”กฎข้อห้ามของ ‘ดยุกแห่งเบรย์เดธี’ ใบหน้านั้นห้ามผู้ใดเชยชม...“ โชคดีหรือเคราะห์ร้าย? ที่ทำให้ ‘เมลวิน‘ ผู้ซึ่งรักษากฎเป็นที่สุด ได้เลื่อนขั้นจากข้ารับใช้ต่ำต้อย สู่พ่อบ้านของท่านดยุก

ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก - 02 👑 โดย Juharah @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ลึกลับ,ยุคกลาง,ดาร์ค,ตะวันตก,ยุโรป,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ลึกลับ,ยุคกลาง,ดาร์ค,ตะวันตก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ยุโรป,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

”กฎข้อห้ามของ ‘ดยุกแห่งเบรย์เดธี’ ใบหน้านั้นห้ามผู้ใดเชยชม...“ โชคดีหรือเคราะห์ร้าย? ที่ทำให้ ‘เมลวิน‘ ผู้ซึ่งรักษากฎเป็นที่สุด ได้เลื่อนขั้นจากข้ารับใช้ต่ำต้อย สู่พ่อบ้านของท่านดยุก

ผู้แต่ง

Juharah

เรื่องย่อ

Darthias Eil Wilzard


ดยุกดาร์เธียส เอล วิลซาร์ด สุนัขมือขวาพันธุ์ใหญ่ของกษัตริย์แห่งเบรย์เดน เลื่องลือว่ามีใบหน้างดงามดั่งเทพนาร์ซิสซัส แท้จริงเป็นเช่นไร ไม่มีใครรู้... เพราะทุกคนนั้นทราบดีถึง "กฎข้อห้าม" ของดยุกแห่งเบรย์เดธี ใบหน้านั้นห้ามผู้ใดเชยชม...


Melvin Timothy


เมลวิน ทิมอธี รับรู้และฝังกฎข้อนั้นไว้ถึงแก่นกระดูกดำ ทราบถึงขั้นว่าผู้ใดที่บังอาจฝืนกฎคิดเชยชมใบหน้านั้น จะมีจุดจบเป็นเช่นไร เพราะงั้น...เมลวิน ข้ารับใช้หนุ่มผู้ซึ่งจงรักภักดีแม้ตัวต้องตาย เขาจะไม่มีวันฝ่าฝืนกฎข้อห้ามนั้นเป็นอันขาด




"เช็ดหน้าให้ฉัน"


"ด..ได้โปรดครับท่านดยุก ผมไม่อาจทำได้"


"เมล จงเงยหน้าขึ้นมาซะ"


- Darthias x Melvin -


꧁{…ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก…}꧂

Author: Juharah


(Song from series Bridgerton > https://www.youtube.com/watch?v=NmqXEXJBoog)


E-Book เรื่อง "ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก"  289฿ (กดผ่านลิงก์เพื่อได้ราคาถูก)

https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMzMwOTY5NSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI5MjE4OSI7fQ

สารบัญ

ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก-คำเตือน เซตติ้งเรื่อง ⚠️,ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก-Prologue 👑,ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก-01 👑,ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก-02 👑,ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก-03 👑,ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก-04 👑,ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก-05 👑,ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก-06 👑,ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก-07 👑,ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก-08 👑

เนื้อหา

02 👑

"ข่าวใหญ่!"


ข้อความประกาศกร้าวตื่นเต้นมาจากบุรุษไปรษณีย์ เขาตะโกนดังลั่นไปทั่วอาณาเขตบ้านเรือนและชุมชนที่คนพลุกพล่าน ชายส่งข่าวสวมหมวกเบเรต์โยนหนังสือพิมพ์ไปให้แต่ละบ้านอย่างแม่นยำ ทุกคนต่างพากันเปิดอ่าน ก่อนจะตาโตสีหน้าซีดเผือดกังวล เสียงซุบซิบพูดคุยดังเซ็งแซ่ พร้อมใจละทิ้งสิ่งที่ทำ เพื่อมาอ่านหนังสือพิมพ์ฉบับล่าสุด


บุรุษไปรษณีย์ตะโกนป้องปากกระจายข่าวใหญ่ให้คนในเมืองทราบทั่วกัน


"ดยุกดาร์เธียส เอล วิลซาร์ดเข้าเขตประเทศเบรย์เดนแล้ว เขาจะเดินทางมาถึงเบรย์เดธีในวันพรุ่งนี้!"


