หลิวซือเย่ นางระบำในวังที่ถูกสลับตัวกับองค์หญิงรอง ถูกนำไปเป็นของบรรณาการให้เผ่าหานหยวน นางไม่รู้ว่าบุรุษหนุ่ม ที่กำลังคร่อมร่างนางอยู่คือใคร หลิวซือเย่ตกใจแทบสิ้นสติ ชายคนนั้นกำลังทำให้นางเป็นของเขา

นางเริงระบำ - บทที่ 7 เสร็จสมบนเกวียน โดย ฟ่งเฟิ่งเซวียน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ย้อนยุค,จีน,องค์ชาย,จีนโบราณ,นางระบำ,อิโรติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

นางเริงระบำ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ย้อนยุค,จีน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

องค์ชาย,จีนโบราณ,นางระบำ,อิโรติก

รายละเอียด

หลิวซือเย่ นางระบำในวังที่ถูกสลับตัวกับองค์หญิงรอง ถูกนำไปเป็นของบรรณาการให้เผ่าหานหยวน นางไม่รู้ว่าบุรุษหนุ่ม ที่กำลังคร่อมร่างนางอยู่คือใคร หลิวซือเย่ตกใจแทบสิ้นสติ ชายคนนั้นกำลังทำให้นางเป็นของเขา

ผู้แต่ง

ฟ่งเฟิ่งเซวียน

เรื่องย่อ

เมื่อนางระบำอันดับหนึ่งถูกสลับตัวกับองค์หญิงที่ต้องไปแต่งงานเชื่อสัมพันธ์กับองค์รัชทายาทของเผ่าหานหยวน นางโดนวางยาไม่รู้สึกตัว ตื่นมาอีกทีก็อยู่ท่ามกลางขบวนเดินทางที่เต็มไปด้วยบุรุษแปลกหน้าเป็นสิบๆคนกลางทะเลทราย เเล้วนางจะหาทางหนีได้อย่างไหร่เล่า แถมยังโดนบุรุษปริศนากระทำชำเราทั้งคืนจนสลบ เเต่ปัญหาคือนางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบุรุษผู้นั้นคือใครกัน จะเป็นท่านเเม่ทัพ? ท่านหมอ? หรือใครกันนะ?




“อ๊ะ ยะ อย่า อ๊า!!..อะ.. ซื๊ดดดส์~” เหตุใดคำร้องห้ามของนางจึงกลายเป็นเสียงครางกระเส่าไปได้ หลิวซือเย่ได้สติอย่างเต็มที่ร่างการตื่นตัวทุกส่วน บัดนี้นางกำลังร่วมรักอยู่กับบุรุษแปลกหน้าเช่นนั้นหรือ!

บุรุษผู้นั้นคล้ายไม่ได้ยิน ยังคงโยกขยับตอกตึงท่อนเนื้อเข้าออก นางได้ยินเพียงเสียงลมหายใจและเสียงครางต่ำในลำคอ ความรู้สึกตีรวนอยู่ที่ช่องของน้อย หลิวซือเย่ไม่ได้รู้สึกเจ็บที่กลางร่างกาย อาจเป็นเพราะตอนนางสลบไปก็ถูกชายแปลกหน้าชำแรกเข้ามาแล้ว ยามนี้จึงสัมผัสได้แค่ความเสียดเสียว ทุกครั้งที่แท่งหยกแข็งอัดเข้ามานางขมิบเกร็งรูฉ่ำแบบไม่รู้ตัว




สารบัญ

นางเริงระบำ-บทที่ 1 บุรุษปริศนา,นางเริงระบำ-บทที่ 2 ใช่ท่านแม่ทัพหรือไม่,นางเริงระบำ-บทที่ 3 พบหมอ,นางเริงระบำ-บทที่ 4 วาบหวิวบนม้า,นางเริงระบำ-บทที่ 5 กระโจมสวาท,นางเริงระบำ-บทที่ 6 รัญจวนบนเกวียน,นางเริงระบำ-บทที่ 7 เสร็จสมบนเกวียน,นางเริงระบำ-บทที่ 8 ลอบโจมตี,นางเริงระบำ-บทที่ 9 องค์ชาย? ,นางเริงระบำ-บทที่ 10 โยกย้ายบนม้า,นางเริงระบำ-บทที่ 11 เข้าตำหนัก,นางเริงระบำ-บทที่ 12 ต้องการเพียวเจ้า

เนื้อหา

บทที่ 7 เสร็จสมบนเกวียน

หลิวซือเย่รู้สึกตัวอีกทีเมื่อผ้าห่มผืนหนาถูกเปิดออก เป็นอีกครั้งที่นางสลบไปหลังจากสุขสมครั้งแล้วครั้งเล่า นางค่อยๆกระพริบตาเพื่อปรับสายตาให้เข้ากับแสงจ้าด้านนอกเป็นท่านแม่ทัพที่เข้ามาปลุกพานางลงไปพักระหว่างรอตั้งกระโจม

