เรื่องราวของเธอและเขา สองมาเฟีย สองตระกูล รู้จักกันทางธุรกิจ ความรักที่จู่ๆก็เกิดขึ้นท่ามกลางเรื่องราวต่างๆ ที่จะต้องเผชิญร่วมกัน
รัก,ชาย-หญิง,ดราม่า,อาชญากรรม,ยุคปัจจุบัน,โรแมนติก ,โรมานซ์,มาเฟีย,ดราม่า,โรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
“งั้นเข้าเรื่อง สรุปได้เรื่องว่ายังไงบ้าง เจอตัวหรือยัง”อันเดย์เข้าเรื่องด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปต่างจากเมื่อสักครู่
“ยัง แต่ก็มีอยู่ไม่กี่คน”เอเรเน่พูดตอบ
“ใครวะที่มันมากล้าหยามได้”
“หึ ผู้ดีเก่า”เรเน่เลือกที่จะตอบด้วยเป็นคำใบ้แทนการบอกชื่ออีกฝ่ายโดยตรง
“อ่าาา จะเริ่มเมื่อไหร่บอกด้วยนะ อยากแจมด้วย หึ “อันเดย์พูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์
“หึ”
“เออ แล้วของละยังไง ได้ข่าวว่าเป็นล้านเลยนิ เสียทั้งเงินทั้งเครดิต”
“อืม กูไม่ยอมให้เสียฟรีๆแน่”
“อูยย แบบนี้ต้องโทรตามพวกมันแล้ว”
“เอ่อ นายหญิงครับ แล้วระหว่างนี้ละครับจะเอายังไง”โจเซฟพูดขึ้น หลังจากที่เงียบไปนาน
“ทำตามแผนเดิมไป แล้วก็เพิ่มคนคุ้มกันไปอีก”
“ทำไมละครับ ถ้าทำแบบนั้นพวกมันก็อาจจะย้อนกลับมาทำให้เราเสียหายอีกก็ได้นะครับ”
“ตามน้ำมันไปก่อน อย่าให้รู้ตัวเชียว”
“ผมกลัวว่ามันจะเสียผลประโยชน์ไปมากกว่านี้ ตอนนี้เรากำลังเสียหายหนักเลยนะครับ”
“ไม่ต้องห่วง ฉันเอาคือแน่”กึก เสียงกัดน้ำแข็งด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก
อีกด้านหลังประตู
Past eric
อีริคที่กำลังเอาหูแนบกับประตูใหญ่ที่ตนเสนอตัวเดินออกมาแต่ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรเล็ดรอดออกมาเลย นั่นจึงทำให้รู้ว่าห้องนี้เก็บเสียง หลังจากที่แอบฟังอยู่นานจึงตัดสินใจเดินออกมาสำรวจโรงงานแห่งนี้โดยที่จะรู้ทั่วๆไปคือโรงงานนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นบนสุดคือชั้นสำนักงานและรวมถึงห้องที่พึ่งเดินออกมาด้วย ชั้นสองคือชั้นที่แบ่งเป็นห้องๆที่ไม่มีช่องว่างเลยแต่ถ้าให้เดา คงเป็นห้องที่ต้องใช้ความเงียบ ละเอียดถ้าดูจากที่เขาไปหาประวัติมาน่ะนะ ส่วนชั้นสุดท้ายคือชั้นหนึ่งหรือชั้นล่างคือชั้นการผลิตสินค้าต่างๆ และรวมไปถึงการขนส่งส่งออกไปท่าเรือเพราะที่อิตาลีจะส่งที่ท่าเรือเป็นหลัก ถ้าจะขนส่งทางอื่นต้องขนส่งผ่านบริษัทขนส่งอื่นๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือบริษัทของเขาด้วย ที่มีขนส่งทั้งทางเรือและทางบก
ตอนนี้อีริคเดินไปตามทางโถงเรื่อยๆด้วยทั้งสองข้างทางจะแบ่งเป็นโซนเป็นห้องโดยห้องจะมีกระจกหนาๆที่มองเห็นข้างใน ซึ่งข้างในนั้นมีอุปกรณ์ในการผลิตทั้งชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ เครื่องจักรที่มีความอันตรายสูง ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการควบคุม
“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ”คนทำงานหรือพนักงานที่ทำงานอยู่ในชุดที่ใส่หน้ากากกันแก๊สในชั้นล่างพูดขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายที่เป็นใครไม่รู้ เดินไปเดินมาแต่ให้เดาคงไม่ใช่คนทำงานแน่ๆ เพราะการแต่งกายคงไม่ดูดีราศีจับแน่ ถ้าเป็นคนที่ทำงานข้างบนอาจจะไม่ใช่ เพราะที่นี่ทำงานเป็นรอบ และตรงที่ยืนอยู่จะอนุญาติแค่คนที่ทำงานหรือผู้จัดการเท่านั้นเพราะมันอันตราย
