สายชล วิญญาณบาปที่กำลังจะชดใช้กรรมหมดใกล้จะได้มาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว พร้อมกับเพื่อนสาวแสนน่ารักอีกสองคน แต่ด้วยเรื่องไม่คาดฝันบางอย่าง ที่ทำให้เกิดความปั่นป่วนในนรกภูมิจนถึงขั้นวอดวาย ภาษาบ้านๆ ก็เรียกกันว่า เรือ (Ship) หายกันไปเป็นแถบๆ ทำให้แทนที่เขาและเพื่อนสาวอีกสองคนจะได้ไปเกิดเป็นมนุษย์ กลับต้องไปเกิดเป็นปลาแซลมอนแทนซะอย่างนั้น อิหยังฟระเนี่ย!!! เรื่องราวครั้งนี้ ทำเอาปั่นป่วนวุ่นวายกันไปหมดทั้งสามโลก ทั้งเทพ ทั้งคนทั้งมนุษย์ ทั้งนกอินทรีย์ ยันหมีกริซลี่ วุ่นวายอีรุงตุงนังกันไปหมด เรื่องราวนี

เกิดใหม่ทั้งที ทำไมตรูกลายเป็นปลาแซลมอน - 8 อินทรีย์ยักษ์สีทอง โดย เหมียวกุ่ย @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ตลก,แฟนตาซี,ผจญภัย,เกิดใหม่,ไทย,พล็อตสร้างกระแส,แฟนตาซี,ผจญภัย,ตลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เกิดใหม่ทั้งที ทำไมตรูกลายเป็นปลาแซลมอน

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ตลก,แฟนตาซี,ผจญภัย,เกิดใหม่,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,แฟนตาซี,ผจญภัย,ตลก

รายละเอียด

เกิดใหม่ทั้งที ทำไมตรูกลายเป็นปลาแซลมอน โดย เหมียวกุ่ย @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

สายชล วิญญาณบาปที่กำลังจะชดใช้กรรมหมดใกล้จะได้มาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว พร้อมกับเพื่อนสาวแสนน่ารักอีกสองคน แต่ด้วยเรื่องไม่คาดฝันบางอย่าง ที่ทำให้เกิดความปั่นป่วนในนรกภูมิจนถึงขั้นวอดวาย ภาษาบ้านๆ ก็เรียกกันว่า เรือ (Ship) หายกันไปเป็นแถบๆ ทำให้แทนที่เขาและเพื่อนสาวอีกสองคนจะได้ไปเกิดเป็นมนุษย์ กลับต้องไปเกิดเป็นปลาแซลมอนแทนซะอย่างนั้น อิหยังฟระเนี่ย!!! เรื่องราวครั้งนี้ ทำเอาปั่นป่วนวุ่นวายกันไปหมดทั้งสามโลก ทั้งเทพ ทั้งคนทั้งมนุษย์ ทั้งนกอินทรีย์ ยันหมีกริซลี่ วุ่นวายอีรุงตุงนังกันไปหมด เรื่องราวนี

ผู้แต่ง

เหมียวกุ่ย

เรื่องย่อ

สายชล วิญญาณบาปที่กำลังจะชดใช้กรรมหมดใกล้จะได้มาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว พร้อมกับเพื่อนสาวแสนน่ารักอีกสองคน แต่ด้วยเรื่องไม่คาดฝันบางอย่าง ที่ทำให้เกิดความปั่นป่วนในนรกภูมิจนถึงขั้นวอดวาย ภาษาบ้านๆ ก็เรียกกันว่า เรือ (Ship) หายกันไปเป็นแถบๆ ทำให้แทนที่เขาและเพื่อนสาวอีกสองคนจะได้ไปเกิดเป็นมนุษย์ กลับต้องไปเกิดเป็นปลาแซลมอนแทนซะอย่างนั้น อิหยังฟระเนี่ย!!! เรื่องราวครั้งนี้ ทำเอาปั่นป่วนวุ่นวายกันไปหมดทั้งสามโลก ทั้งเทพ ทั้งคนทั้งมนุษย์ ทั้งนกอินทรีย์ ยันหมีกริซลี่ วุ่นวายอีรุงตุงนังกันไปหมด เรื่องราวนี้จะเป็นยังไง จะจบลงที่ตรงไหน ขอเชิญติดตามเรื่องราวแสนฮาเฮโบ๊ะบ๊ะเรื่องนี้กันได้เลยจ้า

