สิ่งที่คิดบ่อยครั้งก็ไม่เป็นดังหวังสิ่งที่ปรารถนาบ่อยครั้งที่เกินจะเอื้อมถึงมันจะดีแค่ไหนหากเราได้ทุกสิ่งตามที่ใจต้องการ
ดราม่า,ชาย-ชาย,เกาหลี,ดาร์ค,รัก,กักขัง,Nc18+,Mpreg,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
that's my place นั่นคือที่ของฉันสิ่งที่คิดบ่อยครั้งก็ไม่เป็นดังหวังสิ่งที่ปรารถนาบ่อยครั้งที่เกินจะเอื้อมถึงมันจะดีแค่ไหนหากเราได้ทุกสิ่งตามที่ใจต้องการ
คิมพยอลดันโอเมก้าผู้โดดเดี่ยวและโหยหาความรัก ตกหลุมรักรุ่นพี่อีแทฮยองที่เคยช่วยเหลือ แต่เพราะเขาแทบไม่มีโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับคนที่เขาหลงรัก เขาเริ่มเดินทางรักในเส้นทางที่ไม่ควรไป แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไขว่คว้าสิ่งที่ต้องการมาได้เพียงแต่พ่วงน้องชายฝาแฝดของรุ่นพี่เข้ามาในวังวนหัวใจครั้งนี้ด้วย
มีอีบุ๊คนะ
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiNjQzMzEwNCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjMzMTM3NiI7fQ
โอเมก้า กลุ่มคนประหลาดที่เกิดมาเพื่อรองรับตัณหาทางอารมณ์ของอัลฟ่า โดยมากผู้คนมักหวังให้บุตรเกิดมาเป็นอัลฟ่าที่โดดเด่น มากกว่าเบต้า หรือโอเมก้า โดยเฉพาะในตระกูลหรือกลุ่มธุรกิจที่ใหญ่โตมั่นคงอย่างกลุ่มแชโบลหนึ่งในนั้นก็มีครอบครัวกลุ่มธุรกิจอีฟ ที่ครอบคลุม ธุรกิจโรงแรม อาหาร การท่องเที่ยว การกำเนิดของโอเมก้าในตระกูลนับว่าเป็นจุดด่างพร้อย ไร้ประโยชน์ ไร้ค่า ไร้ราคา เพราะพวกเขามองว่าเหล่าโอเมก้านั้นล้วนอ่อนแอ ไร้สมอง และหากลูกหลานตนเกิดมาเป็นโอเมก้าก็อาจตกเป็นเหยื่อของพวกที่มาหวังกอบโกยทรัพย์สมบัติที่พวกเขาสร้างมา เด็กชายอิมพยอลดันเองถือกำเนิดจากภรรยาน้อยที่เป็นเบต้าของผู้นำอิมแห่งกลุ่มธุรกิจอีฟ แต่เมื่ออายุได้12ปี แล้วนำไปสู่การตรวจเพศรองผลปรากฏว่าเขาคือโอเมก้าทำให้เด็กน้อยที่น่าสงสารถูกตัดออกจากตระกูลทันที แล้วให้ใช้นามสกุลของมารดาเป็น คิมพยอลดัน นับแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ทางบิดาจะส่งเสียเงินเลี้ยงดูให้อยู่ตลอด แต่ก็ไม่สร้างความพอใจให้แก่ผู้เป็นมารดาแม้แต่น้อย เพราะบุตรชายที่ตนได้มาอย่างยากลำบากนั้น ไร้ซึ่งสิทธิในการสืบทอดมรดกโดยสิ้นเชิง