การได้ปะแป้งหน้าขาว ทาปากสีแดงฉูดฉาด สวมใส่ชุดที่ถูกตัดเย็บมาอย่างดีพร้อมเครื่องประดับสีสันสวยงามและขึ้นแสดงต่อหน้าผู้คนมากมายทำให้ฉันมีความสุขเหลือเกิน...ฉันอยากจะร่ายรำแบบนี้ตลอดไป...

กรีดกรายร่ายรำ [อ่านฟรี] - บทที่ 2 ระบำเทพบันเทิง (1/3) โดย ภุมโม @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

พารานอมอล,ลึกลับ,ระทึกขวัญ,รั้วโรงเรียน,ไทย,พล็อตสร้างกระแส,สยองขวัญ,horror,ลึกลับ,น่ากลัว,ผี,โรงเรียนไทย,โรงเรียน,หลอน,ระทึกขวัญ ,นิยายหลอน,วิญญาณ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

กรีดกรายร่ายรำ [อ่านฟรี]

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

พารานอมอล,ลึกลับ,ระทึกขวัญ,รั้วโรงเรียน,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,สยองขวัญ,horror,ลึกลับ,น่ากลัว,ผี,โรงเรียนไทย,โรงเรียน,หลอน,ระทึกขวัญ ,นิยายหลอน,วิญญาณ

รายละเอียด

กรีดกรายร่ายรำ [อ่านฟรี] โดย ภุมโม @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

การได้ปะแป้งหน้าขาว ทาปากสีแดงฉูดฉาด สวมใส่ชุดที่ถูกตัดเย็บมาอย่างดีพร้อมเครื่องประดับสีสันสวยงามและขึ้นแสดงต่อหน้าผู้คนมากมายทำให้ฉันมีความสุขเหลือเกิน...ฉันอยากจะร่ายรำแบบนี้ตลอดไป...

ผู้แต่ง

ภุมโม

เรื่องย่อ

 

 

เรื่องราวของ ‘ปัทมา’ เด็กสาววัยสิบแปดปีที่เกิดมาพร้อมพรสวรรค์ในการร่ายรำ ตลอดระยะเวลาหกปีในรั้วโรงเรียนมัธยม ปัทมาเข้าแข่งขันงานวิชาการหมวดนาฏศิลป์เสมอแต่ไม่เคยได้รับชัยชนะเลยสักครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่งเริ่มมีคนเห็นเธอร่ายรำคู่กับชายหนุ่มปริศนา ทั้งที่ช่วงเวลานั้นปัทมาที่รู้ตัวดีว่าเธอรำเพียงคนเดียว หลังจากนั้นก็เริ่มมีเรื่องราวประหลาดเกิดขึ้นกับเธอ...

.

.

.

ขอแจ้งรายละเอียดนิยายรายตอนค่ะ

เนื่องจากนิยายเรื่องนี้โมตั้งใจว่าจะไม่มีการจัดทำอีบุ๊กขาย 

โมเลยขอแจ้งว่าจะเปิดให้อานฟรีตลอดทั้งเรื่องค่ะ

สำหรับเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการรำในนิยาย โมศึกษาจากหนังสือ สื่อวิดีทัศน์และสอบถามผู้รู้

ซึ่งหากไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้องเท่าที่ควร รี้ดสามารถแบ่งปันความรู้ได้ผ่านคอมเมนต์นะคะ 

ขอให้ทุกท่านอ่านนิยายด้วยความสนุกและขอบคุณทุกคนที่อ่านนิยายเรื่องนี้ค่ะ

ด้วยรัก...ภุมโม

.

.

.

