หากมีโอกาศเกิดใหม่อีกครั้งผมก็อยากมีพลังที่จะเปลี่ยนอดีตที่ทุกยากของตนเอง

ย้อนเวลามาครั้งนี้...ผมมีพลังแล้วครับ - ตอนที่ 2 ย้อนกลับ โดย ม่านปกคลุมเมฆา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,แฟนตาซี,ไทย,เรื่องสั้น,3P,ย้อนเวลา,วันสิ้นโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ย้อนเวลามาครั้งนี้...ผมมีพลังแล้วครับ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,แฟนตาซี,ไทย,เรื่องสั้น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

3P,ย้อนเวลา,วันสิ้นโลก

รายละเอียด

หากมีโอกาศเกิดใหม่อีกครั้งผมก็อยากมีพลังที่จะเปลี่ยนอดีตที่ทุกยากของตนเอง

ผู้แต่ง

ม่านปกคลุมเมฆา

เรื่องย่อ

สารบัญ

ย้อนเวลามาครั้งนี้...ผมมีพลังแล้วครับ-ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นและจุดจบ,ย้อนเวลามาครั้งนี้...ผมมีพลังแล้วครับ-ตอนที่ 2 ย้อนกลับ,ย้อนเวลามาครั้งนี้...ผมมีพลังแล้วครับ-ตอนที่ 3 รางวัลจะเป็นของใคร

เนื้อหา

ตอนที่ 2 ย้อนกลับ

         บทที่ 2 ย้อนกลับ

        ผมฝันว่าตัวผมเองลอยอยู่ในอวกาศอันเวิงวาง ความรู้สึกที่ว่าคล้ายกับความฝันตื่นหนึ่ง หนักบ้าง เบาบ้าง ปะปนกันไป จะลืมตาก็ลืมไม่ได้

       นานเข้าผมก็ลืมแม้กระทั่งว่าผมตายไปแล้ว เอาเข้าจริงผมเป็นคนที่กลัวความสูงมาก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าบนอวกาศมันสูงเคล้งและน่ากลัวแค่ไหน

       จนผมรู้สึกตัวตื่นนั่นแหละ ผมถึงรู้ว่าตัวเองอยู่ในห้องขนาดสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มาก คนหนึ่ง สามารถอยู่ได้แบบไม่อึดอัด ประประตูหน้าต่างค่อนข้างเก่าตามกาลเวลา มีโต๊ะ เตียงนอนแบบเรียบง่าย กับพัดลมขนาดกลางมีปลั๊กเสียบสีชมพูหวานแหวว

       ผมตื่นมาแล้วแต่ยังงงๆ อยู่ก็เลยยังไม่คิดจะลุกออกจากเตียงนอน กำลังประมวลผลทางความคิดอยู่

      " เกิดอะไรขึ้นกันนะ แล้วนี่ที่ไหน! " ผมที่กำลังงงอยู่อุทานอย่างตกใจ เราตายไปเพราะถูกซ่อมบี้รุมกินโต๊ะแล้วนี่นา เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ที่นี้ที่ไหน แต่พอมองดูดีดี " อ่าว บ้านเรานี่หว่า" เรามาอยู่นี่ได้ไง หรือว่า!!

        ผมรีบเด้งตัวลุกขึ้นจากที่นอน เอาผ้าห่มออกจับมันโยนทิ้งโดยไม่สนว่าจะไปหล่นตรงไหนก็ตาม รีบวิ่งไปที่โต๊ะหนังสือหยิบปฏิทินตั้งโต๊ะเปิดหาวันที่ดูทันที" 3 กันยายน ปี 2560!!"ฝันอุทานขึ้นอีกครั้งอย่างไม่อยากจะเชื่อ ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นมาได้อย่างไรกัน

       " เราย้อนเวลามางั้นหรอ" ถึงแม้จะไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อแล้วหละ ในเมื่อสวรรค์ให้โอกาสครั้งใหม่แก่เรา เราก็จะขอใช้โอกาสในการกลับมาครั้งนี้ให้เกิดประโยชน์กับตัวเองให้มากที่สุด

