สายชล วิญญาณบาปที่กำลังจะชดใช้กรรมหมดใกล้จะได้มาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว พร้อมกับเพื่อนสาวแสนน่ารักอีกสองคน แต่ด้วยเรื่องไม่คาดฝันบางอย่าง ที่ทำให้เกิดความปั่นป่วนในนรกภูมิจนถึงขั้นวอดวาย ภาษาบ้านๆ ก็เรียกกันว่า เรือ (Ship) หายกันไปเป็นแถบๆ ทำให้แทนที่เขาและเพื่อนสาวอีกสองคนจะได้ไปเกิดเป็นมนุษย์ กลับต้องไปเกิดเป็นปลาแซลมอนแทนซะอย่างนั้น อิหยังฟระเนี่ย!!! เรื่องราวครั้งนี้ ทำเอาปั่นป่วนวุ่นวายกันไปหมดทั้งสามโลก ทั้งเทพ ทั้งคนทั้งมนุษย์ ทั้งนกอินทรีย์ ยันหมีกริซลี่ วุ่นวายอีรุงตุงนังกันไปหมด เรื่องราวนี
ตลก,แฟนตาซี,ผจญภัย,เกิดใหม่,ไทย,พล็อตสร้างกระแส,แฟนตาซี,ผจญภัย,ตลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ปลาแซลมอนตัวผู้ที่อยู่ทางด้านหน้าปลาแซลมอนตัวเมียทั้งสองตัว หรือ ก็คือ“สายชล“ นั่นเอง เขาได้กรอกตามองปลาแซลมอนตัวเมียทั้งสองตัว ที่ก็คือ “แววดาว“ และ “แสงเดือน“ แล้วก็ได้นิ่งไปเพื่อนึกถึงความหลังที่ผ่านมา...หลายปีมานี้พวกเขาทั้งสามตัวก็อาศัยอยู่ด้วยกันมาตลอดตั้งแต่ลงมาเกิดเป็นปลาแซลมอนขนาดวัยรุ่นตัวเท่าดินสอ ในตอนที่เกิดเหตุการณ์วุ่นวายที่ยมโลก ซึ่งทั้งสามตัว ต่างก็ได้ผจญภัย และหลบรอดภัยอันตรายต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็นในแม่น้ำ บนฟ้า และท้องทะเล ไม่ว่าจะเป็นภัยจากในธรรมชาติเอง และจากมนุษย์มาด้วยกันจนปลอดภัยมาจนถึงทุกวันนี้ทั้งสามตัว จนได้กลายเป็นปลาแซลมอนตัวเต็มวัยที่ใหญ่เต็มที่ และปลาตัวเมียทั้งสองตัว ต่างก็มีไข่อยู่ในท้องกันแล้ว แม้จะเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติของปลาแซลมอนตัวเมีย ไม่ได้เป็นความสัมพันธ์ที่เหมือนกับมนุษย์ แต่ทั้งสามตัวในตอนนี้ ต่างก็ผูกผันกันเสมือนเป็นทั้งเพื่อนร่วมตาย และคนรักกันไปเสียแล้ว ดังนั้นการที่จะลงไปเล่นเกมส์กับ “เทพเจ้า “ เพื่อที่ทั้งสามคนถ้าชนะจะได้มีโอกาสกลับไปเกิดใหม่และได้พบหน้ากันอีกครั้งอย่างแน่นอน จึงเป็นเรื่องที่ทั้งสามนั้นมีจิตใจตรงกันว่าอยากจะ “ร่วมฝ่าฟันอุปสรรค“ ไปด้วยกันนั่นเอง และทั้งสามก็ได้สื่อจิตไปถึงเทพ ถึงคำตอบในใจของพวกตนอย่างไม่ลังเล จนทำให้ทางเทพ “ฮาเดส“ เมื่อได้คำยืนยันจากทั้งสามที่เห็นพ้องต้องกันนั้นได้หลับตาลงและทำท่าเหมือนจะครุ่นคิดถึงอะไรบางอย่างอยู่ซักครู่หนึ่ง ก่อนที่ปลาทั้งสามตัวจะได้เห็นรอยยิ้มนิดๆที่ดูอบอุ่นอย่างประหลาดปรากฏขึ้นมาอีกครั้งจากเทพสูงสุดแห่งยมโลก
