นักเรียนตัวอย่าง บุคลิกพูดน้อย มืดมน เฉิ่มเชย ไร้สีสัน แต่ทว่า การที่เขาเป็นแบบนั้น กลับทำให้ใครบางคนตกหลุมรักเขาจนถอนตัวไม่ขึ้น โดยไม่ทันรู้ตัวเลย ว่าเขายังมีอีกด้านที่เธอไม่รู้จัก

Tattoo of love (สักรอยรัก ลงในใจเธอ) - EP 3 แอบมองไปเจอ ฉับพลันนั้นเธอก็เหม่อมองสบสายตา โดย Peach뽀이🍑 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ผู้ใหญ่,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ซาดิส & มาโซฯ,หนุ่มแว่น,คลั่งรัก,18+,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Tattoo of love (สักรอยรัก ลงในใจเธอ)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ผู้ใหญ่,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ซาดิส & มาโซฯ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

หนุ่มแว่น,คลั่งรัก,18+

รายละเอียด

นักเรียนตัวอย่าง บุคลิกพูดน้อย มืดมน เฉิ่มเชย ไร้สีสัน แต่ทว่า การที่เขาเป็นแบบนั้น กลับทำให้ใครบางคนตกหลุมรักเขาจนถอนตัวไม่ขึ้น โดยไม่ทันรู้ตัวเลย ว่าเขายังมีอีกด้านที่เธอไม่รู้จัก

ผู้แต่ง

Peach뽀이🍑

เรื่องย่อ

Tattoo of love 

(สักรอยรัก ลงในใจเธอ)

....................

 

จะเป็นยังไง ถ้าวันหนึ่งเราได้รู้ว่าคนที่แอบชอบมาตั้งหลายปี เขาไม่ได้เป็นแบบที่เราคิด เขาไม่ได้ใสซื่อเหมือนที่แสดง เขามีอีกด้านที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน ทุกสิ่งที่เคยคิดว่าเขาเป็น และมันทำให้เราหลงใหลในตัวเขา มันไม่มีอะไรจริงเลยสักอย่าง เราจะทำอย่างไร จะเดินหน้าต่อไป หรือจะถอยหลังกลับ ความสัมพันธ์บางอย่างก็เหมือนกับการที่เราหยิบงูขึ้นมาอุ้มไว้ในอ้อมแขน ปล่อยให้มันรัด ให้มันพันรอบตัวโดยที่ไม่ทันสังเกต ไม่ได้เฉลียวใจ เพราะคิดว่ามันไม่มีพิษภัย แต่ลืมไปว่ามันก็สามารถกินเราได้เช่นกัน เช่นเดียวกับการที่เราเอาตัวเข้าไปในชีวิตของใครคนหนึ่ง ได้ทำความรู้จักแล้ว เอาตัวเข้าไปข้องเกี่ยวไปผูกพันแล้ว ก็ไม่อาจสลัดทิ้งได้โดยง่าย ถึงแม้เราจะพยายามที่จะทอดถอนตัวออกมาแค่ไหน ก็ไม่อาจหลีกหนีได้พ้น

 

กันต์ (ปี 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์)

อายุ : 21

สูง : 185 เซนติเมตร

นิสัย (ตามที่คนอื่นเห็น) : เป็นนักเรียนตัวอย่าง บุคลิกพูดน้อย มืดมน เฉิ่มเชย ไร้สีสัน มักจะสวมสเวตเตอร์ไหมพรมปิดจนถึงคอเป็นประจำทั้งที่อากาศเมืองไทยแสนจะร้อนอบอ้าว คนทั่วไปคิดว่าติ๋มและดูน่าแกล้ง แต่ทว่าเพราะอยู่กับกลุ่มเพื่อนตัวท็อปที่มีบุคลิกน่ากลัวเหมือนกับนักเลง จึงไม่เคยมีใครกล้าแหย็มกับเขามาก่อน

"ใครจะรู้ ว่าหน้าที่แสนจะ kitty แต่ทว่า Body กลับเต็มไปด้วยTattoo!"