สารบัญ

เกิดใหม่ทั้งที ทำไมตรูกลายเป็นปลาแซลมอน-1 นรกขุมที่ 3 ของเหล่าคนบาป,เกิดใหม่ทั้งที ทำไมตรูกลายเป็นปลาแซลมอน-2 แขกผู้มาเยือนจากอีกฟากฝั่งของพิภพยมโลก,เกิดใหม่ทั้งที ทำไมตรูกลายเป็นปลาแซลมอน-3 สามผู้ยิ่งใหญ่แห่งยมโลก,เกิดใหม่ทั้งที ทำไมตรูกลายเป็นปลาแซลมอน-4 เหตุปั่นป่วนที่นรกขุมที่สาม,เกิดใหม่ทั้งที ทำไมตรูกลายเป็นปลาแซลมอน-5 สู่การก่อกำเนิด,เกิดใหม่ทั้งที ทำไมตรูกลายเป็นปลาแซลมอน-6 ชีวิตที่มีหางและมีครีบ,เกิดใหม่ทั้งที ทำไมตรูกลายเป็นปลาแซลมอน-7 เกมส์เดิมพันชีวิต,เกิดใหม่ทั้งที ทำไมตรูกลายเป็นปลาแซลมอน-8 อินทรีย์ยักษ์สีทอง,เกิดใหม่ทั้งที ทำไมตรูกลายเป็นปลาแซลมอน-9 เหตุการณ์ที่พลิกผัน,เกิดใหม่ทั้งที ทำไมตรูกลายเป็นปลาแซลมอน-10 สัญญาใจของทั้งสามเทพ,เกิดใหม่ทั้งที ทำไมตรูกลายเป็นปลาแซลมอน-11 อุปสรรคครั้งใหญ่,เกิดใหม่ทั้งที ทำไมตรูกลายเป็นปลาแซลมอน-12 พลังมหัศจรรย์,เกิดใหม่ทั้งที ทำไมตรูกลายเป็นปลาแซลมอน-13 เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป

เนื้อหา

8 อินทรีย์ยักษ์สีทอง

ลำแสงสีออกเหลืองนวลเป็นเส้นสายพุ่งทะยานออกไปเป็นแนวเส้นทะแยงหลากหลายไปเหนือสายน้ำ สิ่งนี่คือเส้นทางแห่งแสงที่เทพ “ ซูส “ ได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเหมือนเครื่องชี้ทางให้ปลาแซลมอนทั้งสามตัวเดินทางไปนั่นเอง ซึ่งเป็นระยะทางที่ไกลสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว โดยเส้นทางแห่งแสงนี้ จะมีเฉพาะปลาทั้งสามตัวเท่านั้นที่จะมองเห็นได้ ซึ่งปลาทั้งสามตัวเมื่อได้เห็นดังนั้นต่างก็รีบว่ายไปรวมกับปลาแซลมอนกลุ่มอื่นๆ ที่กำลังจะว่ายไปในเส้นทางนั้นเช่นเดียวกัน โดยมีปลาหลายร้อยตัวเลยทีเดียวในคราวนี้ที่ร่วมเดินทางไปด้วยกัน

            “เอาล่ะ...ทุกๆอย่างเรียบร้อยแล้วล่ะนะท่านพี่ ที่เหลือเราก็มาคอยดูผลของการแข่งขันเกมส์สนุกๆของเรากันเถอะนะ ว่าเจ้าปลาทั้งสามตัวหรือสามคนในร่างของปลานั่น จะเอาชนะอุปสรรคต่างๆมากมาย เพื่อไปให้ถึงยังจุดหมายบริเวณแอ่งน้ำที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลไป 600 กว่าเมตรที่ข้าตั้งเอาไว้เป็นเป้าหมายได้หรือเปล่า คงได้ลุ้นกันเพลินๆ ไปซักเกือบๆสองอาทิตย์นั่นแหล่ะ ยังไงพวกเทพๆอย่างเราก็มีเวลาเหลือเฟืออยู่แล้วนี่นา มาๆเชิญมานั่งจิบชาอร่อยๆ แล้วมาชมความสนุกของเกมส์นี้ของเรากันดีกว่า...มาๆ“