หลังจากนั้นทางเทพ “ฮาเดส” ได้ทำการยื่นมือไปสัมผัสกับปลาทั้งสามตัวอยู่พักหนึ่ง โดยทำท่าเหมือนจะหยอกล้อเหมือนมีความเอ็นดูกับปลาทั้งสามตัว แต่ในความรู้สึกของทั้งสามคนกลับรู้สึกร้อนวูบวาบเหมือนมีพลังอะไรซักอย่างพลุ่งพล่านเข้ามาในตัวเอง ก่อนที่เทพสูงสุดแห่งยมโลกจะพูดขึ้นมาพอให้ทั้งสามได้ยินกันว่า
“ยอดเยี่ยมยิ่งนัก...ในความเด็ดเดี่ยวของพวกเจ้าที่กล้ามาร่วมเล่นเกมส์ให้เหล่าเทพเจ้าอย่างข้ากับน้องชายได้สนุกกันด้วยความเต็มใจของพวกเจ้าเอง...เฮ้...“ซูส“ เจ้าจงกำหนดเส้นทางให้พวกเขาได้แล้ว และข้าก็หวังว่าเจ้าจะรักษาสัญญาเป็นอย่างดีเช่นกันนะ “ซูส““
เทพอีกองค์หนึ่งที่มีศักดิ์เป็นถึงระดับมหาเทพแห่งเทือกเขาโอลิมปัส เมื่อได้ฟังเทพสูงสุดแห่งยมโลกพูดออกมาดังนั้น ก็กอดอกแล้วแหงนหน้าขึ้นหัวเราะเฮฮาอย่างสนุกสนาน พลางบอกว่า
“ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า...ไม่ต้องห่วงหรอกท่านพี่...ข้าน่ะเป็นถึงระดับจอมเทพสูงสุดแห่งภูเขาโอลิมปัส เลยนะ รับรองว่าข้ารักษาสัญญาเป็นคำสัตย์อย่างแน่นอน ท่านพี่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก... แหม่...แต่ดูท่าท่านนี่จะยังคงรักสัตว์ รักธรรมชาติอยู่เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ มีการไปลูบตัวเล่นเอ็นดูพวกปลาพวกนี้ด้วย ถึงแม้จะเป็นปลาที่มีสติปัญญาเหมือนกับมนุษย์เพราะความผิดพลาดของท่านเองก็เถอะนะ...ท่านก็ยังอดเอ็นดูสัตว์โลกไม่ได้อยู่ดี ก็ขนาดหมาประหลาดสามหัวน่าเกลียดน่ากลัว ท่านยังรักมันเลยนี่นะ...ยังไงดูๆแล้ว ปลาพวกนี้ก็ยังน่ารักกว่าเยอะ...ว่าแต่ว่าไหนๆก็จะเล่นเกมส์สนุกๆกันอยู่แล้ว ก็มาเดิมพันติดปลายนวมกันซัก 5 พันแบ็งค์สวรรค์เอาไหมล่ะท่านพี่ ? จะได้ลุ้นกันสนุกๆหน่อย...ส่วนทางท่านพี่โพไซดอน จะร่วมสนุกด้วยกับข้าอีกคนก็ได้นะ ว่าเจ้าปลาทั้งสามตัว หรือ สามคนนี่จะสามารถไปถึงแหล่งวางไข่ที่ข้ากำหนดได้หรือไม่ ?“
จอมเทพสูงสุดแห่งภูเขาโอลิมปัสหัวเราะร่าอย่างคนอารมณ์ดี และพูดคุยด้วยถ้อยคำที่ดูเหมือนจะเป็นเชิงการท้าทายอยู่บ้างซักเล็กน้อยกับพี่ชายทั้งสองคน ก่อนที่ทั้งสามคนจะมองจ้องกันอยู่ซักครู่หนึ่ง และเทพสูงสุดแห่งยมโลกจะหลับตาลงแล้วมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมาและ หัวเราะเบาๆว่า
“หึ...หึ...” ซูส “ เอ๋ย...ถ้าเจ้าอยากจะเล่นสนุกถึงขนาดนั้น ก็ได้นะ สำหรับข้าน่ะไม่มีปัญหาหรอก ว่าแต่เจ้าล่ะ “โพไซดอน“ จะร่วมสนุกไปกับพวกข้าด้วยไหมล่ะ ?
