สายสัมพันธ์แห่งสายเลือดและความรักที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง ทำให้ชีวิตของเกรียงต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล ความทรมานนี้มันช่างเจ็บปวดชวนหิวตับเธอ...ซะเหลือเกิน!! นิยายผีไทย สืบสวนสอบสวน ทริลเลอร์ระทึกขวัญ สยองขวัญ
รัก,ระทึกขวัญ,ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,ดราม่า,ดราม่า,พล็อตสร้างกระแส,สืบสวนสอบสวน,ผี,สยองขวัญ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ปอบไอ้เกรียงสายสัมพันธ์แห่งสายเลือดและความรักที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง ทำให้ชีวิตของเกรียงต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล ความทรมานนี้มันช่างเจ็บปวดชวนหิวตับเธอ...ซะเหลือเกิน!! นิยายผีไทย สืบสวนสอบสวน ทริลเลอร์ระทึกขวัญ สยองขวัญ
นิยายผีไทย สืบสวนสอบสวน ทริลเลอร์ระทึกขวัญ สยองขวัญ ที่มีรสชาติแปลกใหม่ที่คุณไม่ควรพลาด กับเรื่องราวของการสืบสวนสอบสวนผีปอบของสารวัตรวีรภาพ ที่จะนำคุณไปสู่ความหลอนและสยองขวัญของเกรียงจากการสืบทอดปอบจากบรรพบุรุษ ที่ทำให้ชีวิตของเขาไม่มีความสงบสุขเหมือนเดิมอีกต่อไป ไหนจะเรื่องความสัมพันธ์กับอิง และคนเกลียดปอบทั้งหลาย ที่ใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเรื่องนี้ชีวิตจะเปลี่ยนไปตลอดกาล
***หนึ่งในนิยายซีรีส์สืบสวน สยองขวัญที่ภูมิใจนำเสนอจักรวาลเดียวกับลิปแดง
E-Book
Meb: http://bit.ly/3Ycc44g
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เหมาะสำหรับนักอ่านที่มีอายุ 15 ปี ขึ้นไป อาจมีการบรรยายเกี่ยวกับสภาพศพภายในที่มีความน่ากลัวและพิสดาร ผิดธรรมชาติ ไม่แนะนำให้ปิดไฟอ่านในตอนกลางคืนเมื่อผ่านบททดลองอ่านไปแล้ว เพราะอาจขนหัวลุกเอาได้ในยามค่ำคืนที่ปอบออกล่า นักอ่านที่อายุต่ำกว่า 15 ปี ควรได้รับคำแนะนำ
ยามบ่ายใกล้เย็นที่ทุ่งนาอันกว้างใหญ่ แสงแดดเริ่มอ่อนแรงลง ขณะที่ลมเย็น ๆ พัดผ่านทุ่งข้าว เกรียงยังคงนั่งเฝ้าควายอยู่ริมทุ่งนา ดวงตาของเขาจ้องมองควายที่ค่อย ๆ เดินกลับมาใกล้กับที่นั่งของเขา แต่ใจของเกรียงกลับลอยล่องไปไกล เสียงเพลงลูกทุ่งที่ดังออกมาจากโทรศัพท์ของเขายังคงคลอเบา ๆ เป็นฉากหลังที่เข้ากับบรรยากาศของยามเย็นได้อย่างลงตัว
ท้องฟ้าค่อย ๆ เปลี่ยนสีจากฟ้าสดใสเป็นส้มอมแดง เกรียงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ กลิ่นของดินและหญ้าที่ชุ่มน้ำทำให้ใจของเขารู้สึกผ่อนคลายอย่างประหลาด แต่ในขณะเดียวกัน ความคิดของเขากลับวนเวียนไปถึงคนสำคัญที่เขาไม่อาจลืมได้
ทันใดนั้น เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือของเกรียงดังขึ้น ข้อความแชตที่เพิ่งเข้ามาทำให้เกรียงหลุดออกจากภวังค์ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาเมื่อเห็นชื่อผู้ส่งข้อความ