กอร์ดอนคนขายปลาเปิดหนังสือพิมพ์อ่านข่าวหน้าหนึ่ง แม้แต่ตัวเขาเองยังหน้าซีดเหงื่อตกเมื่ออ่านใจความและมองภาพถ่ายในนั้น




ใจความข่าวเป็นเรื่องที่เบรย์เดนสามารถยึดครองอาณานิคมของประเทศข้างเคียงได้ หลังจากก่อสงครามมายาวนานถึงห้าปีเต็ม โดยแน่นอนว่านายพลนำทัพครั้งนี้คือดยุกดาร์เธียส เอล วิลซาร์ด ดยุกแห่งเบรย์เดธี เขาจากประเทศเบรย์เดนไปตอนอายุ 18 ปี และตอนนี้กลับมาพร้อมชัยชนะด้วยวัยเพียง 23 ปี


ในข่าวแจ้งว่า ดยุกวิลซาร์ดจะเดินทางไปรับเหรียญและรางวัลเกียรติยศกับพระราชาในวันพรุ่งนี้เช้า พร้อมขบวนทัพที่รอดกลับมาจากสงคราม โดยเส้นทางที่ผ่าน แน่นอนว่าต้องเป็นเมืองหลวงเบรย์เดธีอันเป็นบ้านเกิดของท่านดยุก เพื่อให้เหล่าประชาชนมาแสดงความเคารพยินดีกับชัยชนะครั้งนี้ และพระราชวังก็อยู่ในเขตเมืองนี้ด้วย นั่นเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง


ภาพถ่ายขาวดำอันหาได้ยากในหนังสือพิมพ์ เป็นรูปของดยุกดาร์เธียส เอล วิลซาร์ดที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หลุยส์สีแดง เครื่องแต่งกายหรูหราอลังการ ประดับยศเต็มบ่า บ่งบอกบรรดาศักดิ์ฐานะที่อยู่เกือบบนสุดของชนชั้นศักดินา


รูปร่างของดยุกแข็งแรง ใหญ่โต ดูดีอย่างยิ่ง เต็มไปด้วยสง่าราศี แรงดึงดูดเหลือล้น ทว่าใบหน้ากลับถูกขีดฆ่าเป็นเงาดำ ไม่เห็นแม้แต่เค้าโครงสันกราม


"แค่รูปร่างและผิวขาวจัดตัดสีสูทเช่นนี้ เขาต้องงดงามมากแน่ ๆ"


"เราไปถามช่างภาพคนนี้ดีไหม ว่าหน้าตาของท่านดยุก แท้จริงเป็นยังไง?"


มีเพียงช่างภาพที่ได้รับรู้และเห็นใบหน้าของท่านดยุก แต่เห็นแล้วอย่างไร?


"เสียดายจัง เพราะช่างภาพคนนี้ เสียชีวิตปริศนา หลังจากถ่ายภาพท่านดยุกแล้วน่ะสิ"


กอร์ดอนที่ได้ยินสองสาวคุยกัน เขาฟาดหนังสือพิมพ์ลงกับโต๊ะ จ้องไปยังพวกเธอเขม็ง


"เอาความใจกล้านั้นมาจากไหนถึงกล้าสงสัยเรื่องนี้? ระวังปากของพวกเธอไว้ ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวได้ลงไปนอนในหลุม" มันไม่ใช่สิ่งที่ควรสงสัย


พวกเธอสะดุ้งหน้าซีด ก่อนจะถือตะกร้าเดินหนีชายขายปลาไป


กอร์ดอนกลับมามองรูปดยุกผู้มีศักดิ์เป็นเจ้าเมืองอย่างปลดปลง ชีวิตต่อจากนี้คงใช้ได้ยากขึ้น หากท่านผู้นี้กลับมาครู่เดียวก็ดี


แต่ถ้าเขากลับมาอยู่เบรย์เดธีตลอดไปล่ะ...


ดาร์เธียส เอล วิลซาร์ด ดยุกแห่งเมืองเบรย์เดธี เขาเปรียบเสมือนสุนัขรับใช้พันธุ์ใหญ่ มือขวาของกษัตริย์แห่งเบรย์เดน


ดาร์เธียสคือผู้ถือครองอำนาจของประเทศ เนื่องจากภาษีมหาศาลที่จ่ายให้กับพระราชามาจากเมืองหลวงเบรย์เดธี รายได้ของประเทศเกินร้อยละห้าสิบมาจากเหมืองเพชรของดาร์เธียส


เลื่องลือว่าใบหน้าของดยุกผู้นี้งดงามดั่งรูปสลักเทพนาร์ซิสซัส โดยประติมากรชั้นเลิศ แต่ความเป็นจริงไม่มีผู้ใดเคยเห็น และหาได้มีใครสงสัยในคำกล่าวอ้างนั้น