เทพสูงสุดแห่งยมโลกหันหน้าไปสอบถามน้องชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งน้องชายคนนั้นที่เป็น “เทพแห่งผืนน้ำและมหาสมุทร “ของโลกใบนี้ ก็ส่ายหน้าเบาๆ เป็นเชิงปฏิเสธ พลางทำสีหน้าที่ออกแนวละเหี่ยใจ ก่อนที่จะพูดว่า
“ไม่ล่ะ...ท่านพี่ พอดีช่วงนี้เงินข้าโดนบรรดาเมียๆข้ายึดไปเกือบหมด เหลือพอใช้ให้ข้าไปหาของกินนิดๆหน่อยๆเท่านั้นเอง นี่ดีเท่าไหร่แล้ว ที่ข้าไม่ต้องจับปลาในทะเลของข้ากินน่ะ เฮ้อ...ดังนั้นงานนี้ข้าขอมองดูอยู่เฉยๆก็แล้วกันนะ“
ชายผู้มีผมสีทอง จึงพูดขึ้นมาด้วยความละเหี่ยใจกับชายผู้เป็นเจ้าแห่งมหาสมุทรว่า
“ข้าก็บอกท่านพี่แล้วว่ายังไงน่ะ ให้ผู้ชายอย่างเรานั้นเป็นคนเก็บเงินเอาไว้ก่อน อย่าเอาไปให้บรรดาเมียๆเก็บหมด ไอ้ตอนที่รักกันใหม่ๆ อ่ะ ชี้นกเป็นไม้ ชี้ไม้เป็นนกไปหมดแหล่ะ เขาขออะไรมาก็ให้ แล้วเป็นยังไงล่ะ อดอยากลำบากแทบจะต้องไปจับปลาในทะเลตัวเองมากินกันใช่ไหมล่ะ...เฮ้อ...รู้ไปถึงไหนก็อายถึงนั่น เสียชื่อหนึ่งในบรรดาเทพสูงสุดของโอลิมปัสหมด...เฮ้อ...“
ชายผู้ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งมหาสมุทรจึงได้ปรายตามามองยังน้องชายตัวแสบของตน ก่อนจะพูดขึ้นมาเบาๆว่า
“ฮึ...พูดซะดูดีเชียว เจ้าเองก็ให้ “ เฮรา“ เขาเป็นคนเก็บเงินเหมือนกันไม่ใช่เหรอ แหม ทำมาเป็นพูดดี ลำพังจะหาเงินมาให้เมียๆ กว่า 20 คนของเจ้าใช้ไปรายเดือนเจ้าก็แทบจะกระอักเลือดแล้ว ยังจะมาทำเท่ห์อีก...เฮอะ...ขยันหาเมียเข้าไป ทั้งเมียคน เมียเทพบางวันหาไม่ได้ ก็ล่อสัตว์โลกเข้าก็ยังมี เมียที่พอนับตัวตนได้ก็เยอะ จนเลี้ยงแทบจะไม่ไหวแล้วก็ยังจะขยันสรรหาเมียมาเพิ่มอยู่เรื่อย...เจ้าน่ะลำบากกว่าข้าอีกไม่ใช่เหรอ ข้ายังได้เห็นเจ้าไหว้บรรดาเมียๆของเจ้าประหล่กๆแล้วยังจะทำมาพูดดี พูดจาสั่งสอนพวกข้าอีก“
เมื่อได้ฟังคำพูดจากปากของพี่ชายตัวเองดังนั้น เทพผู้เป็นใหญ่แห่งภูเขาโอลิมปัส ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะล้วงลงไปในเสื้อชูนิ้วที่คีบแบ็งค์ที่มีรูปภูเขาโอลิมปัสที่หลายๆคนเรียกกันว่า “แบ็งค์สวรรค์“ ออกมาโชว์ให้พี่ชายทั้งสองคนได้เห็นกันอย่างชัดเจนหลายใบอยู่เหมือนกัน
