”กฎข้อห้ามของ ‘ดยุกแห่งเบรย์เดธี’ ใบหน้านั้นห้ามผู้ใดเชยชม...“ โชคดีหรือเคราะห์ร้าย? ที่ทำให้ ‘เมลวิน‘ ผู้ซึ่งรักษากฎเป็นที่สุด ได้เลื่อนขั้นจากข้ารับใช้ต่ำต้อย สู่พ่อบ้านของท่านดยุก
ชาย-ชาย,ลึกลับ,ยุคกลาง,ดาร์ค,ตะวันตก,ยุโรป,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก”กฎข้อห้ามของ ‘ดยุกแห่งเบรย์เดธี’ ใบหน้านั้นห้ามผู้ใดเชยชม...“ โชคดีหรือเคราะห์ร้าย? ที่ทำให้ ‘เมลวิน‘ ผู้ซึ่งรักษากฎเป็นที่สุด ได้เลื่อนขั้นจากข้ารับใช้ต่ำต้อย สู่พ่อบ้านของท่านดยุก
Darthias Eil Wilzard
ดยุกดาร์เธียส เอล วิลซาร์ด สุนัขมือขวาพันธุ์ใหญ่ของกษัตริย์แห่งเบรย์เดน เลื่องลือว่ามีใบหน้างดงามดั่งเทพนาร์ซิสซัส แท้จริงเป็นเช่นไร ไม่มีใครรู้... เพราะทุกคนนั้นทราบดีถึง "กฎข้อห้าม" ของดยุกแห่งเบรย์เดธี ใบหน้านั้นห้ามผู้ใดเชยชม...
Melvin Timothy
เมลวิน ทิมอธี รับรู้และฝังกฎข้อนั้นไว้ถึงแก่นกระดูกดำ ทราบถึงขั้นว่าผู้ใดที่บังอาจฝืนกฎคิดเชยชมใบหน้านั้น จะมีจุดจบเป็นเช่นไร เพราะงั้น...เมลวิน ข้ารับใช้หนุ่มผู้ซึ่งจงรักภักดีแม้ตัวต้องตาย เขาจะไม่มีวันฝ่าฝืนกฎข้อห้ามนั้นเป็นอันขาด
"เช็ดหน้าให้ฉัน"
"ด..ได้โปรดครับท่านดยุก ผมไม่อาจทำได้"
"เมล จงเงยหน้าขึ้นมาซะ"
- Darthias x Melvin -
꧁{…ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก…}꧂
Author: Juharah
(Song from series Bridgerton > https://www.youtube.com/watch?v=NmqXEXJBoog)
E-Book เรื่อง "ใบหน้าต้องห้ามของท่านดยุก" 289฿ (กดผ่านลิงก์เพื่อได้ราคาถูก)
Chapter 04
"Rule breaker"
เมลวินวิ่งหนีออกมาหน้าแดงก่ำ ทั้งขวยเขินและอับอายที่ล้มก้นจ้ำเบ้า ต่อหน้าท่านดยุกกับเหล่าพ่ออีกเกือบยี่สิบคน!
น่าขายหน้าจริง ๆ
เมลวินนั้นดูตลกชะมัด!
"เจ้าเด็กนั่นรีบวิ่งไปไหนน่ะ? เดี๋ยวก็ชนท่านดยุกหรอก"
"ขาเล็ก ๆ นั่นทำฉันเสียวว่าจะหัก"
"ยังไม่ชินอีกหรือไง เขาเป็นเช่นนั้นมาตั้งแต่เด็กจนตอนนี้อายุ 15"
"ต้องบอกคุณเลียมให้ขุนมากกว่านี้เสียแล้ว"
เมลวินทำเป็นไม่ใส่ใจคำพูดของผู้ใหญ่ แต่ความจริงแล้วเด็กหนุ่มหงุดหงิดไม่น้อยเลย ปากอิ่มสมบูรณ์บูดบี้ตามอารมณ์ ใช่ว่าเขาจะอยากผอม!
