เด็กสาวผู้เป็นความหวัง มีเพียงเธอที่จะสังหารจักรพรรดิปีศาจทรราชผู้ชั่วร้ายลงได้ ทว่าด้วยพลังอำนาจที่ยังไม่เพียงพอเธอจึงถูกผนึกเพื่อบ่มเพาะพลังอยู่หลายพันปี ณ ตอนนี้ได้เวลาแล้วที่เธอจะได้ลืมตาตื่น!
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ยุคกลาง,รั้วโรงเรียน,สงคราม,รัก,เอลฟ์,ปีศาจ,เทพ ,สงคราม,โรมานซ์แฟนตาซี,โรงเรียน,โรงเรียนเวทมนตร์,ผจญภัย,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
[อ่านฟรี]IRA&The six gem ไอร่ากับอัญมณีทั้งหกเด็กสาวผู้เป็นความหวัง มีเพียงเธอที่จะสังหารจักรพรรดิปีศาจทรราชผู้ชั่วร้ายลงได้ ทว่าด้วยพลังอำนาจที่ยังไม่เพียงพอเธอจึงถูกผนึกเพื่อบ่มเพาะพลังอยู่หลายพันปี ณ ตอนนี้ได้เวลาแล้วที่เธอจะได้ลืมตาตื่น!
บทที่12
ออกปฏิบัติการ
คฤหาสน์โลเวลนั้นตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองของดยุคอาควินล่ามาก ถ้าเดินทางด้วยรถม้าเพียงแค่สี่ชั่วโมงก็ถึงแล้ว แต่ผิดกันกับกรณีของไอร่าที่วิ่งมาด้วยเวทมนตร์เสริมพลังร่างกายที่ออกตัวมาจากคฤหาสน์อาควินล่าซึ่งเพียงไม่ถึงชั่วโมงก็มาถึงได้อย่างรวดเร็ว
เอซที่วิ่งตามมาด้วยเวทเดียวกันเมื่อถึงจุดหมายนั้นถึงกับเหนื่อยหอบจากการเสียพลังเวทไปไม่น้อยและกำลังกายขณะที่วิ่งซึ่งโดนผลาญไปมากพอดู แต่เมื่อมองไปที่เจ้านายน้อยของเขาเองที่ไม่มีเหงื่อไหลสักหยดก็ทำให้เริ่มรู้สึกถึงความอ่อนด้อยของตัวเอง
จากคำบอกเหล่าของเอซเหมือนว่าหน้าคฤหาสน์นั้นมีทหารทำหน้าที่เฝ้ายามกันอย่างแข็งขันมากถึงสี่นายซึ่งดูเหมือนจะมีการสับเปลี่ยนชุดใหม่ทุกสี่ชั่วโมงซึ่งกระจายกันอยู่ทุกประตูทางเข้าออกของคฤหาสน์ นอกจากนี้ยังมีพวกที่ออกตรวจตราอยู่รอบ ๆ ซึ่งเดินไปมาเกือบทุกชั่วโมง
เป็นการป้องกันที่แน่นหนามากยิ่งกว่าคฤหาสน์อาควินล่าเสียอีกเมื่อดูจากจำนวนคนที่แค่ทำหน้าที่เฝ้ายามเท่านั้น
แต่ความสามารถของพวกนั้นก็ยังเป็นรองกว่ากันเยอะ
เพราะแบบนั้นทั้งไอร่าและเอซจึงลอบเข้ามาได้อย่างสบาย ๆ โดยที่ไม่ต้องเสียแรงสู้เลยด้วยซ้ำ เพราะถึงภายนอกจะดูเข้มงวดแต่กลับเหลาะแหละและสะเพร่ากันเอามาก ๆ
ในตระกูลโลเวลที่นอกเหนือจากคนรับใช้ก็มีสมาชิกครอบครัวหลงเหลืออยู่เพียงแค่สามคนเท่านั้น ซึ่งได้แก่ออสติน ภรรยาและพี่สาวของเขา
เพราะทั้งไอร่าและเอซต่างก็มาถึงที่นี่ได้ในเวลาไม่นานนักนับจากที่พระอาทิตย์ตกดิน เวลานี้ส่วนใหญ่ทุกคนในคฤหาสน์จึงมักจะอยู่ในห้องของตัวเองเพราะเป็นช่วงเวลาหลังมื้อค่ำพอดี
แต่สถานที่แรกที่ใกล้ที่สุดที่จะกำจัดเหยื่อได้ก็คือห้องนอนของพี่สาวของออสตินและเอซ นามว่าเอลิซ่า
ก๊อก ๆ
เสียงเคาะประตูในเวลาที่ไม่น่ามีใครมารบกวนได้ทำเอาเจ้าของห้องถึงกับเลิกคิ้วด้วยความสงสัย.
