เรื่องราวของเธอและเขา สองมาเฟีย สองตระกูล รู้จักกันทางธุรกิจ ความรักที่จู่ๆก็เกิดขึ้นท่ามกลางเรื่องราวต่างๆ ที่จะต้องเผชิญร่วมกัน
รัก,ชาย-หญิง,ดราม่า,อาชญากรรม,ยุคปัจจุบัน,โรแมนติก ,โรมานซ์,มาเฟีย,ดราม่า,โรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เช้าวันรุ่งขึ้น
Past Eric
เช้านี้คงเป็นเช้าที่สดใสที่สุดอีกวันของผมเพราะเมื่อคืนนี้เป็นคืนที่น่าจะจำที่สุด เมื่อคิดได้แบบนั้นก็ขอออกไปหายัยนิ่งสักหน่อย งานการไม่ต้องทำมันละไปหาสาวดีกว่าเยอะ
ภายในรถหรู
“นายจะไปไหนครับนาย”ไอปาร์คที่จู่ๆก็ถามขึ้นเพราะเห็นการแต่งตัวที่ผิดสังเกตุ
“ไปหาคุณเอเรเน่”
“ไปทำไมครับนาย”
“เอ้า! ไปหาก็คือไปหาเพราะอยากเจอไง”
“แต่นายต้องไปทำงานนะครับ วันนี้มีประชุมการตลาดด้วยนะครับ”
“กูจะไปแล้วจะทำไม”อีริคเริ่มหัวเสียเพราะอีกฝ่ายยังถามไม่หยุด
“แต่ว่านาย…”
“นี่!ถ้ามึงรีบ ไม่พอใจกูก็ไปไกลๆเลยไป”
“เออ เปล่าครับนาย ผมไม่กล้า”ปาร์คต้องรีบตอบเพราะกลัวอีกฝ่ายจะโมโหไปมากกว่านี้
“งั้น..”อีริคทำเสียงยาว ให้น่าสงสัย
“อะไรหลอครับ”
“มึงก็ไปประชุมแทนกูไง”
เอี๊ยดดดด
“โอ้ย รับรถอะไรของมึงเนี่ยไอปาร์ค ไอ้นี่”อีริคพูดขึ้นอย่างโมโหกับการขับรถของมือขวา
“นายว่าไงนะครับ เมื่อกี้นายย..”
“ก็ให้ไปประชุมแทนไง”
“โถ่ นายครับ นายก็รู้ว่าผมไม่ชอบงานแบบนี้ ต้องนั่งฟังอะไรไม่รู้เป็นชั่วโมงๆ ผมตายพอดี”ปาร์คทำเสียงโอดโอยไปกับสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบที่สุดอย่างการเข้าร่วมประชุมอย่างเป็นทางการแบบนี้
“มึงอย่าทำเป็นโอดโอยไปหน่อยเลย กูนั่งนานมากกว่ามึงอีก”
“แต่นายครับ”
“…”อีริคไม่พูดแต่ส่งสายตาพิคาดไปให้แทน
“อึก ก็ได้ครับ”ปาร์คตอบอย่างจำยอมอย่างเลี่ยงไม่ได้
“หึ ดี”
“…”ดีบ้าดีบออะไรกันครับนาย ดีแต่นายคนเดียวน่ะสิ แต่ประโยคนี้ไม่ได้พูดออกไปหรอกนะ ไม่งั้นคอขาดแน่ นายนะนายทำกันได้ลงคอ
โกดังท่าเรือตอนใต้ซิซิลี
ตอนนี้ถึงท่าเรือที่เป็นที่ทำงานชั่วคราวของคุณเอเรเน่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะยังมีกลิ่นคาวเลือดอยู่ไหมเพราะตัวเขาเองไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย พอได้กลิ่นแล้วจะอ้วกให้ได้ตลอดเวลา
“เห้ยย เอาว่ะ เข้าก็เข้า ฮึบ”
ตึก ตึก ตึก
ตอนนี้อยู่ด้านในแล้ว แต่ว่ากลิ่นนี่สิ คือแบบ
“ซี๊ดดดดด”เสียงสูดดมดังขึ้นเมื่อได้กลิ่นแปลกๆ แต่แปลกที่ว่ามันไม่เหมือนคราวก่อนนะแต่
“หอมสัสเลย ไม่มีกลิ่นคาว เป็นไปได้ไงว่ะ!”เพราะใช่ว่ากลิ่นคาวพวกนั้นก็ไม่เคยได้กลิ่นมาก่อนแต่หลังจากทำความสะอาดมันก็ยังมีกลิ่นอ่อนๆอยู่ แต่นี่อะไรไม่มีกลิ่นแถมยังหอมมากด้วย เมียทำได้ดีๆแต่เอ๊ะ เขาเป็นเมียกูตอนไหนวะ ช่างมันไปหาว่าที่เมียในอนาคตดีกว่า ว่าแต่อยู่ห้องไหนน้าาา
“เมีย เมีย เมีย”เสียงพึมพำของอีริคเมื่อเดินไปหาเอเรเน่ตามห้องตามๆของโกดังที่มีอยู่ไม่กี่ห้อง
“ห้องนี้ไม่มี ห้องนี้ก็ล็อก กูมาเสียเปล่าเนี่ย ตะโกนเลยไหม”เมื่อคิดได้ดังนี้ก็ตะโกนออกมาทันที
“เมียคร้าบบบ! คุณเอเรเน่อยู่ไหนนน!”