**คำเตือน**

นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหาบางส่วนที่ค่อนข้างรุนแรง

เช่น การบรรยายถึงเลือด น้ำหนอง อวัยวะของมนุษย์

รวมไปถึงพฤติกรรม การกระทำหรือคำพูดที่ไม่เหมาะสม

นักเขียนไม่มีเจตนาส่งเสริมการกระทำใดก็ตามที่เกิดขึ้นในเรื่อง

ฉะนั้นโปรดใช้วิจารญาณในการอ่านนะคะ

หากท่านใดไม่สะดวกใจที่จะอ่านเนื้อหาดังกล่าว

รออ่านนิยายเรื่องอื่นของภุมโมได้ค่ะ💕

ปล.นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของภุมโมเท่านั้น

ขอให้ทุกท่านสนุกกับการอ่านค่ะ🍀

 

สารบัญ

กรีดกรายร่ายรำ [อ่านฟรี]-บทที่ 1 ระบำดาวดึงส์ (1/3),กรีดกรายร่ายรำ [อ่านฟรี]-บทที่ 1 ระบำดาวดึงส์ (2/3),กรีดกรายร่ายรำ [อ่านฟรี]-บทที่ 1 ระบำดาวดึงส์ (3/3),กรีดกรายร่ายรำ [อ่านฟรี]-บทที่ 2 ระบำเทพบันเทิง (1/3),กรีดกรายร่ายรำ [อ่านฟรี]-บทที่ 2 ระบำเทพบันเทิง (2/3),กรีดกรายร่ายรำ [อ่านฟรี]-บทที่ 2 ระบำเทพบันเทิง (3/3),กรีดกรายร่ายรำ [อ่านฟรี]-บทที่ 3 ระบำกฤดาภินิหาร (1/3),กรีดกรายร่ายรำ [อ่านฟรี]-บทที่ 3 ระบำกฤดาภินิหาร (2/3),กรีดกรายร่ายรำ [อ่านฟรี]-บทที่ 3 ระบำกฤดาภินิหาร (3/3),กรีดกรายร่ายรำ [อ่านฟรี]-บทที่ 4 รำฉุยฉายเบญกาย (1/3),กรีดกรายร่ายรำ [อ่านฟรี]-บทที่ 4 รำฉุยฉายเบญกาย (2/3),กรีดกรายร่ายรำ [อ่านฟรี]-บทที่ 4 รำฉุยฉายเบญกาย (3/3),กรีดกรายร่ายรำ [อ่านฟรี]-บทที่ 5 นางรำปัทมา (1/2),กรีดกรายร่ายรำ [อ่านฟรี]-บทที่ 5 นางรำปัทมา (2/2)

เนื้อหา

บทที่ 2 ระบำเทพบันเทิง (1/3)

 

วันเวลาได้ล่วงเลยมาจนถึงวันที่จะต้องเดินทางเพื่อไปแข่งขันครั้งที่สอง เด็กสาวใช้ชีวิตวัยเรียนและซ้อมรำสำหรับแข่งได้เป็นอย่างดี ทั้งที่ภายในใจเต็มไปด้วยเรื่องของชายหนุ่มปริศนาเมื่อวันก่อนให้เธอคอยขบคิดและว้าวุ่นใจ

ปัทมาเดินหลบมาทางด้านข้างห้องนาฏศิลป์และตรงไปยังศาลประจำโรงเรียนเพื่อไหว้ขอพรตามความเชื่อที่มีมาเนิ่นนานว่า ใครก็ตามที่มาไหว้ขอพรหรือบนบานกับศาลศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ด้วยจิตใจบริสุทธิ์มักจะสมหวังดังปรารถนาทั้งสิ้น

ครั้งนี้เธอเลยอยากลองไหว้ศาลขอพรก่อนออกเดินทาง มือเรียวหยิบธูปเทียนที่เตรียมมาจุดไฟและนำไปปักไว้ในกระถาง ก่อนยกมือขึ้นพนมไหว้ขอพรพร้อมพวงมาลัยมะลิซ้อนที่ร้อยเองและเอื้อนเอ่ยวาจาออกไปด้วยจิตใจอันแน่วแน่

“ลูกชอบเวลาที่ตัวเองได้กรีดกรายร่ายรำมากเลยเจ้าค่ะและลูกก็อยากจะร่ายรำต่อไป ลูกขอให้การรำในการแข่งขันครั้งนี้เฉิดฉายและสะกดทุกสายตาให้จดจ้องมาที่ลูกจนได้รับชัยชนะมาครอบครองด้วยเถิดเจ้าค่ะ”

