หลิวซือเย่ นางระบำในวังที่ถูกสลับตัวกับองค์หญิงรอง ถูกนำไปเป็นของบรรณาการให้เผ่าหานหยวน นางไม่รู้ว่าบุรุษหนุ่ม ที่กำลังคร่อมร่างนางอยู่คือใคร หลิวซือเย่ตกใจแทบสิ้นสติ ชายคนนั้นกำลังทำให้นางเป็นของเขา

นางเริงระบำ - บทที่ 12 ต้องการเพียวเจ้า โดย ฟ่งเฟิ่งเซวียน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ย้อนยุค,จีน,องค์ชาย,จีนโบราณ,นางระบำ,อิโรติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

นางเริงระบำ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ย้อนยุค,จีน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

องค์ชาย,จีนโบราณ,นางระบำ,อิโรติก

รายละเอียด

หลิวซือเย่ นางระบำในวังที่ถูกสลับตัวกับองค์หญิงรอง ถูกนำไปเป็นของบรรณาการให้เผ่าหานหยวน นางไม่รู้ว่าบุรุษหนุ่ม ที่กำลังคร่อมร่างนางอยู่คือใคร หลิวซือเย่ตกใจแทบสิ้นสติ ชายคนนั้นกำลังทำให้นางเป็นของเขา

ผู้แต่ง

ฟ่งเฟิ่งเซวียน

เรื่องย่อ

เมื่อนางระบำอันดับหนึ่งถูกสลับตัวกับองค์หญิงที่ต้องไปแต่งงานเชื่อสัมพันธ์กับองค์รัชทายาทของเผ่าหานหยวน นางโดนวางยาไม่รู้สึกตัว ตื่นมาอีกทีก็อยู่ท่ามกลางขบวนเดินทางที่เต็มไปด้วยบุรุษแปลกหน้าเป็นสิบๆคนกลางทะเลทราย เเล้วนางจะหาทางหนีได้อย่างไหร่เล่า แถมยังโดนบุรุษปริศนากระทำชำเราทั้งคืนจนสลบ เเต่ปัญหาคือนางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบุรุษผู้นั้นคือใครกัน จะเป็นท่านเเม่ทัพ? ท่านหมอ? หรือใครกันนะ?




“อ๊ะ ยะ อย่า อ๊า!!..อะ.. ซื๊ดดดส์~” เหตุใดคำร้องห้ามของนางจึงกลายเป็นเสียงครางกระเส่าไปได้ หลิวซือเย่ได้สติอย่างเต็มที่ร่างการตื่นตัวทุกส่วน บัดนี้นางกำลังร่วมรักอยู่กับบุรุษแปลกหน้าเช่นนั้นหรือ!

บุรุษผู้นั้นคล้ายไม่ได้ยิน ยังคงโยกขยับตอกตึงท่อนเนื้อเข้าออก นางได้ยินเพียงเสียงลมหายใจและเสียงครางต่ำในลำคอ ความรู้สึกตีรวนอยู่ที่ช่องของน้อย หลิวซือเย่ไม่ได้รู้สึกเจ็บที่กลางร่างกาย อาจเป็นเพราะตอนนางสลบไปก็ถูกชายแปลกหน้าชำแรกเข้ามาแล้ว ยามนี้จึงสัมผัสได้แค่ความเสียดเสียว ทุกครั้งที่แท่งหยกแข็งอัดเข้ามานางขมิบเกร็งรูฉ่ำแบบไม่รู้ตัว




สารบัญ

นางเริงระบำ-บทที่ 1 บุรุษปริศนา,นางเริงระบำ-บทที่ 2 ใช่ท่านแม่ทัพหรือไม่,นางเริงระบำ-บทที่ 3 พบหมอ,นางเริงระบำ-บทที่ 4 วาบหวิวบนม้า,นางเริงระบำ-บทที่ 5 กระโจมสวาท,นางเริงระบำ-บทที่ 6 รัญจวนบนเกวียน,นางเริงระบำ-บทที่ 7 เสร็จสมบนเกวียน,นางเริงระบำ-บทที่ 8 ลอบโจมตี,นางเริงระบำ-บทที่ 9 องค์ชาย? ,นางเริงระบำ-บทที่ 10 โยกย้ายบนม้า,นางเริงระบำ-บทที่ 11 เข้าตำหนัก,นางเริงระบำ-บทที่ 12 ต้องการเพียวเจ้า