เธอมักกล่าวโทษบุตรชายของตนอยู่ตลอดและเมื่อสร้างครอบครัวมีลูกสามีใหม่ เธอก็ตัดขาดกับบุตรชายที่ไม่มีใครอาจรู้ได้ว่าเธอเคยรักหรือหวงแหนเขาจากใจจริงหรือไม่ ทำให้คิมพยอลดันเติบโตขึ้นมาอย่างโดดเดี่ยว ขาดทักษะในการเข้าสังคม และโหยหาซึ่งความรัก เขาเป็นโอเมก้าที่มีรูปร่างเย้ายวนกลิ่นหอมหวานคล้ายน้ำตาลอ้อย แต่การแต่งตัวกลับกลบเสน่ห์ที่มีจนไม่มีใครได้เชยชม เพราะการเติบโตมาในช่วง12ปีแรก ชีวิตแทบไม่ได้หยิบจับอะไรเพราะมีคนรับใช้ติดสอยห้อยตาม แต่เมื่อกลายเป็นโอเมก้าเขามีโอกาสได้อยู่กับมารดาเพียงแค่สามปีก่อนลาจากไปโดยไม่สอนทักษะการใช้ชีวิตใดๆให้เขาเลย คิมพยอลดันกลายเป็นคนแปลกแยกต่อสังคม ไร้ญาติขาดมิตร เขาใช้ชีวิตกระท่อนกระแท่นจนสอบทุนเข้ามหาลัยชั้นนำในคณะนิเทศศิลป์ได้ เขาได้เงินใช้จากมารดาแต่เป็นเงินที่หักไปบางส่วนจากที่พ่อส่งให้ทุกเดือนเป็นค่ากินอยู่พอๆกับค่าแรงขั้นต่ำราวๆเดือนละ1ล้านวอน(ประมาณ30000บาท) เมื่อหักค่าน้ำค่าไฟ เขาก็พอกินพอใช้ได้โดยไม่ต้องทำงานเพราะอพาร์ทเม้นท์นี้ผู้เป็นพ่อได้ซื้อไว้ให้เเล้ว ในวันรับน้องเข้ามหาลัย คิมพยอลดันก็ไปร่วมกิจกรรมต่างแต่เพราะการแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าปอนๆ กับแว่นหนาๆบวกกับผมที่ไม่จัดทรง ทำให้เขากลายเป็นคนดูไม่น่าคบหา เขามักยืนหรือนั่งอยู่มุมนึงเดี่ยวๆคล้ายไม่มีตัวตน ตัวเขานั้นก็พอเข้าใจว่าชีวิตมหาหาลัยก็คงไม่ต่างจากที่ผ่านๆมา เมื่อมีการให้เลือกชมรมของนิสิตในคณะ เขาเลือกชมรมถ่ายภาพเพราะอยากเก็บความทรงจำต่างๆในชีวิต ตกเย็นเหล่ารุ่นพี่ก็มีการเลี้ยงเนื้อย่างต้อนรับน้องๆ คิมพยอลดันเองก็เขาร่วมด้วย เขานั่งอยู่ในมุมลึก กินอย่างเงียบๆไม่ได้พูดคุยกับใครเป็นพิเศษ ขณะที่ทุกคนกำลังกินดื่มอย่างสนุกสนานรุ่นพี่คนหนึ่งก็จับสังเกตุเห็นคนที่ดูจืดจางไร้รสนิยม ที่ตนยังไม่ได้เทเหล้าให้ตามธรรมเนียม
"...อะไรกัน ชมรมเราปีนี้ มีมนุษย์เงาด้วยล่ะ..." เขาชี้ไปทางชายหนุ่มที่กำลังคีบเนื้อย่างอย่างตั้งใจ ทำให้ทุกคนหันไปมองคิมพยอลดันเป็นตาเดียว
"...เนียนกินขนาดนี้ไปเป็นปาปารัชซี่ได้เลยนะ..." สิ้นคำของรุ่นพี่ทุกคนบนโต๊ะก็หัวเราะชอบใจจนคนที่ถูกล่าวถึงทำตัวไม่ถูก
"...มานี่ดิ..." รุ่นพี่ร่างยักษ์กระดิกนิ้วเรียกคนที่ตกเป็นเป้าสายตาให้ลุกมาหา คนโดนเรียกเก้ๆกัง ลุกเดินเข้าหาแบบเกร็งๆ