ตะกร้าเปล่าใบโตที่ด้านหลังไม่ได้สร้างความลำบาก สองขาวิ่งจ้ำอ้าวไร้อาการเหน็ดเหนื่อย เด็กชายกำลังวิ่งตามเส้นทางเดิมเพื่อกลับอาณาจักรของวิลซาร์ดอันเป็นที่พัก กางเกงขายาวไม่สามารถปกปิดความเล็กแกร็นของเรียวขาได้
เมลวินอารมณ์ดีวิ่งบนเส้นทางแหวกป่าสนซีดาร์ กลิ่นใบไม้ที่ถูกแดดสาดส่อง อุณหภูมิกำลังดี ให้ความอบอุ่น
เด็กหนุ่มยิ้มจนแก้มแทบแตก เขาเงยหน้ามองแสงอาทิตย์ ที่ส่องลอดลงมากระทบนัยน์ตาสีแอชของตนเอง หัวเราะร่วนให้กับความคิดที่อยากจะโบยบินได้เหมือนนก
เมลวินรักฤดูร้อนเป็นที่สุด
"อ๊ะ!"
โครม!
เมลวินสะดุดบางอย่างจนหน้าคะมำ แก้มของเขาไถลากยาวไปกับพื้นดินปนทราย ตะกร้ากลิ้งกระเด็นออกจากแผ่นหลังเล็ก
"ฮ่า ๆ ๆ ๆ"
เสียงหัวเราะทุ้มใหญ่ดังขึ้น ตากลมโตสีแอชมองตามตะกร้าที่กลิ้งไปหยุดใต้ฝ่าเท้าใหญ่ เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นจนพบเข้ากับวัยรุ่นสองคนที่อายุเท่ากันกับเขา คนที่ตัวใหญ่สุดถอดหมวกเบเร่ต์ออกให้เห็นแววตามาดร้าย ขัดกับหน้าตาหล่อเหลา
"ดูซิ เราเจอใคร"
ทิมมี่ วอล์กเกอร์
บุคคลที่เมลวินนั้นเกลียดแสนเกลียด ไม่อยากจะพบเจอใบหน้านี้ที่สุดในโลก
เด็กหนุ่มตวัดตัวลุกขึ้นยืน เขาจับใบหน้าตนเองก่อนจะร้องซี้ด
"ฮ่า ๆ ๆ หน้ามันเหวอะอย่างกับผีแหนะ ใช่ไหมทิมมี่?" ฟิลต์ เด็กหนุ่มร่างอวบหัวเราะท้องแข็ง
"ก็นายไปขัดขามันที่วิ่งเสียไวขนาดนั้น ตอนล้มคงเจ็บไม่เบา ใช่ไหมเมลวิน?"
เมลวินเหลือบตามองทิมมี่และฟิลต์ที่สูงกว่าเกือบฟุต ทั้งที่อายุ 15 เท่ากันแท้ ๆ แต่ทำไมขนาดตัวเขาถึงได้แตกต่างขนาดนี้นะ เมลวินใช้แขนปัดตัวทิมมี่ให้หลีกทาง
"หลบไป"
"นี่ผลักฉันเหรอ! นายคิดว่านายเป็นใคร?"
บ้าบอ!
แรงของเมลวินแทบเรียกว่ามดสะกิดด้วยซ้ำ
"นายอย่ามาสำออยทิมมี่แล้วก็หลบไปซะ ฉันจะกลับบ้าน"
ทิมมี่ไม่ปล่อยให้เมลวินเดินหนี เขาลากคอเสื้อเมลวินกลับมาจนตัวลอยเหนือพื้น เมลวินดิ้น ไอค่อกแค่ก
"นายนี่ยังตัวเบาไม่เปลี่ยน ดิ๊กกี้ยังหนักกว่านายด้วยซ้ำ"
'ดิ๊กกี้' คือชื่อของสุนัขจรจัดพันธุ์นิวฟาวด์แลนด์ที่มักจะเดินเล่นเตร็ดเตร่ไปทั่วเมือง
"ปล่อยฉันนะทิมมี่ โอ๊ย! นายปล่อยฉันทำไม!"