ตึกตึกตึกตึก
เสียงวิ่งหลายๆท้าวดังขึ้น เข้ามาใกล้ๆ
พรึ่บ
จากนั้นก็มีชายเสื้อดำกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้นข้าวหน้าแล้วยกปืนขึ้นจ่อ แต่อีริคหาสนใจต่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายคือใคร
“เห้ย นายหญิงพวกมึงอยู่ไหนวะ พากูไปเจอดิ”
“…”
“เห้น ได้ยินที่กูพูดอยู่ไหนเนี่ย ถามว่าอยู่ไหน”
“…”
“อะไรว่ะ กูคุยกับเสาอยู่หรือไงเนี่ย แม่ง”
“…”
“ไม่คิดจะตอบหน่อยหรือไง ห้ะ”เมื่ออีกฝ่ายปล่อยให้อีริคพูดอยู่คนเดียวนั้น อีริคก็เริ่มทนไม่ไหวขึ้นมาเลื่อยๆจึงเดินเข้าไปใกล้ๆอีกฝ่าย
“ปัง”เสียงปืนหนึ่งนัดยิงไม่ที่พื้นใกล้ๆท้าวเพื่อเป็นการเตือน
“เห้ย!!อะไรว่ะ กูก็ถามดีๆดันมายิงปืนใส่กันแบบนี้อีก เดี๋ยวพวกมึงโดนกูแน่มึง”เมื่อพูดจบก็เดิมเข้าไปใกล้ๆอีกก้าว
“ดัง”แต่เสียงปืนนี้ไม่ใช่เสียงจากกลุ่มชายชุดดำ แต่เป็นเสียงปืนจากเลนลูกน้องมือขวาของเอเรเน่ เมื่ออีริคเห็นแบบนั้นก็เปลี่ยนเป้าหมายเดินไปหาเลยแทนทันที
“สวัสดีครับคุณอีริค”
“เออๆหวัดดีๆ”
“ผมขอโทษแทนลูกน้องผมด้วยนะครับที่เสียมารยาท เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”เลนเอ่ยเมื่อกลับมาจากข้างนอกก็ต้องมาเห็นเรื่องอะไรแบบนี้ แต่ก็ไม่แปลกใจเพราะพวกนั้นคือพวกที่ทำงานข้างนอกซะส่วนใหญ่ไม่ค่อยอยู่ประจำการให้เห็นหน้าค่าตา
“อ้อ ไม่เป็นไรๆ แล้วคุณเอเรเน่ละ อยู่ไหนไม่เห็นอยู่นี่เลย กูมาเสียเที่ยวป่ะเนี่ย”อีริครีบถามเพราะตั้งแต่มาถึงก็ไม่เห็นสาวคนเดียวของแก๊งนี้เลย
“อ้อไม่เสียหรอกครับเพราะพวกผมพึ่งกลับมาจากข้างนอกครับ”
“อ้อ แล้วอยู่ไหนละ”
“เห่ย พวกมึงไปพักไป คนนี้แขกสำคัญ”เลนไม่ได้ตอบอีริคแต่หันไปสั่งการกับชายกลุ่มเสื้อดำก่อนจะหันมาพูดกันอีกครั้ง“ทางนี้ครับ นายหญิงอยู่ข้างใน”
“ข้างในไหน”
“ข้างในห้องครับ”
“แต่กูหาหมดแล้วไม่เห็นเห็นเลย มึงอย่ามาหลอกกูน่ะ”
“ผมไม่หลอกหรอกครับ เชิญครับ”
“ไหนว่ะไม่เห็นมาเลย เนี่ยมึงหลอกกู”เมื่อเข้ามาในห้องที่ดูเหมือนว่าจะเป็นห้องทำงานแต่ก็ยังไม่เห็นเจ้าของห้องเลย
“อยู่ในห้องนี้แหละครับ”ป่ะ ก็เห็นๆอยู่ว่าไม่มีทำไมมึงดื้อดึงขนาดนี้เนี่ย กูเริ่มละนะ
“นี่ไอเลนก็เห็นๆอยู่ว่าไม่มีๆจะให้คุณเอเรเน่อยู่ในนี้ได้ไงวะ”
