”กฎข้อห้ามของ ‘ดยุกแห่งเบรย์เดธี’ ใบหน้านั้นห้ามผู้ใดเชยชม...“ โชคดีหรือเคราะห์ร้าย? ที่ทำให้ ‘เมลวิน‘ ผู้ซึ่งรักษากฎเป็นที่สุด ได้เลื่อนขั้นจากข้ารับใช้ต่ำต้อย สู่พ่อบ้านของท่านดยุก

ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก - 04 👑 โดย Juharah @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ลึกลับ,ยุคกลาง,ดาร์ค,ตะวันตก,ยุโรป,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ลึกลับ,ยุคกลาง,ดาร์ค,ตะวันตก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ยุโรป,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

”กฎข้อห้ามของ ‘ดยุกแห่งเบรย์เดธี’ ใบหน้านั้นห้ามผู้ใดเชยชม...“ โชคดีหรือเคราะห์ร้าย? ที่ทำให้ ‘เมลวิน‘ ผู้ซึ่งรักษากฎเป็นที่สุด ได้เลื่อนขั้นจากข้ารับใช้ต่ำต้อย สู่พ่อบ้านของท่านดยุก

ผู้แต่ง

Juharah

เรื่องย่อ

Darthias Eil Wilzard


ดยุกดาร์เธียส เอล วิลซาร์ด สุนัขมือขวาพันธุ์ใหญ่ของกษัตริย์แห่งเบรย์เดน เลื่องลือว่ามีใบหน้างดงามดั่งเทพนาร์ซิสซัส แท้จริงเป็นเช่นไร ไม่มีใครรู้... เพราะทุกคนนั้นทราบดีถึง "กฎข้อห้าม" ของดยุกแห่งเบรย์เดธี ใบหน้านั้นห้ามผู้ใดเชยชม...


Melvin Timothy


เมลวิน ทิมอธี รับรู้และฝังกฎข้อนั้นไว้ถึงแก่นกระดูกดำ ทราบถึงขั้นว่าผู้ใดที่บังอาจฝืนกฎคิดเชยชมใบหน้านั้น จะมีจุดจบเป็นเช่นไร เพราะงั้น...เมลวิน ข้ารับใช้หนุ่มผู้ซึ่งจงรักภักดีแม้ตัวต้องตาย เขาจะไม่มีวันฝ่าฝืนกฎข้อห้ามนั้นเป็นอันขาด




"เช็ดหน้าให้ฉัน"


"ด..ได้โปรดครับท่านดยุก ผมไม่อาจทำได้"


"เมล จงเงยหน้าขึ้นมาซะ"


- Darthias x Melvin -


꧁{…ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก…}꧂

Author: Juharah


(Song from series Bridgerton > https://www.youtube.com/watch?v=NmqXEXJBoog)


E-Book เรื่อง "ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก"  289฿ (กดผ่านลิงก์เพื่อได้ราคาถูก)

https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMzMwOTY5NSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI5MjE4OSI7fQ

สารบัญ

ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก-คำเตือน เซตติ้งเรื่อง ⚠️,ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก-Prologue 👑,ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก-01 👑,ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก-02 👑,ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก-03 👑,ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก-04 👑,ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก-05 👑,ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก-06 👑,ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก-07 👑,ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก-08 👑

เนื้อหา

04 👑




ประโยคนั้นทำเอาทุกอย่างนิ่งเงียบสนิท ไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจ น้ำเสียงทุ้มต่ำมั่นใจ แฝงความอ่อนโยนแต่ก็มีอำนาจ ไม่น่าอ่อนข้อได้โดยง่าย โทนเสียงใสไร้ความแหบบ่งบอกอายุที่ไม่เกินสามสิบปีอย่างแน่นอน


น้ำเสียงไม่คุ้นหู แต่ก็คาดเดาไม่ยาก ว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นใคร...