เนื้อหา

บทที่ 12 ต้องการเพียวเจ้า

“อ๊า หลิวซือเย่…เจ้าดูดข้าแรงไปแล้ว”

องค์ชายสี่นอนร้องครวญครางด้วยความเสียดเสียว ปล่อยให้นางระบำคนสวยเป็นคนปรนเปรอ ดูดอมลำเนื้อจนเขาเสียวสะท้านไปทั้งตัว เกือบอาทิตย์ที่เดินทางไปหัวเมืองด่านขวา คิดถึงร่างแน่งน้อยเมื่อกลับมาถึงก็รีบมาหาหลิวซือเย่ทันที

“ก็ข้าคิดถึงท่าน” นางเองก็ไม่ต่างกันเฝ้ารอทุกลมหายใจ ช่วงที่มู่ชิวหยางไม่อยู่รู้สึกโหวงเหวงกระวนกระวาย คอยแต่ชะเง้อมอง เมื่อชายหนุ่มกลับมาก็อยากเอาใจ ยอมรับว่าติดใจแล้ว เขาร้อนแรงและทำให้นางสุขสมได้ขึ้นสวรรค์ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน

“โอ้วว ซี้ดดด ปากเจ้าดีเหลือเกิน”

ยิ่งถูกชมนางระบำคนสวยก็ยิ่งย่ามใจ ทั้งดูดทั้งอมลำยาวใหญ่ประหนึ่งว่ามันเป็นของโปรด องค์ชายสี่เกร็งสะโพกยกขึ้นตามแรงดูดของปากเล็ก ลีลาของนางร้ายกาจนักเสียวปานขาดใจ

ตั้งแต่ได้หลับนอนกับองค์ชายสี่ก็ไม่เคยเรียกนางอุ่นเตียงอีกเลย มีแค่หลิวซือเย่คนเดียวเล่นรักกันจนรุ่งสางเกือบทุกวัน จวงอ๋องรู้สึกเบื่อหน่ายสตรีคนอื่น มองแล้วไม่มีอารมณ์ ยกเว้นแค่นางระบำคนสวยคนเดียวเท่านั้นที่ทำให้เขาแข็งปั๋ง อยากจะจับกดลงเตียงแทบตลอดเวลา

“อูยย ข้าเสียวหัว เลียเช่นนี้เดี๋ยวข้าจะแตกกันพอดี ซี้ดด”

เขาครางต่ำถูกเลียวนตรงปลายหัวหยักบาน เสียวซ่านไปจนถึงปลายเท้า ลิ้นเล็กหยอกล้อไปทั่วลำโคนลามไปจนถึงพวงไข่ องค์ชายสี่ชอบที่หลิวซือเย่ปรนเปรอด้วยปากแบบนี้

“ข้าอยากทำให้ท่านแตก...ใส่ปากข้า” ช้อนสายตาขึ้นมองอย่างยั่วยวน พอได้เป็นเจ้าของเขาแล้วนางก็ไม่อยากปล่อยมือ พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้องค์ชายสี่พึงพอใจ

“ร้ายกาจนัก เจ้าเป็นนางจิ้งจอกแปลงกายมาหรือ”

“ข้าเป็นแค่นางระบำ ที่อยากทำให้ท่านมีความสุข”

“อ๊า ซี้ดดด อื้มม”

ยอมรับว่าหลิวซือเย่ทำให้เขามีความสุขมากเหลือเกิน อยากอยู่กับนางโรมรันอัดกระแทกกันตลอดทั้งคืน ถ้าไม่ติดว่ามีราชกิจที่ต้องไปทำ ก็แทบไม่อยากห่างนางไปไหน เขาคงหลงเสน่ห์นางเข้าแล้ว นางระบำดูดอมลำเนื้อยาวจนกระทั่งมู่ชิวหยางทัดทานไม่ไหว พ่นน้ำขาวขุ่นอัดเข้าไปในโพรงปาก นางกลืนทั้งหมดลงคอแล้วเลียตั้งแต่โคนไปจนสุดปลายหัวบานหยัก ดูดรูดอมอีกสองสามครั้ง ในขณะที่องค์ชายสี่ยังคงเกร็งร่างกายเพราะความเสียว