“เออ ก็อยู่นะ”เลนยังพูดไม่จบแต่อีิรคก็พูดขัดขึ้นมาก่อน
“เอ๊ะ !!ไอเลนอะไรของมึงเนี่ย ก็บอกว่าไม่มีๆไงไม่เห็นหรือไงว่ะ หรือมึงอยากโดนได้เดี๋ยวกูจัดให้”
พรึ่บ
มือข้างขวาที่กำลังยกขึ้นมาต่อยหน้าอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว แต่ก็สู้ความเร็วของมือปริศนาที่เข้ามาจับแขนเอาไว้ จึงหันไปดูว่าคนที่จับมือของเข้าไว้นั้นคือใครเมื่อเห็นหน้าก็ต้องผงะ
“เออ คุ คุณเอเรเน่!”
“ใช่ค่ะ ฉันเอง”เมื่อเห็นคนที่เจอแล้วจึงลดมือลงแล้วมาจับกุ่มมือแทน
“คุณมาตั้งแต่ไม่ไหล่ครับเนี่ยผมไม่เห็นรู้เลย”
“ฉันก็อยู่ในห้องนี้ตั้งนานแล้วนะคะ”
“ครับ?”อีริคเอียงคอถามอย่างซื่อๆ
“ฉันเป็นคนให้เลนไปพาคุณขึ้นมาบนห้องนี้เองค่ะ”
“หลอครับ แหะๆ งั้นก็ได้ยินทุกอย่างที่พูดไป หรอครับ”อีริคพูดเสียงเบาก่อนท้ายประโยคจะเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยินแต่เพราะความที่ยืนอยู่ใกล้จึงได้ยินทุกประโยค
“ค่ะ ทุกอย่าง ไม่ว่ายังไงคนที่นี่ก็ไม่ใช่คนของคุณกรุณาอย่างขึ้นเสียงใส่พวกเขาและด่าพวกเขาเด็ดขาด โดยเฉพาะแบบเมื่อกี้ เข้าใจไหมคะ คุณอีริค”ประโยคนี้คงเป็นประโยคที่พูดต่อเนื่องอย่างยาวที่สุดที่เลนได้เคยได้ยินมาเลย เอาผู้ชายทั้งสองคนตรงนี้เงียบเป็นป่าช้าไม่เลย
“เอ่อ คือ ผมไม่เป็นไรครับ นายอย่าดุคุณอีริคเลยครับ ผมเข้าใจคุณอีริคที่โวยวาย”เลนพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ
“แต่คนที่เข้าจะโวยวาย ดุหรือด่าพวกนายได้คือฉันคนเดียวเท่านั้น เข้าใจไหม”เอเรเน่คงจะพูดบอกอีริคมากกว่าจะพูดกับเลน
“เอ่อ ขะ เข้าใจครับ”อีริคพูดขึ้นเมื่อยืนเงียบมานานเพื่อยอมรับกับความผิดที่หญิงสาวไม่ชอบจนต้องโดนดุ
“…”เอเรเน่ไม่ได้ตอบกลับแต่พยักหน้าให้เลนออกห้องไป
ปัง
เสียงปิดประตูดังขึ้นเบาไปอีริคจึงรู้ว่าตอนนี้ในห้องสองต่อสองแล้ว
“เห้อ มีอะไรหรือเปล่าคะ”เอเรเน่พยายามแกะมือเอาอย่างเบาๆที่แกะไม่ออกกับมือที่กุมเอาไว้อย่างแน่น
“…ผมอยากมาหาคุณ”
“มาหาทำไมคะ”
“ก็ เมื่อคืนคุณยอมให้ผมจีบแล้วนี่ ผมก็ต้องมา”
“ไม่จำเป็นต้องมาก็ได้นะคะ”
“…”
“โทรศัพท์ก็มี ทำไมไม่โทรมา เดี๋ยวก็เสียเที่ยวเหมือนคราวนี้”
“โทรได้หลอครับ”อีริคถามด้วยตาเป็นประกาย