“นั่นใคร?”
สาวงามผมสีขาวผู้มีใบหน้าที่ดูหยิ่งยะโสขึ้นเสียงถามอย่างไม่พอใจเมื่อถูกรบกวนจากบุคคลภายนอก
“ผมเองท่านพี่ เอซไง”
หญิงสาวเมื่อรู้ว่าด้านนอกคือใครที่มาเคาะประตูจึงตัดสินใจเดินไปเปิดประตูให้
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไรน่ะ หายหัวไปตั้งหลายปี”
ทว่าเมื่อเปิดประตูออกสิ่งที่พบเจอกลับไม่ใช่ร่างสูงของน้องขายที่เธอคุ้นเคยแต่กลับเป็นปลายคมมีดที่ยื่นจ่อคอเธออย่างไร้ความปราณีจากบุคคลปริศนาแทน
“ก… แกเป็นใคร?”
ร่างตรงหน้าเธอนั้นใส่ชุดรัดรูปสีดำสนิท รูปร่างสูงโปร่งแม้จะดูเพรียวบางแต่ก็คล้ายผู้ชายและผู้หญิงในเวลาเดียวกัน ทั้งยังปกปิดใบหน้านั้นเอาไว้จนไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าเป็นใคร
แต่เมื่อดวงตาของหญิงสาวมองสบไปที่ด้านหลังของร่างบุคคลปริศนาก็พบเจ้าของเสียงที่ทำให้เธอต้องเปิดประตู
“เอซ! นี่มันหมายความว่ายังไงกัน? นี่แกพามันมาฆ่าฉันหรอห๊ะ!?”
หญิงสาวตวาดใส่ผู้เป็นน้องด้วยความโมโหเดือดดาด ก่อนที่หัวสมองจะประมวลเรื่องราวบางอย่างขึ้นมาได้
“อย่างบอกนะว่าที่แกทำแบบนี้เพราะรู้เรื่องที่ออสตินทำน่ะ? นี่ถึงกับจ้างนักฆ่ามากำจัดคนในบ้านเพราะรับเรื่องแค่นั้นไม่ได้เลยรึยังไง?”
ไอร่าในร่างจำแลงยกยิ้มอยู่ในใจ และได้แต่คิดว่าเธอคนนี้ช่างหัวไวสมกับที่เป็นพี่สาวของอัศวินของเธอเสียจริง
“พี่ก็รู้นี่ว่าสิ่งที่พี่ออสตินทำมันผิด ถ้าพี่ยอมช่วยผมตอนนี้ ผมจะไม่ทำอะไรพี่ก็ได้”
เอซเอ่ยตามขณะจ้องมองไปที่ร่างสูงกับพี่สาวของตนด้วยอารมณ์ที่หลากหลายและคาดหวังในใจลึก ๆ ว่าพี่สาวจะเลือกเขาไม่ใช่ออสติน
แต่การกระทำต่อมาของสาวงามก็กลายเป็นคำตอบ เธอเหวี่ยงขาเตะเข้าที่ข้อมือของร่างปริศนาเต็มแรงก่อนจะคว้ามือที่หลุดมือของอีกฝ่ายมาและหวังพุ่งเข้าแทงคู่ต่อสู้แบบไม่ทันตั้งตัว
“ชิ”
เสียงสบถของร่างสูงในชุดดำเอ่ยในลำคอเบา ๆ ก่อนที่แท่งน้ำแข็งจากเวทมนตร์ไร้ร่ายจะพุ่งเข้าแทงหญิงสาวจากด้านหลัง
เอลิซ่านิ่งค้างไปก่อนจะทรุดตัวลงเมื่อความเจ็บปวดจากบาดแผลที่โดนแทงจะแล่นไปทั่วร่าง
“น… นี่มัน บ้าอะไร…?”