“องค์หญิง...คงร้อนมาก เหตุใดถึงไม่บอกข้าเล่า”

“ข้า...ข้าไม่รู้ตัวเลย คงเป็นเพราะหลับไป”

“ถ้าเช่นนั้นรีบลงมาพักข้างนอกเถอะ”

นางระบำในคราบองค์หญิงรอง นั่งรับลมท่ามกลางสภาพอากาศร้อน มองดูเหล่าชายฉกรรจ์ตั้งกระโจมและจัดเตรียมทำอาหาร ยามนี้พระอาทิตย์คล้อยต่ำแล้วแต่แสงสว่างยังคงเจิดจ้าอยู่ นางมิรู้จะทำอันใด ยามนี้ไม่มีใจคิดอยากหนีเพราะต้องการเดินทางไปให้ถึงเมือง สบโอกาสเมื่อใดค่อยหาทางเอาตัวรอด

หลิวซือเย่เดินวนกลับไปที่กระโจม สาวใช้สองสามคนเดินนำสำรับอาหารกับถังใส่น้ำเข้ามาเพื่อเช็ดตัวให้นาง นางเองก็อยากเช็ดตัวเสียหน่อย เพราะเหนียวตัวมากไม่ใช่เพราะเหงื่ออย่างเดียว แต่ยังมีคราบของเหลวหนืดหลงเหลืออยู่ ทว่านางไม่ชินกับการที่ต้องมีสาวใช้มาค่อยปรนิบัติจึงให้พวกนางออกไปก่อน แต่จะเช็ดตัวเลยก็กะไรอยู่เหตุเพราะตอนนี้ยังสว่างเกินไปไม่สะดวก ที่นี่มีแต่ชายฉกรรจ์เดินเพ้นพ่านอยู่ด้านนอก ยามนี้ท้องไส้นางเริ่มร้องประท้วงเพราะนางโดนเขี้ยวก่ำมาตลอดทั้งคืนจึงคิดว่าควรทานอาหารเอาแรงก่อน รอกลางดึกค่อยเริ่มชำระกายเวลานั้นผู้อื่นคงหลับหมดแล้ว

 จนกระทั่งเวลากลางคืนมาถึง หลิวซือเย่รอจนด้านนอกเงียบสนิท นางจึงค่อยๆ เริ่มปลดอาภรณ์

ออกอย่างระแวดระวัง แล้วเอื้อมมือไปหยิบผ้าชุบน้ำมาชำระกาย สัมผัสได้ถึงความเย็นชื่นใจ ร่างบางไม่ได้เจอน้ำมาหลายวันรู้สึกสบายกายยิ่งนัก เดินทางทะเลทรายต้องใช้น้ำอย่างประหยัด

 เธอเริ่มเอาผ้าชุบน้ำหมาดเช็ดทำความสะอาดกายอย่างสบายใจอย่างเพลิดเพลินจนหลงลืมระวังตัวจนกระทั่งเงาร่างสูงใหญ่ของใครบางคนปรากฏอยู่ด้านหลังในความมืดแต่ก็ยังไม่รู้ตัว

 “อะ! ใครกัน! อื้ออ”

 ทันทีที่นางส่งเสียงร้องก็ถูกมือของใครบางคนยกขึ้นมาปิดไว้ กลิ่นนี้ช่างคุ้นเคยนักหรือว่าจะเป็นชายชุดดำที่เล่นกับร่างกายนางจนสลบไปเมื่อช่วงกลางวัน? แค่ข้อสงสัยเท่านั้นเพราะนางไม่อาจหันหน้าไปมองได้ เรือนกายกำยำดุนดันอยู่ที่แผ่นหลัง มือข้างที่ว่างอยู่ยกขึ้นมากอบกุมทรวงอกเปลือยเปล่าบีบวนสร้างความวาบหวิว

 หลิวซือเย่ร้องประท้วงในลำคอ เหตุใดชายผู้นี้ถึงชอบทำตัวลึกลับไม่ยอมเปิดเผยหน้าตา นางรู้สึกหงุดหงิดที่ไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าเขาเป็นใคร ยอดอกของนางถูกคีบขยี้จนแข็งเป็นไตหมดแรงจะต่อต้า ร่างกายสวยอ่อนยวบจนยืนแทบไม่ไหวทิ้งลงตัวที่ด้านหลังเอนซบอกกว้างลมหายใจเริ่มติดขัด

 บุรุษปริศนาเห็นว่านางไม่ตื่นตระหนกแล้วจึงละมือออกจากริมฝีปากนุ่ม เคลื่อนต่ำมายังโหนกเนื้อที่อยู่ใต้น้ำ แทรกนิ้วแหวกกลีบน้ำที่สัมผัสมานับครั้งไม่ถ้วน นางระบำคนงามซ่านสยิวซูดปากเปิดขาออกกว้าง เชื้อเชิญให้คนผู้นั้นทำตามใจได้สะดวก

 “อูยย ทะ ท่านมีดาบ ท่านคือ…” บุรุษด้านหลังดันนางแอ่นลงจนอกชิดขอบ สายตาเหลือบไปเห็นดาบเล่มหนึ่งที่วางอยู่ใกล้ๆ กองอาภรณ์ ผู้ที่ถือดาบคือนักรบแต่ยังถามไม่ทันจบเขาก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน

 “อย่าพูดถึงผู้อื่น!”

 เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเสียงของเขา มันแหบพร่าทุ้มต่ำแฝงความเกรี้ยวกราดไว้เล็กน้อย สำเนียงผิดแผกไปจากคนที่นี่ แต่ความสงสัยนั้นถูกแทนที่ด้วยความเสียว เมื่อนิ้วร้อนกดบีบที่ตุ่มนูนแดงกลางกาย “อ๊ะ อ่า ซี้ดด”

  จุดกึ่งกลางความเป็นหญิงถูกบดขยี้ซ้ำๆ รัญจวนไปทั้งร่าง หลิวซือเย่ยืนแอ่นหน้าแอ่นหลังเงยหน้าซูดปากระบายความเสียว ในจังหวะที่ความกำหนัดพุ่งขึ้นจนถึงขีดสุด อยู่ ๆ บุรุษด้านหลังก็หยุดการเคลื่อนไหวกะทันหัน

 ร่างทั้งร่างของนางถูกยกขึ้นวางบนพื้นหญ้าริมบึงในท่าคลาน บุรุษด้านหลังกดแผ่นหลังนางลง แล้วจ่อลำเนื้ออวบที่ทางรักฉ่ำน้ำ กดพรวดทีเดียวเข้าไปจนหมด หลิวซือเย่ร้องครางด้วยความเสียว ปากอิ่มของนางจึงถูกมือหนาปิดไว้ เอ็นร้อนสอดแทงเข้าออกอย่างบ้าคลั่ง ภายในภายคับนุ่มเปียกลื่นจึงไม่รู้สึกเจ็บ ใบหน้าของนางนาบลงกับพื้นหญ้า ไม่มีโอกาสได้หันไปมองว่าชายที่อยู่ด้านหลังเป็นใครกันแน่ เดาได้เพียงว่าเขาไร้สิ่งปกปิดเหมือนนาง

 หลิวซือเย่ครางในลำคอ ทั้งตื่นตัวและซ่านกระสัน ไม่เคยร่วมรักในที่โจ่งแจ้งเช่นนี้มาก่อน ครึ่งคืนเช่นนี้ผู้อื่นคนหลับหมดแล้ว รอบด้านยังมีพุ่มไม้บดบังทว่าก็อดกลั้นความตื่นเต้นไว้ไม่ได้อยู่ดี หากมีใครสักคนตื่นมาทำธุระแล้วเห็นเข้า…เพียงคิดเช่นนั้นความซ่านกระสันพุ่งขึ้นทวีคูณ

 บุรุษปริศนาอัดตอกท่อนเอ็นผลุบเข้าผลุบออก ครางต่ำในลำคอมือข้างหนึ่งยังคงกดอยู่ที่ใต้ท้ายทอยงาม เริงรักท่ามกลางแสงจันทร์เช่นนี้มองเห็นผิวขาวผ่องตรงหน้าอย่างชัดเจน รูรักของนางโอบรัดลำเนื้อไว้แน่น ยามรูดเข้ารูดออกเสียวหัวบานสะท้านไปถึงใจ

 นางระบำร่างน้อยตกอยู่ในภวังค์ความรัญจวน ดันบั้นท้ายเข้าหาแท่งอวบขยับอย่างเป็นจังหวะ ผ่านการร่วมรักมาหลายคืนนางเรียนรู้วิธีการสร้างความกระสัน มือน้อยๆ ยกขึ้นมาลูบอกตัวเองไปด้วย ต่อให้มีเทพเจ้ามาปรากฏตรงหน้า นางก็มิอาจหยุดร่วมสวาทได้ ลำเอ็นร้อนกระทุ้งเข้ามาถี่รูชักรูดอยู่ในโพรงนุ่ม จนนางอยากสำเร็จความใคร่

 ลมหายใจของบุรุษที่ควบขี่อยู่ด้านหลังสะดุดขาดห้วง มือทั้งสองข้างของเขาเคลื่อนมาจับที่สะโพก แล้วตอกอัดหนักๆ จนร่างของนางโยนคลอนรุนแรง ยามนี้ไม่อาจกลั้นเสียงครางได้ อารมณ์กำหนัดของนางพุ่งสูงจนไม่ทัดทานไม่ไหว นางระเบิดความใคร่ออกมาในที่สุด ขมิบตอดรัดลำเอ็นปูดที่กดอัดถี่รัว อึดใจต่อมานางสัมผัสได้ถึงสารธารอุ่นที่ฉีดพ่นเข้ามาในรูรัก มันทะลักเข้ามาไม่หยุด จนนางรู้ถึงอุ่นวาบไปทั่วทั้งหน้าท้องนวล