 

 

ปอย (ปี 1 คณะบัญชี)

อายุ : 19 ปี

สูง : 165 เซนติเมตร

นิสัย : จิตใจดี เรียบร้อย หัวอ่อน ไม่กล้าตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง เพราะถูกที่บ้านกดดันมาตั้งแต่เด็ก

"แอบรักรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกันมานาน จนตามมาเข้าเรียนที่มหาลัยเดียวกัน และก็หวังว่ารุ่นพี่ที่แสนจะจืดชืดในสายตาของคนอื่นจะไม่ถูกใครแย่งไปซะก่อน"

 

Presented by Peach뽀이🍑

สารบัญ

Tattoo of love (สักรอยรัก ลงในใจเธอ)-บทนำ .....,Tattoo of love (สักรอยรัก ลงในใจเธอ)-EP 1 รักฝังใจของสาวน้อย,Tattoo of love (สักรอยรัก ลงในใจเธอ)-EP 2 เปิดเทอมใหม่ หัวใจว้าวุ่น,Tattoo of love (สักรอยรัก ลงในใจเธอ)-EP 3 แอบมองไปเจอ ฉับพลันนั้นเธอก็เหม่อมองสบสายตา,Tattoo of love (สักรอยรัก ลงในใจเธอ)-EP 4 ของกู ก็คือของกู,Tattoo of love (สักรอยรัก ลงในใจเธอ)-EP 5 แค่เพียงสักนิด,Tattoo of love (สักรอยรัก ลงในใจเธอ)-EP 6 สอนให้ได้รู้,Tattoo of love (สักรอยรัก ลงในใจเธอ)-EP 7 คนสองหน้า,Tattoo of love (สักรอยรัก ลงในใจเธอ)-EP 8 คิดไปเองทั้งนั้น

เนื้อหา

EP 3 แอบมองไปเจอ ฉับพลันนั้นเธอก็เหม่อมองสบสายตา

Tattoo of love 

(สักรอยรัก ลงในใจเธอ)

EP 3 

แอบมองไปเจอ ฉับพลันนั้นเธอก็เหม่อมองสบสายตา

..................................

 

 (คณะบัญชี) 

 

 “แค่มารวมตัวกันให้ตรงเวลายังทำไม่ได้เลย” 

 “ทุกคนไปวิ่งรอบมหาลัยมาหนึ่งรอบ อย่าให้เห็นว่าใครอู้ ถ้ามีคนอู้ ต้องวิ่งใหม่อีกสิบรอบ!” เหล่ารุ่นพี่จอมเฮี้ยบกำลังใช้เสียงตะโกนข่มเหล่ารุ่นน้องด้วยท่าทางวางอำนาจ

 

 “โห! วิ่งรอบมหาลัยเนี่ยนะ” เสียงโห่ร้องดังขึ้น เพราะขนาดของมหาลัยที่จุนักศึกษากว่าห้าพันคนไม่ใช่เล็ก ๆ

 

 “บ้าอำนาจชะมัด โคตรไร้เหตุผล” อ้อมพึมพำด้วยความไม่สบอารมณ์ 

 

 “ใครพูดอะไรคะ!?” 

 

 “ชู่ว! ไม่เอาน่าตัว เดี๋ยวมีเรื่อง” ปอยเอ่ย ก่อนจะเขย่าแขนเพื่อนยิก ๆ

 

 “ตัวกลัวอะไร เราไม่เห็นจะกลัวเลย” อ้อมเอ่ยด้วยท่าทางที่พร้อมมีเรื่องเต็มที่ เธอมีนิสัยไม่ยอมคนและพร้อมบวกในทุกสถานการณ์

 

 “เราต้องเรียนอีกตั้งสี่ปีนะ อย่ามีเรื่องเลย” ปอยเอ่ยเสียงเบาหวิว อ้อมที่กำลังเดือด แต่ทว่าเมื่อเจอกับสายตาเว้าวอนของเพื่อนสาวก็จำใจต้องสงบอารมณ์ลง

 

สิบนาทีต่อมา

ตึก 

ตึก

ตึก

เหล่าเฟรชชี่ของคณะบัญชีวิ่งเรียงกันเป็นแถว ซึ่งตอนนี้ทุกคนกำลังวิ่งผ่านคณะวิศวกรรม อากาศร้อน ๆ ในตอนเที่ยงทำเอาเหล่านักศึกษาหอบแฮก ๆ และปาดเหงื่อที่กำลังไหลซึมพัลวัน แต่ทว่าสำหรับปอยแล้วกลับดูตื่นเต้น ชะเง้อชะแง้มองซ้ายขวาไม่หยุด เพราะคาดหวังว่าจะได้เจอกับใครบางคน