       แต่ก่อนอื่นหิวแล้วอะ ถึงจะพึ่งตื่นเถอะ" โครก! คราก! ชะ..อุ้ย หิวจังวุ้ย" ว่าแล้วฝันก็เดินตัวปลิวออกจากห้องไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนจะไปกินอาหารเช้า ย้อนเวลากลับมาตอนเช้าซะด้วย ถูกเวลาหิวสุดๆไปอีก อาหารเช้าเนี่ย ถ้ากินไม่ถูกเวลามวนท้องแทบบิด

      "ใครนะ ในกระจกมันใคร" มันไม่แปลกครับที่ผมตกใจ จะไม่ให้ตกใจได้ไง ก็คนในกระจกไม่เห็นเหมือนผมเลย ปากชมพูอวบอิ่มชํ้านํ้า ผิวขาวนวลอมชมพู ผมสีดำขลิบนํ้าตาลแดง จมูกโด่งนิดๆ คิ้วเรียวสวยได้รูป นึกว่าไอดอลที่ไหนซะอีก

       " เออ..มันเรานิหว่า" แหม...ตอนก่อนย้อนเวลามาเพราะต้องทำตัวติดดิน คลุกกับโคลม นอนกินอยู่กับทรายอยู่ตลอด ชินอยู่แต่กับรูปลักษณ์หมาขี้เรื้อน แต่คนที่อยู่ในกระจกมันก็เราอีก เอ่อดีงง..น่ารักแฮะ  

       "พอเถอะๆ ไปกินข้าวให้พุงกางเลย ไม่ได้กินอิ่มมานานแค่ไหนแล้วนะ" ชีวิตที่ต้องดิ้นรนอยู่ในวันสิ้นโลกเรียกได้ว่าลำบากสุดๆ ต้องทำงานแลกข้าวแลกนํ้าหลังคดหลังแข็ง แต่แลกได้อาหารเพียงน้อยนิด คิดถึงแล้วไอ้ฝันอย่างเขามันเศร้าใจท้อแท้..เห้อ"

       "มีอะไรในตู้เย็นบ้างนะ อู้..มีของสดมีขนมนมเนยเต็มตู้เย็นเลย" ว่าแล้วฝันก็หยิบเอาวัตถุดิบในตู้เย็นมารังสรรค์ เป็นข้าวผัดไข่ใส่กุ้งแสนอร่อย เอาเค้กช็อกโกแลต มากินเพิ่มเพื่อเติมพลังทางความคิด เดี๋ยวจะได้คิดหนักละทีนี้

       " อืม...อร่อยมาก สัมผัสของเมล็ดข้าว ความมันของไข่ ความเด้งของเนื้อกุ้ง เป็นรสชาติที่อร่อยลํ้าและน่าคิดถึงอะไรอย่างนี้" ว่าแล้วไอ้ฝันก็ขอจ้วงกินข้าวผัดจนหมด ต่อด้วยของหวานอย่างเค้กช็อกโกแลตจนหมดอย่างรวดเร็ว

        ฝันที่กินจนอิ่ม ได้เดินมาทิ้งก้นบนโซฟาเก่าหน้าทีวีพลางคิดไปด้วยว่าจะเริ่มจากทำอะไรก่อนดี เราไม่มีพลังมิติเหมือนคนอื่น เราก็จะเก็บอาหารและสะเบียงได้น้อย ชั่งเถอะปัญหาจริงๆ คือเรื่องเงินต่างหากที่เป็นเรื่องใหญ่ที่สุด

       " เรามีเงินในบัญชีแค่ไม่กี่ล้านเท่านั้นเอง" แต่ก่อนอื่นต้องจดสิ่งที่ต้องซื้อที่ต้องมี จำพวก
อาหารแห้ง อาหารสำเร็จรูป มาม่า ปลากระป่อง นํ้าดื่ม เอาพวกยาสามัญประจำบ้านมาด้วยและอื่นอีกมากมายที่เราก็ต้องหา