“อิง…” เกรียงพูดชื่อของเธอเบา ๆ ในใจ หญิงสาวเพื่อนสนิทตั้งแต่มอปลาย ผู้มีใบหน้ารูปไข่ จมูกละมุน ผิวขาวน้ำผึ้งที่เป็นเอกลักษณ์ของสาวอีสาน อิงเป็นคนที่เกรียงรู้จักมาเป็นเวลานาน และมักจะชักชวนเกรียงไปกินข้าวเย็นที่บ้านของเธอเสมอ ทุกเย็นเธอจะส่งข้อความมาชวน บางครั้งเกรียงก็ไป แต่บางครั้งก็ปฏิเสธ โดยเฉพาะช่วงหลังที่ยายบัวเริ่มป่วยหนัก เขาต้องแบ่งเวลาไปดูแลยายมากขึ้น แต่วันนี้…เกรียงรู้สึกว่าเขาไม่อยากปฏิเสธอีกต่อไป
“เกรียง วันนี้มากินข้าวที่บ้านมั้ย แม่เราเขาทำแกงอ่อมไก่ น่ากินมากอยากให้มาชิม” ข้อความของอิงทำให้เกรียงยิ้มออกมา ใบหน้าที่เคร่งขรึมของเขาคลายความตึงเครียดลง เขาอ่านข้อความซ้ำหลายครั้งก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไป
“ได้สิ วันนี้เราจะไปแน่นอน” เขาพิมพ์ด้วยความรู้สึกดีในใจ เสียงของอิงยังคงก้องอยู่ในหัวของเขา เธอเป็นคนที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและร่าเริง เสียงหัวเราะของเธอที่มักจะดังขึ้นเมื่อทั้งสองคนได้พบกัน ทำให้เกรียงรู้สึกเหมือนเขากำลังกลับไปเป็นเด็กหนุ่มอีกครั้ง
อิงไม่เพียงแต่เป็นเพื่อนสนิทที่เกรียงไว้ใจ แต่เธอยังเป็นคนที่เกรียงรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ ความสดใสและพลังงานที่เธอมอบให้เป็นสิ่งที่เกรียงต้องการในช่วงเวลาที่เขาต้องรับมือกับปัญหามากมาย ทั้งเรื่องยายบัวที่ป่วยหนัก และความรู้สึกที่เขามีต่ออนาคตที่ไม่แน่นอน
เมื่อถึงเวลา เกรียงลุกขึ้นจากที่นั่งริมทุ่งนา เขาเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าและเป่าปากเรียกควายให้กลับเข้าคอก ควายทั้งสองตัวค่อย ๆ เดินตามเกรียงอย่างเชื่องช้า เสียงฝีเท้าของมันดังขึ้นเบา ๆ เมื่อเดินบนพื้นดินที่เริ่มแข็งตัวจากแสงแดดตลอดทั้งวัน
“ไปกันเถอะเอ็ง วันนี้ข้ามีธุระที่ต้องรีบไปทำ” เกรียงพูดกับควายอย่างอารมณ์ดี ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้นเล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยได้เห็นจากเขาบ่อยนัก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของเขาสะท้อนถึงความคาดหวังและความสุขที่กำลังจะมาถึง
เมื่อเก็บควายเข้าคอกเรียบร้อยแล้ว เกรียงรีบขี่มอเตอร์ไซต์กลับไปที่บ้านของเขาเอง บ้านไม้หลังเล็กที่แม่ของเขาสร้างไว้เมื่อยังมีชีวิตอยู่ ทุกครั้งที่เขากลับมาถึงบ้านหลังนี้ เขาจะรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แม่เคยมีให้ แม้ว่าเธอจะจากไปนานแล้ว แต่บ้านหลังนี้ยังคงเป็นที่พึ่งทางใจของเขา
“ไปเตรียมตัวดีกว่า” เกรียงพูดกับตัวเองขณะเดินเข้าไปในบ้าน เขารีบอาบน้ำล้างหน้าล้างตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ฉีดโรออนจนหอมฉุนกลิ่นเย็นสไตล์ผู้ชาย พร้อมปะแป้งตามตัวช่วยสร้างความหอมฟุ้งชวนให้หลงใหล ก่อนเขาจะขี่มอเตอร์ไซต์คันเก่าที่เขาเรียกว่าอีแก่สีแดงส้มมรดกตกทอดจากแม่ของเขาออกไปที่บ้านของอิง ความรู้สึกตื่นเต้นที่แทรกเข้ามาทำให้เกรียงรู้สึกเหมือนเป็นวัยรุ่นอีกครั้งแม้ตอนนี้เขาจะอายุ 28 ปีแล้วก็ตาม