            ว่าแล้วเทพ “ซูส“ ก็ได้ดีดนิ้วให้บรรดาเทวดาบริวาร นำโต๊ะพร้อมเก้าอี้นั่งสวยหรูมาให้แก่พี่ชายของตนทั้งสองคนได้นั่งชมเกมส์ชีวิตสนุกๆ ที่ตัวเองตั้งกติกาและชวนให้พี่ๆเล่นด้วย แบบกึ่งๆมัดมือชกต่อไป ส่วนพี่ชายทั้งสองคนที่จริงๆแล้วก็ไม่ได้อยากจะร่วมเล่นเกมส์ของชีวิตอะไรแบบนี้เลยตั้งแต่แรก แต่ตกกะไดพลอยโจนมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ อีกทั้งเทพสูงสุดแห่งยมโลกเอง ที่ก็แอบเอ็นดูทั้งสามคน และถ้าเป็นไปได้ว่าทั้งสามคนนี้ชนะการเดิมพัน การที่ทั้งสามคนจะได้เกิดเป็นคู่ชีวิตกันจริงๆก็สามารถจะเกิดได้อย่างแน่นอน เพราะว่าได้รับความร่วมมือจากทั้งสวรรค์และนรกร่วมกันในการระบุชะตาชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบนั่นเอง จึงเป็นการการันตีความแน่นอนถึงชะตาชีวิตที่จะเกิดในอนาคตได้เป็นอย่างดีเลย ส่วนถ้าจะแพ้เต็มที่ก็ไม่ได้เสียหายอะไรมาก ก็แค่ไปเกิดเป็นตัวอะไรก็ได้ซักตัวหนึ่งคั่นเวลาก่อนไปเกิดเป็นมนุษย์ก็เท่านั้นเอง ไม่กี่ปีก็คงได้ไปเกิดใหม่เป็นมนุษย์เหมือนเดิมแล้ว ดูๆแล้วเลยไม่ได้เป็นเรื่องเสียหายอะไรมากมาย มีค่าแก่การลองเดิมพันชีวิตดู ส่วนตัวก็เลยไม่ได้พูดคัดค้านอะไรออกมาตั้งแต่แรกนั่นเอง ปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของปลาทั้ง 3 ตัว หรือชายหนุ่มและหญิงสาวทั้งสามคนจะตัดสินใจเอาตามเจตนารมย์จริงๆของทั้งสามคน  อย่างไรก็ตามทางด้านของ  “ฮาเดส“ เอง ก็ไม่ได้ไว้ใจเจ้าน้องชายตัวแสบนัก ในใจเขาเองก็ยังแอบคิดว่า นี่น่าจะไม่ใช่เกมส์ธรรมดาๆ น่าจะมีลูกเล่นอะไรประหลาดๆมาจากเจ้าน้องชายตัวแสบอยู่ไม่น้อยแน่ๆ จริงอยู่ที่เขาเป็นถึงระดับหนึ่งในมหาเทพสูงสุด สำหรับเรื่องเงินจำนวนประมาณห้าพันแบ็งค์สวรรค์นั้น มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับเขา แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ “ศักดิ์ศรี“ ของความเป็นผู้ชนะที่ลึกๆแล้วเหล่าเทพทั้งหลายต่างก็เป็นบุรุษที่หยิ่งในเรื่องของ“ศักดิ์ศรี“ กันทั้งนั้น ดังนั้นถ้าเป็นไปได้เขาก็ไม่อยากจะเสียท่าให้กับเจ้าน้องชายตัวแสบในการพนันขันต่อครั้งนี้เช่นเดียวกัน

