หลิวซือเย่ นางระบำในวังที่ถูกสลับตัวกับองค์หญิงรอง ถูกนำไปเป็นของบรรณาการให้เผ่าหานหยวน นางไม่รู้ว่าบุรุษหนุ่ม ที่กำลังคร่อมร่างนางอยู่คือใคร หลิวซือเย่ตกใจแทบสิ้นสติ ชายคนนั้นกำลังทำให้นางเป็นของเขา

นางเริงระบำ - บทที่ 6 รัญจวนบนเกวียน โดย ฟ่งเฟิ่งเซวียน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ย้อนยุค,จีน,องค์ชาย,จีนโบราณ,นางระบำ,อิโรติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

นางเริงระบำ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ย้อนยุค,จีน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

องค์ชาย,จีนโบราณ,นางระบำ,อิโรติก

รายละเอียด

หลิวซือเย่ นางระบำในวังที่ถูกสลับตัวกับองค์หญิงรอง ถูกนำไปเป็นของบรรณาการให้เผ่าหานหยวน นางไม่รู้ว่าบุรุษหนุ่ม ที่กำลังคร่อมร่างนางอยู่คือใคร หลิวซือเย่ตกใจแทบสิ้นสติ ชายคนนั้นกำลังทำให้นางเป็นของเขา

ผู้แต่ง

ฟ่งเฟิ่งเซวียน

เรื่องย่อ

เมื่อนางระบำอันดับหนึ่งถูกสลับตัวกับองค์หญิงที่ต้องไปแต่งงานเชื่อสัมพันธ์กับองค์รัชทายาทของเผ่าหานหยวน นางโดนวางยาไม่รู้สึกตัว ตื่นมาอีกทีก็อยู่ท่ามกลางขบวนเดินทางที่เต็มไปด้วยบุรุษแปลกหน้าเป็นสิบๆคนกลางทะเลทราย เเล้วนางจะหาทางหนีได้อย่างไหร่เล่า แถมยังโดนบุรุษปริศนากระทำชำเราทั้งคืนจนสลบ เเต่ปัญหาคือนางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบุรุษผู้นั้นคือใครกัน จะเป็นท่านเเม่ทัพ? ท่านหมอ? หรือใครกันนะ?




“อ๊ะ ยะ อย่า อ๊า!!..อะ.. ซื๊ดดดส์~” เหตุใดคำร้องห้ามของนางจึงกลายเป็นเสียงครางกระเส่าไปได้ หลิวซือเย่ได้สติอย่างเต็มที่ร่างการตื่นตัวทุกส่วน บัดนี้นางกำลังร่วมรักอยู่กับบุรุษแปลกหน้าเช่นนั้นหรือ!

บุรุษผู้นั้นคล้ายไม่ได้ยิน ยังคงโยกขยับตอกตึงท่อนเนื้อเข้าออก นางได้ยินเพียงเสียงลมหายใจและเสียงครางต่ำในลำคอ ความรู้สึกตีรวนอยู่ที่ช่องของน้อย หลิวซือเย่ไม่ได้รู้สึกเจ็บที่กลางร่างกาย อาจเป็นเพราะตอนนางสลบไปก็ถูกชายแปลกหน้าชำแรกเข้ามาแล้ว ยามนี้จึงสัมผัสได้แค่ความเสียดเสียว ทุกครั้งที่แท่งหยกแข็งอัดเข้ามานางขมิบเกร็งรูฉ่ำแบบไม่รู้ตัว




สารบัญ

นางเริงระบำ-บทที่ 1 บุรุษปริศนา,นางเริงระบำ-บทที่ 2 ใช่ท่านแม่ทัพหรือไม่,นางเริงระบำ-บทที่ 3 พบหมอ,นางเริงระบำ-บทที่ 4 วาบหวิวบนม้า,นางเริงระบำ-บทที่ 5 กระโจมสวาท,นางเริงระบำ-บทที่ 6 รัญจวนบนเกวียน,นางเริงระบำ-บทที่ 7 เสร็จสมบนเกวียน,นางเริงระบำ-บทที่ 8 ลอบโจมตี,นางเริงระบำ-บทที่ 9 องค์ชาย? ,นางเริงระบำ-บทที่ 10 โยกย้ายบนม้า,นางเริงระบำ-บทที่ 11 เข้าตำหนัก,นางเริงระบำ-บทที่ 12 ต้องการเพียวเจ้า

