สายสัมพันธ์แห่งสายเลือดและความรักที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง ทำให้ชีวิตของเกรียงต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล ความทรมานนี้มันช่างเจ็บปวดชวนหิวตับเธอ...ซะเหลือเกิน!! นิยายผีไทย สืบสวนสอบสวน ทริลเลอร์ระทึกขวัญ สยองขวัญ

ปอบไอ้เกรียง - บทที่ 4 สายไหมของเกรียงและอิง โดย CokeAuttaphon @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ระทึกขวัญ,ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,ดราม่า,ดราม่า,พล็อตสร้างกระแส,สืบสวนสอบสวน,ผี,สยองขวัญ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ปอบไอ้เกรียง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ระทึกขวัญ,ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,ดราม่า

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,พล็อตสร้างกระแส,สืบสวนสอบสวน,ผี,สยองขวัญ

รายละเอียด

ปอบไอ้เกรียง โดย CokeAuttaphon  @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

สายสัมพันธ์แห่งสายเลือดและความรักที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง ทำให้ชีวิตของเกรียงต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล ความทรมานนี้มันช่างเจ็บปวดชวนหิวตับเธอ...ซะเหลือเกิน!! นิยายผีไทย สืบสวนสอบสวน ทริลเลอร์ระทึกขวัญ สยองขวัญ

ผู้แต่ง

CokeAuttaphon

เรื่องย่อ

นิยายผีไทย สืบสวนสอบสวน ทริลเลอร์ระทึกขวัญ สยองขวัญ ที่มีรสชาติแปลกใหม่ที่คุณไม่ควรพลาด กับเรื่องราวของการสืบสวนสอบสวนผีปอบของสารวัตรวีรภาพ ที่จะนำคุณไปสู่ความหลอนและสยองขวัญของเกรียงจากการสืบทอดปอบจากบรรพบุรุษ ที่ทำให้ชีวิตของเขาไม่มีความสงบสุขเหมือนเดิมอีกต่อไป ไหนจะเรื่องความสัมพันธ์กับอิง และคนเกลียดปอบทั้งหลาย ที่ใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเรื่องนี้ชีวิตจะเปลี่ยนไปตลอดกาล


***หนึ่งในนิยายซีรีส์สืบสวน สยองขวัญที่ภูมิใจนำเสนอจักรวาลเดียวกับลิปแดง


E-Book 

Meb: http://bit.ly/3Ycc44g


คำเตือน

นิยายเรื่องนี้เหมาะสำหรับนักอ่านที่มีอายุ 15 ปี ขึ้นไป อาจมีการบรรยายเกี่ยวกับสภาพศพภายในที่มีความน่ากลัวและพิสดาร ผิดธรรมชาติ ไม่แนะนำให้ปิดไฟอ่านในตอนกลางคืนเมื่อผ่านบททดลองอ่านไปแล้ว เพราะอาจขนหัวลุกเอาได้ในยามค่ำคืนที่ปอบออกล่า นักอ่านที่อายุต่ำกว่า 15 ปี ควรได้รับคำแนะนำ

สารบัญ

ปอบไอ้เกรียง-บทที่ 1 ไอ้ดำ อีแดง,ปอบไอ้เกรียง-บทที่ 2 ชีวิตของเกรียง,ปอบไอ้เกรียง-บทที่ 3 แชตจากอิง,ปอบไอ้เกรียง-บทที่ 4 สายไหมของเกรียงและอิง,ปอบไอ้เกรียง-บทที่ 5 ทางกลับบ้าน

เนื้อหา

บทที่ 4 สายไหมของเกรียงและอิง

คืนที่งานวัดหมอลำในหมู่บ้านเริ่มต้นขึ้นอย่างครึกครื้น ท้องฟ้ามืดครึ้มแต่ยังคงสว่างไสวด้วยแสงไฟนีออนที่ประดับประดาอยู่ทั่วบริเวณ กลิ่นหอมของขนมหวานและอาหารท้องถิ่นลอยมาตามลม เสียงดนตรีจากวงหมอลำที่เริ่มบรรเลงในฉากหลังผสมกับเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะของผู้คนที่มาร่วมงาน บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความคึกคักและชีวิตชีวา


เกรียงและอิงเดินเคียงคู่กันผ่านซุ้มร้านค้าต่าง ๆ สายตาของเขาสะท้อนแสงไฟที่สว่างจ้าในงานวัด แต่ใจของเขากลับรู้สึกถึงความอบอุ่นจากการที่ได้อยู่ใกล้อิง ความสนิทสนมที่เคยมีมาตลอดหลายปีนั้นไม่ได้ทำให้เกรียงรู้สึกเฉยชา กลับกัน เขากลับรู้สึกว่าคืนนี้เป็นคืนที่พิเศษยิ่งขึ้น


“อิง อยากกินสายไหมมั้ย?” เกรียงเอ่ยถามพร้อมกับชี้ไปที่ร้านขายสายไหมที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ ใบหน้าของเขายิ้มกว้างด้วยความสนุกสนาน สายตาของเขาเปล่งประกายเมื่อเห็นรอยยิ้มตอบรับจากอิง