            จากนั้นเทพทั้งสามองค์ก็ได้จ้องมองลงไปยังผืนน้ำเบื้องล่าง ซึ่งก็สามารถมองเห็นปลาสามตัวที่มีออร่าแสงเปล่งออกมามากเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทาง “ซูส“ นั้นได้เป็นคนทำเอาไว้เองเพื่อที่จะทำให้ตนเองและพี่ชายทั้งสองคนได้สังเกตผู้เล่นที่อยู่ใน “เกมส์“ ของตัวเองได้อย่างชัดเจนสบายตาขึ้นนั่นเอง

            “เธอว่าเจ้าเทพผมสีทองๆ ที่ชื่อ “ซูส“ อะไรนั่น เขาจะวางแผนอะไรเอาไว้บ้างหรือเปล่าน่ะ ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเลยเหมือนเจ้าเทพองค์นั้นจะมีลูกเล่นอะไรซํกอย่างหนึ่ง ไม่น่าจะเป็นเกมส์ที่ยุติธรรมอะไรกับทางเราเท่าไหร่หรอก“

            ปลาแซลมอนตัวเมียตัวหนึ่งที่ๆจริงแล้วก็คือ “แสงดาว“นั่นเอง ได้พูดคุยกับปลาแซลมอนตัวผู้ที่อยู่แถวหน้าสุด โดยใช้วิธีการส่งกระแสจิตคุยกันเหมือนดั่งเคย โดยได้คุยกับปลาแซลมอนตัวผู้ที่ซึ่งก็คือ “สายชล“ นั่นเอง ซึ่งขณะนี้ก็ได้เป็นผู้ว่ายนำหน้าฝูงปลาแซลมอนหลายร้อยตัว ที่ต่างก็เป็นปลาที่คุ้นเคยติดตามใกล้ชิดกับพวกเขาสามตัวกันมานาน และทั้งหมดต่างก็กำลังจะว่ายสวนกระแสน้ำไปยังแหล่งน้ำจืดที่ไหลเชี่ยวกรากข้างหน้าโดยพร้อมเพรียงกัน อุปสรรคต่างๆเหมือนจะกำลังเริ่มเกิดขึ้นมาในไม่ช้าแล้ว เมื่อทั้งสามตัวได้สังเกตฝูงนกมากมายที่เหมือนกำลังรอคอยกับการจู่โจมเหล่าปลาแซลมอนที่เริ่มว่ายเข้าสู่น้ำตื้นอย่างพวกตนอยู่ที่เบื้องหน้าไม่ไกลแล้ว และอะไรกันนั่น !!! เจ้านกอินทรีย์สีทองตัวใหญ่ที่เพิ่งบินเข้ามาร่วมวงกับฝูงนกที่มีปริมาณมากมายหลายร้อยตัวนั้น ทำไมมันถึงดูมีขนาดที่แตกต่างจากนกที่กินปลาได้ตัวอื่นๆที่อยู่ในบริเวณนั้นเสียมากมายขนาดนั้น และตอนนี้เจ้านกอินทรีย์สีทองตัวนั้นก็กำลังไล่จับปลาแซลมอนที่ว่ายไปถึงก่อนหน้านี้กินอย่างสนุกสนาน และไม่มีทีท่าว่าจะกินได้อิ่มในเร็วๆนี้เสียด้วย นอกจากนี้มันก็เริ่มที่จะหันหน้ามาจับจ้องยังพวกของ “สายชล“ เสียแล้ว และมันก็กระพือปีกพุ่งมายังพวกของเขาอย่างรวดเร็ว ชนิดที่เรียกได้ว่า พวกเขาจะถอยก็ถอยไม่ทันเสียแล้ว เพราะฝูงปลาแซลมอนที่กำลังเข้าสู่แหล่งน้ำจืด ต่างก็ว่ายตามๆกันมาอย่างหนาแน่นเลยทีเดียว 