เนื้อหา

บทที่ 6 รัญจวนบนเกวียน

หลิวซือเย่ถูกปลุกด้วยสำรับเช้า เมื่อคืนไม่รู้ว่าบุรุษปริศนาจากไปเมื่อใด ทว่าตอนนี้เสื้อผ้านางยังอยู่ครบ เพียงแค่มีร่องรอยของการร่วมรักเด่นชัดบนที่นอน ครั้งนี้นางคงต้องใช้ข้ออ้างเดิม…คือทำน้ำหก! โชคเข้าข้างเมื่อวานสาวใช้มิได้ระแคะระคายอันใด

อาหารไม่ต่างจากเดิมนางจึงรีบกิน รีบเปลี่ยนชุดเพื่อไปยังเกวียนที่เตรียมไว้ วันนี้นางคงไม่ลำบากนักและไม่ต้องพบบุรุษผู้นั้นที่เอาของแข็งมาทิ่มหลังนาง! แต่ก็ยังคาใจเรื่องชายปริศนา คนผู้นั้นเป็นใครกันแน่ หากไม่ใช่ท่านแม่ทัพ…หรือจะเป็นหมอ?

นึกถึงหมอ…หมอก็มา ขณะที่นางกำลังเดินออกจากกระโจม เขาก็เดินเข้ามารับพาไปส่งที่เกวียน โดยบอกว่าท่านแม่ทัพกำลังยุ่งกับการขนย้ายของบรรณาการ หลิวซือเย่พยักหน้าหนึ่งครั้ง ต่อให้ไม่ต้องมีใครมารับนางก็เดินไปเองได้ เมื่อมาถึงที่แล้ว หมอขอตรวจชีพจร นางจึงยื่นมือออกไปอย่างยินดี

“ชีพจรปกติ ผ่านคืนนี้ไปก็ใกล้เข้าชายแดนแล้ว อีกไม่นานก็ถึง องค์หญิงรองโปรดอดทนอีกสักนิด”

“ข้าทราบแล้ว” ทนแล้วอย่างไร ไม่ทนแล้วอย่างไร นางมีทางเลือกเสียที่ไหนเล่า ผ่านไปอึดใจท่านหมอก็ยังไม่ปล่อยมือ นางจึงขมวดคิ้วถาม “อีกเรื่องอันใดอีกหรือไม่”

“ไม่มีขอรับ เชิญองค์หญิงขึ้นเกวียน”

เมื่อถูกทักหมอจึงปล่อยมือเหลือเพียงความเสียดายอยู่ในแววตา หลิวซือเย่ทันเห็นความวูบไหวนั้น หรือว่าหมอผู้นี้ก็พึงใจนางเช่นกัน หลิวซือเย่ในคราบองค์หญิงรองเสน่ห์แรงเสียจริง นางภาวนาในใจขออย่าให้บุรุษเป็นปริศนาอย่าเป็นชายแก่ตรงหน้าเลย!

นางระบำแหวกผ้าที่ทำจากหนังผืนใหญ่เพื่อก้าวเข้าไปนั่งด้านใน ซึ่งมีสัมภาระอยู่ด้านหลัง เช่นนี้ก็ดีนางจะได้พิงนั่งอย่างสบาย ไม่ต้องโคลงเคลงอยู่บนม้าแถมมีหลังคากันแดด นางคงแอบงีบหลับระหว่างทางได้ หลิวซือเย่ยังปวดเมื่อยเนื้อตัวอยู่ ตั้งแต่คืนที่บุรุษปริศนาบุกเข้ามาก็ไม่เคยนอนเต็มอิ่มเลย