        "จริงด้วย เราต้องหาสถานที่ที่ปลอดภัย" หลังเกิดวันสิ้นโลกได้ประมาณ 2-3 เดือน ได้เกิดค่ายหรือฐานอพยพหลายแห่ง ส่วนฐานที่เราเคยอยู่เป็นฐานของทหาร ค่ายเมือง B

        ค่ายเมือง B เป็นค่ายที่มีการบริหารจัดการค่อนข้างดี และเป็นค่ายที่ใหญ่ เพราะเป็นการรวมตัวกันของคนระดับนายพลหรือผู้บัญชาทหาร สามเหล่าทัพใหญ่มีกองกำลังทหารอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ครบครัน มีผู้มีพลังพิเศษที่แข็งแกร่งในค่ายอยู่มาก แต่มากคนปัญหาย่อมตามมามากด้วยเหมือนกัน

        คนที่แข็งแกร่งที่สุดในค่ายทหารเมือง B มีอยู่ 2 คน คือ "เพลิง' ที่มีพลังไฟ กับ "ราเชน' ที่มีพลังนํ้าแข็ง ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่มีทีมล่าอยู่กันคนละทีม เพราะทั้งสองคนมีระดับใกล้เคียงกันมาก ความแข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ 6

        แต่ค่ายที่แข็งแกร่งที่สุดและดีที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาคือค่ายเอกชน ที่อยู่ในเมือง C ชื่อว่าค่ายฐาน "สตาร์อุส' เจ้าของค่ายเอกชนได้ยินว่าเป็นผู้มีอิทธิพลมาจากต่างประเทศมีขุมพลังและอาวุธยุทโธปกรณ์ที่แข็งแกร่งไม่ต่างอะไรกับกองกำลังขนาดใหญ่ก่อนยุควันสิ้นโลกเลย

        เราว่าจะหาที่ดินแถวเมือง C อยู่หน่อย ก่อนย้ายไปต้องหาเงินก้อนใหญ่ ไม่งั้นงานช้างแน่ ว่าแล้วก็โทรไปหานายหน้าที่ขายบ้านแถวเขตเมือง C เลยแล้วกัน " ฮันโล สวัสดีครับไม่ทราบว่า ยังมีโครงการบ้านจัดสรรแถวเมือง C เหลือไม่ครับ" สิ้นเสียงกล่าวทักทาย ฝันจึงพูดเข้าประเด็นทันที

        " ครับ แน่นอนครับ ทางเรายังเหลือบ้านในโครงการแน่นอน ลูกค้าสามารถนัดดูตัวบ้านได้เลย ลูกค้าสะดวกเวลาไหนสามารถโทรนัดมาทางเราได้เลยครับ"ทางฝ่ายขายพอรับทราบความต้องการของลูกค้าแล้ว ได้เสนอแนวทางเพื่อนัดดูตัวบ้านเลยทันที

      "ครับ ผมสะดวกครับ คงอีกสักอาทิตย์หนึ่งทางผมจะติดต่อกลับไปนะครับ"ฝันบอกความต้องการแก่ฝ่ายตรงข้ามทันที

        "ได้ครับ หากทางลูกค้าสะดวกเมื่อไรทางเราจะส่งคนมารับคุณลูกค้าทันที ขอบคุณครับ" เรียบร้อยไปอีกหนึ่งรายการเหลือก็แต่ต้องออกไปซื้อของมาตุนก่อน

         ฝันเลือกแต่งตัวด้วยชุดสบายๆ เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงยีนสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว พอมองโดยรวมแล้วเข้ากันกับโครงหน้ารูปไข่และส่วนสูง 175 เซนติเมตร ผมดำขวิบนํ้าตาลแดงยิ่งส่งเสริมให้น่ามองแม้ไม่ได้แต่งเติมอะไรมากมาย

