นักเรียนตัวอย่าง บุคลิกพูดน้อย มืดมน เฉิ่มเชย ไร้สีสัน แต่ทว่า การที่เขาเป็นแบบนั้น กลับทำให้ใครบางคนตกหลุมรักเขาจนถอนตัวไม่ขึ้น โดยไม่ทันรู้ตัวเลย ว่าเขายังมีอีกด้านที่เธอไม่รู้จัก
รัก,ผู้ใหญ่,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ซาดิส & มาโซฯ,หนุ่มแว่น,คลั่งรัก,18+,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Tattoo of love (สักรอยรัก ลงในใจเธอ)นักเรียนตัวอย่าง บุคลิกพูดน้อย มืดมน เฉิ่มเชย ไร้สีสัน แต่ทว่า การที่เขาเป็นแบบนั้น กลับทำให้ใครบางคนตกหลุมรักเขาจนถอนตัวไม่ขึ้น โดยไม่ทันรู้ตัวเลย ว่าเขายังมีอีกด้านที่เธอไม่รู้จัก
....................
จะเป็นยังไง ถ้าวันหนึ่งเราได้รู้ว่าคนที่แอบชอบมาตั้งหลายปี เขาไม่ได้เป็นแบบที่เราคิด เขาไม่ได้ใสซื่อเหมือนที่แสดง เขามีอีกด้านที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน ทุกสิ่งที่เคยคิดว่าเขาเป็น และมันทำให้เราหลงใหลในตัวเขา มันไม่มีอะไรจริงเลยสักอย่าง เราจะทำอย่างไร จะเดินหน้าต่อไป หรือจะถอยหลังกลับ ความสัมพันธ์บางอย่างก็เหมือนกับการที่เราหยิบงูขึ้นมาอุ้มไว้ในอ้อมแขน ปล่อยให้มันรัด ให้มันพันรอบตัวโดยที่ไม่ทันสังเกต ไม่ได้เฉลียวใจ เพราะคิดว่ามันไม่มีพิษภัย แต่ลืมไปว่ามันก็สามารถกินเราได้เช่นกัน เช่นเดียวกับการที่เราเอาตัวเข้าไปในชีวิตของใครคนหนึ่ง ได้ทำความรู้จักแล้ว เอาตัวเข้าไปข้องเกี่ยวไปผูกพันแล้ว ก็ไม่อาจสลัดทิ้งได้โดยง่าย ถึงแม้เราจะพยายามที่จะทอดถอนตัวออกมาแค่ไหน ก็ไม่อาจหลีกหนีได้พ้น
กันต์ (ปี 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์)
อายุ : 21
สูง : 185 เซนติเมตร
นิสัย (ตามที่คนอื่นเห็น) : เป็นนักเรียนตัวอย่าง บุคลิกพูดน้อย มืดมน เฉิ่มเชย ไร้สีสัน มักจะสวมสเวตเตอร์ไหมพรมปิดจนถึงคอเป็นประจำทั้งที่อากาศเมืองไทยแสนจะร้อนอบอ้าว คนทั่วไปคิดว่าติ๋มและดูน่าแกล้ง แต่ทว่าเพราะอยู่กับกลุ่มเพื่อนตัวท็อปที่มีบุคลิกน่ากลัวเหมือนกับนักเลง จึงไม่เคยมีใครกล้าแหย็มกับเขามาก่อน
"ใครจะรู้ ว่าหน้าที่แสนจะ kitty แต่ทว่า Body กลับเต็มไปด้วยTattoo!"
ปอย (ปี 1 คณะบัญชี)
อายุ : 19 ปี
สูง : 165 เซนติเมตร
นิสัย : จิตใจดี เรียบร้อย หัวอ่อน ไม่กล้าตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง เพราะถูกที่บ้านกดดันมาตั้งแต่เด็ก
"แอบรักรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกันมานาน จนตามมาเข้าเรียนที่มหาลัยเดียวกัน และก็หวังว่ารุ่นพี่ที่แสนจะจืดชืดในสายตาของคนอื่นจะไม่ถูกใครแย่งไปซะก่อน"
Presented by Peach뽀이🍑
EP 3
แอบมองไปเจอ ฉับพลันนั้นเธอก็เหม่อมองสบสายตา
..................................