นั่งได้สักครู่ก็รู้สึกร้อน เกวียนถูกคลุมด้วยหนังผืนหนา และไม่มีช่องระบายอาการ แต่หากเทียบกับข้างนอกแล้วในนี้ดีกว่ามาก จู่ ๆ ท่านแม่ทัพก็เปิดผ้าออกแล้วยื่นแป้งทอดให้นาง

“ข้ากลัวท่านจะหิว เก็บไว้กินระหว่างทางได้”

“ขอบใจท่านแม่ทัพ” นางรับแป้งทอดมาวางไว้ข้างตัว ชายผู้นี้ดูจะห่วงใยนางมากเหลือเกิน ที่จริงทุกคนรู้ดีว่านางเป็นว่าที่เจ้าสาว แต่ดันมีคนกล้าฝืนกฎยุ่งกับนาง หรือคนผู้นั้นจะเป็นท่านแม่ทัพจริงๆ

“อาจจะร้อนไปสักนิด ถ้าท่านทนไม่ไหวให้บอกคนอูฐที่ลากเกวียน แล้วข้าจะมารับไปขึ้นม้า” นั่งเกวียนกลางทะเลทรายมีทั้งข้อดีข้อเสีย ท่านแม่ทัพกลัวความร้อนทำให้องค์หญิงทนไม่ไหว จึงแจ้งไว้ล่วงหน้าเผื่อนางอยากเปลี่ยนใจ

“ต้องรบกวนท่านแล้ว”

หลิวซือเย่พยักหน้ารับทราบ จากนั้นท่านแม่ทัพก็เดินไปสั่งการส่วนอื่น ผ่านไปหลายอึดใจขบวนคาราวานก็เริ่มเดินทางอีกครั้ง นางรู้มาว่าต้องเดินทางสามวันสามคืนถึงจะเข้าเขตเมืองชนเผ่าหานหยวน นี่เป็นการจรทางไกลครั้งแรกเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม อีกไม่นานก็ถึงแล้วนางจึงคิดหาทางเอาตัวรอด

ทำอย่างไรถึงไม่ต้องกลายเป็นเจ้าสาว?

ในขณะที่คิดก็มีมือปริศนามาปิดปากของนางไว้ หลิวซือเย่ตกใจแทบสิ้นสติพยายามดิ้นทำตามสัญชาตญาณ นางได้ยินเสียงหายใจของคนด้านหลังและสัมผัสได้ถึงไออุ่นร่างกาย รวมถึงเสียงชู่ว์เบาๆ คล้ายบอกให้นางเงียบ กลิ่นกายที่โอบล้อมคุ้นมากเหลือเกิน…

“จะ เจ้าคือผู้ใด” เมื่อนางหยุดดิ้นแล้วเขาจึงค่อยๆ เอามือออกจึงรีบถามทันที อยากหันไปมองแต่บุรุษผู้นั้นนั่งซ้อนหลังอยู่ แล้วยังใช้แขนหนากอดรัดไว้ด้วย พยายามไม่ให้นางเอี้ยวมาดู

“…”

เช่นเคย…นางไม่ได้รับคำตอบ หรือว่าเขาคือชายบ้าใบ้คนเมื่อวาน!

บุรุษปริศนาผู้เป็นใบ้เริ่มเคลื่อนมือลูบไล้ร่างกายนาง จากหน้าท้องขึ้นมายังเนินอกบีบคลึงเบาๆ ส่วนมือหนาอีกข้างล่วงเข้าไปในอาภรณ์ท่อนล่างที่นางสวมใส่ หลิวซือเย่หนีบขาเข้าหากันโดยสัญชาตญาณ คนผู้นี้ช่างกล้านักเล่นกับร่างกายนางกลางวันแสกๆ อีกทั้งด้านนอกยังเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังเดินทาง

เอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!