ทิมมี่หัวเราะขำกับฟิลต์เสียงดัง หลังปล่อยมือจากคอเสื้อเมลวิน ความจริงเรียกทิ้ง เขากึ่งปาร่างบางลงพื้นจนล้มอีกรอบ
"ตอนแรกบอกให้ปล่อย พอทำให้แล้วก็ถามว่าปล่อยทำไม นายต้องการยังไงกันแน่เมลวิน?"
ทิมมี่นั่งยอง ๆ มองใบหน้าเล็กของเมลวิน ที่ซีกแก้มหนึ่งถลอกเป็นแผล ตากลมสีแอชคลอน้ำตา แต่ก็ไม่ยอมไหลออกมาสักที
ทิมมี่ไม่ชอบเลย
ถ้าร้องไห้ อาจจะเลิกยุ่งให้ก็ได้
"อย่ามายุ่งกับฉัน" เมลวินตวาด
"ฉันจะฟ้องท่านดยุก ว่านายแอบขโมยผลไม้ในที่ดินของนายท่านไปขาย"
ทิมมี่กล่าวเสียงเบา ก่อนจะยิ้มแสยะแล้วชูบางอย่างขึ้นมา เขาแอบเห็นมันตกอยู่ที่พื้นตอนที่เมลวินหกล้ม
"แล้วได้เงินนี่มา"
มันคือถุงเงินของเมลวิน
"เอามา!"
"จุ๊ ๆ เจ้าโง่...เงินนี่ไม่ใช่ของนาย"
เมลวินเม้มปาก เขาเริ่มน้ำตาคลอจวนจะไหล ยอมลดความรุนแรงในน้ำเสียง
"ขอร้องล่ะทิมมี่ เอามันคืนมาให้ฉัน"
เมลวินต้องใช้เงินนั้น
"ฉันคืนให้ก็ได้" ทิมมี่ยื่นไปตรงหน้าเมลวิน ทว่าตอนที่เมลวินจะรับ เขากลับชักมันกลับคืน
"นายบอกว่าจะคืน!"
"ใช่เมลวิน ฉันจะคืน...แต่เป็นคืนนี้ สามทุ่ม ที่ศาลาริมสระน้ำของท่านดยุก"
เมลวินเบิกตาโต
"ทำไมต้องที่นั่น!?"
"บ้านฉันอยู่ที่นั่น นายคงไม่คิดว่าฉันจะเดินไปหานายที่กระท่อมเก่า ๆ ของนายหรอกใช่ไหม?"
ทิมมี่เป็นลูกชายของพ่อบ้านระดับสูงคนหนึ่งที่รับใช้ในคฤหาสน์ เพราะงั้นบ้านของทิมมี่จะอยู่โซนใกล้ที่พักของท่านดยุก
"นายแค่คืนให้ฉันตอนนี้ทิมมี่"
ทิมมี่สวมหมวกเบเร่ต์กลับคืน ยืนยืดตัวสูงเหลือบมองเมลวิน
"เจอกันนะเมลวิน ฉันกับฟิลต์จะรอ"
เงินในถุงนั้น คือเงินเก็บตลอดทั้งปีของเมลวิน เขามีจุดประสงค์ที่ต้องใช้มัน
โมแอนนาน้องสาวของเมลวิน จะต้องเข้าเรียนหนังสือในอีกห้าปีต่อจากนี้ เงินส่วนนั้นจะช่วยซื้อโอกาสให้เธอได้ทำตามความฝัน
'โมนาอยากเป็นคุณครู'
นั่นเป็นเหตุผลที่เมลวินต้องเดินถือตะเกียงตอนสามทุ่ม ลัดสวนป่ารกเข้าไปยังเขตส่วนกลางคฤหาสน์ส่วนตัวของท่านดยุก
แมลงก็กัด
งูก็กลัว!