“…”
“งั้นคราวหน้าผมจะโทรมาหาคุณ ส่งข้อความหาคุณด้วย แต่คุณต้องรับและตอบผมตลอดนะครับ นะครับ”
“..อืม”
“สัญญาก่อน”พูดก่อนจะชูนิ้วก้อยขึ้นมาข้างหน้า
“…”
“เร็วๆดิครับ สัญญาก่อนนน”
“..เห้ย”เรเน่ถอยหานใจก่อนจะชู้นิ้วเป็นการทำสัญญาทางการกระทำ
“:)แล้วนี่ ออกไปไหนมาหลอ”
“คนมีการมีงานทำ”เรเน่แซวเมื่ออีกฝ่ายทำตัวเหมือนว่าง
“แหมม มีแซว”อีริคทำเสียงล้อเลียน
“ปาร์คละคะ”
“เออ ถามหาทำไมครับ”
“มือขวาคุณนี่”เรเน่ถามเพราะโดยปกติแล้วเจ้านายกับมือขวาจะตัวติดกันเป็นส่วนใหญ่
“ก็ เออ..”อีริคเลิ่กลักเพราะตัวเขานี่แหละที่ไล่ให้ไปทำงานแทน
“ว่าไงคะ”
“คืออ คือว่า ผม ให้มัน ไป ทะทำงานแทนน่ะ”อีริคเอ่ยบอกเสียงเบาเหมือนคนที่ทำอะไรผิดแล้วโดนจับได้
“ทำแทน งานของคุณ?”
“ครับ”
“งานคุณ คุณควรทำไม่ใช่คนอื่นนะ”
“ผมขอโทษษษ ไม่โกรธนะ”
“…”
“นะ นะครับ ผมแค่อยากมาหาคุณนี่ ผมผิดมากหลอ”
“แต่นั่นเป็นงานของคุณนะคะ มันไม่ควร”
“ผมสัญญาว่าผมจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ไม่โกรธผมนะ”
“ฉันไม่ได้โกรธคุณค่ะ”
“จริงนะ”
“ค่ะ”
“แล้วคุณจะทำงานเลยไหม คุณจะทำก็ได้นะผมไม่กวนจะให้กำลังใจอยู่ข้างๆ”
“เห้อ”
“อย่าถอนหายใจบ่อยนักซี่”
“งั่นก็อยู่เฉยๆ เข้าใจไหม”
“ครับ”พูดจบก็ยกมือขึ้นทำมัธยาหัสเหมือนทหาร
จากนั้นอีริคก็นั่งเงียบๆตรงเก้าอี้ตรงข้ามกับที่ที่เอเรเน่นั่งทำงานที่โต๊ะไม่กวนอย่างที่ปากพูดจริงๆจนเวลายาวคล้อยบ่าย
Past erene
ทำงานมาเป็นเวลานานตั้งแต่เช้าจนตอนนี้เวลาบ่ายจนใกล้เย็นก็ยังทำงานอยู่โดยที่ไม่ได้สนใจคนอยู่ร่วมห้องเลยเพราะช่วงนี้มีงานเข้ามาเยอะมากเพราะพวกคนทรยศที่ทิ้งปัญหาไว้ให้แก้ตามหลัง ลูกค้าที่ไม่พอใจในการขนส่งในเวลาที่ล่าช้ากับการผลิตที่ติดขัดจะต้องเคลียร์ให้เร็วที่สุดจึงจะเป็นผลดีต่อตัว การทำเงินและแก๊งเพราะเมื่อมีปัญหาเมื่อไหร่จะส่งผลกระทบกับแก๊งโดยตรง ในช่วงเย็นซากาเพรนโตเซ่ได้นัดเจอกับครีตะแก๊งลูก ที่มีหน้าที่หลักในการผลิตจำพวกสมุนไพรเขียวและแปรรูปทุกรูปแบบ
“นี่ คุณอีริค คุณจำกลับตอนไหนคะ”
“ทำไมหลอครับ รำคาญผมหลอ ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”
“เปล่าค่ะ ช่วงเย็นฉันมีนัด”
“นัด นัดกับใคร!”