ในประเทศเบรย์เดนและเมืองหลวงเบรย์เดธี ทุกคนนั้นทราบดีถึง "กฎข้อห้าม" ของดยุกวิลซาร์ด...ใบหน้านั้นห้ามผู้ใดเชยชม






"พี่เมลวินของโมนา"


เสียงเล็กใสกังวานร้องเรียกพี่ชาย ที่กำลังซักล้างเสื้อผ้าอยู่ริมลำธารหน้าบ้านพักคนงานเหมือง ผมสีทองของโมแอนนา ทิมอธีปลิวไสวไปกับสายลมที่พัดมา ดวงตากลมสีแอชส่องแสงวิบวับ


"ว่ายังไงโมนาของพี่เมลวิน" เมลวินตอบกลับน้องสาวโดยไม่หันไปมองเธอ เขากำลังใส่ใจอยู่กับการขัดคราบดินดำออกจากเสื้อของบิดา


พ่อของเขานั้นชอบใส่เสื้อสีสว่างไปขุดเหมืองเสียจริง


เด็กหญิงวัยสี่ขวบปลายกัดแอปเปิลหนึ่งคำ ก่อนจะเดินไปยื่นให้เมลวิน เธอยิ้มกว้างเมื่อพี่ชายกัดแอปเปิลของเธอคำโตยิ่งกว่า


"หวานจังเลยน้า~" เมลวินพูดพลางหันไปยิ้มให้น้องสาวไว ๆ ก่อนจะโวยวายเมื่อโมนาทำท่าเล่นน้ำ จนชายกระโปรงบานพองของเธอเปียกชุ่ม


"โมแอนนา! น้องต้องเป็นเลดี้ที่เรียบร้อยนะ รู้ใช่ไหม"


"แล้วทำไมพี่เมลวินไม่เรียบร้อยล่ะ"


"โธ่! โมนา พี่เป็นผู้ชาย"


"งั้นพี่ต้องเป็นลอร์ดเมลวินใช่ไหม?" เด็กหญิงถามต่อแบบไม่เว้นจังหวะ เธอมีข้อสงสัยเต็มหัวเล็ก ๆ ของเธอ


"ไม่ใช่ลอร์ด! พี่เป็นอ่า...นาย ไม่สิ คุณเมลวินต่างหาก ใช่ ๆ คุณเมลวิน!"


"อ๋อออ" โมนาร้องอ๋อเหมือนเข้าใจ


แต่ความจริงเธอก็ไม่เข้าใจสักเท่าไหร่


"งั้นคุณเมลวินต้องรีบทำงานให้เสร็จนะ" เธอพูดพลางชี้นิ้วไปยังกองผ้า ขณะที่อีกมือถือแอปเปิลกัดกิน


"รับทราบครับเลดี้โมนา หิวแล้วใช่ไหมครับ"


"ใช่ โมนาหิวแล้ว"


เขามองหน้าน้องสาวยิ้ม ๆ ยังเหลือเวลาอีกราวหนึ่งชั่วโมง เขาอยากพาเธอไปเปิดหูเปิดตา


"งั้นคุณเมลวินพาเลดี้โมนาไปซื้อลูกกวาดที่ตลาดดีไหม?"


"จริงเหรอคะ! ไป ๆ"


"งั้นเลดี้โมนาต้องมาช่วยคุณเมลวินซักผ้าแล้วล่ะนะ"








วันนี้เงียบแปลก ๆ


เมลวินกำลังแบกน้องสาวที่ขี่หลังกอดคอตนเองอยู่ ตาสุกใสสีแอชแบบเดียวกับน้องสาวกวาดมองไปยังบ้านเรือนที่เงียบสงบ มันผิดปกติอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน


ร้านขนม ร้านดอกไม้ที่เปิดอยู่เสมอ ก็มาปิดในวันนี้ ผู้คนที่น้อยลงกำลังเดินขวักไขว่ไปในทิศทางเดียวกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เมลวินสังเกตเห็น


ในมือพวกเขาถือผ้าคาดสีดำทึบ ความยาวเกินสี่ฝ่ามือ


พวกเขาไปไหนกัน?


ลางสังหรณ์ทำให้เมลวินควักผ้าเช็ดหน้าผืนโตออกมา แล้วยัดใส่มือน้องสาวเอาไว้


"โมนาถือไว้ให้แน่น ๆ นะครับ"




จวนจะเข้าเขตใจกลางเมืองแล้ว เมลวินถึงได้เห็นผู้คนมากขึ้น เยอะจนล้นไปเสียหมด เสียงพูดคุยดังระงมจับใจความไม่ได้


ราวกับคนทั้งเบรย์เดธีมากระจุกอยู่ที่สะพานข้ามไปพระราชวังของกษัตริย์ควิฟต์


"เมลวิน!"