เมื่อเกรียงเดินมาถึงบ้านของอิง เสียงหัวเราะและการพูดคุยจากในบ้านก็ดังออกมาให้ได้ยินแต่ไกล บ้านของอิงเป็นบ้านไม้สองชั้นที่ตั้งอยู่ริมหมู่บ้าน แสงไฟอ่อน ๆ จากหน้าต่างบ้านทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นและเป็นกันเอง กลิ่นหอมของแกงอ่อมไก่ลอยมาตามลม กลิ่นแจ๋วปลาแดกอันเข้มข้นและหอมหวนทำให้ท้องของเกรียงเริ่มร้องด้วยความหิว ราวกับเจ้ากลิ่นนั้นเชิญชวนให้เขาเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น
เมื่อเกรียงก้าวเข้าใกล้บ้าน ประตูบ้านเปิดออกพร้อมกับรอยยิ้มที่อบอุ่นของอิง หญิงสาวที่เขารู้จักดีมาตั้งแต่วัยเยาว์ เธอสวมผ้าถุงสีสันสดใส ริมฝีปากมีรอยยิ้มกว้างที่เต็มไปด้วยความยินดี ดวงตาสีดำเป็นประกายสะท้อนแสงไฟจากในบ้าน ใบหน้าของเธอมีสีแดงระเรื่อเล็กน้อยจากการทำงานในครัว แต่เธอกลับดูงดงามและมีเสน่ห์เกินคำบรรยาย
“เป็นไงบ้างเกรียงทำงานเหนื่อยมั้ย มา ๆ เข้ามาข้างในก่อน แม่เรากำลังทำอาหารอยู่พอดี” อิงเอ่ยทักทายด้วยเสียงใสแจ๋ว น้ำเสียงที่อบอุ่นและจริงใจทำให้เกรียงรู้สึกผ่อนคลายทันทีที่ได้ยิน
“ไม่เหนื่อยเลยเมื่ออิงทักมา แถมอ่อมไก่กลิ่นหอมแบบนี้ เราจะพลาดได้ยังไง” เกรียงตอบกลับด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน สายตาของเขาจับจ้องที่อิงอย่างอ่อนโยนและแฝงไปด้วยความรู้สึกที่เขาไม่เคยกล้าพูดออกมา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเสน่ห์ที่ยากจะปฏิเสธได้
อิงหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะหันไปเรียกแม่ของเธอ “แม่จ๋า เกรียงมาแล้ว!”
ภายในบ้าน ฑา แม่ของอิง วัย 51 ปี ยิ้มแย้มอย่างมีเมตตา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยร่องรอยของความอบอุ่นและความรักที่เธอมีให้กับครอบครัว เธอออกมาต้อนรับเกรียงด้วยความเอ็นดู “อ้าว เกรียง มา ๆ นั่งก่อนเลยลูก แม่กำลังตักแกงอ่อมพอดี”
“สวัสดีครับแม่” เกรียงยิ้มและยกมือไหว้อย่างนอบน้อม เขารู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้เสมอเมื่อได้มาเยือน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเคารพและความขอบคุณต่อฑา ที่เธอดูแลเขาเหมือนเป็นลูกอีกคน
ขณะเดียวกัน ชาญ พ่อของอิง วัย 53 ปี ก็เดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า “ไงเกรียง ไม่นานนี้ไปช่วยลุงดอนแกไถนามาล่ะสิ?ดูจากท่าทางก็รู้ว่าเหนื่อยมาทั้งวัน”
“เปล่าครับพ่อ วันนี้ผมเลี้ยงอีแดงกับไอ้ดำทั้งวันและมันก็ขยันวิ่งซะด้วย แต่เห็นแกงอ่อมของแม่แล้วหายเหนื่อยเลยครับ” เกรียงพูดด้วยเสียงหัวเราะเบา ๆ ใบหน้าของเขาเปื้อนยิ้มที่แสดงถึงความขี้เล่นและอารมณ์ดี
ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน อาร์ม น้องชายของอิงที่อายุ 17 ปี และกำลังเรียนอยู่ม.5 ก็เดินเข้ามาพร้อมกับทักทายเกรียงอย่างสนิทสนม “พี่เกรียง มาแล้วเหรอ?พี่อิงบอกว่าพี่จะมาด้วย ผมบอกเลยนะว่าแกงอ่อมวันนี้เด็ดมากเลยพี่ แม่ตั้งใจทำสุด ๆ” อาร์มพูดด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและชื่นชมเกรียงเหมือนเป็นพี่ชายอีกคน
“งั้นพี่ต้องขอลองหน่อยแล้วละ” เกรียงตอบกลับอย่างเป็นกันเอง รอยยิ้มของเขาทำให้บรรยากาศในบ้านเต็มไปด้วยความสุขและความอบอุ่น