สายลมเย็นพัดโชยมาราวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์โอบรับคำขอนั้น แรงฮึกเหิมเพิ่มพูนขึ้นในใจของปัทมาอย่างล้นเหลือพร้อมรอยยิ้มที่เกิดขึ้นบนใบหน้างาม เด็กสาวทูนมาลัยเหนือหัวและวางประดับไว้หน้าศาล ก่อนจะกลับไปช่วยเพื่อนขนของขึ้นรถ ช่วยกันยกของคนละไม้คนละมือเพียงครู่เดียวก็เสร็จเรียบร้อย

“ยกของขึ้นรถครบทุกชิ้นรึยังจ้ะ ไม่มีใครลืมอะไรแล้วนะ” ครูนิดตะโกนถามเหล่านักเรียนเสียงดัง ก่อนจะได้ยินเสียงตอบรับตะโกนกลับมา

“ไม่มีค่า”

“ไม่ลืมครับ” ทุกคนทยอยเดินไปนั่งตรงที่ว่างต่าง ๆ

“โอเค ทุกคนฟังทางนี้หน่อย!ตอนนี้เรากำลังจะเดินทางเพื่อไปแข่งขันงานวิชาการกันแล้วนะ ตลอดการเดินทางก็ขอให้นักเรียนทุกคนอยู่ในความสงบเรียบร้อย และเหมือนครั้งก่อนคือเราจะไม่มีการจอดพักที่ไหนทั้งนั้นเพื่อให้ไปถึงสถานที่แข่งขันโดยเร็วที่สุด ทุกคนรับทราบนะ” ครั้งนี้น้ำเสียงของครูนิดจริงจังกว่าปกติเพราะเธอไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นกับนักเรียนของเธอ

“รับทราบค่าาา”

“รับทราบครับผม!”

รถบัสแสนเก่าคันเดิมเคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถและมุ่งหน้าไปยังสถานที่แข่งขันทันที ความจริงแล้วการแข่งขันจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้แต่ทางผู้เข้าแข่งขันควรไปเตรียมความพร้อมก่อนและนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ทุกคนเดินทางในวันนี้

“ยัยปัทดูอะไรอยู่” ส้มที่เห็นว่าเพื่อนสาวนั่งเพ่งมองมือถืออย่างใจจดใจจ่อก็เอ่ยถามเสียงใสเจือปนความอยากรู้อยากเห็น

“วิดีโอที่อัดไว้ตอนซ้อมเมื่อวานน่ะ” เด็กสาวเบนหน้าจอให้อีกฝ่ายดูด้วยเพื่อให้หายสงสัย ซึ่งวิดีโอนั้นมีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นที่รำอยู่...ไม่ได้มีใครรำด้วยอย่างที่แก๊บบอกเลยสักนิด

“เมื่อวานมีซ้อมด้วยเหรอ ไม่เห็นจะรู้เลย” ส้มงุนงงกับคำพูดของปัทเป็นอย่างมากพลางคิดว่า นี่ฉันพลาดอะไรไปรึเปล่า ก่อนจะเผลอเบ้ปากเมื่อได้ยินเพื่อนสาวตอบกลับมา

“เราซ้อมคนเดียวน่ะ”

“ขยันเกิ๊น ปีนี้กะจะเอาที่หนึ่งเลยรึไงจ้ะ” ว่าพลางเอี้ยวตัวไปปรับเบาะนั่งให้เอนลงเล็กน้อย

“พวกเราแข่งรายการนี้มาห้าปีแล้วนะส้มแต่ยังไม่เคยเข้ารอบสี่ทีมสุดท้ายสักที แถมปีนี้เป็นปีสุดท้ายที่จะได้ลงแข่งแล้วอย่างน้อยก็ต้องทำให้เต็มที่ อาจมีปาฏิหาริย์ก็ได้”