(คณะบัญชี)
“แค่มารวมตัวกันให้ตรงเวลายังทำไม่ได้เลย”
“ทุกคนไปวิ่งรอบมหาลัยมาหนึ่งรอบ อย่าให้เห็นว่าใครอู้ ถ้ามีคนอู้ ต้องวิ่งใหม่อีกสิบรอบ!” เหล่ารุ่นพี่จอมเฮี้ยบกำลังใช้เสียงตะโกนข่มเหล่ารุ่นน้องด้วยท่าทางวางอำนาจ
“โห! วิ่งรอบมหาลัยเนี่ยนะ” เสียงโห่ร้องดังขึ้น เพราะขนาดของมหาลัยที่จุนักศึกษากว่าห้าพันคนไม่ใช่เล็ก ๆ
“บ้าอำนาจชะมัด โคตรไร้เหตุผล” อ้อมพึมพำด้วยความไม่สบอารมณ์
“ใครพูดอะไรคะ!?”
“ชู่ว! ไม่เอาน่าตัว เดี๋ยวมีเรื่อง” ปอยเอ่ย ก่อนจะเขย่าแขนเพื่อนยิก ๆ
“ตัวกลัวอะไร เราไม่เห็นจะกลัวเลย” อ้อมเอ่ยด้วยท่าทางที่พร้อมมีเรื่องเต็มที่ เธอมีนิสัยไม่ยอมคนและพร้อมบวกในทุกสถานการณ์
“เราต้องเรียนอีกตั้งสี่ปีนะ อย่ามีเรื่องเลย” ปอยเอ่ยเสียงเบาหวิว อ้อมที่กำลังเดือด แต่ทว่าเมื่อเจอกับสายตาเว้าวอนของเพื่อนสาวก็จำใจต้องสงบอารมณ์ลง
สิบนาทีต่อมา
ตึก
ตึก
ตึก
เหล่าเฟรชชี่ของคณะบัญชีวิ่งเรียงกันเป็นแถว ซึ่งตอนนี้ทุกคนกำลังวิ่งผ่านคณะวิศวกรรม อากาศร้อน ๆ ในตอนเที่ยงทำเอาเหล่านักศึกษาหอบแฮก ๆ และปาดเหงื่อที่กำลังไหลซึมพัลวัน แต่ทว่าสำหรับปอยแล้วกลับดูตื่นเต้น ชะเง้อชะแง้มองซ้ายขวาไม่หยุด เพราะคาดหวังว่าจะได้เจอกับใครบางคน
“ชะเง้อคอจนจะเป็นยีราฟอยู่แล้ว”
“เมื่อเช้าก็เจอไปแล้วไง ยังไม่พอใจหรอยัยคนโลภมาก” อ้อมยกยิ้มใส่เพื่อน
“ถึงแม้เสียงพี่เขาจะเพราะมาก แต่ว่าเรายังไม่ทันจะได้เห็นหน้าเขาเลยนี่นา” คนตัวเล็กอ้อมแอ้มเอ่ย
“หมั่นไส้มาก”
“วิ่งมองทางด้วยค่ะเพื่อนสาว ถ้าสะดุดล้มเพราะเอาแต่มองหาผู้ชาย รู้ถึงไหนอายถึงนั่น” อ้อมเอ่ย เมื่อเห็นว่าเพื่อนสะดุดก้อนหินที่พื้น
สี่สิบห้านาทีต่อมา
“แฮก ๆ ๆ” เหล่าเฟรชชี่หอบหายใจแรงหลังจากเพิ่งวิ่งกลับมาถึงคณะตัวเองในสภาพเหงื่อโทรมกาย ใบหน้าแดงซ่านเต็มไปด้วยเลือดฝาด
“มีคนอู้นะคะ”
“พี่บอกแล้วใช่มั้ย ว่าถ้ามีคนอู้ต้องวิ่งใหม่”
“ทุกคนไปวิ่งมาอีกหนึ่งรอบค่ะ แล้วถ้ารอบนี้ยังอูกันอีก เรื่องจะไม่จบแค่วิ่งรอบมหาลัยแน่” รุ่นพี่สาวเอ่ยอย่างวางอำนาจ
“เฮ้ย! บ้ารึเปล่าวะ อากาศร้อนขนาดนี้จะให้วิ่งอะไรนักหนา”
“ไม่เห็นหรอว่าคนจะเป็นลมกันอยู่แล้ว” อ้อมเอ่ยอย่างเหลืออด ยิ่งเห็นสภาพของเพื่อนสาวที่ตอนนี้ใบหน้าแดงก่ำ ผิวกายแดงเป็นปื้นเพราะถูกแดดเผา เธอก็ยิ่งเหลืออด
“น้องมีปัญหาอะไรหรอคะ”
“ทำตัวไม่มีสัมมาคารวะเลยนะ นี่รุ่นพี่นะ!”