เอซมองพี่สาวของตัวเองด้วยแววตาเศร้าสร้อย อย่างน้อยในวินาทีสุดท้ายเขาก็หวังว่าพี่สาวที่รู้ถึงความชั่วของออสตินจะมีจิตสำนึกและอยากลบล้างความผิดให้ตระกูลบ้าง แต่ดูจากการกระทำแล้วคงจะไม่ใช่เช่นนั้นเลย
เอลิซ่าทรุดลงอย่างไร้ก็เรี่ยวแรงและเพราะเธอคงจะโดนแทงจะปอดทะลุไปแล้ใจึงไม่สามารถพูดอะไรได้อีก แล้วจากนั้นเพียงไม่กี่อึดใจเธอก็หมดลมหายใจไป
ไอร่าจ้องมองหญิงสาวอย่างรู้สึกเวทนากับทางเลือกของเธอ เพราะแท้จริงแล้วเอลิซ่าก็ยังไม่ถือว่ามีความผิดใด ๆ ที่มีก็คงจะเป็นเพียงการที่รับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างแต่ก็เพิกเฉยต่อมันเท่านั้น
“ไปกันต่อเถอะ”
ไอร่าว่าขึ้นก่อนจะให้อัศวินหนุ่มเริ่มนำทางอีกครั้ง
ภรรยาของออสติน เธอเป็นเพียงหญิงขี้ขลาดคนหนึ่งที่มำอะไรไม่ได้นอกจากอยู่เฉย ๆ และทำตัวอยู่อย่างสงบเสงี่ยมไปวัน ๆ
นามของเธอคือ ลิเลีย และเธอก็แต่งงานกับออสตินเพียงเพราะพ่อของเธอเป็นหนี้จากคาสิโนของออสตินอย่างมหาศาลชนิดไม่มีวันหาใช้คืนได้ พ่อของเธอจึงเสนอขายลิเลียที่มีใบหน้างดงามทั้งยังอายุน้อยให้เป็นเจ้าสาวเพื่อล้มล้างหนี้
และด้วยรสนิยมของออสตินที่หลงใหลในเด็กอย่างผิดแปลกแล้วนั้นกับลิเลียในตอนนั้นที่ยังเด็กจึงนับว่าถูกใจมากทีเดียว สุดท้ายจึงรับเงื่อนไขนั้นไว้และรับลิเลียมาเป็นเจ้าสาวทั้งที่ในตอนนั้นเธออายุเพียงแค่สิบสามปีเท่านั้น
“เธอดูจะเป็นเหยื่อมากกว่าผู้สมรู้รวมคิดสินะ”
ไอร่าเปรยขึ้นมาขณะที่ฟังเรื่องราวของลิเลีย
“ครับ ผมเองก็เคยพบเธอแค่ครั้งเดียวคือในงานแต่งงานของเธอกับพี่ออสติน ในตอนนั้นเธอดูเหมือนกับคนที่หมดอาลัยตายอยากไปแล้ว”
เอซเล่าด้วยความรู้สึกเจ็บปวดกับความทรงจำที่นึกถึง เมื่อคิดว่าเด็กตอนเล็ก ๆ ที่น่าจะได้มีอนาคตอันสดใสรออยู่ กลับต้องมาโดยบังคับให้แต่งงานเพื่อล้างหนี้พ่อตัวเอง
แต่ในตอนนั้นเอซก็ไม่ได้คัดค้านเพราะยังไม่ได้รับรู้ถึงรสนิยมที่ทุเรศของพี่ชายตัวเอง คิดเพียงว่าเป็นการขายลูกกินของพ่อที่ไม่เหลืออะไรแล้วกับพี่ชายตัวเองที่อาจจะแต่งด้วยความสงสารเฉย ๆ เพราะถ้าให้เด็กคนนั้นเข้าตระกูลมาก็ดีกว่าอยู่กับพ่อแบบนั้น
เมื่อได้ฟังความจากเอซแล้วไอร่าจึงตัดสินใจมุ่งตรงไปยังห้องของออสตินและปล่อยภรรยาของเขาไว้เป็นคนสุดท้ายแทน
ชายที่มีร่างกายสูงใหญ่แต่ก็ปล่อยตัวจนกล้ามเนื้อที่ควรมีนั้นกลับกลายเป็นเพื่อก้อนเนื้อ วัน ๆ เขาไม่คิดทำอะไรมากนอกเสียจากการคิดหาผลกำไรจากคาสิโนและการค้าทาสที่เขาจ้างให้คนหามาอย่างยากเย็น
เด็กน้อยที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้นถูกจับมัดขึงเอาไว้ดูแล้วช่างน่าสงสาร บาดแผลมากมายทั่วทั้งตัวที่เกิดจากรอยเฆี่ยนตีด้วยแส้ในมือของชายหนุ่มซึ่งทำเพียงเพราะความบันเทิงส่วนตัวเท่านั้น
ร่างที่มีแต่เลือดและบาดแผลไปทั้งตัวเจ็บปวดจนไม่อาจเปล่งเสียงใด ๆ ได้อีกต่อไปทำเอาออสตินเริ่มอารมณ์เสีย
“เป็นอะไรไปเล่า? ร้องออกมาอีก! ฉันบอกให้ร้อง!”