“เห็นนี่ไหมท่านพี่...การที่ข้ามอบเงินให้ “เฮรา“ และ บรรดา “เมียๆ“ ของข้าได้ไปนั้น ที่จริงแล้วมันคือกลยุทธประเภทหนึ่ง ที่จริงแล้วเงินที่ข้าให้ไปนั้นก็เป็นแค่ส่วนเดียวเท่านั้น รายได้อีกมากมายนั้น ข้าได้แอบเก็บซ่อนเอาไว้ใช้จ่ายอยู่ไม่น้อยเลย ถึงแม้ว่าพวกท่านจะเคยเห็นข้านั้นร้องห่มร้องให้อย่างน่าสงสาร แถมต้องไปไหว้ประหล่กๆ กราบไหว้เหล่าเมียๆทั้งหลาย แบบแทบจะคลานไปกราบถึงเท้า ประมาณว่าขอให้ข้าได้มีเงินใช้บ้างเถิด อย่าเอาเงินข้ากันไปหมดเลย อันนั้นเค้าเรียกว่าเป็นการแสดงละครที่แนบเนียนสุดๆ แสดงให้ดูน่าสงสาร ระดับตีบทแตกชนิดที่ มนุษย์บนพื้นพิภพด้านล่างเขาจะเรียกกันว่า “ตีบทแตก ระดับได้รางวัลตุ๊กตาทอง“ นั่นแหล่ะนะ พวกท่านอย่าได้เข้าใจผิดไปว่าข้านั้นยอมบรรดาเมียๆข้านะ ข้าเพียงแต่ “เกรงใจ “ พวกนางเท่านั้นเอง ไอ้เรื่อง “กลัว“ หรืออะไรแบบนั้น คนอย่างข้าไม่มีเสียหรอกที่จะมาคิดกลัวอะไรเมียๆของข้าน่ะ มันเรื่องไร้สาระทั้งเพ คนมันเห็นแต่ภายนอกก็พลอยพูดจาว่ากันไปเรื่อยเปื่อยไปแบบนั้นแค่นั้นเองแหล่ะ...“
เมื่อปลาทั้งสามตัว พอได้ยินเทพซูสพูดออกมาดังนั้น ต่างก็ว่ายน้ำประคองตัวและมองหน้ากันไปมา โดยปลาแซลมอนสองตัวที่ก็คือสองสาว “แววดาว“ กับ “แสงเดือน“ ต่างก็มองหน้าของปลาแซลมอนที่เป็นชายหนุ่มอย่าง “สายชล“ ว่าจะมีอากัปกริยาอะไรบ้าง เหมือนอยากจะรู้ว่าจะออกทรงเป็นเหมือนกับ “ซูส“ หรือไม่หากในอนาคตได้เกิดใหม่มาใช้ชีวิตร่วมกันจริงๆ ซึ่งชายหนุ่มในร่างของปลาแซลมอน เมื่อเห็นสองสาวปลาแซลมอนนั้นเหล่ตามาดูตัวเอง เขาก็รู้สึกเป็นครั้งแรกตั้งแต่ลงมาเกิดเป็นปลาแซลมอน ว่าโชคดีแล้วที่ตอนนี้เป็นปลาแซลมอนอยู่ เพราะว่าปลามันกระพริบตาไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคงต้องหลบตากันจ้าละหวั่นและคงมีพิรุธไปไม่น้อยเหมือนกัน แต่ตอนนี้เขาเป็นปลาอยู่ ก็เลย “เก็บอาการได้เนียนกริ๊บ“
ชายหนุ่มในร่างของปลาเลยทำแค่กรอกตาไปมานิดๆหน่อยๆ ทำปากพะงาบๆไปตามปกติของปลาทั่วๆไปแค่นั้นเอง ทำตัวเหมือนไม่รู้ว่า สองสาวที่มองมาคิดอะไรอยู่ แต่ในใจก็คิดไปว่าขนาดเทพที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ยังไม่รอด สภาพอเน็จอนาถ ต้องซุกตังค์เมียกันหัวซุกหัวซุน แล้วถ้าตัวของเขาเองมีเมีย ยิ่งถ้าเป็นสองคนนี่ที่ดูจะฉลาดเป็นกรดในเรื่องแบบนี้จะได้มีโอกาศมีอิสรภาพทางการเงินได้กับเค้าบ้างหรือเปล่าเนี่ย... สิ้นเดือนจะถูกเรียกเก็บตังค์เข้ากองกลางของบ้านหมดเกลี้ยงหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย ซึ่งชายหนุ่มได้แต่คิดในใจ แต่ไม่ได้แสดงออกอะไรมากกว่า พุ่งไปงับ “กุ้งเคย“ ฝูงหนึ่งที่เผลอว่ายมาใกล้เขากินไปด้วยความหิวเป็นอาหารว่าง และจะได้ทำเป็นเนียนๆไปในเรื่องนี้ไปด้วยในตัวอีกด้วยโดยไม่ต้องตอบคำถามของสองสาวและจะได้ไม่แสดงอาการมีพิรุธนั่นเอง