“เอ่อ เปล่า”อีริคพูดจบจึงเดินเลี่ยงกลับไปทางอื่น
“เดี๋ยวก่อน”
“ห้ะ เอ่อ มีอะไร ครับ”อีริคเริ่มพูดด้วยเสียงติดขัด
“คุณเป็นใคร ทำไมถึงมาที่นี่ ไม่รู้หรือไงว่าห้ามเข้า แต่ถ้าเป็นพนักงานใหม่ทำไมผมไม่รู้”
“เอ่อ คือ”
“แขกฉันเอง”อีริคยังพูดไม่จบ เอเรเน่ที่จู่ๆก็มาอยู่ด้านหลังตอนไหนก็ไม่รู้ก็พูดขึ้น
“สวัสดีครับนายหญิง ผมไม่นึกว่าจะมีแขกของนายมาอยู่แถวๆนี้ด้วย ต้องขอโทษที่เสียมารยาทด้วยนะครับ”
“ไม่เป็นไร เพราะคนที่ผิดไม่ใช่นาย”เรเน่พูดกับพนักงานแต่สายตามองไปที่อีริค
“เอ่อ คือ คือว่า”
“ถ้ามีตาสักหน่อยคงมองเห็นป้ายห้ามคนที่ไม่ได้รับอนุญาติให้เข้า”
“…”
“…” ทั้งพนักงาน อีริคและอันเดย์ที่เดินลงมาด้วย เงียบไม่มีใครเอ่ยขึ้น หลังจากที่โดนดุไป
“เห้ยย เรเน่ใจเย็นก่อนดิวะ คุณอีริคอาจจะไม่เห็นก็ได้ไง ใช่ไหมครับ”คุณอันเดย์เป็นผู้กล้าให้กับตัวเขาเอ่ยขึ้น ตอนนี้รู้สึกซึ้งใจมากเลย
“มึงเป็นคนทำป้ายนั้นให้กูแล้วบอกว่าใครไม่เห็นก็ตาบอดไง”อะ อ้าว จบแล้วผู้กล้ากู
“เอ่อ เออ ก็จริง แล่ะ แล้ว ทำไมมึงต้องดุกูด้วยเนี่ย ไปดุผัวมึงเลย”อ้าว ทำไมโยนขี้ให้กันแบบนี้ละคร้าบบ แล้วจะเอาอะไรไปรอดเนี่ย ผิดซ้ำสอง
“หึ”หลังจากที่เถียงกันอยู่นานนั้นเอเรเน่ก็เดินออกไปนอกโรงงานทันที
“อ้าว ไปไหนวะกลับแล้วหลอ ไรว่ะ”
“เอ่อ เขาไปไหนน่ะ”อีริคเอ่ยขึ้นข้างๆอันเดย์
“ไม่รู้ ก็อยู่ด้วยกันเนี่ย”
“..ทำไงดีละ”
“ไม่รู้อะ แล้วทำไมคุณอยู่นี่เนี่ย”คุณอันเดย์เอ่ยขึ้น เมื่อยังเห็นอีริคยังไม่ตามไปอีก
“ครับ?”
“ไม่กลับไง กลับไปแล้วมั้งนั่นน่ะ”
“ห๊าา จริงด้วย”
“ไปสิคร้าบบบ ยืนนิ่งทำไม”
“ครับๆๆ”
“หุ้ยย แต่ละคน อะไรว่ะเนี่ย!”
Past erene
นั่นดิ เป็นอะไรของเราว่ะเนี่ย จู่ๆก็เดือด ปัง หลังจากนั่งคิดกับตัวเองมาสักพักก็ได้ยินเสียงปิดประตูดังขึ้นนั่นจึงทำให้เขาดึงสติกลับมาได้ ตอนนี้ในรถต่างคนต่างเงียบ หลังจากรถขับออกมาได้สักพักอีริคขึ้นเอ่ยขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ
“เอ่อ โกรธหลอครับ”
“…”
“โกรธจริงๆด้วย ทำไงดี”
“…”
“คุณเอเรเน่ โกรธหลอ คือ ผะผม ขอโทษ ผมไม่เห็นจริงๆนะ”
“เห้ยย”
“จริงๆนะ”
“รู้”
“…”
“..มันอันตราย ป้ายก็มีตั้งเยอะ ตาบอดหรือไง”เพราะความหงุดหงิดจึงทำให้บางครั้งก็เพลอพูดคำที่ไม่ดีออกไปบาง
“..เป็นห่วงหลอครับ หืม" หลังจากที่อีริคพูดจบ ทั้งรถก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง
“…”
“หืม ว่าไงครับ”
“เปล่า”
“จริงหรือป่าวน่าา”
“นี่”เอเรเน่จ้องตาอีริคเขม่ง
“เอ่อ แหะ ขอโทษครับ”อีริคกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เบา เมื่อเจอสายตาพิคาด
“ฉันจะไปส่งคุณแล้วกันนะคะ”
“ครับ?ยังโกรธผมอยู่หลอ ผมขอโทษ ผมไม่รู้ ผมไม่เห็นจริงๆนะ ผมขอ..”
“ไม่ได้โกรธ”
“ไม่ได้โกรธ แล้ว?”
“นายมันเซ่อ”
“ครับ? เอ้า คือ ผม”
"..."
"ผมไม่ได้เซ่อซะหน่อย ก็คนมันไม่เห็นนิ ให้ทำยังไงได้ละ"
"งั้นก็ฝากทำป้ายใหญ่ให้ทีนะ"
"ทำทำไมละ?"
"ก็เพื่อคนบางคนจะเห็นบ้าง ไม่ใช่ซนจนเซ่อ"
"คุณว่าผมอีกแล้วน้าาา หึอ"อีริคทำเสียงเง้างอแล้วหันหน้าหนี งอนชัว
"หึ อาทิตย์หน้าฉันไม่ว่างนะ"
"ทำไม"
"ฉันต้องทำงานนะ ไม่ว่างขนาดนั้น"
"ผมไปด้วยย"
"ไม่มีงาน?"
"ก็อยากไปด้วยหนินะ นะ"
"..."
"แล้วว งานอะไรหลอ"
"..ถ่านหิน"เรเน่เงียบอย่างสงสัยก่อนจะตอบกลับไปอีกที