เจ้าของชื่อสะดุ้งหันขวับไปมองคนเรียก


"คุณกอร์ดอน? คุณมาทำอะไรที่นี่ ร้านของคุณอยู่ห่างไปตั้งห้าไมล์"


เมลวินมองกอร์ดอนที่ทำหน้าตาเหลอหลาตาตกใจที่เห็นเขา วันนี้อีกฝ่ายแต่งตัวดูดีเป็นอย่างมาก รูปร่างราวกับหมียัดอยู่ใต้ชุดสูทที่ราคาไม่แพงนัก พอสังเกตดูอีกรอบหนึ่ง


วันนี้ชาวบ้านแต่งตัวอย่างเป็นทางการ


"ฉันต่างหากที่ต้องถามว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ โอ้พระเจ้า เธอพาน้องสาวมาด้วย!"


"ผมพาโมนามาตลาดครับ แต่คิดว่าจะพากลับแล้ว"


เมลวินรู้สึกแปลก ๆ


"ดี รีบกลับ..อ๊ะ!"


จู่ ๆ ทุกคนก็ยืนเงียบ พากันนำผ้าดำมาคาดตา เสียงแตรดังสนั่นกึกก้องราวกับเป็นการเตือน กอร์ดอนเหมือนทำตัวไม่ถูกชั่วขณะ แต่เขาก็รีบเอาผ้านั้นมาคาดตาเช่นเดียวกัน


เมลวินรีบปล่อยโมนาลงกับพื้น เขาเอาผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ผูกปิดใบหน้าเธอ "ห้ามแกะผ้าออกเด็ดขาดนะโมแอนนา"


"ค่ะ เกิดอะไร..."


"ชู่ว"


เมลวินแตะปากน้องสาวเบา ๆ แต่เขาก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น


ขบวนของดยุกวิลซาร์ดผู้กลับมาจากสงครามนั่นเอง...


เมลวินคงเป็นคนเดียวที่ไร้ผ้าคาดตา เขาจึงอาศัยความตัวเล็กหลบเลี่ยงอยู่กับกลุ่มคน เมลวินคงจะหลีกหนีออกไปจากตรงนี้แล้ว หากเขาไม่พาน้องสาวมาด้วย




เสียงแตรนำขบวนยังคงดังตลอดทาง ผู้คนเริ่มกู่ร้องกึกก้อง แสดงความปรีติยินดีกับชัยชนะและทหารที่รอดชีวิต


หากแต่พวกเขาไม่คิดถึงคนอีกประเทศหนึ่งที่ได้ยึดมาครอง พวกเขานั้นพบเจอกับการสูญเสีย บ้านเมืองเหลือเพียงเศษซากจากระเบิดและเขม่าปืน...ป่านนี้ครอบครัวคงกำลังร้องไห้แทบตรอมใจ


เมลวินมองทหารนับร้อยนายที่เดินเรียงแถวด้วยสีหน้าภาคภูมิ จากนั้นสายตาก็เลื่อนไปเจอกับรถม้าแต่งลวดลายสีทองประดับเพชรพลอย บ่งบอกระดับชนชั้นของผู้โดยสาร ท่านผู้นั้นที่นั่งอยู่ภายในไม่ใช่คนธรรมดา


หน้าต่างรถม้าปิดด้วยผ้าม่านครึ่งหนึ่ง


เมลวินสะดุ้งหลุบตามองพื้น เมื่อครู่เขาเห็นร่างกายกำยำในชุดสูททางการของนายพล ประดับยศเต็มบ่า เสื้อคลุมหรูหรา เครื่องประดับและไม้เท้าฝังเพชร


ดยุกดาร์เธียส เอล วิลซาร์ด


เมลวินเกือบฝ่าฝืนกฎแล้ว เขาเกือบได้เห็นใบหน้าของท่านดยุก...แม้จะอยู่ไกล มั่นใจว่าถึงจดจ้องแค่ไหนก็ไม่เห็นใบหน้านั้นอยู่ดี


แต่เมลวินต้องรักษากฎ


หากกฎห้ามมอง ก็ต้องไม่มอง...


เสียงร้องแสดงความยินดีไม่มีแววจะลดความดังลง จนกระทั่งขบวนเริ่มเคลื่อนห่างจากกลุ่มชน เพื่อตรงไปยังพระราชวังสูงเด่น หรูหราโอ่อ่า เมลวินจึงค่อย ๆ แบกน้องสาวขึ้นหลังแล้วเดินออกมาจากตรงนั้น


"ลูกกวาดไว้คราวหน้าก็แล้วกัน"