เมลวินและทุกคนกลั้นหายใจ แอบรู้สึกผิดพลาดที่ตัวของเมลวินนั้นยืนอยู่เกือบหน้าสุด เขามีเพียงบิดาที่ยืนเป็นกำบังให้เท่านั้น


เมลวินเห็นช่วงขายาวของคนคนหนึ่ง ซึ่งกำลังเดินแหวกกลุ่มพ่อบ้านนับสิบเข้ามาใกล้มากขึ้น การก้าวเดินของเขานั้นไม่รีบร้อน และไม่กังวลว่าจะมีคนแหกกฎเงยหน้าขึ้นเพื่อเชยชมเขา


เมลวินใจเต้นตึกตัก เขาได้กลิ่นกายที่หอมฟุ้งมาจากตัวของท่านผู้นี้ มันเหมือนเป็นกลิ่นน้ำหอมสกัดจากดอกไม้ตามฤดู เพื่อให้เข้ากับภูมิอากาศของประเทศ กางเกงเรียบไร้รอยยับ รีดสันกลีบคม รองเท้าหนังสีน้ำตาลเรียบหรู มีเพชรเม็ดเล็กฝังอยู่ด้วยแม้แต่ในรองเท้า...




ดยุกดาร์เธียส เอล วิลซาร์ด




"สวัสดีครับท่านดยุก!"


คนงานเหมืองทุกคนพร้อมใจตะโกนทักทายบุคคลผู้มาใหม่ ซึ่งเป็นทั้งเจ้าของเหมือง เจ้าของอาณาจักรวิลซาร์ดและเป็นถึงขุนนางดูแลเมืองหลวงเบรย์เดธี ไม่มีใครสักคนที่ไม่รู้จักท่านผู้นี้ เขาออกข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์มาตลอดหลายสัปดาห์


"ไม่ต้องเกร็งกันไปหรอก แค่มาเยี่ยมชมสภาพเหมืองเท่านั้นเอง"


เมลวินเดินหลีกไปด้านข้างอย่างตกใจ ทุกคนต่างพากันแหวกทางให้ดยุกที่เดินตรงดิ่งไม่คิดเป็นฝ่ายหลบเลี่ยง กลิ่นกายหอมของผู้สูงศักดิ์นั้นยิ่งเด่นชัดเป็นวงกว้างในจังหวะที่ดาร์เธียสเดินผ่าน


ร่างสูงโดดเด่นกว่าผู้อื่นเหลือบตาหลุบต่ำ มองเด็กหนุ่มที่ตัวผอมโปร่งแปลกตา สีผิวขาวแต่ติดเหลือง ดาร์เธียสเห็นใบหน้านั้นไม่ชัดเจน แต่สันจมูกโด่งทำให้เห็นว่าเด็กคนนี้มีตำหนิเป็นกระจาง ๆ บริเวณหน้าแก้มและสันจมูก โครงสร้างของกระดูกเล็กกว่าของเขาและคนงานเหมืองหลายเบอร์


ดาร์เธียสมองดูแล้วก็รับรู้โดยทันที เด็กคนนี้ไม่ใช่ชาวเบรย์เดนอย่างแน่นอน หรือสายเลือดอย่างน้อยครึ่งหนึ่งที่อาจจะเป็นลูกครึ่ง เขาละสายตาไม่สนใจ เดินตรงไปยังรถเข็นที่แบกแร่เพชรจำนวนน้อยนิด อุปกรณ์ขุดเหมืองที่ผุเก่าตามที่คนงานคนหนึ่งบ่นไม่มีผิด และบังเอิญเขาหูดีได้ยินมันเข้า


"รู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง ที่ได้ยินว่าตระกูลวิลซาร์ด...ไม่สามารถช่วยเหลือด้านการทำงานของพวกคุณได้อย่างเต็มที่" ดาร์เธียสกล่าวแก่คนงานเหมืองหลายสิบคน


ในมุมของเขา ไม่มีใครเลยสักคนที่เงยหน้าขึ้นมา เขาเห็นเพียงกลุ่มผมสีอ่อนหลากสีที่ก้มต่ำติดสั่น หากมีใครที่เงยหน้าขึ้นมา ก็จะพบว่าดาร์เธียสกำลังยิ้มบาง ๆ ที่ริมฝีปาก ใบหน้าของเขาไม่มีแววแข็งกร้าวหรือราบเรียบเหมือนกับเสียงที่เอ่ยออกไป


"มะ ไม่ได้หมายถึงอย่างนั้นครับท่านดยุก เอ่อ เราเข้าใจว่าทั้งลอร์ดทราวิสก็ยังอ่อนเยาว์เกินไป ลอร์ดธีโอก็มีภาระงานที่หนักมากจากการดูแลเมืองหลวงเบรย์เดธีแทนท่าน..."


"จะบอกว่าการที่ผมไม่อยู่นั้นทำให้พวกคุณทำงานลำบากอย่างนั้นหรือ?"