“ได้สิ กิน ๆ เราเองก็ชอบสายไหมเหมือนกัน ไป ๆ”


อิงตอบด้วยน้ำเสียงที่สดใส ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความร่าเริงและความสุข ขณะที่ทั้งสองเดินไปที่ร้านขายสายไหม กลิ่นหวานของน้ำตาลที่กำลังถูกปั่นเป็นเส้นบาง ๆ ลอยมาจากเครื่องทำสายไหม เสียงหึ่ง ๆ ของเครื่องดังเข้าหูเพิ่มความสนุกสนานให้กับบรรยากาศรอบข้าง


“ลุงครับเอาสายไหมอันหนึ่งครับ”


“เอารสอะไรดีละหนุ่ม” พ่อค้าถาม


“อิงอยากกินรสอะไรดี”


“อืม รสสีชมพูนี้ค่ะ” อิงตอบอย่างนึกคิด


“ได้เลยจ้ะ ว่าแต่แฟนสวยนะ ไอ้หนุ่ม” พ่อค้าสายไหมกล่าวแซว


“ไม่ใช่นะครับ เพื่อนผมครับลุง ฮ่า ๆ” เกรียงยิ้มเขิน ในขณะเดียวกันอิงก็หน้าแดงไม่แพ้กัน


“อ้าวหรอเห็นหน้าตาคล้าย ๆ กัน ลุงเองก็นึกว่าเนื้อคู่กันน่ะ ตายจริง ขอโทษทีหนุ่ม” ลุงกล่าวในขณะที่เขากำลังจะเริ่มปั่นสายไหม


“ไม่เป็นไรค่ะลุง ฮ่า ๆ” อิงพูดแบบเก็บอาการ แต่ความแดงบนใบหน้าไม่สามารถหลบหนีความจริงได้ ก่อนเขาจะหันหน้าไปสบตาเกรียงทั้งสองจึงหลบสายตากันอีกครั้ง


จนเวลาผ่านไปไม่นาน เมื่อได้สายไหมสีชมพูอ่อน ๆ มาแล้ว เกรียงก็ยื่นมันให้กับอิงก่อน เธอยิ้มกว้างแล้วดึงสายไหมมาชิ้นหนึ่งชิมด้วยความสุข เกรียงมองดูเธออย่างหลงใหล ขณะที่เขาเองก็หยิบสายไหมมากินบ้าง แต่ความขี้เล่นของอิงก็ปรากฏขึ้นเมื่อเธอเห็นว่ามีสายไหมติดอยู่ที่จมูกของเกรียง


“เกรียง ดูสิ! เธอกินสายไหมจนเลอะจมูกเลย! ฮ่า ๆ” อิงหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะใช้มือหยิบสายไหมที่ติดอยู่ที่จมูกของเกรียงออกมา แล้วกินอย่างไม่คิดมาก พร้อมกับเช็ดจมูกของเขาด้วยนิ้วก้อยมือเบา ๆ ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความเอ็นดูและขี้เล่น


เกรียงหัวเราะตอบ แต่ทันทีที่สายตาของเขาเลื่อนมองไปทางด้านข้าง รอยยิ้มของเขากลับค่อย ๆ จางหายไป เมื่อเขาเห็นเงาของยายบัว ยืนอยู่ในเงามืดของต้นไม้ใหญ่ที่ห่างออกไปจากความคึกคักของงานวัด ดวงตาของเธอเปล่งประกายวาวโรจน์ในความมืด ราวกับเธอกำลังเฝ้ามองและติดตามทุกการกระทำของเขา


เกรียงชะงักกะทันหัน ใจของเขาเต้นรัวด้วยความกลัวและสับสน เขากะพริบตาเพื่อให้ภาพนั้นหายไป แต่เมื่อเขาเปิดตามาอีกครั้ง ยายบัวก็หายไปแล้ว เหลือเพียงความมืดที่เงียบสงบ เขาสั่นสะท้านเล็กน้อย ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปจากความสนุกสนานเป็นความกังวลอย่างเห็นได้ชัด


“เกรียง เป็นอะไรไป?มีอะไรหรอ?” อิงถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นสีหน้าของเกรียงเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาของเธอเต็มไปด้วยความกังวล


“ไม่…ไม่เป็นไร เราแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย” เกรียงตอบพร้อมกับฝืนยิ้ม แต่ลึก ๆ แล้ว เขายังรู้สึกถึงความเย็นเยือกที่แทรกซึมเข้ามาในใจอย่างบอกไม่ถูก


ขณะที่ทั้งสองคนกำลังเดินไปต่อ กลุ่มเพื่อนสามคนของอิงที่ไม่ค่อยชอบเธอมากนักก็มองมาอย่างตั้งใจ ยี่หวา เกด และสิน ทั้งสามคนยืนอยู่ไม่ไกล พวกเธอซุบซิบและหัวเราะคิกคักอย่างสนุกปาก สายตาของพวกเธอจ้องมองอิงและเกรียงอย่างมีเลศนัย