“รุ่นพี่แล้วไง?”
“ไม่ได้คลานตามออกมาจากท้องแม่เดียวกัน”
“แล้วที่สำคัญ อ้อมเป็นลูกคนเดียวค่ะ!”
“ตัวใจเย็น ๆ สิ” ปอยเขย่าแขนเพื่อนไม่หยุด ด้วยรู้ดีว่าเพื่อนของตัวเองอารมณ์ร้อนแค่ไหน ก่อนที่เพื่อน ๆ คนอื่น ๆ จะเข้ามาช่วยกันห้าม เพราะไม่อยากให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ จนสุดท้ายเรื่องก็จบลงโดยการที่ทุกคนต้องวิ่งอีกหนึ่งรอบ
สิบนาทีต่อมา
“หึ่ย! โคตรหงุดหงิดเลย”
“รอให้จบช่วงรับน้องก่อนเถอะ เดี๋ยวได้เห็นดีกันแน่” อ้อมเอ่ยในขณะที่วิ่งไปด้วย
“อย่ามีเรื่องกันเลยนะ”
“ต้องเจอหน้ากันไปอีกตั้งหลายปี.....”
ตุ้บ!
ปอยเอ่ยยังไม่ทันจะจบประโยค จู่ ๆ ก็เป็นลมล้มฟุบไปกับพื้นทันทีท่ามกลางความตกใจของทุกคน
“เฮ้ยตัว!”
“..................” คนตัวเล็กเป็นลมไปแล้ว แต่ทว่าประสาทของเธอกลับยังคงรับรู้ถึงสิ่งต่าง ๆ ทั้งเสียงอื้ออึง เสียงโวยวายของอ้อม และอ้อมแขนของใครบางคนที่กำลังช้อนตัวเธอไว้แนบอกในตอนนี้
(ห้องพยาบาล)
ฟุบ
ร่างเล็กถูกวางลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา
“อืออ” คนตัวเล็กส่งเสียงอื้ออึงออกมาเบา ๆ ตอนนี้เธอแยกไม่ออกว่าอะไรจริง อะไรฝัน เปลือกตาบางขยับขึ้นลงช้า ๆ และดูเหมือนว่าความปรารถนาในใจจะส่งผลให้คนตัวเล็กเห็นภาพของใครบางคนที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ขึ้นมา
ฟึบ ๆ
แก้มใสที่ร้อนผ่าวเพราะถูกแดดเผาสัมผัสได้ถึงมือเย็น ๆ ของใครบางคนที่กำลังลูบไล้อย่างแผ่วเบา มันช่างแลดูอ่อนโยนจนทำให้เธอต้องพยายามปรือตามอง
“พี่กันต์” คนตัวเล็กเปล่งชื่อของใครบางคนออกไปด้วยเสียงเบาหวิว หัวใจของเธอสั่นระรัว และเพราะคิดว่าภาพที่เห็นตอนนี้คงเป็นแค่ความปรารถนาที่ก่อตัวขึ้นเป็นภาพลวงตา จึงทำให้เธอปล่อยตัวปล่อยใจไปตามความต้องการ
หมับ
ฟึบ ๆ
มือเล็กคว้ามือหนาที่กำลังสัมผัสแก้มตัวเองเอาไว้ ก่อนจะถูไถใบหน้าไปมาอย่างออดอ้อน ก่อนจะส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างชอบอกชอบใจ
“คิก ๆ”
“ชอบใจอะไร ถึงหัวเราะออกมาแบบนั้น”
“ชอบพี่กันต์ค่ะ คิก ๆ”
14.00 น.