            “นั่นมันเจ้า “ปีกทอง“ นกอินทรีย์ยักษ์ของเจ้าไม่ใช่เหรอ “ซูส“ นี่เจ้าเตรียมการเอาไว้ทุกอย่างแล้วใช่ไหมเนี่ย เพื่อจะชนะการเดิมพันครั้งนี้เนี่ย ไม่ค่อยจะเจ้าเล่ห์เลยนะ “ซูส” เอ๋ย...“

             เทพสูงสุดแห่งยมโลกที่ยืนอยู่ด้านหน้าจอมเทพแห่งภูเขาโอลิมปัสพูดขึ้นมาเบาๆ ด้วยน้ำเสียงราบเรียบเหมือนกับว่าตัวของเขาเองไม่ได้สะทกสะท้านว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะแพ้หรือชนะพนันก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่ถ้าใครได้อยู่ทางด้านหน้าของเทพสูงสุดแห่งยมโลกในเวลานั้น ก็จะได้เห็นว่าในแววตานั้นกลับดูแวววาวและแฝงไปด้วยความโกรธเคืองปนเป็นห่วงบรรดาคนที่ตัวเองมีความเมตตาอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว เพียงแต่ออกจะเก็บอาการได้สนิทจนพี่น้องทั้งสองคนนั้นไม่รู้ตัวเลยทีเดียวถึงลักษณะอาการเป็นห่วงเป็นใยที่เกิดขึ้นมาแบบนั้น

            เจ้านกอินทรีย์ยักษ์สีทองบินพุ่งมาที่ปลาแซลมอนทั้งสามตัวอย่างรวดเร็ว พร้อมการโฉบครั้งแรกที่ผ่านผิวน้ำไปแต่มันพลาด !!! เพราะแม้ว่าจะอยู่ในร่างของปลาแซลมอนก็ตาม แต่สมองของทั้งสามตัวนั้นก็คือมันสมองที่มีอยู่ในระดับของมนุษย์ดังนั้น เมื่อได้เห็นว่าจะโดนจู่โจมจากระยะไกลๆ ก็สามารถที่จะมุดลงลงไปในกระแสน้ำหลบไปใต้กองหินได้ อย่างไรก็ตามจากการโจมตีที่รวดเร็วนั้น ก็เป็นการเหลือกำลังที่ปลาทั้งสามตัวจะทำการตอบโต้ใดๆได้แต่ว่ายหนีไปข้างหน้าอย่างแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าไปก่อนเท่านั้น

            “จะว่าไปแล้ว...เจ้าปลาแซลมอนสามตัวนี้นี่ก็เรียกได้ว่าโชคร้ายจริงๆเลยน๊า...เจ้า “ ปีกทอง“ ของข้าเนี่ย ...ถ้ามันจะจ้องเล่นงานเหยื่อตัวใหน มันจะไม่หยุดจนกว่าจะได้เสียด้วยซิ เจ้าพวกนั้นก็ดันเป็นปลาแซลมอนที่ตัวอวบใหญ่น่ากินกว่าเพื่อนเขาอย่างชัดเจนเลยๆ เป็นเป้าหมายของเจ้า “ปีกทอง“ ไปด้วย แหม...ช่างโชคร้ายจริงๆเลยน๊า...งานนี้ข้าไม่ได้เตรียมกง เตรียมการณ์อะไรทั้งนั้นเลยน๊า มันเป็นความบังเอิญที่วันนี้ เจ้า “ปีกทอง“ มันพาฝูงของมันมาหากินแถวนั้นเองจริงๆ ข้าไม่ได้เตรียมการอะไรเลยซักนิดนะท่านพี่ “ฮาเดส“ มันเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ“

            จอมเทพแห่งภูเขาโอลิมปัสลอยหน้าลอยตาพูดหน้าตาราบเรียบ โดยไม่ได้แสดงสีหน้ามีพิรุธแต่ประการใดอย่างไรก็ตาม พี่ชายทั้งสองจะเชื่อหรือไม่นั่นก็อีกเรื่องล่ะนะ ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขานั้น “ไม่เชื่อ“ หรอก แต่ยังรักษาท่าทีเอาไว้เช่นกัน พลางก็คิดว่า เจ้านั่นมี “เล่ห์เหลี่ยม “ ได้ ข้าเองก็มี “เล่ห์เหลี่ยม“ กับเจ้าได้เหมือนกัน รอดูกันต่อไปเถอะ ว่าใครจะได้ “หัวเราะ“ เสียงดังเป็นคนสุดท้ายกันแน่