เมลวินเดินลัดเลาะมาถึงสวนริมสระน้ำมืดสลัว ใกล้ ๆ กันมีศาลาสีขาวประดับดอกไม้ ตอนกลางวันคงจะสวย แต่ตอนนี้กลับน่ากลัวเพราะมันไร้แสงสว่าง ตะเกียงไฟไม่ช่วยอะไรเลย!
เมลวินยืนถือตะเกียงใต้ต้นไม้รอทิมมี่กับฟิลต์ หันซ้ายแลขวาหวาดระแวง สลับกับเกาตามแขนขาที่ถูกแมลงกัด
ในศาลานั้นใช่ว่าจะไม่มีคนอยู่
ดวงตาสีประหลาดพุ่งตรงจากความมืด จับจ้องไปยังเด็กหนุ่มแบบไม่กะพริบ ใบหน้าเรียบเฉยไร้รอยยิ้ม
นิ่งงัน เงียบเชียบ
ราวกับไร้ตัวตน...
เมลวินส่องสว่างจากแสงเทียนริบหรี่
ดาร์เธียสขยับตัวนั่งไขว่ห้างจ้องมอง ไร้เสียงในทุกครั้งที่ขยับ เกิดคำถามในหัวอันปราดเปรื่อง
เมลวินมาทำอะไรในเขตคฤหาสน์ของเขาตอนสามทุ่ม ที่มืดสนิทขนาดนี้?
คำถามของดาร์เธียสถูกคลี่คลายในไม่กี่นาทีถัดมา เด็กหนุ่มที่ตัวใหญ่กว่าเมลวินสองคนปรากฏตัวพร้อมตะเกียงเทียน
ทั้งสามคนนั้นพูดคุยกันอยู่หลายนาที จนกระทั่งเริ่มมีปากเสียงกัน
ดูเหมือนจะเป็นเมลวินที่ถูกข่มเหงรังแก
ทั้งผลักหัว
ตีก้น?
อืม...
ด้วยความที่ตัวเล็กแค่นั้นจึงไร้แรงต่อกร
ดาร์เธียสเหยียดยิ้ม เมื่อเห็นเมลวินคิดสู้ เข้าไปทุบอกเด็กหนุ่มตัวสูงรัวแรง
"คืนมันมาให้ฉันเดี๋ยวนี้นะทิมมี่"
ดาร์เธียสในชุดคลุมอาบน้ำเพียงตัวเดียวท้าทายอากาศหนาวเย็น เสื้อคลุมแหวกออกเห็นแผงอกขาว เขากำลังนั่งเอกเขนกมองดูเหตุการณ์น่าสนุก
แค่รู้สึกร้อน จึงออกมารับลมยามค่ำคืนเสียหน่อย ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องน่าสนใจในเขตคฤหาสน์ของตนเอง
อยากรู้เสียจริง ว่าเมลวินจะทำยังไง
"ฟิลต์ นายเอามันคืนเมลวินทีสิ"
"เมลวิน ฉันจะคืนให้ แค่นายต้องว่ายไปเก็บนะ"
"อย่า!"
จ๋อม~
ดาร์เธียสไม่รู้ว่าฟิลต์โยนอะไรลงน้ำ แต่เสียงของมันเป็นสิ่งของที่มีน้ำหนักไม่เบาเท่าไหร่นัก
ดยุกหนุ่มคิดไปแล้วว่าไม่สำคัญอะไรหรอก
หากเมลวินไม่กระโดดลงไป...
ท่าทางแหวกว่ายนั้นทำดาร์เธียสสบายใจไปเปลาะหนึ่ง เมลวินว่ายน้ำเก่ง
แต่ตอนนี้ดาร์เธียสกลับไม่สนุกอีกต่อไป เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ศีรษะแทบชนคานศาลา
ร่างสูงหยิบปืนมัสเกตกระบอกยาวขึ้นมา ลวดลายสีทองของมันนั้นงดงาม...