“อือออ (=_=) ” ปอยส่งเสียงอื้ออึงออกมาในยามที่กำลังพยายามลืมตาตื่น ตอนนี้สมองของเธอรู้สึกเบลอไปหมด ทั้งสับสน และงุนงง ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“อ้าวตัว ตื่นแล้วหรอ?” อ้อมเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวตื่นแล้ว
“เกิดอะไรขึ้นหรอ.....ทำไมเรามานอนอยู่ที่นี่”
“ก็ตัวเป็นลมไง ก็ตอนที่วิ่งอยู่ จู่ ๆ ตัวก็ล้มตึงไปเลย”
“ทำเอาตกอกตกใจหมด” อ้อมพยายามอธิบายสถานการณ์
“อ๋อ.....เข้าใจแล้ว” คนตัวเล็กพยักหน้าหงึกหงัก จู่ ๆ ภาพความฝันที่จำได้รางๆ ก็แวบเข้ามาในหัวจนทำเอาใจเต้นตึกตัก
“ (-//////-) ”
“ทำไมจู่ ๆ หน้าแดง หรือว่าไข้ขึ้นอีกแล้ว?” อ้อมรีบพุ่งตัวเข้าไปแตะหน้าผากเพื่อนทันที เพราะคิดว่าอากาศกำเริบอีกแล้ว
“ปะ เปล่า ก็คิดคิดถึงความฝันน่ะ”
“พอดีตอนที่หลับไปรู้สึกเหมือนจะฝันดี (-/////-) ”
“อย่าบอกว่าฝันถึงพี่จืดนะ” อ้อมเอ่ยอย่างรู้ทัน เพราะคนเดียวที่ทำให้เพื่อนสาวเขินจนหน้าแดงก็คงมีเพียงแค่รักแรกของเธอเท่านั้น
“ไม่บอกหรอก (-/////-) ”
“กล้ามีความลับกับแม่หรอ”
“สงสัยคงไม่อยากรู้สินะว่าใครเป็นคนพามาที่ห้องพยาบาล” อ้อมเหล่มองเพื่อนด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
“ใครง่ะ?”
“ไม่บอกหรอก”
“แต่ถ้าตัวได้รู้นะ ต้องกรี๊ดดีใจจนตกเตียงแน่นอน” อ้อมแกล้งยั่วยุ นั่นยิ่งทำให้ปอยยิ่งอยากรู้เข้าไปใหญ่
“ใครอ่า บอกหน่อยน๊า”
“ถ้ายอมบอกเดี๋ยวเลี้ยงหนังกับป๊อปคอร์นชุดใหญ่เลย”
“พูดแล้วห้ามคืนคำนะ (¬_¬メ) ”
“อื้อ! สัญญา”
“พี่จืดเป็นคนอุ้มตัวมาส่งที่ห้องพยาบาล”
“ (-_-) ?”
“พี่กันต์เป็นคนอุ้มตัวด้วยสองแขนของเขาเพื่อมาส่งที่ห้องพยาบาล” อ้อมย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเพื่อนเอาแต่นิ่งอึ้งราวกับไม่ได้ยิน
“ ( ̄ □ ̄) ”
ตุ้บ!
เมื่อได้ฟังย้ำอีกครั้ง คนตัวเล็กก็ล้มตึงลงบนเตียงเพราะหัวใจเต้นเร็วเกินไป
“เฮ้ย!”
“ไม่ใช่ฝันหรอกหรอ (⊙﹏⊙) ”
“ละ แล้วที่อยู่ในฝันนั่นอะไรจริงบ้างล่ะเนี่ย ฮืออออ” คนตัวเล็กดีดดิ้นไปมา
“เป็นไรอ่ะ ทำไมเป็นแบบนี้” อ้อมถามเพราะไม่เข้าใจว่าเพื่อนเป็นอะไร
“แย่แล้ว (︸_︸) ”
“อะไรแย่ ตัวทำอะไรไป?”
“ก็.....ฮือออ” คนตัวเล็กครวญครางออกมาเพราะความอับอาย ก่อนจะเล่าให้เพื่อนฟังว่าทำอะไรไปในความฝันบ้าง ถึงไม่รู้ว่าจะทำแบบนั้นไปจริง ๆ หรือเปล่าก็ตาม
สิบนาทีต่อมา
“เรื่องก็เป็นแบบนี้แหละ (︸_︸) ”
“ความรักในใจมันอัดอั้นขนาดนั้นเลยหรอ ฮ่า ๆ ๆ ๆ” อ้อมหัวเราะอย่างขบขัน
“จบสิ้นแล้ว ต่อไปก็สารภาพรักไม่ได้แล้ว พี่เขาต้องคิดว่าเราเป็นคนแปลก ๆ แน่เลย ฮือออ”
“โอ๋ ๆ ไม่ต้องร้องนะ”
“ตัวก็ไม่แน่ใจไม่ใช่หรอว่าทำจริง ๆ หรือว่าฝัน”
“ไหน ๆ ก็ได้โอกาสแล้วก็เนียนไปขอบคุณแล้วก็สังเกตดูสิว่าพี่เขามีอาการอะไรหรือเปล่า”
“อะ เอางั้นหรอ ตะ แต่ว่า.....”
“ไม่ต้องมาตงมาแต่ นี่แหละได้โอกาสแล้ว”
“รุกเลย!” อ้อมปลุกใจเพื่อนให้ฮึกเหิม
“ก็ได้ (︸_︸) ”
วันต่อมา
ตึก
ตึก
ตึก
คนตัวเล็กเดินวนไปวนมาอยู่หน้าคณะวิศวะด้วยความตื่นเต้นเพื่อรอใครบางคน เธอมารอตั้งแต่เช้าเพราะไม่รู้ว่าเขาจะมาเมื่อไหร่
‘ถ้าเจอแล้วจะพูดกับพี่เขายังไงดีนะ’ ในหัวของสาวน้อยตอนนี้เต็มไปด้วยความฟุ้งซ่าน หัวใจก็เต้นโครมครามไม่หยุด ก่อนที่ความกดดันจะทำให้เธอทนไม่ไหว และตัดสินใจที่จะยอมถอยกลับไปตั้งหลักก่อนในวันนี้ แต่ทว่า เมื่อหันหลังจะเดินกลับ ก็เจอเข้ากับใครบางคนพอดีราวกับโชคชะตากลั่นแกล้ง แถมเขายังเดินมาพร้อมกับเพื่อนกลุ่มใหญ่อีกต่างหาก
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
เสียงหัวใจที่สั่นระรัวทำเอาหูทั้งสองข้างของหญิงสาวอื้อไปหมด ยิ่งเขาเดินเข้ามาใกล้เท่าไหร่ ปอยก็ยิ่งทำตัวไม่ถูก จะกลับตัวก็ไม่ได้เมื่อสายตาดันไปประสานกับใครบางคนเข้าเสียแล้ว
"สาวน้อยมารอใครอยู่ตรงนี้ครับเนี่ย" ชายหนุ่มรูปหล่อที่มีความสูงไม่ต่างจากกันต์เอ่ยด้วยรอยยิ้มขี้เล่นเมื่อเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของคนตัวเล็กที่กำลังยืนอยู่หน้าคณะของพวกเขา ทุกคนใส่เสื้อช็อปกันหมด ยกเว้นก็แค่กันต์เพียงคนเดียวที่สวมเสื้อสเวตเตอร์ทับชุดนักศึกษาเอาไว้
"นั่นสิ มารอใครหรอครับคนสวย" ชายหนุ่มอีกคนเข้ามาสมทบ ก่อนที่เพื่อน ๆ อีกหลายคนจะเข้ามาทำการหยอกเย้าสาวน้อยที่มีท่าทางแตกตื่นเพราะถูกหนุ่ม ๆ รุมล้อม
"พะ พี่กันต์"
"ขอคุยกับพี่กันต์หน่อยได้ไหมคะ" คนตัวเล็กเอ่ยเสียงเบาหวิว ก่อนจะชี้มือไปยังชายหนุ่มร่างสูงที่เอาแต่เงียบและยืนอยู่หลังสุด
"ไอ้กันต์ น้องเขาอยากคุยกับมึงว่ะ" ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าของคนตัวเล็กหันไปพูดกับกันต์ที่เอาแต่เงียบ ก่อนจะหันกลับมาพูดกับคนตัวเล็กตรงหน้า
"น่าเสียดายจัง (^_^) "
"................." คนตัวเล็กไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะเอาแต่ก้มหน้ามองมือตัวเองเพื่อซ่อนใบหน้าที่กำลังแดงเถือกราวกับลูกมะเขือเทศ
"ไปเถอะพวกเรา ปล่อยให้เขาคุยกันไป" เพื่อน ๆ ของกันเดินจากไป เหลือไว้เพียงแค่ตัวเอกของเรื่องทั้งสอง
(ห้องเรียน)
"น้องคนนั้นโคตรน่ารักเลยอ่ะ"
"หน้าตอนเขินงี้ แดงแปร๊ดเลย"
"น่ารัก แต่ก็ไม่ใช่สเปคมึงอยู่ดี" เสียงทุ้มขัดขึ้น
"อย่างคุณพฤกษ์น่ะ ไม่ชอบของน่ารัก ๆ หรอก ชอบของดุ ๆ แรง ๆ มากกว่าใช่มั้ยล่ะ"
"รู้ดีนักนะไอ้คุณตุลย์"
"แต่ก็จริง ของน่ารัก ๆ น่าแกล้ง แล้วก็ปลุกความเป็นมาโซคิสม์ในตัวน่ะ"
"แบบนั้นมันของชอบไอ้กันต์มากกว่า"
..................................