"...นายอดอยากมาจากไหน ถึงตั้งหน้าตั้งตากินเนื้อขนาดนั้น..." รุ่นพี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรแววตาดูหาเรื่องอย่างเห็นได้ชัด
ปั๊ก! ฝ่ามือหนาตบเข้าที่ศรีษะตัวเล็กอย่างแรงจนหัวสั่นตัวเซ คนที่โดนทำร้ายมองเพื่อนๆร่วมคณะด้วยสายตาที่ต้องการความช่วยเหลือก่อนเหลือบมองรุ่นพี่เล็กน้อยด้วยความหวาดกลัว แม้แต่ชมรมอื่นๆก็ต้องเงียบหันมาดูชมรมถ่ายภาพกันหมด
"...ทุกคนเขารับเหล้าจากรุ่นพี่กันหมด แต่แกที่ตั้งหน้าตั้งตายัดเนื้อเข้าปาก แบบนี้มันไม่ให้เกียรติกันเลยนะรู้เปล่า?ฮะ!..." รุ่นพี่ยืนขึ้นตบหัวของคนที่ก้มหน้างุดอย่างลูกบาสสองสามที ก่อนยื่นเหยือกแม็กจูที่เป็นเหล้าผสมเบียร์ขนาดประมาณ1ลิตรให้พยอลดันดื่ม เจ้าโอเมก้าก้มหน้าส่ายหัว ตอบด้วยเสียงอันแผ่วเบา
"...ผมไม่ดื่มแอลกอฮอล์ครับ..."
"...ฮะ! อะไรนะ?..." รุ่นพี่แทบไม่เชื่อหูเลยถามซ้ำอีกครั้ง
"...ผมไม่ดื่มแอลกอฮอล์ครับ..." เมื่อพยอลดันตอบด้วยน้ำเสียงอันดัง นั่นก็เหมือนทำให้เส้นสติของรุ่นพี่ขาดผึง เขาหัวเราะเอาลิ้นดุนปากเงยหน้ามองเพดานอย่างไม่อย่างเชื่อ คิดว่าคนตรงหน้ากำลังท้าทายอำนาจตน จึงขยุ้มผมที่ท้ายทอยของน้องใหม่ที่อ้อนตีนอย่างแรงจนอีกฝ่ายส่งเสียงร้องด้วยความตกใจ แล้วอาศัยจังหวะนั้นกรอกเบียร์ใส่ปากของอีกฝ่าย ชายหนุ่มวัย19ที่พึ่งบรรลุนิติภาวะพยายามขัดขืนเอาตัวรอดจากกระทำที่หยาบโลนของรุ่นพี่แต่กลับถูกรุ่นพี่คนอื่นมาช่วยจับให้อยู่นิ่งๆแทนที่ช่วยห้าม สายน้ำไหลเข้าปากเข้าจมูกของคนที่โดนพันธการจนสำลักน้ำตาไหล กลับไม่ได้สร้างความสงสารใดๆแก่เหล่ารุ่นพี่สถุนเหล่านี้ พวกเขากลับหัวเราะชอบใจแล้วรีบชงเหล้าเพิ่ม น้ำสีอำพันนั้นเขาปากไปเพียงเล็กน้อยที่เหลือไหลเปลื้อนเสื้อผ้าจนเปียกชุ่มเสียหมด เมื่อเหยือกแรกผ่านไป เหยือกสองจึงตามมาแต่ไม่ทันได้กรอกลงคอเจ้าเด็กที่น่าหมั่นไส้ คนคนหนึ่งก็เข้ามาห้ามรั้งเหยือกสุราที่กำลังจะเทใส่เด็กน้อยที่ไร้ทางสู้
อีแทฮยอง!!! ทุกคนหันมองเป็นตาเดียวเมื่อเห็นชายหนุ่มอัลฟ่าผู้โดดเด่นของมหาลัยที่ไม่มีไม่รู้จัก เพราะนอกจากพ่อแม่จะมีอิทธิพล น้องชายฝาแฝดของเขานั้นนับว่าเป็นนักเลงที่แม้แต่มาเฟียยังต้องก้มหัวให้