 

 “ชะเง้อคอจนจะเป็นยีราฟอยู่แล้ว” 

 “เมื่อเช้าก็เจอไปแล้วไง ยังไม่พอใจหรอยัยคนโลภมาก” อ้อมยกยิ้มใส่เพื่อน

 

 “ถึงแม้เสียงพี่เขาจะเพราะมาก แต่ว่าเรายังไม่ทันจะได้เห็นหน้าเขาเลยนี่นา” คนตัวเล็กอ้อมแอ้มเอ่ย

 

 “หมั่นไส้มาก” 

 “วิ่งมองทางด้วยค่ะเพื่อนสาว ถ้าสะดุดล้มเพราะเอาแต่มองหาผู้ชาย รู้ถึงไหนอายถึงนั่น” อ้อมเอ่ย เมื่อเห็นว่าเพื่อนสะดุดก้อนหินที่พื้น

 

สี่สิบห้านาทีต่อมา

 

 “แฮก ๆ ๆ” เหล่าเฟรชชี่หอบหายใจแรงหลังจากเพิ่งวิ่งกลับมาถึงคณะตัวเองในสภาพเหงื่อโทรมกาย ใบหน้าแดงซ่านเต็มไปด้วยเลือดฝาด

 

 “มีคนอู้นะคะ” 

 “พี่บอกแล้วใช่มั้ย ว่าถ้ามีคนอู้ต้องวิ่งใหม่” 

 “ทุกคนไปวิ่งมาอีกหนึ่งรอบค่ะ แล้วถ้ารอบนี้ยังอูกันอีก เรื่องจะไม่จบแค่วิ่งรอบมหาลัยแน่” รุ่นพี่สาวเอ่ยอย่างวางอำนาจ

 

 “เฮ้ย! บ้ารึเปล่าวะ อากาศร้อนขนาดนี้จะให้วิ่งอะไรนักหนา” 

 “ไม่เห็นหรอว่าคนจะเป็นลมกันอยู่แล้ว” อ้อมเอ่ยอย่างเหลืออด ยิ่งเห็นสภาพของเพื่อนสาวที่ตอนนี้ใบหน้าแดงก่ำ ผิวกายแดงเป็นปื้นเพราะถูกแดดเผา เธอก็ยิ่งเหลืออด

 

 “น้องมีปัญหาอะไรหรอคะ” 

 “ทำตัวไม่มีสัมมาคารวะเลยนะ นี่รุ่นพี่นะ!” 

 

 “รุ่นพี่แล้วไง?” 

 “ไม่ได้คลานตามออกมาจากท้องแม่เดียวกัน” 

 “แล้วที่สำคัญ อ้อมเป็นลูกคนเดียวค่ะ!” 

 

 “ตัวใจเย็น ๆ สิ” ปอยเขย่าแขนเพื่อนไม่หยุด ด้วยรู้ดีว่าเพื่อนของตัวเองอารมณ์ร้อนแค่ไหน ก่อนที่เพื่อน ๆ คนอื่น ๆ จะเข้ามาช่วยกันห้าม เพราะไม่อยากให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ จนสุดท้ายเรื่องก็จบลงโดยการที่ทุกคนต้องวิ่งอีกหนึ่งรอบ

 

สิบนาทีต่อมา

 

 “หึ่ย! โคตรหงุดหงิดเลย” 

 “รอให้จบช่วงรับน้องก่อนเถอะ เดี๋ยวได้เห็นดีกันแน่” อ้อมเอ่ยในขณะที่วิ่งไปด้วย

 

 “อย่ามีเรื่องกันเลยนะ” 

 “ต้องเจอหน้ากันไปอีกตั้งหลายปี.....” 

ตุ้บ!

ปอยเอ่ยยังไม่ทันจะจบประโยค จู่ ๆ ก็เป็นลมล้มฟุบไปกับพื้นทันทีท่ามกลางความตกใจของทุกคน

 

 “เฮ้ยตัว!” 