            เจ้านกอินทรีย์ยักษ์ยังบินไล่ตามจู่โจมพวกของปลาแซลมอนทั้งสามตัวต่อไป โดยปลาทั้งสามตัวนั้นก็ต้องพยายามว่ายซิ๊กแซ๊กไปมา ในระหว่างโขดหินบ้าง และ มีบางจังหวะที่ต้องกระโดดขึ้นมาเหนือน้ำ เพราะจำเป็นต้องกระโดดขึ้นบนลำธารที่เป็นที่สูงขึ้นเรื่อยๆนั่นเอง ซึ่งทุกครั้งที่ปลาทั้งสามตัวกระโดดเหนือน้ำขึ้นมาที เจ้านกอินทรีย์ยักษ์ก็จะพยายามเข้ามาโฉบเฉี่ยวจู่โจมเสียทุกครั้งไป แต่ทั้งสามตัวก็ยังแคล้วคลาดจากการจู่โจมแบบจังๆของเจ้านกยักษ์ขนทองไปได้อยู่ แต่ก็มีบางครั้งที่ถูกโฉบจนได้รับบาดเจ็บที่ผิวหนังบ้างเหมือนกัน

            “ข้างหน้านั้นจะมีดงสาหร่ายหนาแน่นอยู่ พวกท่านจงทำท่าหลอกว่าจะหลบ หรือติดอยู่ในดงนั้นก็ได้ และหลอกให้เจ้านกยักษ์สีทองนั้นทุ่มเทพลังโฉบลงมาโจมตีให้เต็มที่ จากนั้นขอให้ท่านหลบการโจมตีจากมันในครั้งแรกให้พ้นให้ได้ ที่เหลือพวกข้าจะจัดการเอง !!!“

            เสียงที่ไม่คุ้นเคย ดังมาจากปลาแซลมอนที่พวกเขาไม่คุ้นเคยสองตัวที่อยู่ดีๆ ก็สามารถว่ายเข้ามาประชิดกับพวกเขาทั้งสามตัวได้อย่างไม่น่าเชื่อและถึงแม้ว่าพวกเขาทั้งสามจะไม่คุ้นเคยกับปลาแซลมอนสองตัวนี้มาก่อน แต่ในเวลาที่คับขันแบบนี้นั้น พวกเขาก็เลือกจะเชื่อถือในสิ่งที่พวกนั้นสื่อสารออกมาอย่างสนิทใจ โดยทาง “สายชล“ นั้นตัดสินใจว่าจะเป็นคนที่หลอกล่อเจ้านกยักษ์ด้วยตัวเอง แล้วให้สองสาวปลาแซลมอนนั้นรีบมุดดงสาหร่ายหนีไปให้ไกลมากที่สุด

            “รักษาเนื้อรักษาตัวด้วยนะคะ...เจ้านกยักษ์สีทองนั้นมันประมาทไม่ได้เลยจริงๆ“

“ขอให้แผนนี้สำเร็จนะคะ...”

               ปลาแซลมอนทั้งสามตัวที่ๆจริงแล้วต่างก็เป็นปลาแต่ตัวเท่านั้น แต่มีจิตใจและความคิดเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์แบบ ต่างก็ใช้เวลาเพียงชั่วไม่กี่วินาทีว่ายมาสัมผัสตัวกันทั้ง 3 ตัวเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและความเชื่อมั่นในตัวของกันและกัน เพราะว่าเป็นเวลาหลายขวบปีเหลือเกินที่พวกเขาได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันในสภาพสัตว์เดรัจฉานที่มีแต่ความยากลำบากชีวิตนั้นสามารถที่จะตายวันตายพรุ่งได้ทุกวินาทีที่เกิดความประมาท ทั้งยังต้องหลบซ่อนตัวจากสารพัดนักล่าต่างๆทั้งในน้ำจืดและน้ำทะเลรวมทั้งบนท้องฟ้าอีกด้วย และด้วยเวลาที่ผ่านความเป็นความตายมายาวนานนั้นก็ทำให้หัวใจของทั้งสามคนที่ผ่านความยากลำบากมานานับประการนั้นได้หลอมรวมผูกพันกัน จนเสมือนกับว่ากลายเป็นคนๆเดียวกันเสียแล้ว

