หากมีโอกาศเกิดใหม่อีกครั้งผมก็อยากมีพลังที่จะเปลี่ยนอดีตที่ทุกยากของตนเอง

ย้อนเวลามาครั้งนี้...ผมมีพลังแล้วครับ - ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นและจุดจบ โดย ม่านปกคลุมเมฆา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,แฟนตาซี,ไทย,เรื่องสั้น,3P,ย้อนเวลา,วันสิ้นโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ย้อนเวลามาครั้งนี้...ผมมีพลังแล้วครับ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,แฟนตาซี,ไทย,เรื่องสั้น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

3P,ย้อนเวลา,วันสิ้นโลก

รายละเอียด

หากมีโอกาศเกิดใหม่อีกครั้งผมก็อยากมีพลังที่จะเปลี่ยนอดีตที่ทุกยากของตนเอง

ผู้แต่ง

ม่านปกคลุมเมฆา

เรื่องย่อ

สารบัญ

ย้อนเวลามาครั้งนี้...ผมมีพลังแล้วครับ-ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นและจุดจบ,ย้อนเวลามาครั้งนี้...ผมมีพลังแล้วครับ-ตอนที่ 2 ย้อนกลับ,ย้อนเวลามาครั้งนี้...ผมมีพลังแล้วครับ-ตอนที่ 3 รางวัลจะเป็นของใคร

เนื้อหา

ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นและจุดจบ

        บทที่ 1 จุดเริ่มต้น

     คนทุกคนล้วนมีความฝัน ความฝันของคนเราคืออะไร? หลายคนอาจมองว่าเธอช่างเสียฝันจริง เธอฝันอยากเป็นอย่างนั้น เขาฝันอยากเป็นอย่างนี้ แต่เชื่อเถอะว่าถึงแม้จะอยากทำอย่างนั้น แต่เราไม่สามารถทำตามความฝันได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทุนทรัพย์ หรือแม้แต่คนที่จะสนับสนุนให้เราทำตามความฝันได้

      สำหรับคนที่เป็นเด็กกำพร้าอย่างผม ทำได้มากที่สุดก็แค่หาเงินเลี้ยงชีพ ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป หาเช้ากินค่ำ ตื่นเช้ามาก็ต้องรีบทำงาน ค่ำมาก็ต้องนอน

      ผมขอแค่อยากใช้ชีวิตอย่างปกติสุข โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าวันนี้จะนอนที่ไหน จะกินอะไร ไม่จำเป็นต้องมีชีวิตสุดหรู หรือนอนอยู่บนกองเงินกองทอง แต่ก็ใช่ว่าผมจะไม่เคยมีความฝันเลย ตอนเด็กผมเคยตั้งคำถามกับตัวเองว่า ทำไมเราถึงไม่มีครอบครัว ไม่มีพ่อแม่ ไม่มีพี่น้องเหมือนคนอื่น

      แต่ถึงเราจะอยากมีเหมือนคนอื่น ผมก็ต้องยอมรับความเป็นจริง ว่าใช่ทุกคนจะต้องมีครอบครัวที่สมบูรณ์ ยกตัวอย่างก็เช่นผม

       ชื่อเล่น "ฝัน" ชื่อจริง "นายรัตนพล แก้วสุวรรณ" อายุ 21 ปี เป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเก็บมาเลี้ยงจากการที่มีคนเอาเด็กทารกมาทิ้งที่สถานเด็กกำพร้าปันสุข โดยชื่อ "ฝัน" นั้น เป็นชื่อที่ได้รับมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ภายหลังที่ฝันออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ด้วยฝันนั้นมีความฝันว่าสักวันหนึ่งจะมีบ้านเป็นของตนเอง และอยากจะใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไป อยากมีครอบครัวที่อบอุ่น แม้ไม่สมบูรณ์ก็ไม่เป็นไร แน่นอนว่าทุกครอบครัวไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์และมีความสุข

      แต่ถึงอย่างนั้น แม้ผมจะอยู่คนเดียว ผมก็มีความสุขดี แม้จะลำบากบ้าง สุขบ้าง ทุกข์บ้าง แต่ผมได้ให้โอกาสตัวเองมีความสุข ด้วยการมอบความรักให้กับตัวเอง ให้โอกาสตัวเองก่อนเราถึงจะมีความสุข หากเราไขว่คว้าความสุขจากคนอื่น นอกจากเราจะไม่มีความสุขแล้ว คนอื่นยังมองว่าเราโลภมากอีกด้วย ผมจึงเลือกที่จะมีความสุขกับตัวเองมากกว่า

      วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ฝันจะต้องตื่นเช้ามาเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน งานที่ฝันทำเป็นงานเกี่ยวกับพืชพันธุ์ หลังเก็บเงินมาหลายปี ฝันได้เช่าร้านสำหรับขายดอกไม้ เป็นห้องแถวในตัวเมืองที่เป็นบ้าน ทำให้ฝันประหยัดได้มาก

      เป็นร้านดอกไม้เล็กในตัวเมือง ทำธุรกิจร้านดอกไม้มาได้ปีกว่าแล้ว รายได้ค่อนข้างอยู่ตัว ไม่ได้ขายดีมาก แต่ก็ไม่ได้น้อยเพราะสามารถอยู่ได้ โดยดอกไม้ที่ขายหลักๆ คือ กุหลาบ เบญจมาศ คาโมมาย และดอกไม้ตามฤดูกาล แล้วแต่ความต้องการของลูกค้า ร้านขายดอกไม้ของฝันตั้งชื่อว่า "ร้านรวยฝัน"

       ทุกวันล้วนผ่านไปแบบปกติ แต่ที่ไม่ปกติคืออยู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์แปลกประหลาดขึ้นทั่วโลก โดยที่ผู้คนไม่เคยเอะใจเลยว่ามันจะนำความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่มาให้โดยไม่คาดฝัน

      คืนวันสิ้นปีใหม่ เวลาเที่ยงคืน เกิดเหตุการณ์สุดอลังการอย่างฝนดาวตก ที่ทางองค์การดาราศาสตร์แห่งชาติได้ประกาศว่าจะเกิดฝนดาวตก ซึ่งตรงกับช่วงวันสิ้นปีของประเทศ T พอดี เหล่าชายหนุ่มหญิงสาวนักท่องเที่ยวหรือแม้แต่ชาวต่างชาติที่มาเที่ยวในประเทศ ล้วนต้องการเห็นฝนดาวตกในวันสิ้นปี บ้างก็ไปเคาท์ดาวน์บนภูเขา สถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ

     มีแต่ฝันที่ไม่ค่อยสนใจเกี่ยวกับฝนดาวตกเท่าไหร่นัก ถึงแม้เขาจะชอบการดูดาวตกก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องเดินทางไปบนเขาหรือสถานที่ต่างๆ เพื่อดูดาว ขอแค่เขาได้ดูจากข่าวเขาก็รู้สึกดีแล้ว

      คืนตรงที่ทุกคนเฝ้ารอคอยก็มาถึง แสงประกายแห่งทะเลดวงดาว ท่ามกลางค่ำคืนอันมืดมิด ยิ่งส่องประกายให้ฝนดาวตกในค่ำคืนนี้งดงามยิ่งกว่าค่ำคืนไหนๆ แต่ความสวยงามนั้นกลับนำพาหายนะอันยิ่งใหญ่มาให้โดยไม่รู้ตัว

      หลังการสิ้นสุดของฝนดาวตก ได้เกิดดาวหางขนาดยักษ์พุ่งเข้ามาชนกับชั้นบรรยากาศของโลก เพียงแต่การมาของมันไม่ได้มาในฐานะอุกกาบาตชนโลก แต่มาในนามของวันสิ้นโลก

      ตัวมันมีลักษณะเป็นคริสตัลหรือผลึกขนาดยักษ์ หลังชนกับบรรยากาศของโลก ตัวมันได้แตกตัวออกกระจายออกไปทั่วทิศทางทั่วโลก โดยที่ไม่เกิดพลังทำลายล้างอย่างที่อุกกาบาตควรเป็น

      แทนที่ตัวมันจะระเบิดหรือไม่ก็ตกกระทบพื้นโลกจนทำให้เกิดพลังทำลายล้างสูง การระเบิดของมันไม่ได้แตกออกเป็นประกายไฟ แต่กลับหายออกไปจากฟากฟ้า กระจายกันออกไปทั่วโลก

       เกิดม่านหมอกหลากสีสันกระจายออกไปทั่วทั้งโลกตลอด 3 วัน 3 คืน ภายหลังจากที่หมอกหายไป มนุษย์ทั่วโลกเกิดติดเชื้อปริศนา อยู่ดีๆ ก็เกิดอาการชักกระตุกอย่างรุนแรง ตาขาวโพลนราวกับไม่มีชีวิต เส้นเลือดปูดนอน คล้ายคนติดผิดขั้นรุนแรง ตายไปอย่างรวดเร็ว หากมันจบลงที่ความตายก็คงดี

