เด็กสาวผู้เป็นความหวัง มีเพียงเธอที่จะสังหารจักรพรรดิปีศาจทรราชผู้ชั่วร้ายลงได้ ทว่าด้วยพลังอำนาจที่ยังไม่เพียงพอเธอจึงถูกผนึกเพื่อบ่มเพาะพลังอยู่หลายพันปี ณ ตอนนี้ได้เวลาแล้วที่เธอจะได้ลืมตาตื่น!

[อ่านฟรี]IRA&The six gem ไอร่ากับอัญมณีทั้งหก - บทที่9 กลับบ้าน โดย Mi&Mi @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ยุคกลาง,รั้วโรงเรียน,สงคราม,รัก,เอลฟ์,ปีศาจ,เทพ ,สงคราม,โรมานซ์แฟนตาซี,โรงเรียน,โรงเรียนเวทมนตร์,ผจญภัย,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[อ่านฟรี]IRA&The six gem ไอร่ากับอัญมณีทั้งหก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ยุคกลาง,รั้วโรงเรียน,สงคราม

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รัก,เอลฟ์,ปีศาจ,เทพ ,สงคราม,โรมานซ์แฟนตาซี,โรงเรียน,โรงเรียนเวทมนตร์,ผจญภัย,แฟนตาซี

รายละเอียด

[อ่านฟรี]IRA&The six gem ไอร่ากับอัญมณีทั้งหก โดย Mi&Mi @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เด็กสาวผู้เป็นความหวัง มีเพียงเธอที่จะสังหารจักรพรรดิปีศาจทรราชผู้ชั่วร้ายลงได้ ทว่าด้วยพลังอำนาจที่ยังไม่เพียงพอเธอจึงถูกผนึกเพื่อบ่มเพาะพลังอยู่หลายพันปี ณ ตอนนี้ได้เวลาแล้วที่เธอจะได้ลืมตาตื่น!

ผู้แต่ง

Mi&Mi

เรื่องย่อ

สารบัญ

[อ่านฟรี]IRA&The six gem ไอร่ากับอัญมณีทั้งหก-บทนำ จุดเริ่มต้น,[อ่านฟรี]IRA&The six gem ไอร่ากับอัญมณีทั้งหก-บทที่1 คลายผนึก,[อ่านฟรี]IRA&The six gem ไอร่ากับอัญมณีทั้งหก-บทที่2 คาร่า เอลานอร์,[อ่านฟรี]IRA&The six gem ไอร่ากับอัญมณีทั้งหก-บทที่4 ชาติกำเนิด,[อ่านฟรี]IRA&The six gem ไอร่ากับอัญมณีทั้งหก-บทที่5 ไล่ออก,[อ่านฟรี]IRA&The six gem ไอร่ากับอัญมณีทั้งหก-บทที่6 ร้านปริศนา,[อ่านฟรี]IRA&The six gem ไอร่ากับอัญมณีทั้งหก-บทที่7 ลูเซียส ก๊อด ซีโนว่า(1),[อ่านฟรี]IRA&The six gem ไอร่ากับอัญมณีทั้งหก-บทที่8 ลูเซียส ก๊อด ซีโนว่า(2),[อ่านฟรี]IRA&The six gem ไอร่ากับอัญมณีทั้งหก-บทที่9 กลับบ้าน,[อ่านฟรี]IRA&The six gem ไอร่ากับอัญมณีทั้งหก-บทที่10 งานเลี้ยง,[อ่านฟรี]IRA&The six gem ไอร่ากับอัญมณีทั้งหก-บทที่11 คำสั่งแรก,[อ่านฟรี]IRA&The six gem ไอร่ากับอัญมณีทั้งหก-บทที่12 ออกปฏิบัติการ

เนื้อหา

บทที่9 กลับบ้าน

บทที่9

กลับบ้าน

คฤหาสน์อาควินล่าในตอนนี้กำลังอยู่ในความวุ่นวายในการจัดงานเลี้ยงบางอย่าง เหล่าคนรับใช้ต่างพากันวุ่นเตรียมงานนี้อย่างยิ่งใหญ่

ทุกคนพากันแปลกใจเมื่อบุคคลที่หากไม่มีความจำเป็นใด ๆ ก็จะไม่เชิญใครมาที่นี่อย่างดยุคเซน ตอนนี้กลับสั่งให้พวกเขาจัดงานเลี้ยง