        ตอนนี้ผมเดินออกจากบ้าน เพื่อมาซื้อของกักตุน ผมเลือกมาซื้อใกล้ๆ บ้านก่อนแล้วเดี๋ยวจะสั่งซื้อมาจากออนไลน์อีกที ต้องไปเช่าโกดังสำหรับเก็บของด้วย พอเข้ามาในห้างมหกรรมขนของจึงเริ่มขึ้นมา ขนมันมาทั้งหมดเลย โดยเฉพาะจำพวกบะหมี่ อาหารอบแห้งด้วย เอามีด เครื่องทำครัว เครื่องปรุงทำอาหาร เอามากองในรถเข็น เสร็จแล้วนำไปคิดเงินแล้ว เดินทางกับบ้าน เพราะของเยอะมากก็จ้างรถไปส่งถึงที่บ้านซะเลย

      เข้ามาในบ้านปุ๊บ ก่อนอื่นต้องเอาของมาจัดเรียง เก็บให้เข้าที่เป็นระเบียบเรียบร้อย เพราะไม่คิดที่จะกลับไปรวมกลุ่มกับฐานเดิมอีก เราก็ต้องพึ่งตัวเอง

       แหม..เห็นของเยอะแบบนี้แล้วอยากจะมีพลังพิเศษ อย่างพลังมิติเอาไว้เก็บของเลยนะเนี่ย ฮา ฮา.

          หัวเราะยังไม่ทันไร ไอ้ตาที่ปิดเพราะหัวเราะบ้าๆบอๆ พอเปิดขึ้นมาอีกทีหนึ่งเขาหัวเราะแทบไม่ออก ของที่เราอุตส่าห์พยายามจัดเก็บมาตั้งนานมันหายไปไหนหมดฟร๊ะ

       "เฮ้ย.." ของหายไปไหน หายังไงก็ไม่จอ เราจำได้ว่าเราไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ของมันหายไปไหนหมด

        "หรือว่าเรามีพลังมิติ แต่ก่อนย้อนเวลาเราไม่มีพลังพิเศษอะไรนี่นา ไม่น่าจะเป็นไปได้ซิ"

        ชีวิตที่แล้ว ใช่ว่า เราเองไม่อยากมีพลังพิเศษเหมือนคนอื่น เพราะถ้าหากมี อย่างน้อยชีวิตก็จะง่ายขึ้น ถึงจะเป็นพลังไร้ประโยชน์จะไม่เกียงเลยด้วยซํ้า

       "เมื่อกี้เรานึกถึงพลังมิติเก็บของ ของมันเลยหายไป ถ้าหากเรานึกถึงพลังอีกครั้งล่ะ อาจเป็นไปได้ว่า ตัวเราเองมีพลังพิเศษเหมือนกัน"

       พอคิดได้ดังนั้น ฝันได้จินตนาการในหัวว่าสามารถจัดเก็บของไว้ได้ตามความคิด พอลืมตาขึ้นมาก็ปรากฏว่าฝันได้มาโผล่ในพื้นที่อีกพื้นที่หนึ่ง ซะแล้ว

        พื้นที่นี้แปลกซะเหลือเกิน แทนที่จะเป็นเวลากลางวันเหมือนในนิยายวันสิ้นโลก อันเป็นพื้นที่มิติส่วนตัว ของเหล่าตัวเอกนิยายวันสิ้นโลกทั้งหลายแหล่ แต่มันกลับเป็นตอนกลางคืนซะอย่างนั้น มีทั้งดวงดาว แสงพระจันทร์ส่องสว่างยามราตรี ทั้งที่มืดสนิท แต่กลับไม่รู้สึกหวาดกลัวเลย คล้ายกับว่า ตัวเขาเองสามารถเชื่อมต่อกับมันอยู่ราวกับเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดในร่างกาย สัมผัสได้ถึงกระทั่งความคิดของต้นไม้ใบหญ้า

        ภายในพื้นที่แห่งนี้ มีทั้งพื้นที่ที่กว้างขวางต้นไม้ใบหญ้าอยู่รอบนอก ตรงที่บริเวณที่ฝันปรากฏตัวอยู่ เดินไปข้างหน้าอีกประมาณ 100 เมตร มีบ้านหลังใหญ่อยู่กลางหุบเขาเป็นเหมือนบ้านพักตากอากาศ ด้วยบันไดขนาดกว้าง 5 เมตร ไต่ระดับชั้นขึ้นไป จนถึงข้างบนของตัวบ้านทำให้มันเหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ

        ส่วนด้านล่างของหุบเขาเป็นพื้นที่กว้างขนาดใหญ่ประมาณ 10 ไร่ ตรงกลางเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่สไตล์ยุโรปหลังสีขาวประกายเงิน มีแสงไฟเปิดส่องสว่างทั่วทั้งคฤหาสน์ให้บรรยากาศยิ่งใหญ่และหรูหรากว่าคฤหาสน์หลังไหนที่เคยเห็นในภาพถ่ายซะอีก

        " ว้าว.. นี่มันคฤหาสน์หลังเบ้อเร่อเลย" มันเป็นของที่อยู่ในมิติจริงๆ เหรอเนี่ย อลังการขนาดนี้ใครมันเป็นคนสร้างกันเนี่ย ว่าแล้วฝันก็เดินเข้าไปในคฤหาสน์หลังโต สำรวจจนหมดทุกช่องทุกมุมพบว่าภายในเป็นคฤหาสน์ 3 ชั้นมีห้องรวมกันในคฤหาสน์ทั้งหมดกว่า 30 ห้อง

       แต่ที่พิเศษยิ่งกว่าการสำรวจคฤหาสน์ คือพบว่าตัวเราเองสามารถสื่อสารกับมิติในนี้ได้ทุกซอกทุกมุม ราวกับมันเป็นสิ่งที่เราสร้างมาเองกับมือ

        " งั้นลองทำตามนิยายแนวระบบดูดีกว่าไหม ว่าจะสามารถเปลี่ยนมิติให้มีจิตสำนึกได้หรือเปล่า" เร็วยิ่งกว่าความคิดมิติที่เชื่อมต่อกับจิตสำนึกของฝัน ได้ก่อกำเนิดขึ้นมาใหม่ สร้างเป็นตัวตนแบบพิเศษสำแดงรูปลักษณ์ เป็นช่องสี่เหลี่ยมกลางอากาศ พร้อมกับมีรูปลักษณ์ของสัตว์น่ารัก เป็นสิงโต size จิบิแสนน่ารัก

        "ยินดีที่ได้รู้จักครับนายท่าน ผมเป็นตัวตนที่กำเนิดจากจิตสำนึกของนายท่าน มิติมายาฝันแห่งนี้เองครับ"

        ทันทีที่หน้าต่างระบบเปิดขึ้นมาเสียงทักทายแสดงความรู้จัก ด้วยหน้าตาสุดคาวาอี้ เสียงใสแสนหวานเสนาะหู ทักทายนายท่านเป็นครั้งแรก ความความดีใจ ป่นคิดถึงอย่างสุดซึ้ง

        ฝันที่เห็นหน้าจอสี่เหลี่ยมมีตัวจิบิเป็นสิงโตสุดน่ารักทักทายให้แล้ว ถึงแม้จะแปลกใจอยู่บ้างแต่กับการที่ตัวเราเอง อยู่ในมิติสุดพิเศษนี้ก็คงไม่มีอะไรให้แปลกใจกว่านี้อีกแล้ว

      "สุดยอดนายเป็นระบบสินะ ตอนแรกไม่คิดเลยว่าจะมีระบบโผล่ขึ้นมาแบบนี้ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน ฉันชื่อฝัน เป็นชื่อเล่น ขอฝากตัวด้วยนะ" ฝันทักทายกลับเช่นกัน

      ด้วยความตื่นเต้นมาก ไม่ตื่นเต้นได้ยังไง เพิ่งจะเคยเจอระบบเด้งกลางอากาศได้ครั้งนี้ครั้งแรกเลย อย่างกับยุคอนาคตแหนะ

      "ทางนี้ก็ขอฝากตัวเช่นกันครับนายท่าน" ระบบตอบรับอย่างนอบน้อม ยินดี

      " แล้วนายมีชื่อหรือยังล่ะระบบ" ฝันถามชื่อกับระบบ ถ้ามีชื่อจะได้เรียกถูก หากมีชื่อเรียกจะทำให้สนิทสนมกันได้มากขึ้น เรียกแต่ระบบระบบก็คงแปลกใช่ไหมล่ะ