“จ้ะ ฉันน่ะรำเต็มที่ทุกครั้งแหละแต่ฉันคงไม่มุ่งมั่นเท่าเธอ นี่สรุปว่าจบมอหกจะไปต่อสายนาฏศิลป์จริง ๆ เหรอ เด็กเรียนเก่งอย่างเธอไปเรียนด้านอื่นได้เยอะเลยนะปัท” คราวนี้เรื่องที่ส้มพูดฟังดูจริงจังมากจนปัทถึงกับต้องหันมองหน้าเพื่อน ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่จริงจังไม่แพ้กัน

“เราเลือกแล้วส้ม ถ้าเป็นไปได้เราก็อยากรำบนเวทีต่อไป” ส้มที่สัมผัสได้ถึงความตั้งใจของเพื่อนก็ยอมรับการตัดสินใจนั้นและค่อย ๆ เอนตัวนอน

“โอเค ถึงแล้วปลุกด้วยนะ ฉันงีบหน่อย” พูดเพียงแค่นั้นก็ชิงหลับไป ปล่อยให้ปัทมาจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง

.

.

.

และแล้วก็มาถึงสถานที่แข่งขันซึ่งก็คือโรงเรียนในเครือที่เข้าร่วมการแข่งขันด้วยนั่นเอง ทุกคนช่วยกันขนสัมภาระไปยังห้องพักที่ทางเจ้าภาพเตรียมไว้ให้ ห้องเรียนขนาดกลางที่ตอนนี้โต๊ะไม้สำหรับนั่งเรียนถูกขนออกไปจนหมดเหลือเพียงพื้นที่โล่งกว้างให้ใช้สอยตามอัธยาศัย

รุ่นน้องที่เข้าร่วมการแสดงบางคนยังมีอาการตื่นเต้นให้เห็นอยู่บ้างแต่เพราะมีรุ่นพี่เป็นตัวอย่างเลยทำให้จิตใจสงบลงได้ ทางด้านรุ่นพี่ที่ชินกับความรู้สึกตื่นเต้นแล้วต่างก็แยกย้ายกันไปเดินเที่ยวเล่นในรั้วโรงเรียนเพราะวันนี้ถือเป็นวันพักผ่อน ก่อนต้องเจอศึกใหญ่ในวันพรุ่งนี้

ค่ำคืนแห่งความร้อนรุ่มของเหล่าผู้เข้าแข่งขันที่ต้องการช่วงชิงชัยชนะเพื่อให้เข้ารอบสี่ทีมสุดท้ายจากทั้งหมดแปดทีมนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับเพิ่งผ่านไปไม่กี่นาที และแล้ววันเวลาแห่งการแข่งขันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง

นักแสดงจากแต่ละโรงเรียนต่างก็แต่งองค์ทรงเครื่องกันอย่างเต็มที่โดยไม่มีใครยอมใคร ชุดผ้าลายไทยปักลิ้นเหลือบทองหลากสีไม่ว่าจะเป็นสีเขียว สีม่วงหรือสีแดงถูกเลือกให้เหมาะสมกับรูปลักษณ์ของผู้แสดงและยิ่งทำให้ดูสวยเด่นเป็นสง่ามากขึ้น

โรงเรียนของปัทมาก็แต่งหน้าแต่งตัวเต็มยศไม่น้อยหน้าใครเช่นกัน คนที่เตรียมตัวเสร็จแล้วจะลงมารออยู่ชั้นล่างเพื่อไปหอประชุมพร้อมกันซึ่งตอนนี้ปัทมาก็อยู่ชั้นล่างแล้ว ทว่าราวกับโชคชะตาเล่นตลกเพราะวิทย์บุคคลที่ต้องแสดงรำเข้าคู่กับปัทมาบังเอิญสะดุดล้มและตกบันไดจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