“ดูนั่นสิ ยี่หวา มันมาด้วยกันจริง ๆ ด้วยว่ะ” เกดหญิงสาวผิวเข้มกระซิบเสียงเบาแต่ไม่พ้นหูของพวกเธอ ใบหน้าของเธอแสดงออกถึงความริษยาและความรังเกียจ


“เฮอะ มันจะมีอะไรล่ะ เกรียงน่ะมันก็แค่หลงใหลในรูปลักษณ์ของอิงก็เท่านั้น ฉันไม่เห็นมันจะมีอะไรดีเลย” ยี่หวาหญิงสาวหน้าสวย ผิวขาว ตาชั้นเดียวพูดด้วยน้ำเสียงเปรี้ยว เธอเจาะสะดือโชว์และแสยะยิ้มอย่างมีความหมาย


สินซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มที่มีท่าทีลุย ๆ และปากร้าย พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงห้าว “ว่าแต่พวกมึงว่าไก่ชาวบ้านที่หายไปนี่ มันเป็นฝีมือของใครกันวะ?หรือว่าจะมีคนแถวนี้ขโมยไปกินเองป่ะ?”


“อือ ดูท่าทางมันไม่ใช่แค่ไก่ที่หายไปแล้วนะ” ยี่หวาพูดพร้อมกับยิ้มเยาะหยัน ใบหน้าของเธอแสดงออกถึงความชั่วร้าย “บางทีนะ…อีอิงนี่แหละที่ขโมยไปเอง หรือจะเป็นปอบที่สิงอยู่ในบ้านมันล่ะ”


“พวกมึงคิดว่าไง…หรือว่า…ยายบัวนั่นน่ะ จริง ๆ แล้วแกน่ะเป็นปอบ” สินเสริมด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความจงใจจะยั่วโมโห จนเกรียงหันกลับมามองพวกเธอทันที ใบหน้าของเขาแดงด้วยความโกรธ แววตาของเขาเปลี่ยนไปกลายเป็นเย็นชาและดุดัน


“พวกเธอหยุดพูดแบบนั้นซะ” เกรียงกล่าวด้วยเสียงเข้ม สายตาของเขามองไปยังกลุ่มเพื่อนที่ไม่ชอบอิง ราวกับจะส่งสัญญาณเตือน แต่ยี่หวาและพวกเธอกลับไม่สนใจ


“ทำไม?จะเถียงแทนยายมึงเหรอ?ก็ถ้ามันไม่จริง ทำไมไก่ชาวบ้านถึงหายไปล่ะ?” ยี่หวาพูดอย่างยียวน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความชั่วร้าย


“มึงกลัวเหรอ?ว่ายายมึงน่ะจะเป็นปอบจริง ๆ” สินเสริมด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน แววตาของเธอเย็นชาและท้าทาย


เกรียงกำมือแน่น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธที่เขาพยายามระงับ อิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ จับมือของเขาเบา ๆ พร้อมกับดึงเขาไปจากที่นั่น


“พอเถอะเกรียง อย่าไปฟังพวกนั้นเลย” เธอกระซิบเบา ๆ ด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใย พร้อมจับของเกรียงแน่น


เกรียงสูดหายใจเข้าลึก ๆ และพยักหน้าให้เธอ ก่อนจะปล่อยให้ตัวเองถูกพาออกจากสถานการณ์ที่ทำให้เขาโกรธและเจ็บปวด เมื่อพวกเขาเดินออกจากบริเวณนั้นมา บรรยากาศก็เริ่มเปลี่ยนไป ความเงียบสงบเข้ามาแทนที่เสียงวุ่นวายของงานวัด แต่มันกลับเป็นความเงียบที่วังเวงและทำให้เกรียงรู้สึกไม่สบายใจ


“เราขอโทษนะอิง ที่เราไม่สามารถปกป้องเธอได้ดีพอ” เกรียงพูดเสียงเบา ขณะที่พวกเขาหยุดเดินในมุมเงียบของงานวัด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและความเศร้า


อิงยิ้มอ่อน ๆ และส่ายหน้าเบา ๆ


“ไม่เป็นไรเลยเกรียง เราเข้าใจ พวกนั้นก็แค่พูดไปตามอารมณ์ ไม่ต้องไปใส่ใจหรอก เขาก็เป็นกันแบบนี้แหละ” เธอกระซิบตอบเบา ๆ ขณะที่ยื่นมือไปจับมือของเกรียง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเข้าใจและอ่อนโยน


เกรียงมองตาอิง รู้สึกถึงความอบอุ่นที่เธอมอบให้ แม้ในช่วงเวลาที่เขารู้สึกอ่อนแอและหวาดกลัว เขารู้ว่าเธอคือคนที่เขาอยากปกป้องและอยู่เคียงข้าง แม้ว่าจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นก็ตามแต่ในความเงียบสงบนี้ เกรียงยังคงรู้สึกถึงความไม่แน่นอนบางอย่าง ราวกับเงามืดที่กำลังคืบคลานเข้ามาในชีวิตของเขาและอิง รอเวลาที่จะกลืนกินความสุขที่พวกเขามีอย่างช้า ๆ ความรู้สึกนี้ทำให้เขารู้ว่า เขาต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เขารู้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน