เจ้าปีศาจที่ขวางทางข้า จงถูกลงทัณฑ์ ข้าจะให้เจ้าทุกข์ทรมานอยู่ที่นี่ชั่วนิจนิรันดร์!!
ผจญภัย,แฟนตาซี,แอคชั่น,สงคราม,อัตชีวประวัติ,แฟนตาซี,การเมือง,ปีศาจ,ต่อสู้,ผจญภัย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ปกรณัมแห่งราชันย์เจ้าปีศาจที่ขวางทางข้า จงถูกลงทัณฑ์ ข้าจะให้เจ้าทุกข์ทรมานอยู่ที่นี่ชั่วนิจนิรันดร์!!
ณ เขตป่าชายเขตแดนเมืองริชชา กองคาราวานลำเลียงเครื่องราชบรรณาการ พร้อมทหาร 50 นาย มุ่งสู่เมืองดรอวส์ ป่าโดยรอบนั้นก้องไปด้วยเสียงเกราะกระทบพื้น และ เสียงพูดคุยจากกองคาราวาน พลันมาถึงเนินเขาเตี้ยๆ แห่งหนึ่ง ตู้ม!! ตู้ม!! ตู้ม!! เสียงกัมปนาทได้ดังขึ้น ทั้งกองทัพนอนอยู่เกลื่อนกลาด กลุ่มโจรกว่า 20 คนโผล่จากที่กำบังเข้าล้อมทหารที่บาดเจ็บ " ทิ้งอาวุธ อย่าคิดขัดขืน เราต้องการแค่ทรัพย์สินไม่ใช่ชีวิตท่าน " เหล่าทหารที่บาดเจ็บได้แต่ถอดใจ "เฮ้ยๆ มันหยามกันเกินไปละมั้ง" เสียงดังออกมาจากรถม้าที่พังอยู่ ชายหนุ่มร่างกำยำเสื้อผ้าหลุดลุ้ยเดินออกมา ที่เอวเหน็บดาบสองคมขนาดใหญ่ ยาวเก้งก้าง เขาคือ " เคมอร์ " นายพลแห่งอาณาจักรดรอวส์
เคมอร์ : พวกแกเนี้ยน้า ข้ากำลังสนุกอยู่เชียว ขาดตอนจริงๆ
เขาดึงดาบของเขาออกมาชูขึ้นฟ้าแล้วร่ายคาถากางม่านพลังออก "อาณาเขตดาบพันธนาการ! มาชดใช้ที่ทำป๋าอารมณ์เสียซะดีๆ" เขาปักดาบลงกับพื้นแล้วค่อยๆเดินเข้าไปอัดกลุ่มโจรจนหมอบ เมื่อเห็นพรรคพวกนอนกองกับพื้น กลุ่มโจรก็ผลัดกันเข้าต่อสู้ แต่ไม่อาจแม้แต่แตะต้องเขา ซ้ำ กลับโดนซัดจนน่วมแทน
หัวหน้าโจร : ถอยกันก่อน ระดับนายพลมาเอง เราคงไม่ไหว
เคมอร์: หนีไม่พ้นหรอกพวกงั่ง ม่านพลังล้อมไว้แล้ว ถ้าอยากหนีก็มาล้มข้านี่
หัวหน้าโจร : ไม่ตลกแล้วสิเนี้ย
กองโจร 5 คนที่พอลุกไหวเข้าโจมตีพร้อมกันแต่ก็ถูกอัดจนน่วม คนนึงพยายามคว้าดาบของเคมอร์เพื่อจะใช้โจมตี แต่น่าประหลาดดาบนั้นไม่ขยับแม้แต่นิด
เคมอร์ : น้ำหนักดาบนั้นหนะจะเพิ่มตามศัตรูในเขตแดน ตอนนี้ก็น่าจะราวๆ800โล
เคมอร์เดินไปยังโจรที่กำลังพยายามดึงดาบก่อนถีบโจรปลิว ไปชนม่านพลังเมื่อสัมผัสก็ถูกไฟช็อตจนกระเด็นกลับมา
เคมอร์: หู้ว แค่นี้ก็เบาลงอีกนิดละ
เคมอร์ยกดาบขึ้นมากวัดแกว่งก่อนวิ่งไปฟันอีก4คนที่เหลือ
หัวหน้าโจร : ครั้งแรกข้าก็เจองานหินเลยหรอเนี้ย
เคมอส์ : โชคร้ายจริงๆแหละ ที่ดันมาเจอข้า
เคมอร์กระโดดเข้าฟันหัวหน้าโจรหมายเอาชีวิต แต่เขากลับโดนเตะสวน
เคมอร์ : พอมีฝีมือนี่หว่า
หัวหน้าโจร : หึ เจ้าประมาทต่างหาก
เคมอร์ร่ายออร่าเวทย์ปกคลุมทั่วร่างก่อนเข้าปะทะ ด้วยฝีมือที่เหนือกว่าของเคมอร์ โจรถูกไล่ต้อนจนเริ่มหายใจไม่เป็นจังหวะ ก่อนถูกเตะกระเด็นกระดอน
เคมอร์ : มีฝีมือแค่นี้หรอ อุส่าคาดหวัง
เคมอร์ที่เริ่มเบื่อจึงรวมพลังเพื่อโจมตีปิดฉาก โจรที่ไม่ทันตั้งตัวยกดาบรับ ฉับ!! ดาบของโจรขาดกระเด็นไปพร้อมกับร่างกายซีกบน
เคมอร์ : ช่างน่าเสียดาย ฝีมือเจ้าก็ดีแค่เลือกทางผิดไปหน่อย