 “มาให้ข้ากินเจ้าบ้าง”

 องค์ชายสี่ลุกจากเก้าอี้แล้วอุ้มหลิวซือเย่ไปที่เตียง จับขานางแบะออกกว้าง แล้วก้มลงละเลงลิ้นลงบนกลีบฉ่ำวาวที่เคลือบด้วยน้ำหวาน แยงลิ้นเข้าไปในรูสวาทที่เอากี่ครั้งก็ยังคับแน่นเหมือนเดิม ปลายลิ้นร้อนกระตุ้นความกำหนัดของนางระบำ

 “อูยย เสียว” หลิวซือเย่ส่ายร่อนสะโพกรับลิ้นที่ละเลงลงบนตุ่มแดงนูน สลับกับแทงเข้าออกในโพรงฉ่ำ ถูกปรนเปรอเพียงนิดก็หลั่งน้ำใสออกมาจนย้อยลงที่เตียงตั่ง

แผล่บ แผล่บ

 “ทะ ท่านรีบทำข้าเถิด”

 “หึ ทนไม่ไหวแล้วสิ”

 “ซี้ดด อ๊า ข้าเสียว” มู่ชิวหยางดูดเม้มติ่งเสียวอย่างไม่ปราณี เหมือนเอาคืนที่นางทำเขาซ่านสยิว สัมผัสจากลิ้นร้อนเรียกน้ำหวานใสไหลออกมาไม่หยุด

 “ข้าอยากทำเช่นนี้กับเจ้าไปนานๆ”

 “แต่ข้าจะขาดใจ อ๊า”

“ปล่อยมันออกมา ข้ารอชิมอยู่”

“อ๊ะ อ๊ายย ซี้ดด”

หลิวซือเย่ถูกกระตุ้นจนไม่อาจฝืนได้ แอ่นเนินเนื้อกดใบหน้าของชายหนุ่มฝังลงบนความอ่อนนุ่ม ก่อนจะปล่อยน้ำหวานฉ่ำออกมาจากช่องทางรัก ภายในกระตุกตอดขาสั่นไม่ไหว หอบหายใจหลับตาพริ้มอย่างสุขสม

“หวานมาก ข้าชอบเหลือเกิน”

“ข้าอยากโดนท่านแทงเข้ามาแรงๆ”

หลิวซือเย่มองเขาอย่างยั่วยวนนางแหกขาออกกว้างอีก เชิญชวนให้มู่ชิวหยางยัดดุ้นยักษ์เข้ามาในโพรงฉ่ำ นางซ่านกระสันไม่หยุดอยากถูกอัดกระแทกแรงๆ จวงอ๋องทำให้นางกลายเป็นสตรีร่านสวาทเสียแล้ว

“ใจร้อนเสียจริง แต่เมื่อเจ้าต้องการข้าก็ไม่ขัด” จับลำยาวเขื่องจ่อไปที่รูสวาทเคลือบน้ำหวานใส ถูไถลงกับความอ่อนนุ่มก่อนจะเสียบแทงเข้าไปทีเดียวลึกสุดขำจนพวงไข่กระทบกับหน้าขาสวย

“อ๊ะ อ๊า สะ เสียว ข้าหยุดสั่นไม่ได้” เพิ่งเสร็จไปไม่ทันไรถูกกระทุ้งเข้ามาที่จุดเสียวภายในกาย จึงสะท้านและเกร็งกระตุกหัวใจเหมือนดิ่งลงเหว

“เจ้าตอดข้าแรงเหลือเกิน ซี้ดดด” องค์ชายสี่ซูดปากขบกรามเข้าหากัน ยามที่ลำเนื้อสอดเข้าไปในรูฉ่ำมันคับครูดถอกเนื้อหยุนและขมิบรัดจนแทบขยับไม่ได้