ดาร์เธียสสรุปประโยคยืดยาวออกมาได้เช่นนั้น เสียงเขานิ่งและเย็นเยียบ แต่แน่นอนว่าเขายังคงยิ้มบาง


กริบ


เมลวินกำมือแน่น เขาเหลือบมองคนงานเหมืองผู้นั้นที่กำลังเอ่ยแก้ตัว รู้สึกกดดันแทน สีหน้าของคนงานวัยกลางซีดเผือด เกรงกลัวว่าตนเองจะถูกตำหนิลงโทษ หรือโดนไล่ออกจากเป็นคนงาน โทษฐานตำหนิผู้เป็นเจ้านาย


แต่ถ้าหากเป็นเช่นนั้น เมลวินก็ไม่ยอมเช่นกัน หากดยุกผู้นี้ไม่มีสัจธรรม เขาก็จะเถียงช่วยสุดชีวิต...


"ไม่ต้องตอบก็ได้ แต่คราวหน้าผมคาดหวังในคำตอบนะ"


"ขอบคุณมาก ๆ ครับท่านดยุก" คนงานเหมืองคนนั้นแทบก้มเอาหัวแนบพื้น


ดาร์เธียสเหลือบมองไม่ยี่หระ "เป็นความผิดของผมจริง ๆ ที่จากไปนาน แต่ตอนนี้ผมกลับมาแล้ว..."


"..."


"ขอให้สัญญาว่าอะไร ๆ จะดีขึ้น"


ดาร์เธียสกล่าวราบเรียบ ไม่ได้ดูรู้สึกผิดเหมือนประโยคคาดโทษในตนเอง เขาเดินไปยังโต๊ะอาหาร จับทัพพีตักน้ำซุปปลาแซลมอนขึ้นดู เนื้อมันเปื่อยยุ่ยเละไม่น่ารับประทาน จากนั้นก็ไปหยิบก้อนขนมปังขึ้นมา มันแห้งกรอบจนรุ่ย กลิ่นคล้ายว่าใกล้จะขึ้นรา


พ่อบ้านริชาร์ดรู้งาน เขาก้มหน้ามองปลายเท้า ควักผ้าเช็ดหน้ายื่นให้นายท่านของตนเอง


ดาร์เธียสรับผ้ามาเช็ดมือของตนเองแล้วส่งมันคืน เขาหันไปมองศีรษะของหัวหน้าพ่อบ้านริชาร์ด ผมยาวดำขลับถูกมัดรวบที่ท้ายทอย นั่นคือสิ่งที่ดาร์เธียสเห็นชินตามาแต่ไหนแต่ไร


"ต่อไปจัดสรรเป็นเนื้อสัตว์ใหญ่ให้แก่คนงาน"


"ครับ นายท่าน"


"งานเหมืองเป็นงานที่ต้องใช้กำลังกายอย่างมาก ผมไม่เข้าใจว่าทำไมมื้อเที่ยงถึงเป็นซุปปลาถูก ๆ"


"ครับท่านดยุก ผมจะไปหาคำตอบมาให้โดยเร็วครับ"


คนงานเหมืองลอบฮือฮามองหน้ากันอย่างดีใจ ต่อไปนี้พวกเขาจะได้กินเนื้อสัตว์อย่างอื่นนอกจากเนื้อปลาบ้างแล้ว พากันกล่าวด้วยน้ำเสียงตื้นตัน


"ขอบคุณครับท่านดยุก ขอบคุณจากใจ"


"นั่นเป็นสิ่งที่พวกคุณควรจะได้รับอยู่แล้ว" ดาร์เธียสกล่าวไม่ยี่หระ เขากวาดตามองคนงาน และอีกส่วนใหญ่นับร้อยที่กำลังก้มหน้าทำงาน ไม่รับรู้การมาถึงของเขา


ทว่าหัวทุยสีแอชบลอนด์ยังคงเตะตาเขาหลายรอบ เด็กหนุ่มร่างโปร่งบาง ส่วนสูงเพียงแค่อกเขาเท่านั้น แขนขาติดลีบแบนจนขัดตาเขาเสียเหลือเกิน ดาร์เธียสเดินดุ่มไปหา แต่เจ้าตัวก็ขยับถอยหลังหนีเรื่อย ๆ ซ้ำยังก้มหน้าต่ำแล้วต่ำอีก


หากต่ำมากกว่านี้ คงจะไปนั่งคุกเข่าก้มหัวแนบกับพื้น




"หยุด"




เมลวินชะงักขาของตนเองทันทีเมื่อถูกสั่งด้วยน้ำเสียงเข้ม เขาขมวดคิ้วไม่เข้าใจ ไม่ใช่ว่าท่านดยุกจะเดินไปด้านหลังเขาหรอกหรือ?


