เด็กสาวผู้เป็นความหวัง มีเพียงเธอที่จะสังหารจักรพรรดิปีศาจทรราชผู้ชั่วร้ายลงได้ ทว่าด้วยพลังอำนาจที่ยังไม่เพียงพอเธอจึงถูกผนึกเพื่อบ่มเพาะพลังอยู่หลายพันปี ณ ตอนนี้ได้เวลาแล้วที่เธอจะได้ลืมตาตื่น!
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ยุคกลาง,รั้วโรงเรียน,สงคราม,รัก,เอลฟ์,ปีศาจ,เทพ ,สงคราม,โรมานซ์แฟนตาซี,โรงเรียน,โรงเรียนเวทมนตร์,ผจญภัย,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
[อ่านฟรี]IRA&The six gem ไอร่ากับอัญมณีทั้งหกเด็กสาวผู้เป็นความหวัง มีเพียงเธอที่จะสังหารจักรพรรดิปีศาจทรราชผู้ชั่วร้ายลงได้ ทว่าด้วยพลังอำนาจที่ยังไม่เพียงพอเธอจึงถูกผนึกเพื่อบ่มเพาะพลังอยู่หลายพันปี ณ ตอนนี้ได้เวลาแล้วที่เธอจะได้ลืมตาตื่น!
บทที่4
ชาติกำเนิด
หลังจากคาร่าได้อยู่กับไอร่ามาหลายเดือนก็ทำให้เธอได้รับรู้ว่าคุณหนูของเธอนั้นเป็นผู้มากพรสวรรค์อย่างที่เธอไม่เคยพบเจอที่ไหนมาก่อน
แต่การเรียนรู้ของเธอนั้นช่างน่าประหลาด สิ่งที่ยากจะหาคำตอบได้ด้วยตัวเองและแม้แต่ข้อมูลบางอย่างที่หาด้วยตัวอักษรไม่ได้ แต่เธอกลับรับรู้ได้ราวกับมีคนคอยสอนอยู่ข้างกาย
และในวันหนึ่งไอร่าก็เอ่ยขอบางอย่างจากเซนเป็นครั้งแรกในช่วงเกือบปีหลังจากขอให้ช่วยเหลือคาร่าเอาไว้
“พาไอไปป่าหมอกทีค่ะ”
เซนที่ได้ยินคำขอนั้นใจก็พลันหล่นวูบในทันที
ถึงเวลาที่พวกเราจะต้องจากลากันแล้วหรือ?
เธอยังเป็นเพียงเด็กน้อยไร้เดียงสาอยู่เลยเหตุใดจึงต้องแยกจากกันเร็วเช่นนี้…
และเหมือนไอร่าจะรับรู้ได้ถึงความนึกคิดของผู้ที่ตนเรียกว่าพ่อ เธอกุมมือหนานั้นเบา ๆ แล้วยิ้มปลอบ
“ไอไปไม่นานค่ะ เดี๋ยวก็กลับ”
เซนโล่งใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาคงทำใจไม่ได้เป็นแน่หากในตอนนี้ต้องแยกจากกับเด็กน้อยที่เขารักเสมือนลูกแท้ ๆ และไม่ได้พบหน้ากันอีก
แม้เขาจะไม่รู้ว่าเทพสาวผู้นั้นฝากฝังเด็กคนนี้ไว้เพื่อการใดกันแน่ แต่เขาที่หลงรักเด็กน้อยตั้งแต่แรกสบตาและเลี้ยงดูไอร่ามาอย่างทนุถนอม
ดยุคหนุ่มทำตามคำขอของลูกสาวอย่างว่าง่าย เขานำทางไอร่าไปยังสถานที่ที่ได้พบเจอเธอเป็นครั้งแรก
ป่าหมอกมายาลวงตา
แม้ตอนนี้มันจะกลายเป็นป่าธรรมดาไปแล้วก็ตามเพราะหมอกที่ปกคลุมป่ามาหลายพันปีได้จางหายไปแล้วนับตั้งแต่ดยุคหนุ่มได้โอบอุ้มทารกน้อยในวันนั้น
เมื่อมาถึงจุดหมาย ถ้ำที่ไม่หลงเหลืออะไรอยู่เลยในวันนั้น ตอนนี้กลับมีประตูเวทขนาดใหญ่เปิดอยู่และ ณ อีกฝั่งของประตูมีหญิงสาวที่เซนจำได้ไม่มีวันลืมยืนรออยู่
ผมสีน้ำตาลเป็นประกายสีทองกับดวงตาสีไพลินและท่าทางสูงศักดิ์กับปีกสีขาวนวลตาที่ยังตราตรึงในความทรงจำ
แม้จากวันนั้นมาก็ผ่านมาหลายปีแล้วทว่าเทพสาวกลับดูไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่น้อย
เซนส่งบุตรสาวได้เพียงแค่อีกฝั่งของประตูบานยักษ์เท่านั้นและต้องปล่อยให้เด็กน้อยเดินไปอีกฝั่งด้วยตัวเอง
“สวัสดีค่ะ”
ไอร่าเอ่ยทักทายเทพสาวด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสา เธอไม่รู้เลยว่าคนตรงหน้าคือใคร และเพราะอะไรเธอต้องมาที่นี่
รู้เพียงแค่เธอตรงหน้าจะต้องเป็นเจ้าของเสียงนั้นอย่างแน่นอน
ตลอดเวลาตั้งแต่ไอร่าจำความได้ เธอมักได้ยินเสียงของหญิงสาวอยู่ตลอด เสียงนั้นจะคอยสอนทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอนึกสงสัยในบางสิ่ง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมไอร่าจึงเรียนรู้อะไรได้รวดเร็วนัก
“คุณใช่ไหมคะที่เรียกไอมาที่นี่?”