       แต่ศพที่ตายไปกลับฟื้นขึ้นมา อาละวาดกัดกินเนื้อของมนุษย์ เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ ทำให้มีผู้ติดเชื้อกลายเป็นซอมบี้จำนวนมาก แถมยังเกิดการกลายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นเช่น พืช และสัตว์ แม้แต่มนุษย์เองก็เกิดการกลายพันธุ์แต่ก็เป็นส่วนน้อยเท่านั้น

       คนบางส่วนที่สามารถปลุกพลังพิเศษได้นั้น ใช้มันในการต่อสู้และฆ่าซอมบี้ เกิดการรวมกลุ่มกันของผู้มีพลังพิเศษ บ้างก็ตั้งเป็นฐานที่มั่นในการรับมือกับซอมบี้ แบ่งเป็นฐานรัฐและฐานเอกชน รวมถึงฐานแยกย่อยต่างๆ

      ฝันเองนั้น ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ต้องการมีชีวิตรอด ฝันเดินทางไปอยู่ที่ฐานอพยพของค่ายทหารเพื่อตั้งหลักก่อน แต่ด้วยตัวของฝันเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีพลังพิเศษ แรกๆ ก็ดีอยู่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปคนเราก็เห็นแก่ตัวมากขึ้น สถานะของคนแบ่งแยกชัดเจน มีแค่ผู้มีพลังพิเศษเท่านั้นถึงจะได้รับการต้อนรับเป็นพิเศษ หากไม่มีพลังก็เป็นได้แค่ต้องรองมือรองเท้าเท่านั้น ความปลอดภัยแทบไม่มี ไม่รู้ว่าวันดีคืนดีจะถูกฆ่าทิ้งตอนไหน

       ฝันได้แต่ทำใจใช้ชีวิตเรื่อยไปในค่ายทหารมาตลอด 2 ปี สุดท้ายก็เป็นได้แค่เหยื่อล่อ ตายไปท่ามกลางดงซอมบี้ไร้คนเหลียวแล ไร้การช่วยเหลือ แถมเป็นการตายจากการช่วยชีวิตเพื่อนคนเดียวในยุควันสิ้นโลก

      คิดว่าจะเป็นเพื่อนแท้ที่สามารถคบกันได้ แต่สุดท้าย แม้แต่เพื่อนที่ฝันคิดว่าดีกลับฆ่าเราได้อย่างเลือดเย็น แถมยังทิ้งท้ายคำพูดเจ็บแสบเอาไว้ว่า

        "เหอะ ฝัน เด็กกำพร้าอย่างนายมันสมควรตายแล้ว จำไว้ซะด้วยว่าที่ฉันยอมเป็นเพื่อนกับนายเพราะนายมันโง่เอง หึ!" นายผิดเองนะที่มายั่วพี่เพลิงของฉัน ทั้งที่เขาเป็นคนที่ฉันชอบก่อน แต่การมีอยู่ของนายทำให้พี่เพลิงเปลี่ยนไป ทั้งที่เขาเป็นคนที่มาก่อนแท้ๆ สิ้นเสียง นริน ได้เดินจากไปเพื่อร่วมกลุ่มของตัวเอง

        เสียงของการฉีกกระชากและกัดกินเนื้อทำให้ฝันเจ็บปวดรวดร้าวไปถึงจิตวิญญาณ แต่ความเจ็บปวดจากการถูกฉีกกินเนื้อนั้นไม่เจ็บปวดเท่ากับการถูกเพื่อนที่คิดว่าเป็นเพื่อนแท้หักหลังอย่างเยือกเย็น

       "อ่า.. เราจะตายแล้วหรอ" ตายไปแบบนี้โดยที่เรายังไม่ได้ทำอะไรอย่างเต็มที่เลย แต่แบบนี้อาจดีกว่าก็ได้ ในยุคที่หากไม่มีพลังเราก็เป็นได้แค่แมลงที่ต้องรอคอยเวลาตายเท่านั้น

         หากเราได้โอกาสอีกครั้ง เขาจะหาสถานที่ปลอดภัยและมั่นคงเพื่อที่จะทำให้ตัวเราเองอยู่ได้อย่างไม่ลำบาก และจะขอแก้แค้นคนที่ฆ่าเราได้อย่างเลือดเย็นอย่าง "นริน" แน่นอน!

      เสียงสุดท้ายจากความคิดของฝันได้ขาดหายไป พร้อมๆ กับความฝันอันเลือนลางและจางหายไปในที่สุด