“..เพื่อน”เอเรเน่เงยหน้าสบตาอีกฝ่ายก่อนจะก้มหน้าทำงานต่อ
“เพื่อน งั้นนน ผมไปได้ไหม”
“ฉันไปทำงานนะคะ”
“ผมไปเฉยๆก็ได้ ไม่กวน นะครับ”
โรงงานผลิต-ส่งออก
ตอนนี้ถึงเวลานัดพบกันแล้วและเช่นเคยคือมีคนติดสอยห้อยตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำไมถึงพูดยากพูดเย็นแบบนี้นะ
“อ้าว นายหญิงมาแล้วสวัสดีครับ”โจเซฟหน้าแก๊งลูกครีตะ
“อืม สวัสดี”
“แล้วนั้นใครครับ เกาะเป็นเด็กเลย”
“หึ ก็เด็ก”
“ห้ะ อะไร ผมไม่เด็กผมโตกว่าคุณอีก”เอเรเน่ไม่ได้สนใจในสิ่งที่พูดไปแล้วเดินไม่นั่งที่โซฟาแล้วหยิบน้ำสีอำพันที่วางไว้ตรงกลางโต๊ะขึ้นมาดื่น
“แล้วอันเดย์ล่ะ”
“กำลังมาครับ แต่ไม่คิดจะแนะนำให้รู้จักหน่อยหลอคร้าบบบ”
“..นี่ คุณอีริคแก๊งควานโต คุณอีริคนี่โจเซฟอยู่แก๊งลูกครีตะ”
“สวัดดีครับคุณโจเซฟ”
“สวัดดีครับคุณอีริค คุณมาอยู่กับนายหญิงได้ยังไงเนี่ย”
“อ้อ ผมขอตามมาด้วยน่ะครับ”
“ขอตามมา แล้วก็ให้ตามมาด้วยหลอครับ แปลก?”
“ทำไมหลอครับ”
“ก็ปกติแล้วนายหญิง..”
“โจเซฟ”เอเรเน่พูดด้วยน้ำเสียงเข้มพูดรู้ว่าโจเซฟจะพูดอะไรบ้าง แล้วหลังจากนั้นก็พูดคุยกันอยู่เพียงแค่สองคนปล่อยให้เอเรเน่นั่งดื่มไปคนเดียว จนมีคนเดินเข้ามาภายใน
“ไม่นึกว่าจะมีคนอื่นด้วย”อันเดย์เอ่ยขึ้นเมื่อเข้ามาแล้วเจอคนแปลกหน้าที่ก็ไม่แปลกเลยทีเดียว เพราะได้ยินชื่อเสียงอยู่ไม่น้อยแต่ก็ไม่ใช่ศัตรูหรือพันมิตรเพียงอย่างใดก็เท่านั้น
“คุณอีริคนั้นคุณอันเดย์แก๊งเดสเปียดาโดมาเฟียสเปนเพื่อนนายหญิงครับ คุณอันเดย์คงรู้ว่านี่คือใครใช่ไหม”
“อืม”
“ช้า”เสียงเรเน่เอ่ยแทรก
“แหม ถ้ารีบทำไมไม่มาตั้งแต่เมื่อวานละครับ หืออ”
“…”เอเรเน่ไม่ได้ตอบแต่ส่งสายตาพิคาดไปให้แทน
“งั้นเข้าเรื่องเถอะ”
“อืม”
“เอ่อ..”โจเซฟเอ่ยและเบนสายตาไปหาอีริคเพราะเรื่องที่คุยกันนั้นเป็นเรื่องสำคัญ
“งั้นผมออกไปรอข้างนอกดีกว่า พวกคุณจะได้คุยกันได้สะดวก”อีริคจบก็เดินออกไปข้างนอก ภายในห้องจึงเหลือเพียงสามคนเท่านั้น
“ยังไงครับเพื่อน คนนี้ จริงจังหรือยังไง เล่นของใหญ่เลยน้าา”
“ของใหญ่อะไร”
“ก็อำนาจไง คิดว่าไรละ หือ”
“เข้าเรื่องสักทีเถอะ”