      " ครับผมยังไม่มีชื่อเรียก นายท่านสามารถตั้งชื่อให้ผมได้เลยครับ" ระบบตอบรับด้วยความยินดี

      " อืม..งั้นเอาเป็นชื่อว่า 'ไลออน' แล้วกัน" เป็นชื่อที่เหมาะกับรูปลักษณ์ และเท่ดีด้วย อืม..เราก็มีพรสวรรค์ในการตั้งชื่อเหมือนกันนะ

     " ได้ครับต่อจากนี้นายท่านสามารถเรียกกผมว่า ไลอ้อน ได้เลยครับ" ไลอ้อน ยิ้มรับจนตาเป็นสะระอิ เหมือนหุ่นยนต์แฮะ

       " ไลออน ถามหน่อยสิครับ ด้านในมิตินี้ทำไมมันเป็นตอนกลางคืนล่ะ ปกติมันต้องเป็นตอนกลางวันไม่ใช่หรอ" เราว่ามิตินี้มันแปลกที่สุดแล้วนะ เท่าที่เคยอ่านนิยายแฟนตาซีมาโดยส่วนมากมิติจะเป็นตอนกลางวันเพื่อที่จะได้เหมาะสำหรับการเพาะปลูกและเลี้ยงปศุสัตว์

       " อย่างที่เจ้านายทราบ พื้นที่นี้เป็นมิติพิเศษโดยกำเนิดจากพลังพิเศษเฉพาะตัวของนายท่านโดยเฉพาะ" พลังพิเศษเฉพาะตัวอย่างนั้นเหรอ อย่างนี้แสดงว่ามันไม่ใช่แค่พื้นที่เพาะปลูกหรือเก็บของทั่วไปน่ะสิ แล้วมันจะทำอะไรได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่แค่เอาไว้เพาะปลูกหรือเก็บของ

      "แล้วมันพิเศษยังไง ไลออน" ยังจะมีอะไรมากกว่านี้อีก เรื่องชวนตกใจหรอ ไม่จริงน่า!

       " ครับเจ้านาย มิตินี้เป็นมิติที่สร้างจากพลังพิเศษแห่งความฝัน เป็นพลังประเภทเสกสรรค์ประเภท 1

       พลังสร้างสรรค์คือพลังพิเศษในการสร้างสิ่งของขึ้นมากลางอากาศ คล้ายคลึงพลังของพระเจ้า ส่วนหนึ่งนี้เป็นพลังที่หายากมาก โดยมันจะสุ่มเลือกผู้ที่จะได้มันเป็นเจ้าของ ทั่วทั้งโลกคนที่มีพลังประเภทเสกสรรค์มีไม่ถึง 10 คนด้วยซ้ำ

       แต่กระนั้นพลังประเภทนี้จะปรากฏออกมาค่อนข้างยาก เพราะมีเงื่อนไขในการปลุกพลัง อย่างพลังของนายท่านเอง ถ้าหากเจ้านายไม่ตาย และมีความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะย้อนกลับของเวลา พลังมิตินี้คงไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้เลย"

         " เข้าใจแล้ว มันเป็นอย่างนี้นี่เอง" มิน่าล่ะ! ทำไมถึงรู้สึกว่าตัวเอง ตายแล้วแต่ยังอยู่ในความฝันแต่กลับลืมว่าตัวเองตาย

        เฮ้อ..คิดแล้วก็เศร้าหากราไม่มีความปรารถนาที่แรงกล้ามากพอ เราก็คงตายแล้วตายลับไปเลยสินะ ต่อจากนี้เราตั้งปณิธานไว้แล้วว่า ไม่ว่ายังไงเราก็ต้องรอดไปให้ได้ จะไม่วันยอมอ่อนแอจนถูกเอาเปรียบอีกเด็ดขาด เราขอสัญญาในฐานะนายของตนเอง