 

 “..................” คนตัวเล็กเป็นลมไปแล้ว แต่ทว่าประสาทของเธอกลับยังคงรับรู้ถึงสิ่งต่าง ๆ ทั้งเสียงอื้ออึง เสียงโวยวายของอ้อม และอ้อมแขนของใครบางคนที่กำลังช้อนตัวเธอไว้แนบอกในตอนนี้

 (ห้องพยาบาล) 

ฟุบ

ร่างเล็กถูกวางลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา 

 

 “อืออ” คนตัวเล็กส่งเสียงอื้ออึงออกมาเบา ๆ ตอนนี้เธอแยกไม่ออกว่าอะไรจริง อะไรฝัน เปลือกตาบางขยับขึ้นลงช้า ๆ และดูเหมือนว่าความปรารถนาในใจจะส่งผลให้คนตัวเล็กเห็นภาพของใครบางคนที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ขึ้นมา

 

ฟึบ ๆ

แก้มใสที่ร้อนผ่าวเพราะถูกแดดเผาสัมผัสได้ถึงมือเย็น ๆ ของใครบางคนที่กำลังลูบไล้อย่างแผ่วเบา มันช่างแลดูอ่อนโยนจนทำให้เธอต้องพยายามปรือตามอง

 

 “พี่กันต์” คนตัวเล็กเปล่งชื่อของใครบางคนออกไปด้วยเสียงเบาหวิว หัวใจของเธอสั่นระรัว และเพราะคิดว่าภาพที่เห็นตอนนี้คงเป็นแค่ความปรารถนาที่ก่อตัวขึ้นเป็นภาพลวงตา จึงทำให้เธอปล่อยตัวปล่อยใจไปตามความต้องการ

 

หมับ

ฟึบ ๆ

มือเล็กคว้ามือหนาที่กำลังสัมผัสแก้มตัวเองเอาไว้ ก่อนจะถูไถใบหน้าไปมาอย่างออดอ้อน ก่อนจะส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างชอบอกชอบใจ

 

 “คิก ๆ” 

 

 “ชอบใจอะไร ถึงหัวเราะออกมาแบบนั้น” 

 

 “ชอบพี่กันต์ค่ะ คิก ๆ” 

 

14.00 น.

 “อือออ (=_=) ” ปอยส่งเสียงอื้ออึงออกมาในยามที่กำลังพยายามลืมตาตื่น ตอนนี้สมองของเธอรู้สึกเบลอไปหมด ทั้งสับสน และงุนงง ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

 

 “อ้าวตัว ตื่นแล้วหรอ?” อ้อมเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวตื่นแล้ว

 

 “เกิดอะไรขึ้นหรอ.....ทำไมเรามานอนอยู่ที่นี่” 

 

 “ก็ตัวเป็นลมไง ก็ตอนที่วิ่งอยู่ จู่ ๆ ตัวก็ล้มตึงไปเลย” 

 “ทำเอาตกอกตกใจหมด” อ้อมพยายามอธิบายสถานการณ์

 

 “อ๋อ.....เข้าใจแล้ว” คนตัวเล็กพยักหน้าหงึกหงัก จู่ ๆ ภาพความฝันที่จำได้รางๆ ก็แวบเข้ามาในหัวจนทำเอาใจเต้นตึกตัก

 “ (-//////-) ” 

 

 “ทำไมจู่ ๆ หน้าแดง หรือว่าไข้ขึ้นอีกแล้ว?” อ้อมรีบพุ่งตัวเข้าไปแตะหน้าผากเพื่อนทันที เพราะคิดว่าอากาศกำเริบอีกแล้ว

 

 “ปะ เปล่า ก็คิดคิดถึงความฝันน่ะ” 

 “พอดีตอนที่หลับไปรู้สึกเหมือนจะฝันดี (-/////-) ” 

 

 “อย่าบอกว่าฝันถึงพี่จืดนะ” อ้อมเอ่ยอย่างรู้ทัน เพราะคนเดียวที่ทำให้เพื่อนสาวเขินจนหน้าแดงก็คงมีเพียงแค่รักแรกของเธอเท่านั้น

 

 “ไม่บอกหรอก (-/////-) ” 

 

 “กล้ามีความลับกับแม่หรอ” 

 “สงสัยคงไม่อยากรู้สินะว่าใครเป็นคนพามาที่ห้องพยาบาล” อ้อมเหล่มองเพื่อนด้วยสายตาเจ้าเล่ห์

 

 “ใครง่ะ?” 