            หลังจากนั้น “สายชล“ ที่อยู่ในร่างของปลาแซลมอนตัวใหญ่ ก็แกล้งพุ่งเข้าไปว่ายๆติดขัด ทำท่าเหมือนจะเกิดอาการเจ็บหนักจากการโจมตีของเจ้านกอินทรีย์ยักษ์ หรือเผลอไปเกยตื้นอยู่ที่บริเวณดงสาหร่าย แต่ที่จริงแล้วคือเป็นแผนหลอกเจ้านกอินทรีย์ยักษ์ ให้พุ่งตรงมาที่ร่างของตัวเองอย่างเต็มที่ โดยการที่เขาแสร้งนอนตะแคงข้าง ก็เพื่อให้สายตาของเขาที่ตอนนี้ที่เป็นปลาที่มีดวงตากลมใหญ่นั้น สามารถมอบจับจ้องการเคลื่อนไหวของเจ้านกยักษ์ได้อย่างเต็มที่นั่นเอง

            “ฮ่าๆ รู้สึกเหมือนคราวนี้เหมือนข้าจะชนะพนันคราวนี้กับท่านพี่เสียแล้วล่ะนะ เจ้าปลาตัวผู้ หรือ เจ้าหนุ่มนั่นดูจะไปไม่ไหวแล้ว การจู่โจมของเจ้า “ ปีกทอง“ คงทำให้เจ้านั่นบาดเจ็บมากเลยซินะ เอาล่ะ เดี๋ยวข้าจะลองนึกๆดูนะ ว่าจะให้เจ้าพวกนั้นไปเกิดใหม่เป็นตัวอะไรดี แต่ถ้าท่านพี่ยอม “ค้อมหัว“ ให้ข้าซักครั้ง ไม่แน่ข้าอาจจะเปลี่ยนใจเมตตา ไม่ส่งพวกนั้นไปเกิดใหม่เป็นตัวอะไรอย่างที่ข้าอยากให้เป็นก็ได้นะ แต่เรื่องที่ปล่อยให้ไปเกิดเป็นมนุษย์ตามบุญตามกรรมแล้วพวกนั้นอาจจะไม่ได้เจอกันอีกเลย ก็ต้องปล่อยไปตามนั้นนะ ข้าขี้เกียจไปเช็คฐานข้อมูล ถ้าไม่ใช่ก็ต้องไปเขียนโปรแกรมแก้ชะตาชีวิตให้อีก เขียนทีปวดหัวไปหลายวันไม่เอาอ่ะแบบนั้น“

             ซึ่งทางเทพ “ฮาเดส“ เมื่อได้ฟังดังนั้นแล้ว ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไร นอกจากยิ้มออกมานิดๆ ก่อนที่จะพูดออกมาเบาๆว่า

           “ฮึ...มันก็ไม่แน่หรอกนะ “ซูส“ เอ๋ย...เกมส์อาจจะยังไม่จบก็ได้ เจ้าเองก็อย่าเพิ่งหลงดีใจไปก่อนเลย ยังไม่ถึงเวลาที่ข้าจะต้องต้องควักเงินออกมาจ่ายค่าเดิมพันให้กับเจ้าในตอนนี้หรอกน่า ยังไม่ใกล้เคียงอะไรขนาดนั้น...“