"...พวกนายไม่คิดว่าที่ทำนี่มันมากไปเหรอ..." อีแทฮยองเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ ที่กลุ่มเพื่อนร่วมรุ่นใช้อำนาจรังแกน้องใหม่อย่างไร้มนุษยธรรม แล้วทุกคนกลับเอาแต่หัวเราะชอบใจที่เห็นใครสักคนโดนรังแก ก่อนจะถอดเสื้อโค้ชยาวมาคลุมให้คนที่โดนกลั่นแกล้งที่กำลังตัวสั่นไม่รู้เพราะว่าหนาวหรือว่ากลัวกันแน่
"...แล้วมึงจะมาเสือก..." รุ่นพี่ตัวปัญหาของพยอลดัลกำลังจะด่าคนที่เข้ามายุ่งด้วยเสียงอันดังเพราะความหงุดหงิด แต่สายตาพลันเหลือบไปเห็นร่างสูงใหญ่ที่หน้าตาคล้ายๆกับคนตรงหน้าที่ลุกขึ้นพร้อมกับเสียงเก้าอี้ครูดพื้น แม้จะไม่ดังมาก แต่เพราะความเงียบและความก้องของร้านที่ตอนนี้แทบจะได้ยินแม้เสียงหายใจ ทำให้เสียงเก้าอี้ที่เลื่อนออกมานั้นดังอย่างเลี่ยงไม่ได้บวกกับสีหน้าและสายตาที่พร้อมปะทะของอีกฝ่าย ทำให้คนที่กำลังจะหัวร้อนต้องปรับโทนเสียงในทันที เพราะรู้ดีว่าผลที่ตามมาจะเป็นเช่นไร
"...อะ... ไร... กับ... ชมรมพวกเรา..." ชายฉกรรจ์พูดด้วยน้ำเสียงติดขัดทำตัวไม่ถูก ก่อนหลบสายตามองซ้ายขวาอย่างกระสับกระส่ายแล้วพาเพื่อนออกจากร้านโดยไม่จ่ายตังค์ สร้างความตึงเครียดในกับเหล่าเด็กปีหนึ่งของชมรมถ่ายภาพ ที่มองหน้ากันไม่รู้จะทำอย่างไรดี
"...ไม่เป็นไรทุกคน เดี๋ยวมื้อนี้พี่เลี้ยงเอง..." อีแทฮยองเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มอันอบอุ่น น้ำเสียงอันนุ่มลึกชวนฝันสะกดใจเด็กๆทุกคนในร้านอย่างไม่อาจเลี่ยงได้ หากว่าเทวดาที่ได้รับการรังสรรค์จากพระเจ้าเป็นเช่นไร อีแทฮยองก็คงเป็นผลงานชิ้นเอก ที่พระผู้สร้างโลกบรรจงสร้างขึ้นมาด้วยความรัก และความเอาใจใส่ ทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่โดดเด่นจนไม่อาจละสายตา อีกทั้งยังเผื่อแผ่ความรักจากพระองค์ท่านเป็นแสงสว่างสู่เหล่าลูกแกะตัวน้อยที่กำลังหลงทาง ทุกคนปรบมืออวยยศแก่อีแทฮยองเป็นการใหญ่ เขาน้อมรับคำสรรเสริญเยินยอต่างๆด้วยท่าทีสุภาพ โดยไม่ทันได้สังเกตุเห็นโอเมก้าตัวเล็กๆที่เขาพึงช่วยไว้นั้นกำลังมองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหลงไหล คล้ายลุ่มหลงอย่างไม่อาจถอดถอน กลิ่นฟีโรโมนอ่อนๆที่แสนอบอุ่นบนเสื้อโค้ชนั้น ราวกับกำลังโอบอุ้มดวงใจที่หนาวเหน็บมาเนิ่นนาน ให้ได้สัมผัสถึงความปรารถนาที่อยากจะครอบครองอีกฝ่ายมาไว้ในอ้อมกอด คิมพยอลดันได้ตกหลุมรักอีแทฮยองนับแต่วินาทีนั้น