แต่ถ้าจะมีใครที่ไม่แปลกใจเลยในเหล่าบรรดาคนรับใช้ก็คงจะเป็นเด็กน้อยวัยสิบขวบเจ้าของดวงตาสีไพลิน

แม้จะโดนสั่งนั้นที่จนวุ่นวายตลอดทั้งวัน แต่เธอกลับยิ้มอย่างอารมณ์ดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนจนถึงขั้นฮัมเพลงออกมา คนอื่นต่างมองคาร่าด้วยความฉงนสงสัยว่าทำไมถึงทำงานด้วยใจที่ยินดีกับบางอย่างเช่นนั้นกัน

และเหตุนั้นก็เป็นเพราะคาร่ารับรู้ได้ว่าผู้เป็นนายที่รักกำลังจะกลับมาแล้วนั่นเอง

“ยิ้มหน้าระรื่นอะไรขนาดนั้น?”

เด็กหนุ่มร่างสูงเอ่ยถามขณะที่เห็นคาร่าท่าทางอารมณ์ดีเดินไปเดินมาทั่ว

“พี่เอซไม่ต้องยุ่งสักเรื่องได้ไหมล่ะ?”

และคำตอบก็ออกมาเช่นเดิม นี่ราวกับภาพเมื่อหลายปีก่อนย้อนกลับมาอีกครั้งที่ร่างสูงเข้าไปทักเด็กน้อยในวันนั้นเลย

แต่รอบนี้ผิดไปจากเดิม แทนที่จะปล่อยเด็กหญิงตัวน้อยไว้อย่างเช่นตอนนั้นรอบนี้เขากลับเดินเข้าไปใกล้แล้วใช้มือหนาขยี้ผมสีทองสวยนั่นอย่างหมั่นไส้แทน

“โอ้ย! พี่! ผมยุ่งหมดแล้ว!”

คาร่าว่าพลางผลักมือนั้นออกแล้วลูบผมตัวเอง

ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานี้นับตั้งแต่การประลองถูกจัดขึ้นระหว่างเธอกับบุคคลตรงหน้าต่างก็เริ่มรู้จักและคุ้นเคยกันมากขึ้น

เด็กหนุ่มผมสีขาวคนนี้มีนามว่า เอซ โลเวล อัศวินฝึกหัดซึ่งเป็นกองกำลังส่วนตัวของตระกูลอาควินล่า ทว่าในตอนนี้เขาได้กลายเป็นอัศวินเต็มตัวแล้วทั้งที่เข้ามาทำงานเพียงไม่ถึงสามปี

สำหรับการเลื่อนขั้นเช่นนี้คาร่านั้นมองว่าเอซมีความสามารถสูงมากที ซึ่งเธอไม่นึกสงสัยในความสามารถนั้นเลยแม้ว่าอีกฝ่ายจะอายุยังไม่ย่างยี่สิบเลยก็ตาม

ถ้าถามว่าอะไรแล้วล่ะก็เหตุผลนั้นง่ายดาย

เพราะการประลองในครั้งนั้น ผลที่ไม่คาดคิดคือคาร่าได้อันดับสามในการประลองคนรับใช้ รอดพ้นจากเงื่อนไขของดยุคมาได้อย่างฉิวเฉียด

ส่วนเอซก็คือหนึ่งในคนที่เธอเอาชนะไม่ได้นั่นเอง

“จะบอกมาได้รึยัง? เรื่องอะไรที่ทำให้เธออารมณ์ดีได้ขนาดนี้”

“เดี๋ยวพี่ก็รู้เองนั่นแหละ”

คาร่าเอ่ยตัดบทสนทนาก่อนจะหนีไปทำงานของตัวเอวจ่กทิ้งเป็นปมปริศนาไว้ในใจของเด็กหนุ่ม

และจากนั้นไม่นานนักในวันที่เอซต้องมาทำหน้าที่เฝ้ายามหน้าคฤหาสน์อาควินล่าเขาก็ได้พบคำตอบ

เด็กหญิงผมสีน้ำตาลที่ดูธรรมดาแต่กลับเปล่งประกายสีทองดูสะดุดตากว่าคนทั่วไปอย่างน่าประหลาดกับดวงตาที่คล้ายกับเปลวไฟซึ่งจ้องมองคฤหาสน์ด้วยรอยยิ้มบาง ๆ คล้ายกับจะคิดถึงความหลังบางอย่าง เธอเดินตรงเข้ามาจนเอซต้องเอ่ยปากขัดฝีเท้านั้น

“ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครครับ? ได้นัดใครไว้รึเปล่า?”