“ใช่จ้ะ”
เทพสาวรับคำทันทีก่อนจะมองเด็กน้อยอย่างเอ็นดู
“เจ้าอาจยังสับสนอยู่บ้าง ตามมาสิ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง”
พระจักรพรรดินียืนมือของเธอให้เด็กน้อยจับก่อนจะนำเธอไปยังพระราชวังสีขาวที่อยู่ไม่ไกลนัก แต่เพราะที่นี่เป็นดินแดนที่ไม่มีพื้นดิน และมีเพียงเมฆสีขาวล้อมรอบทุกสารทิศ ไอร่าที่บินไม่ได้จึงได้แต่จับมือบุคคลตรงหน้าไว้และถูกพามาทั้งอย่างนั้น
“ที่นี่ก็คือดินแดนแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์หรือเรียกอีกอย่างว่าพิภพสวรรค์ ดินแดนที่มีเพียงเหล่าเทพเท่านั้นที่อาศัยอยู่ที่นี่ และมีเพียงผู้ที่มีสายเลือดเทพเท่านั้นที่จะผ่านประตูเวทมายังที่แห่งนี่ได้”
ไอร่าเลิกคิ้วสูงอย่างนึกสงสัยแล้วเช่นนั้นก็หมายความว่าตัวเธอเป็นเทพอย่างนั้นหรือ?
เธอหันไปมองหน้าเทพสาวข้างกายและเธอก็ได้คำตอบ
“เจ้าเป็นลูกของเรา จักรพรรดินีของเหล่าเทพ เคนโนช่า ดาร์เลเน่ และเพื่อให้เจ้าได้เข้าใจมากขึ้น แม่จะเล่าเรื่องของพ่อที่แท้จริงของเจ้าให้ฟัง”
เรื่องราวสงครามที่ถูกลบหายไปในประวัติศาสตร์ถูกเล่าขานโดยผู้ที่ไอร่าเพิ่งรับรู้ว่าเป็นแม่ที่แท้จริงของตัวเอง เธอได้ทราบถึงเรื่องอันน่าเศร้าของสงครามและการเสียสละของพ่อของตัวเองที่เธอไม่เคยมีความทรงจำเกี่ยวกับคนผู้นั้นเลย
ไม่ใช่การง่ายเลยที่จะทำความเข้าใจเรื่องทั้งหมดที่ต่างไปจากสิ่งที่ไอร่ารับรู้มาตลอดตั้งแต่จำความได้ ในทีแรกตัวเธอต่อต้านและได้แต่คิดว่านี่มันนิทานหลอกเด็กเรื่องหนึ่งเท่านั้น
หรือไม่อย่างนั้นเรื่องในวันนี้คงจะเป็นเพียงความฝัน เมื่อเธอลืมตาตื่นทุกอย่างคงจะกลับไปเป็นเช่นเดิม
แต่ความคิดนั้นก็เปลี่ยนไปเมื่อเคนโนช่าปลดผนึกเวทบางอย่างให้กับไอร่า
แม้ไม่รู้สึกถึงการบีบรัดหรือเจ็บปวดใด ๆ แต่โซ่สีขาวก็ปรากฎขึ้นและสลายลง และปีกใหญ่มหึมาก็โผล่ขึ้นมาที่กลางหลังของเด็กน้อย
ไอร่ามีปีก!
ไอร่าไม่อยากจะเชื่อสายตากับภาพตรงหน้าที่เกิดขึ้น นี่เธอคือเผ่าเทพจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?
“เพราะต้องซ่อนเจ้าจากพวกปีศาจจึงต้องผนึกปีกนี้ไว้ แต่ตราบใดที่เจ้าอยู่ที่นี่เจ้าจะปลอดภัย”
เคนโนช่ามองปีกนั้นด้วยสีหน้าพอใจ การที่ปีกใหญ่นั้นหมายถึงพลังเวทในตัวเทพตนนั้นมีมาก ยิ่งปีกใหญ่พลังเวทก็ยิ่งมาก และในตอนนี้ปีกของไอร่าก็ใหญ่กว่าตัวเธอมากจนเหมือนกับเอาปีกอินทรีมาใส่ให้ลูกเจี๊ยบอย่างไรอย่างนั้น
“แม่จะสอนทุกอย่างที่เจ้าต้องรู้เอง เพื่อที่เมื่อถึงเวลาที่ปีศาจพวกนั้นจะมาตามล่าเจ้าแล้วเจ้าจะปกป้องตัวเองได้”