เมื่อทุกคนพร้อมกันแล้ว พวกเขาก็นั่งล้อมโต๊ะอาหารที่มีแกงอ่อมไก่หอมกรุ่นวางอยู่กลางโต๊ะ พร้อมทั้งยังมีไข่เจียวชะอม แจ๋วปลาแดก ถั่วพลู คะน้าต้ม ผักชีลาว ฝรั่งชีฝรั่ง แตงกวา และลาบหมู ก้อยเนื้อดิบ ไส้ย่างอีกด้วย ก่อนเกรียงจะตักข้าวและแกงใส่จานของตัวเอง กลิ่นหอมของเครื่องแกงและสมุนไพรลอยเข้าจมูก ทำให้เขารู้สึกถึงความอบอุ่นที่ครอบครัวนี้มอบให้ หลังจากนั้นเขาจึงตักแกงอ่อมนั้นมาลิ้มลองจนปลายลิ้นนั้นสัมผัสได้ถึงรสชาติของแกงอ่อมที่มันเข้มข้นและเผ็ดร้อนพอดี เขารู้สึกถึงความสุขที่ไม่สามารถอธิบายได้ มันไม่ใช่แค่ความอร่อยของอาหาร แต่เป็นความอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วใจของเขา
“เกรียง พรุ่งนี้ลูกว่างมั้ยไปช่วยพ่อชาญหว่านแหหน่อยสิ พรุ่งนี้พ่อเขาจะเคลียร์สระน่ะ แม่มีนัดไปหาหมอกับอิงเขาน่ะ ที่บ้านก็ไม่มีใครอยู่เลย” ฑาเอ่ยขึ้นด้วยความอบอุ่น ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มอ่อนโยนแสดงออกถึงความห่วงใยที่แฝงฝังไปด้วยความหวัง
“ได้ครับแม่ ว่างครับ ถ้ามีอะไรให้ช่วยผมยินดีเสมอ” เกรียงตอบพร้อมกับยิ้มให้ฑา สายตาของเขาแสดงถึงความจริงใจและความเคารพต่อเธอ
“เยี่ยมมากลูก ขอบคุณนะ เจอกันที่สระพ่อตอน 10 โมงนะ”
“ครับ” เกรียงตอบ
“ขอบคุณนะเกรียง แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้พอเราพาแม่กลับมาจากหาหมอเสร็จเดี๋ยวเราจะไปช่วยนะ” อิงพูดพร้อมอมยิ้มด้วยแววตาที่แสนอบอุ่น ก่อนเกรียงจะพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขแล้วทุกคนจึงนั่งกินข้าวกันอย่างสุขใจ
หลังจากทานข้าวเย็นกันเสร็จ บรรยากาศในบ้านยังคงคึกคักด้วยเสียงหัวเราะและการพูดคุย เกรียงรู้สึกเหมือนเขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้เกิดในบ้านนี้ แต่ความรักและความอบอุ่นที่พวกเขามอบให้ทำให้เขารู้สึกเหมือนได้กลับมาบ้านที่แท้จริง
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดี เกรียงจึงตัดสินใจชวนอิงไปเที่ยวงานวัดหมอลำที่จัดขึ้นในหมู่บ้าน
“อิง…ไปงานวัดกับเราหน่อยไหม?คืนนี้มีหมอลำที่วัด เราว่าคงสนุกแน่” เกรียงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความคาดหวัง ใบหน้าของเขายิ้มอย่างมีเสน่ห์ สายตาของเขามองตรงไปยังอิง รอคำตอบจากเธอด้วยใจที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
อิงหันไปมองพ่อและแม่ของเธอเล็กน้อย ทั้งสองคนพยักหน้าให้เธอด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น อิงจึงหันกลับมายิ้มให้เกรียง “ไปสิ เกรียง เราชอบหมอลำอยู่แล้วอยากดูพอดีเลย”
เธอตอบด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความดีใจ สายตาของเธอเป็นประกาย ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อเล็กน้อยด้วยความเขินอาย ความใกล้ชิดและความสนุกที่กำลังจะเกิดขึ้นในค่ำคืนนี้ทำให้ทั้งสองคนรู้สึกเหมือนเด็กที่กำลังจะได้ไปงานวัดครั้งแรก
ขณะที่ทั้งสองเตรียมตัวออกไปเที่ยวงานวัด บรรยากาศที่สงบและมีชีวิตชีวากลับแฝงไปด้วยความไม่แน่นอน ราวกับว่าในความเงียบสงัดของหมู่บ้านนี้ มีบางสิ่งบางอย่างที่กำลังเฝ้ามองและรอคอยการกลับมาของวิญญาณที่ไม่มีวันสงบสุข…