เสียงแส้ยังคงกระหน่ำฟาดลงบนร่างเล็กที่เริ่มแน่นิ่งไม่ปริปากร้องใด ๆ อย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อคนโดนฟาดนั้นไม่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างที่ต้องการจึงเริ่มหัวเสียจนทิ้งแส้ลงกับพื้น
“โดนแค่นี้ก็ใช้การไม่ได้ซะแล้ว ไม่ได้เรื่องเลย”
“ดูจะสนุกสนานกับความเจ็บปวดของคนอื่นน่าดูเลยนี่”
ไอร่าเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงของชายหนุ่มในร่างตำแลงของตัวเอง ก่อนจะปรากฎตัวในห้องของออสตินจนเจ้าของห้องตื่นตระหนก
“แกเป็นใคร!? เข้ามาได้ยังไง!?”
ชายร่างสูงกู่คำรามเสียงกร้าวราวกลับกำลังข่มความกลัวของตัวเองเอาไว้
“ถึงนี่จะเป็นชั้นสามแต่ไม่ล็อคหน้าต่างห้องก็ประมาทไปหน่อยนะเอิร์ลโลเวล”
เด็กสาวในร่างจำแลงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ชวนให้รู้สึกหวาดหวั่น เอิร์ลโลเวลจ้องมองอีกฝ่ายก่อนจะหันไปมองด้านหลังซึ่งมีหน้าต่างบานใหญ่เปิดอยู่
เพราะเอซบอกเธอว่าห้องของพี่สาวของเขาอยู่ด้านล่างตรงกับห้องทำงานของเอิร์ลพอดีเธอจึงกระโดดขึ้นมาทางหน้าต่างเมื่อได้ยินเสียงแส้ที่กระหน่ำฟาดไม่ยั้งมือ
และเมื่อขึ้นมาได้ก็ดูเหมือนจะสายได้เสียแล้ว ร่างที่ถูกล่ามไว้นั้นหมดสติแน่นิ่งไปแล้ว
เด็กสาวขบฟันข่มอารมณ์โกรธไว้ในใจเมื่อเห็นสภาพของเด็กน้อยที่อายุไล่เลี่ยกับเธอที่เต็มไปด้วยบาดแผล ได้แต่คิดในใจว่าทำไมเด็กนี่ต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย
“ใครจ้างแกมา?”
ออสตินที่เริ่มใจเย็นลงเล็กน้อยเริ่มเอ่ยถามข้อมูลจากบุคคลปริศนา แม้ไม่ได้หวังว่าคู่สนทนาจะตอบเขาก็เถอะ
“เรื่องนั้นไม่สำคัญเท่าหัวแกจะอยู่บนบ่าได้อีกนานแค่ไหนหรอก”
จุดประสงค์ชัดเจนเอ่ยขึ้นจากร่างสูงในชุดรัดรูปสีดำ เมื่อเข้าใจได้แล้วว่าตัวเองกำลังจะโดนฆ่าหยาดเหงื่อเย็นเฉียบก็ไหลอาบข้างแก้มด้วยใจที่หวาดหวั่น
“แกต้องการอะไร? เงิน? อำนาจ? ฉันมั่นใจว่าฉันให้แกได้มากกว่าพวกที่จ้างแกมาแน่นอน”
ออสตินเอ่ยอย่างถือดี เพราะคิดว่าความร่ำรวยที่มีจะแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง แต่ไอร่าที่มองบุคคบตรงหน้ากลับเงียบไม่ตอบรับใด ๆ มีเพียงสายตาที่จ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าราวกับมองขยะเท่านั้น
เด็กสาวในร่างจำแลงถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายใจ เพราะดูเหมือนคนผู้นี้จะไม่ได้มีใจสำนึกถึงความผิดไม่ต่างจากเอลิซ่าเลยสักนิด สมแล้วจริง ๆ ที่เป็นพี่น้องกันทำเอาเธอเริ่มสงสัยแล้วว่าหรือที่จริงอัศวินหนุ่มของเธอจะเป็นลูกนอกสมรสหรือเปล่านะ?