 

 “ไม่บอกหรอก” 

 “แต่ถ้าตัวได้รู้นะ ต้องกรี๊ดดีใจจนตกเตียงแน่นอน” อ้อมแกล้งยั่วยุ นั่นยิ่งทำให้ปอยยิ่งอยากรู้เข้าไปใหญ่

 

 “ใครอ่า บอกหน่อยน๊า” 

 “ถ้ายอมบอกเดี๋ยวเลี้ยงหนังกับป๊อปคอร์นชุดใหญ่เลย” 

 

 “พูดแล้วห้ามคืนคำนะ (¬_¬メ) ” 

 

 “อื้อ! สัญญา” 

 

 “พี่จืดเป็นคนอุ้มตัวมาส่งที่ห้องพยาบาล” 

 

 “ (-_-) ?” 

 

 “พี่กันต์เป็นคนอุ้มตัวด้วยสองแขนของเขาเพื่อมาส่งที่ห้องพยาบาล” อ้อมย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเพื่อนเอาแต่นิ่งอึ้งราวกับไม่ได้ยิน

 

 “ ( ̄ □ ̄) ” 

ตุ้บ!

เมื่อได้ฟังย้ำอีกครั้ง คนตัวเล็กก็ล้มตึงลงบนเตียงเพราะหัวใจเต้นเร็วเกินไป

 

 “เฮ้ย!” 

 

 “ไม่ใช่ฝันหรอกหรอ (⊙﹏⊙) ” 

 “ละ แล้วที่อยู่ในฝันนั่นอะไรจริงบ้างล่ะเนี่ย ฮืออออ” คนตัวเล็กดีดดิ้นไปมา

 

 “เป็นไรอ่ะ ทำไมเป็นแบบนี้” อ้อมถามเพราะไม่เข้าใจว่าเพื่อนเป็นอะไร

 

 “แย่แล้ว (︸_︸) ” 

 

 “อะไรแย่ ตัวทำอะไรไป?” 

 

 “ก็.....ฮือออ” คนตัวเล็กครวญครางออกมาเพราะความอับอาย ก่อนจะเล่าให้เพื่อนฟังว่าทำอะไรไปในความฝันบ้าง ถึงไม่รู้ว่าจะทำแบบนั้นไปจริง ๆ หรือเปล่าก็ตาม

 

 

สิบนาทีต่อมา

 

 “เรื่องก็เป็นแบบนี้แหละ (︸_︸) ” 

 

 “ความรักในใจมันอัดอั้นขนาดนั้นเลยหรอ ฮ่า ๆ ๆ ๆ” อ้อมหัวเราะอย่างขบขัน

 

 “จบสิ้นแล้ว ต่อไปก็สารภาพรักไม่ได้แล้ว พี่เขาต้องคิดว่าเราเป็นคนแปลก ๆ แน่เลย ฮือออ” 

 

 “โอ๋ ๆ ไม่ต้องร้องนะ” 

 “ตัวก็ไม่แน่ใจไม่ใช่หรอว่าทำจริง ๆ หรือว่าฝัน” 

 “ไหน ๆ ก็ได้โอกาสแล้วก็เนียนไปขอบคุณแล้วก็สังเกตดูสิว่าพี่เขามีอาการอะไรหรือเปล่า” 

 

 “อะ เอางั้นหรอ ตะ แต่ว่า.....” 