เขาปลดเขตอาคมออกอย่างชะล่าใจเมื่อเห็นร่างครึ่งล่างของศัตรูกองอยู่กับพื้น ทันใดก็เกิดระเบิดขึ้นอีกครั้ง ควันกระจายไปทั่วบดบังทัศนวิสัย เมื่อเคมอร์รู้ตัวอีกทีเหล่าโจรได้หายไปสิ้น ไม่เหลือแม้แต่ร่างของหัวหน้าโจรที่เขาพึ่งปลิดชีพ "ไอ้พวกสารเลวเอ้ยยยย!!" เขาตะโกนด้วยความหัวเสีย
ลึกเข้าไปในป่าชาตรา ใกล้เมืองดรอวส์ เป็นรังของกลุ่มโจรเล็กๆกลุ่มหนึ่ง มีสมาชิกราว 50 คน ผู้นำของกองโจรคือลาบูน ชายชราผอมแห้งร่างเล็ก ที่ทั้งผมและหนวดเป็นสีขาว มีเสนาบดีอยู่ 4 คนคือ
ฟงหมัดเหล็ก ชายวัยกลางคน ดูภูมิฐาน หน้าตาเรียบเฉย เปียผมยาวหนึ่งเส้น
จอมวางแผนเอิร์ธ ชายในชุดคลุมสีเทา ที่ปกปิดหัวจรดเท้า แล้วหมวกปีกกว้างอันแปลกตา
ผู้บัญชาการไอน์ สาวมาดนิ่ง ในชุดเกราะ ผมสีทอง เหน็บกระบี่ที่เอว
อัคคาผู้เหี้ยมโหด ชายร่างใหญ่ กำยำ หน้าตาน่ากลัว แม้ใบหน้าจะยิ้มแย้มตลอด มีขวานขนาดใหญ่สะพายหลัง
วันนี้มีการประชุมเกี่ยวกับการปล้นที่เกิดขึ้น โดยมี "แซตต้า" เด็กฝึกหัดของกลุ่ม เป็นผู้นำ
อัคคา : ลูกน้องข้าบาดเจ็บไปยกกองแกจะรับผิดชอบยังไง!!
แซตต้า : ทำไงได้หล่ะ ใครจะนึกว่าจะเจอระดับนายพลมาคุมกองคาราวานเล็กๆ มองไงมันก็ตั้งใจล่อเราชัดๆ
เอิร์ธ : ข้าเห็นด้วยกับแซตนะ คงเป็นเพราะมีไอ้บ้าสักคน ไปอัดทหารฝั่งโน้นจนน่วมคราวที่แล้ว
อัคคา : เห้ยๆ ไอ้พวกนั้นมันโดนระเบิดเอ็งน่วมไปเยอะกว่าข้าอัดอีก!!
ลาบูน : หยุดเถียงกันได้ละ! เอาเป็นว่าทางการเริ่มจะระวังตัวกันแล้ว เราคงต้องหยุดการปล้นไปพักใหญ่
ไอน์ : ขอค้าน ด้วยการปล้นสะดมครั้งนี้ล้มเหลว เราได้ของมาน้อยเกินไป คลังเราก็วิกฤตแล้ว เราคงหยุดไม่ได้
ลาบูน : ไม่แปลกหรอกก็เล่นฉลองวันเว้นวันขนาดนี้ แล้วคาราวานต่อไปเป็นวันไหนหล่ะ
ฟง : จากที่ข้าทราบข่าวคือพรุ่งมีคาราวาน จากเมืองริชชาไปอาณาจักรทรอปปี้ ไม่แน่ใจว่าคนของเราจะฟื้นตัวกันทันรึปล่าว
ลาบูน : ไปเมืองทรอปปี้ แปลว่าเป็นพวกอาหาร และ ผ้าไหมเป็นแน่เราจะพลาดครานี้มิได้
ไอน์ : การรักษาไวสุดก็ต้องใช้ต่ำๆ 3 วัน งั้นครานี้เราคงต้องไปกันเอง
ลาบูน : แซตต้า คราวนี้เจ้าคอยสนับสนุนละกัน
แซตต้า : ข้าอดออกไปสู้อีกแล้วสินะ
อัคคา : วันนี้ก็โดนฟันตัวขาดครึ่งไปนี่เจ้าไก่อ่อน ฮ่าๆๆๆๆ
แซตต้า : แค่แกล้งพลาด ให้มันตายใจแล้วปลดผนึกโว้ยยย!!
ลาบูน : เอาหล่ะเลิกประชุม จะทะเลาะอะไรกันต่อ ก็เชิญข้างนอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ณ หน้าผาทางเข้าอาณาจักรทรอปปี้ กลุ่มโจรดักซุ่มกันอยู่บนหน้าผา กองคาราวานกองใหญ่ก็เคลื่อนมาคะเนทหารคุ้มกันไม่ต่ำกว่า 100 นาย เมื่อเคลื่อนมายังจุดที่ตระเตรียมไว้ เวทย์ระเบิดที่เอิร์ธร่ายก็ทำงานทำให้หินหล่นไปปิดทางเกวียน เหล่าทหารตั้งค่ายเตรียมรับศึก ทันใดนั้นก็ปรากฏม่านควันปกคลุมทำเอาทหารที่แตกตื่นหลับไหล "ควันยาสลบของไอน์ นี่สุดยอดจริงๆ "อัคคากล่าวก่อนนำกองโจรรุดเข้าตรวจค้น เมื่อไม่พบอะไรผิดปกติทุกคนเข้าไปจับเหล่าทหารมัดไว้และขนสินค้าขึ้นหลังแพะภูเขาหลบหนี