เฮือก! เมลวินผวาใหญ่ จู่ ๆ แขนของเขาก็ถูกจับโดยผู้สูงศักดิ์


ท่านดยุกกำลังถือแขนข้างซ้ายของเมลวิน! อีกฝ่ายพลิกไปมา จับ บีบเน้นตามกล้ามเนื้อมัดเล็กที่แทบไม่มีอย่างอ่อนโยน เมลวินพยายามฝืนเอากลับคืน แต่เขาจะเอาแรงที่ไหนไปสู้ ก็ท่านดยุกตัวใหญ่ เมลวินเม้มปาก ยังคงก้มหน้าต่ำ ขณะที่คนรอบข้างเริ่มตื่นตระหนก


"เกิดเป็นมนุษย์แท้ ๆ กระต่ายป่ายังมีเนื้อให้กินมากว่า" ดาร์เธียสเอ่ยเสียงอ่อน เขายิ้มมุมปากเมื่อลอบก้มมองสีหน้าเจ้าตัว ดวงตาคู่นั้นหลับลงเกรง ๆ


หน้าตาเป็นเช่นนี้เอง




น่ารักไม่เบา...




เมลวินกระชากแขนตัวเองกลับอย่างเสียมารยาท เด็กหนุ่มยังคงก้มหน้า


"ชื่ออะไร"


"ท่านดยุก...เด็กคนนี้ชื่อเมลวิน ทิมอธีครับ เป็นลูกชายของคุณเลียม ทิมอธี คนงานเหมืองผมสีทอง เสื้อฟ้า ไว้เครา" ริชาร์ดตอบคำถามแทนเมลวินแบบไม่มีติดขัด


ดาร์เธียสเลื่อนสายตาหาบุคคลดังกล่าว ก่อนจะพบว่าเลียมเองก็ยืนอยู่ใกล้ ๆ กับเมลวิน เลียมนั้นตัวใหญ่อย่างคนเบรย์เดนโดยแท้


"ตัวคุณนั้นใหญ่โต แต่ทำไมลูกชายถึงได้ผอมแห้งนัก?" ดาร์เธียสเอ่ยถาม เขาเหลือบมองเลียมที่จับตัวลูกตัวเองกึ่งปลอบ


"ผมพบรักกับหญิงสาวที่มาจากอีกประเทศหนึ่ง เธอชื่อ แอนนา ยามาโอดะ บ้านเกิดของเธอนั้นผู้คนตัวเล็กครับ ท่านดยุก"


"อืม อย่างนี้เองสินะ" อย่างที่คิดไว้ ลูกเสี้ยว...


ดาร์เธียสลูบคางเข้าใจ เขามองเสี้ยวหน้าของเมลวินอย่างพินิจด้วยท่าทีสุขุม "ยังดีที่ใบหน้าของเขานั้นเหมือนคนเบรย์เดน เขาคล้ายคุณอยู่ส่วนหนึ่งนะ คุณเลียม"


"ครับ ท่านดยุก"


"ถึงอย่างไรก็ตาม...เอาเด็กสิบขวบมาทำเหมืองแบบนี้ ผมว่าดูใจร้ายไปสักนิด" ดาร์เธียสกล่าวตามที่คิด จากนั้นเสียงหัวเราะก็ดังขึ้นจากคนงานเหมืองหลายคน


"ผมอายุ 15 ปีแล้วครับ ท่านดยุก!" เมลวินเผลอตะโกน ก่อนจะกุมปากเมื่อรู้ว่าตนเองนั้นไม่สำรวม


"โอ้ งั้นเหรอ...เธอไม่เหมือนกับวัยรุ่นสักเท่าไหร่"


"..." เมลวินเม้มปาก เขากลั้นหายใจไม่สูดดมกลิ่นกายหอม ท่านดยุกเข้าถึงตัวเขา ปลายเท้าแทบชิดกัน เพชรเม็ดเล็กที่ฝังอยู่บนรองเท้าหนังนั้นเด่นชัดในสายตาของเมลวิน


"เพียงแค่ฉันกอดเธอหนึ่งที กระดูกเธอก็แหลกเป็นผงแล้ว เมลวิน"