ออสตินที่เห็นร่างสูงนิ่งเงียบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก็คิดไปเองว่าอีกฝ่ายคงจะลังเลใจกับข้อเสนอนี้อยู่ แต่วินาทีต่อมาเขาก็ได้รับรู้แล้วว่าเขาคิดผิด
โซ่ตรวนจากเวทไร้ร่ายได้พันธนาการทั้งมือและเท้าของร่างสูงผู้ไร้สำนึกตรงหน้า
“ด.. เดี๋ยวสิ ฉันจ่ายให้แกได้จริง ๆ นะ สองเท่า ไม่สิ! สามเท่า! สามเท่าเลย! ไอ้พวกที่จ้างแกมาฆ่าฉันจ่ายเท่าไรฉันจ่ายให้สามเท่าเลย!”
ชายผู้โง่เขลายังคงไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเงินทองที่ตนมีนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิดในสถานการณ์เช่นนี้ อย่างน้อยไอร่าก็คาดหวังว่าคนนี้ผู้นี้จะสารภาพบาปและทำท่าทีสำนึกผิดบ้างว่าเคยทำผิดอะไรไว้เมื่ออยู่ใกล้ความตาย แต่ดูแล้วคงไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้น
ปัง!
“พี่ออสติน…”
เป็นเอซนั่นเองที่เปิดประตูเข้ามาและได้เห็นสภาพของพี่ชายที่โดยพันธนาการ สีหน้าของคนที่ถูกเรียกว่าพี่ชายยามเห็นอัศวินหนุ่มนั้นแม้จะมีความแปลกใจปนอยู่แต่ก็ยิ้มขึ้นมาได้
“เอซ! ช่วยฉันเร็วเข้า! ไอ้หมอนี่มันจะฆ่าฉัน!”
เอซจ้องมองพี่ชายด้วยแววตาที่ไม่ได้มีความสงสารหรือคิดช่วยเหลือใด ๆ เลย เพียงแค่มองและเดินไปหาร่างสูงในชุดสีดำซึ่งเป็นร่างจำแลง
เมื่อไอร่าสบดวงตาสีเทาของบุคคลที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาก็รู้สึกได้ถึงการตัดสินใจบางอย่าง
“ผมขอ… ลงมือเองได้ไหมครับ?”
แน่นอนว่าคำขอนี้ได้รับการยินยอม
“เฮ้ย! นี่แกเป็นพวกเดียวกันงั้นหรอ!?”
ในที่สุดออสตินก็รู้ตัวว่าคนที่เขาคิดว่าจะช่วยเขาได้ ตอนนี้กำลังขอเป็นคนปลิดชีพเขาเสียเอง
“ไอ้น้องสารเลว! นี่แกทำกับคนในครอบครัวแบบนี้หรอ!?”
ดาบยาวที่เก็บไว้ในฝักมาตลอดทางถูกหยิบยกขึ้นมาตรงหน้าเอซ ผู้เป็นพี่ชายได้แต่ตะโกนด่าทอเขาอย่างขาดสติแต่สุดท้ายเขาก็สะบั้นคอพี่ชายอย่างเลือดเย็น
“คนที่เลวมันพี่ต่างหาก”
“เสร็จงานสักที”
เด็กสาวเอ่ยก่อนจะมองซากของเอิร์ลด้วยความเวทนา แต่ในวินาทีที่กำลังจะคิดออกไปจากที่นี่ เสียงเล็ก ๆ ที่แสนแผ่วเบาก็ร้องอ้อนวอนต่อเธอและอัศวินหนุ่ม
“ด… ได้โปรด ช่วย…ที”
ไอร่าหันกลับมามองร่างที่ถูกล่ามไว้ซึ่งสภาพไม่แปลกเลยหากร่างนั้นจะสิ้นใจไปแล้ว ทว่ากลับยังมีแรงมากพอจะเปล่งเสียงขอความช่วยเหลือได้
ดูเหมือนภารกิจจะยังไม่จบสินะ