ปัทมาและครูนิดรีบวิ่งขึ้นมาดูอาการวิทย์ทันทีที่รู้เรื่อง เด็กหนุ่มนอนคดคู้อยู่ตรงบันไดขั้นสุดท้าย เขากัดฟันแน่นเพื่อไม่ให้ใครได้เห็นความเจ็บปวด ทว่ามือหนากลับกุมข้อเท้าซ้ายที่ตอนนี้บวมเป่งและมีรอยจ้ำแดงคล้ำไว้แน่นเพราะความจริงแล้วเขารู้สึกเจ็บมากเหลือเกิน

เด็กสาวยืนตัวสั่นงันงกอยู่ตรงมุมใกล้ ๆ พลางคิดวิตกกังวลไปต่าง ๆ นานา เธอควรทำยังไงดี อีกฝ่ายเจ็บปวดขนาดนี้การปลอบคงไม่ช่วยอะไร แล้วการแสดงวันนี้ล่ะจะทำยังไงต่อ จังหวะที่เธออยู่ในความคิดลบนั้นก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ข้อเท้า

เป็นมือของวิทย์นั่นเองที่เอื้อมมาบีบข้อเท้าบางของเธอจนรู้สึกเจ็บจี๊ด เด็กสาวย่อตัวลงเพราะคิดว่าอีกฝ่ายคงไม่มีแรงแม้แต่จะเรียกเธอเขาถึงได้ทำแบบนี้และปัทมาคิดถูก วิทย์กัดฟันพูดเสียงเบาแต่ละคำที่เอื้อนเอ่ยออกมานั้นช่างแสนยากลำบาก ปัทมาจึงก้มลงไปให้ใกล้ขึ้นอีกและตั้งใจฟัง

“ปัท เรามั่นใจว่าถูกผลักลงมา” เด็กสาวเบิกตากว้างทันทีและมีท่าทีลุกลี้ลุกลน ก่อนจะได้ยินวิทย์พูดอีกครั้งและประโยคนี้ทำให้จิตใจของปัทมาวูบไหวจนน้ำตาคลอ

“เราขอโทษที่บาดเจ็บ”

ความเจ็บทางร่างกายคงไม่ได้เสี้ยวหนึ่งของความเจ็บใจ การที่เขาเอ่ยคำขอโทษปัทมาแบบนี้เพราะเขารู้ดีว่าเหตุการณ์นี้จะส่งผลกระทบต่อการแสดงมากน้อยขนาดไหน ไม่ใช่เพียงแค่ปัทมาจะไม่มีคู่รำแต่มันส่งผลต่อจิตใจของเพื่อนในชมรมด้วย

ครูนิดที่ติดต่อรถพยาบาลได้สำเร็จก็กลับมาดูอาการวิทย์ทันที ก่อนหน้านี้ขณะโทรศัพท์เธอขอช่วยให้นักเรียนแถวนั้นไปซื้อน้ำแข็งมาให้และตอนนี้เธอใช้น้ำแข็งนั้นประคบข้อเท้าให้วิทย์อยู่ ภายในใจก็ภาวนาขอให้นักเรียนของเธอปลอดภัยและไม่เจ็บปวดไปมากกว่านี้

เสียงไซเรนของรถพยาบาลดังมาแต่ไกล ผู้บาดเจ็บถูกหามขึ้นเปลและนำตัวส่งโรงพยาบาล ครูนิดหันมาฝากฝังและมอบอำนาจการตัดสินใจเรื่องการแสดงครั้งนี้ให้ปัทมารับผิดชอบเพราะเธอต้องไปติดต่อเรื่องการรักษาพยาบาล

เด็กสาวพยักหน้ารับคำขอนั้นด้วยความจำยอมเพราะตอนนี้ในใจเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกหวาดกลัว มือเรียวปาดน้ำตาที่เอ่อล้นจนเกือบร่วงหล่นลงมาทิ้งไปพลางคิดว่าเธอจะต้องเข้มแข็งเข้าไว้และพาทุกคนผ่านสถานการณ์นี้ไปให้ได้ เมื่อคิดได้แบบนั้นปัทมาก็รีบเดินไปหาเพื่อนที่นั่งรออยู่ด้านหน้าอาคารทันที