 

 “ไม่ต้องมาตงมาแต่ นี่แหละได้โอกาสแล้ว” 

 “รุกเลย!” อ้อมปลุกใจเพื่อนให้ฮึกเหิม

 

 “ก็ได้ (︸_︸) ” 

 

 

วันต่อมา

ตึก

ตึก

ตึก

คนตัวเล็กเดินวนไปวนมาอยู่หน้าคณะวิศวะด้วยความตื่นเต้นเพื่อรอใครบางคน เธอมารอตั้งแต่เช้าเพราะไม่รู้ว่าเขาจะมาเมื่อไหร่

 ‘ถ้าเจอแล้วจะพูดกับพี่เขายังไงดีนะ’ ในหัวของสาวน้อยตอนนี้เต็มไปด้วยความฟุ้งซ่าน หัวใจก็เต้นโครมครามไม่หยุด ก่อนที่ความกดดันจะทำให้เธอทนไม่ไหว และตัดสินใจที่จะยอมถอยกลับไปตั้งหลักก่อนในวันนี้ แต่ทว่า เมื่อหันหลังจะเดินกลับ ก็เจอเข้ากับใครบางคนพอดีราวกับโชคชะตากลั่นแกล้ง แถมเขายังเดินมาพร้อมกับเพื่อนกลุ่มใหญ่อีกต่างหาก 

 

ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก

เสียงหัวใจที่สั่นระรัวทำเอาหูทั้งสองข้างของหญิงสาวอื้อไปหมด ยิ่งเขาเดินเข้ามาใกล้เท่าไหร่ ปอยก็ยิ่งทำตัวไม่ถูก จะกลับตัวก็ไม่ได้เมื่อสายตาดันไปประสานกับใครบางคนเข้าเสียแล้ว

 

"สาวน้อยมารอใครอยู่ตรงนี้ครับเนี่ย" ชายหนุ่มรูปหล่อที่มีความสูงไม่ต่างจากกันต์เอ่ยด้วยรอยยิ้มขี้เล่นเมื่อเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของคนตัวเล็กที่กำลังยืนอยู่หน้าคณะของพวกเขา ทุกคนใส่เสื้อช็อปกันหมด ยกเว้นก็แค่กันต์เพียงคนเดียวที่สวมเสื้อสเวตเตอร์ทับชุดนักศึกษาเอาไว้

 

"นั่นสิ มารอใครหรอครับคนสวย" ชายหนุ่มอีกคนเข้ามาสมทบ ก่อนที่เพื่อน ๆ อีกหลายคนจะเข้ามาทำการหยอกเย้าสาวน้อยที่มีท่าทางแตกตื่นเพราะถูกหนุ่ม ๆ รุมล้อม

 

"พะ พี่กันต์"

"ขอคุยกับพี่กันต์หน่อยได้ไหมคะ" คนตัวเล็กเอ่ยเสียงเบาหวิว ก่อนจะชี้มือไปยังชายหนุ่มร่างสูงที่เอาแต่เงียบและยืนอยู่หลังสุด 

 

"ไอ้กันต์ น้องเขาอยากคุยกับมึงว่ะ" ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าของคนตัวเล็กหันไปพูดกับกันต์ที่เอาแต่เงียบ ก่อนจะหันกลับมาพูดกับคนตัวเล็กตรงหน้า

"น่าเสียดายจัง (^_^) "

 

"................." คนตัวเล็กไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะเอาแต่ก้มหน้ามองมือตัวเองเพื่อซ่อนใบหน้าที่กำลังแดงเถือกราวกับลูกมะเขือเทศ

 

"ไปเถอะพวกเรา ปล่อยให้เขาคุยกันไป" เพื่อน ๆ ของกันเดินจากไป เหลือไว้เพียงแค่ตัวเอกของเรื่องทั้งสอง

 

 

 (ห้องเรียน) 

 

"น้องคนนั้นโคตรน่ารักเลยอ่ะ"

"หน้าตอนเขินงี้ แดงแปร๊ดเลย" 

 

"น่ารัก แต่ก็ไม่ใช่สเปคมึงอยู่ดี" เสียงทุ้มขัดขึ้น

"อย่างคุณพฤกษ์น่ะ ไม่ชอบของน่ารัก ๆ หรอก ชอบของดุ ๆ แรง ๆ มากกว่าใช่มั้ยล่ะ"

 

"รู้ดีนักนะไอ้คุณตุลย์" 

"แต่ก็จริง ของน่ารัก ๆ น่าแกล้ง แล้วก็ปลุกความเป็นมาโซคิสม์ในตัวน่ะ"

"แบบนั้นมันของชอบไอ้กันต์มากกว่า"

 

 

 

 

..................................

เพิ่มลงคลัง+คอมเมนต์+ไลค์ 

= กำลังใจ(◕‿< ❀ )