             ว่าพลางเทพสูงสุดแห่งยมโลกที่เหมือนสังเกตเห็นอะไรซักอย่างหนึ่งที่ด้านล่าง ก็เหลือบตาไปมองน้องชายอีกคนผู้เป็นเทพแห่งท้องทะเลที่ตอนนี้กำลังนั่งชงชา “อู่หลง“ กินพลางนั่งมองวิวทิวทัศน์ของท้องทะเลรอบๆตัวอยู่อย่างสบายใจ พลางผิวปากเบาๆ เหมือนไม่ได้สนใจว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในตอนนี้กับเขาหรอก แล้วเทพสูงสุดแห่งยมโลกก็แอบยิ้มขึ้นมาที่มุมปากเบาๆ 

             ก่อนที่จะพูดพึมพำขึ้นมาเหมือนกับว่าไม่อยากจะให้ใครได้ยินสิ่งที่ตนพูดโดยเฉพาะเจ้าน้องชายผมสีทองตัวแสบ แต่ตนเองก็เชื่ออยู่ว่า “เทพแห่งมหาสมุทรและท้องทะเล“ น้องชายอีกคนหนึ่งของตนเองนั้นกำลังรับฟังสิ่งที่ตัวเองกำลังจะพูดแบบตั้งใจจะฟังอย่างเต็มที่เลยทีเดียว

            “ข้าจะไม่พูดขอบใจเจ้ามากมายหรอกนะ ไอ้น้องชาย แต่ข้าขอบอกว่ายินดีสำหรับความช่วยเหลือในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง “

             และหลังจากพูดเสร็จแล้วก็เหลือบมองไปยัง “เทพแห่งมหาสมุทรและท้องทะเล“ อีกครั้ง แล้วก็ได้เห็นอีกฝ่ายยกชา “อู่หลง“ ขึ้นซดแบบเต็มๆคำ พลางพูดขึ้นมาลอยๆ แบบสบายใจยิ่งนักว่า

            “แหม ... มันชื่นใจจริงๆ ไม่ว่าจะ “ชาอู่หลง“ ที่กินแล้วแสนจะอร่อย หรือ คำพูดขอบใจงามๆ ทั้งสองอย่างนี้...จะว่าไปแล้วมันช่างเป็นเรื่องที่ดีไม่แพ้กันเลยน๊า...“

                ทางฝ่าย “ซูส“ พอได้ยินพี่ชายอีกคนพูดพึมพำอะไรออกมาซักอย่างหนึ่งที่เขาจับความไม่ได้ศัพท์ เพราะตัวเองไม่ได้ตั้งใจจะฟังมาตั้งแต่แรก แต่ที่แน่ๆ คือพอตัวของเขาเองนั้นได้เห็นพี่ชายนั่งกินชาอู่หลงอร่อยๆแบบสบายใจเฉิบอยู่คนเดียวแบบนั้น ก็ถือโอกาศมาขอนั่งกินชากับเขาด้วย แถมพอเห็นมีคุ๊กกี้ที่น่าเอร็ดอร่อยมาวางเป็นคู่เคียงด้วย ยิ่งติดลมนั่งกินอยู่นาน เพราะความสบายใจว่า ยังไงเสียเดี๋ยวก็จะชนะอยู่แล้ว จะเดินมาหยิบชาหยิบขนมมากินเสียหน่อย นั่งพักซักนิด แล้วค่อยเดินกลับไปดูผลแบบผู้ชนะก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร 

      แต่หลังจากที่จอมเทพแห่งเขาโอลิมปัสทำสิ่งที่ว่านี่เรียบร้อยแล้ว และเดินกลับมาที่จุดเดิมเพื่อส่องลงไปมองภาพด้านล่างของโลกมนุษย์อีกครั้งด้วยความสบายใจว่า จะได้เห็นภาพแห่งชัยชนะที่ปลาแซลมอนจะถูกนกอินทรีย์ยักษ์ของเขาจับกินนั้น แต่เหตุการณ์กลับกลายเป็นตรงกันข้ามกับที่ตัวเองต้องการไปเสียแล้วซึ่งทำเอาเขาตกใจจนแทบจะสำลักเอาชาแสนอร่อยที่เขากำลังอมเอาไว้ในปากให้พุ่งพรวดออกมาเป็นฝอยๆกันเลยทีเดียว !!!