“ทำข้าแรงๆ ซี้ดดด แบบนั้นเลยข้าชอบมาก” เร่งเร้าให้องค์ชายผู้เร่าร้อนเร่งการกดกระแทก นางร่านสวาทร่างเดือดพล่านไปด้วยอารมณ์กำหนัด ยกบั้นท้ายขึ้นตอบรับการตอกตรึงแบบลึกสุดลำ

“ข้าก็ชอบเอาเจ้าแบบเต็มแรงเช่นกัน”

“อ๊ะ อ๊า ซี้ดดด สะ เสียวมาก”

“อูยย ซี้ดด รัดดุ้นข้าจนแทบแตก”

 ทั้งสองร่างมัวเมากับกามรมณ์ที่เดือดไม่ต่างจากน้ำร้อน โรมรันกันอย่างถึงอกถึงใจอัดกระแทกกันจนเตียงสั่นไหว มีเสียงเอี๊ยดอ๊าด ดังตามจังหวะหระเเทกกระทั้นอันหนักหน่วย ด้วยความที่ห่างหายกันไปหลายวัน ทำให้มู่ชิวหยางไม่อาจทัดทานความเสียวซ่านที่ได้รับไหว พ่นน้ำรักสีขาวขุ่นใส่โพรงสวาทออกไปจนหมดทุกหยาดหยด แต่ท่อนเนื้อลำกายยังไม่อาจสงบลงได้ มันแข็งผงาดพร้อมรบตลอดทั้งราตรี

 หลิวซือเย่คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีชะตาชีวิตจผันเปลี่ยนไปเช่นนี้ เดิมทีเกือบกลายเป็นเจ้าสาวบรรณาการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ แต่ต่อมากลับได้เป็นว่าที่พระชายาขององค์ชายสี่ นางไม่เคยคิดไม่เคยฝันถึงตำแหน่งใหญ่โตเช่นนี้ หลิวซือเย่เป็นเพียงนางระบำไฉนเลยจะกล้าอาจเอื้อม แต่ท้ายที่สุดก็เป็นมู่ชิวหยางองค์ชายสี่ที่ต้องตาต้องใจชมชอบนางมาโดยตลอด เมื่อสบโอกาสจึงช่วยเหลือให้นางพ้นเคราะห์กรรม กลายเป็นสตรีที่อยู่ข้างกายองค์ชายสี่แต่เพียงผู้เดียว

หลิวซือเย่รู้สึกปลื้มปีติเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันก็อดรู้สึกหวาดหวั่นไม่ได้ เพราะตระหนักดีว่าตำแหน่งพระชายานั้นมาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง นางจะต้องเรียนรู้ธรรมเนียมราชสำนักอย่างเร่งด่วน และพยายามวางตัวให้สมกับฐานะอันสูงส่ง

ทว่าสิ่งที่หลิวซือเย่กังวลใจที่สุดคือการเป็นที่ยอมรับของเหล่าขุนนางและชาววัง นางเกรงว่าจะถูกดูแคลนเพราะชาติกำเนิดอันต่ำต้อย แม้องค์ชายสี่จะปกป้องนางเพียงใด แต่เสียงนินทาก็คงหลีกเลี่ยงได้ยาก นางจึงตั้งปณิธานว่าจะต้องพิสูจน์ตนเองให้ได้ ด้วยการศึกษาหาความรู้และฝึกฝนตนเองอย่างหนัก เพื่อให้สมกับความไว้วางพระทัยขององค์ชายสี่

ยามว่างหลิวซือเย่มักจะนั่งครุ่นคิดถึงชีวิตในอดีต นางอดรู้สึกสะเทือนใจไม่ได้เมื่อนึกถึงเพื่อนร่วมคณะระบำที่ยังต้องดิ้นรนต่อสู้ชีวิต ในขณะที่ตนเองได้รับโอกาสครั้งสำคัญ นางจึงตั้งใจว่าหากมีโอกาสก็จะช่วยเหลือพวกเขาเท่าที่จะทำได้ เพราะนางไม่เคยลืมรากเหง้าของตนเอง การกระทำเหล่านั้นยิ่งทำให้องค์ชายสี่รักมั่นในตัวของนาง ด้วยรูปโฉมและจิตใจที่งดงามนี้เป็นหลุมชั้นดี ให้เขาไม่อาจปีนขึ้นมาได้อีกตลอดชีวิต