่อหญิงสาวหันมา บัดนี้ เขาก็ไม่สามารถหลบตาหล่อนได้อีก

 

“มองอะไรค่ะ จับผิดอะไรอยู่” วาริน เปิดประเด็น เพราะว่าหล่อนเห็นเขาจ้องหล่อนตั้งแต่ทานอาหารมื้อเที่ยง พอหล่อนจ้องกลับ เขาก็หลบตาไป ทำเอาหล่อนรำคานใจขึ้นมานิดๆ อยากจะรู้อะไรทำไมไม่ถามตรงๆ ไปเลย

“ทำไมถึงคิดว่าจับผิด” เป็นครั้งแรกที่เขาถามหล่อนโดยไม่เมินหน้าไปทางอื่น

“คนปกติเค้าไม่มองคนอื่นแบบนั้นหรอกค่ะ เขาว่าสายตามันหลอกกันไม่ด๊ายยย” วารินพูดเป็นทำนองเพลงในประโยคท้าย

“เพื่อนเล่นหรือไง ถ้านับแล้ว ฉันแก่กว่าเธอหกปีเชียวนะ แล้วฉันก็เป็นเจ้าของตระกูลเทียน…”

“จ้า พี่คนอาวุโส พี่คนเฒ่าคนแก่ พี่คนมียศมีศักดิ”

“นี่เธอ!!!” จื่อเทียนหมั่นเขี้ยวจริงๆ แต่ทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่ากัดกรามแน่น

ความกวนประสาทนี้ ทำเอาเขาไปไม่เป็น ไม่มีใครกล้ามาต่อล้อต่อเถียงกับเขาได้แบบนี้

เหมือนหล่อนจะรู้จักเขามากกว่าคนอื่น รู้ว่าเขามีจุดอ่อนตรงไหน

เหว่ย และ เลขาจาง แบบหลุดขำออกมาอย่างไม่ตั้งใจ แต่ต้องรีบทำหน้าขรึมเหมือนเดิม เมื่อหันมามองกระจกหลังแล้วเจอสายตาพิฆาตของเจ้านาย

“แล้วนี่เราจะไปช็อปปิ้งเลยไหมคะ”

“ต้องเข้าไปจัดการเอกสารที่ออฟฟิตไม่เกินสองชั่วโมง เธอคงจะรอได้นะ”

“ค่า รอได้แน่…” วารินเอ่ยยิ้มแฉ่ง

คิดแล้วก็ตื่นเต้น สิ่งที่วารินจะได้เห็นต่อจากนี้ คือความยิ่งใหญ่และอำนาจ ของบริษัทตระกูลเทียน บ้านที่ก่อร่างสร้างตัวมายาวนานเป็นร้อยปี ตระกูลที่หล่อนซึ่งเป็นคนเขียนตั้งใจสร้างขึ้นมาอย่างอลังการ

โดยขณะนี้ หล่อนไม่รู้ตัวเลยว่า ตัวเองลืมเรื่องที่อยากกลับบ้านไปสนิท หล่อนกำลังหลอมรวมกลายเป็นอีกหนึ่งตัวละครในเรื่องนี้ อย่างไม่รู้ตัว…