“เราจะเข้าบ้านของตัวเอง จำเป็นต้องนัดใครด้วยหรืออย่างไร?”

สำเนียงโบราณเอ่ยขึ้นราวกับเป็นคนจากยุคก่อนทั้งยังใช้คำดูสูงศักดิ์ราวกับเป็นเชื้อพระวงศ์สร้างความแปลกใจให้กับคู่สนทนา

เนื่องจากเหล่าเทพนั้นมีอายุขัยมากกว่าพวกผู้คนในดินแดนมนุษย์หลายเท่า เมื่อได้ไปอยู่ที่นั่นนานเข้าจึงติดวิธีการพูดตามพวกคนโบราณมาด้วยอย่างไม่รู้ตัว

“คฤหาสน์แห่งนี้คือที่อยู่อาศัยของบุคคลตระกูลอาควินล่าและมีแค่ดยุคเซน อาควินล่าคนเดียวที่เป็นเจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้ครับ”

ไอร่าเลิกคิ้วสูงเมื่อคู่สนทนาเอ่ยอย่างหนักแน่นและแสดงทีท่าว่าจะไม่ยอมปล่อยเธอไปโดยง่ายอย่างแน่นอน

“นามของเราคือ ไอร่า อาควินล่า บุตรสาวของดยุคเซนที่เจ้าพูดถึงนั่นไง”

เอซเลิ่กลั่กขึ้นมาเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายแจงชื่อขอวตัวเองออกมาอย่างมั่นอกมั่นใจ

ทว่าเขาเองก็ทำงานอยู่ที่นี่มานับปีและเด็กผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขาเคยเห็นในคฤหาสน์แห่งนี้ก็คือเด็กหญิงผมสีทองซึ่งเป็นแค่คนรับใช้ด้วยกันเท่านั้น

“ดูท่าทางแล้วคุณพ่อจะไม่ได้บอกอะไรเลยสินะ?”

ไอร่าเอ่ยถามอีกครั้งจนเอซเริ่มลังเลว่าควรทำเช่นไรและยิ่งเพราะช่วงนี้คฤหาสน์ที่ปกติแทบไม่จัดงานเลี้ยงจึงมีคนรับใช้ไม่มาก แต่พอเหมือนจะมีงานสำคัญจึงกลายเป็นว่าทุกคนพากันวุ่นจนหัวหมุนและนั่นทำให้การเฝ้ายามที่จริง ๆ ควรจะมีสองคนวันนี้กลับเหลือเพียงเขาคนเดียว

“ช่างเถอะ รอตรงนี้กับเราสักเดี๋ยวแล้วกัน”

ไอร่าว่าก่อนจะยกนิ้วขึ้นมาเขียนข้อความบางอย่างบนอากาศ เส้นพลังเวทสีทองปรากฎตามรอยลากนิ้วของเด็กหญิง เอซที่เห็นได้มองอย่างตกตะลึงที่เด็กเช่นนี้สามารถใช้เวทมนตร์ได้คล่องแคล่วนัก

เมื่อเขียนข้อความสั้น ๆ เสร็จเพียงเธอสะบัดมือเบา ๆ ข้อความนั้นก็พุ่งตรงเข้าไปในคฤหาสน์ เอซที่มองแล้วว่าการกระทำนั้นไม่น่ามีพิษภัยอันใดจึงยืนดูอยู่นิ่ง ๆ

ทว่าความสงสัยก็ปรากฎในใจของเขาอีกครั้ง

ทำไมเด็กน้อยเช่นนี้จึงไม่ร่ายเวทใด ๆ เลย?