“ปะ ปล่อยข้า อ๊ะ”

หลิวซือเย่สะดุ้งเมื่อมือหนาสัมผัสลงบนโหนกเนื้อนุ่ม จุ่มนิ้วคว้านสู้กับแรงบีบรัดของต้นขาขาวที่ยังหนีบเข้าหากันแน่น ในที่สุดก็ไม่อาจต้านแรงมหาศาลของบุรุษได้ เปิดขาอ้าแย้มกลีบฉ่ำให้ข้อนิ้วแข็งละเลงสมใจ เพียงแค่ถูกแตะต้องไม่กี่อึดใจ นางก็รู้สึกเสียดเสียวความกำหนัดพลุ่นพล่าน ผลิตน้ำใสหนืดเคลือบโหนกเนื้อจนชุ่ม

“อื้ออ อ๊า อุ๊!!!”

นางร้องได้เท่านั้นก็ถูกมือหนาปิดปากไว้ หลิวซือเย่เพิ่งตระหนักได้ว่าตนเองครางดังเกินไปแล้ว หน้าละอายเหลือเกินใจอยากต่อต้านทว่าร่างกายกลับสวนทางกัน เอนตัวพิงร่างหนาเปิดขาออกกว้าง แถมยังแอ่นเนินเนื้อให้เขาจุ่มจ้วงอีกต่างหาก

 ข้อนิ้วแข็งละเลงลงบนตุ่มนูนแดงที่บวมเป่ง น้ำชุ่มที่เคลือบอยู่ทำให้รู้สึกนุ่มลื่น หลิวซือเย่เกร็งท้องน้อยด้วยความเสียดเสียว นางส่งเสียงอื้ออึงในลำคอเพื่อระบายความซ่านสยิว ยามนี้มิรู้เหนือรู้ใต้สัมผัสได้เพียงราคะที่ลุกโชน ริมฝีปากหนาคลอเคลียอยู่แถวใบหู ทั้งขบทั้งเลียทำเอานางขนลุกชันไปทั้งกาย

 นางระบำคนงามซ่านกระสันเหลือคณา ยิ่งนิ้วแกร่งละเลงเร็วขึ้นเท่าไหร่ มวลคลื่นขนาดใหญ่ยิ่งไหลมารวมกันที่ท้องน้อย ขานางบิดเบี้ยวด้วยความเสียว กลีบเนื้อแดงชุ่มไปด้วยน้ำหนืดใส ยิ่ง จนางจินตนาการไปว่า ยามนี้เอ็นร้อนของบุรุษกำลังแทงเข้าแทงออก อารมณ์กำหนัดของนางพุ่งทวีเป็นเท่าตัว แอ่นโหนกเนื้อขึ้นลงไปตามจังหวะการละเลงนิ้ว

 หลิวซือเย่ไม่อาจทัดทานราคะที่สุมอยู่ในอก จังหวะที่ท้องนิ้วเกี่ยวกระตุกที่ตุ่มนูนแดง น้ำหวานที่คั่งค้างอยู่ภายในถูกปลดปล่อยออก หลั่งเป็นน้ำใสหนืดไหลยืดออกมาจากช่องทางรัก ทว่าบุรุษด้านหลังยังคงไม่หยุด คว้านนิ้วแหวกป้ายน้ำชุ่มไปทั่วบริเวณ ก่อนจะกดนิ้วเข้าไปในโพรงชุ่มที่ยังตอดขมิบอยู่

 ร่างกายนางสั่นเทาทิ้งน้ำหนักลงบนอกกว้าง หลับตาพริ้มนอนหอบหายใจคล้ายคนไร้สติ ยามนี้หลิวซือเย่รู้สึกเบาสบายอีกครั้ง ที่โหนกเนื้อของนางยังกระตุกไม่หยุด โดยที่นิ้วแกร่งของคนด้านหลังยังดันเข้าดันออก มือหนาอีกข้างมิได้ปิดปากนางไว้แล้ว แต่เคลื่อนมาที่ทรวงอกบีบวนเบาๆ

อารมณ์ที่เพิ่งถูกปลดปล่อยไป ก็เริ่มปะทุขึ้นอีกครั้ง