บทเวททุกบทในโลกนี้นั้นถูกคิดค้นและส่งต่อมานับตั้งแต่โบราณกาล ทุกการใช้เวทจะต้องเอ่ยอ้อนวอนขอยืมพลังจากธรรมชาติเสียก่อนจึงจะใช้ได้แต่หากไม่ทำเช่นนั้นก็จะมีแค่เอ่ยสิ่งที่ต้องการใช้เวทออกมาแล้วดึงพลังจากมานาของตัวเองโดยไม่หยิบยืมพลังธรรมชาติซึ่งจะเปลืองพลังกว่ามาก

แต่ผิดกันกับกรณีนี้ที่เด็กสาวใช้เวทโดยไม่ต้องเปล่งเสียงใด ๆ ออกมาเลยก็ได้ด้วยซ้ำ

เธอทำได้อย่างไรกันนะ?

แต่ยังไม่ได้เอ่ยถามใด ๆ ออกไปเสียงฝีเท้าของบุคคลปริศนาก็ดังขึ้นเรียกความสนใจขอฝเด็กหนุ่มไปเสียก่อน

ปรากฎเป็นร่างของชายหนุ่มร่างสูงที่คุ้นตาดี เขาวิ่งมาอย่างรวดเร็วแล้วโผเข้ากอดเด็กหญิงตัวน้อยที่หน้าประตูคฤหาสน์

“ลูกกลับมาแล้วค่ะ”

“พ่อคิดถึงเรามากนะ”

ทั้งสองกอดต้อนรับกันอย่างอบอุ่นก่อนจะผละออกจากกัน

“คุณพ่อไม่ได้บอกคนรับใช้หรือคะว่าลูกจะกลับมาก่อนอายุสิบปี?”

ไอร่าเอ่ยด้วยใบหน้ายู่ยี่ มองสบตาผู้ที่ตนเรียกว่าบิดาอย่ทงไม่สบอารมณ์นักเพราะโดนกีดกันไม่ให้เข้าบ้านตัวเอง

“ขอโทษนะ พ่อไม่คิดว่าไอจะกลับมาเร็วขนาดนี้เลยยังไม่ทันบอกใคร”

เซนเอ่ยขอโทษลูกสาวตัวน้อยก่อนจะพากันกลับเข้าไปในคฤหาสน์ เหล่าคนรับใช้ต่างมองเด็กหญิงปริศนาด้วยความสงสัยแต่ก็ยังมีบุคคลส่วนใหญ่ที่อยู่มากนานจึงจำเด็กหญิงได้เป็นอย่างดี พวกเขาจึงเริ่มพากันซุบซิบเรื่องราวของไอร่สกันเสียยกใหญ่

“ไอไปพักผ่อนก็เถอะ เดี๋ยวค่อยมาทานมื้อเย็นด้วยกันนะ”

เซนเอ่ยบอกกับลูกสาวและไอร่าก็รับคำก่อนจะตรงไปยังเส้นทางที่คุ้นเคยซึ่งก็คือห้องของเธอเอง

ภายในห้องยังคงตกแต่งเหมือนเดิมทุกอย่างและได้รับการดูแลทำความสะอาดเป็นอย่างดีราวกับห้องนี้ได้ถูกหยุดเวลาไว้ตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนเพื่อรอเธอกลับมาอีกครั้ง

ไอร่ามองสำรวจห้องของตัวเองเพื่อนึกถึงความทรงจำก่อนที่จะจากที่นี่ไป แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้พักผ่อนดังคำที่ดยุคหนุ่มว่าเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นจนเด็กสาวต้องเดินไปเปิดดู

ปรากฎว่าเป็นเด็กสาวผมสีทองที่เธอแสนจะคุ้นเคยนั้นเอง ในเวลานี้เธอเติบโตขึ้นมาจากที่ก่อนหน้านี้ตัวเล็กกว่าไอร่ามากตอนนี้กลับตัวเท่ากันเสียแล้ว

ดวงตาสีไพลินเริ่มร้อนผ่าวก่อนจะหยาดน้ำสีใสจะเอ่อล้นและไหลออกสองข้างแก้มทว่าใบหน้ากลับเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข

“กลับมาแล้ว”

คาร่าพุ่งเข้ากอดร่างของผู้เป็นนายด้วยความรู้สึกยินดี ช่วงเวลาสามปีที่เธอเฝ้าคอยเด็กหญิงคนนี้อยู่ทุกวันในที่สุดวันนี้ก็ได้เจอเสียที

“ยินดีต้อนรับค่ะคุณหนู”