เพราะรักจึงตามตื้อเพียงแค่อยากเห็นหน้าอยากได้รักตอบ แต่ไม่เคยจะรู้เลยว่ามันทำให้อีกคนทั้งลำบากใจ ทั้งหงุดหงิดและไม่ชอบ
ชาย-ชาย,ดราม่า,ไทย,รัก,ยุคปัจจุบัน,พระเอกใจร้าย,พู่กัน,บ้านรวย,พระเอกหล่อ,รักตั้งแต่เด็ก,ไม่รัก,ท้องได้,นักเรียนแพทย์,เฮียเนม,ตามตื้อ,พระเอกเย็นชา,กุหลาบดิน,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
พู่กันของวรานนท์ (Mpreg)เพราะรักจึงตามตื้อเพียงแค่อยากเห็นหน้าอยากได้รักตอบ แต่ไม่เคยจะรู้เลยว่ามันทำให้อีกคนทั้งลำบากใจ ทั้งหงุดหงิดและไม่ชอบ
เนม วรานนท์ ทายาทคนโตของบ้านโชติกุลวัฒนา ที่บ้านทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จึงเลือกที่จะเรียนบริหารธุรกิจ
ตอนเด็กที่น้องคลอด “ลุงหมอครับน้องเนมของน้อยน้อยมาเป็นเจ้าสาวให้น้องเนมได้ไหมครับ”
พอโตมาโดนน้องบอกรักและตามตื้อ โคตรน่าหงุดหงิดรำคาญ
พู่กัน พนัชกร ทายาทคนโตของบ้านธีรวัฒนาวัฒน์ ที่บ้านเป็นเจ้าของโรงพยาบาลจึงเลือกที่จะเรียนแพทย์
ตกหลุมรักพี่ชายใจดี พอบอกรักและตามต้ือ กลับเป็นว่าสร้างความลำบากใจและหงุดหงิดรำคาญใจให้อีกคน
หลังจากกลับมาจากงานวันเกิดของวรานนท์แล้ว พอถึงบ้านทุกคนก็แยกย้ายกันไปเข้าห้องนอน นิลกาฬกับพีรฉัตรก็ตามลูกชายคนโตเข้ามาในห้องนอนด้วย
“น้องพู่กันลูก ปะป๊ากับมาม๊าขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมครับ”
นิลกาฬบอกกับลูกชาย พอเห็นลูกรักเศร้าหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็อดที่จะสงสารไม่ได้
“ได้ครับ เชิญปะป๊ากับมาม๊าเข้ามานั่งที่เตียงน้องก่อนครับ”
เวลาอยู่กับครอบครัวถ้าไม่มีพะแพงน้องสาวอยู่ด้วยพนัชกรมักจะแทนชื่อตัวเองด้วยคำว่าน้องแทนเหมือนตอนเด็กๆ พอบิดามารดาเข้ามานั่งบนเตียงของลูกรักโดยพนัชกรนั่งตรงกลางขนาบข้างด้วยคนเป็นพ่อและแม่ที่ต่างคนต่างโอบไหล่ลูกรัก
“ปะป๊ากับมาม๊ามีอะไรอยากจะบอกกับน้องหรือเปล่าครับ”
นิลกาฬเลยพยักหน้าให้ภรรยาเป็นคนพูด เพราะน่าจะดูซอฟต์ว่าตัวเอง
“ปะป๊ากับมาม๊าอยากจะถามน้องว่า น้องพู่กันรักพี่เนมมากไหมลูก ถ้ารักแล้วไม่สมหวังพู่กันจะยอมรับได้ไหม พู่กันจะเสียใจไหมลูก”
พีรฉัตรถามลูกน้อยที่เป็นดังแก้วตาดวงใจด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน คนโดนถามไม่ทันตั้งตัวว่าถ้าเกิดรักแล้วไม่สมหวังตัวเองจะทำใจได้มากน้อยแค่ไหนเลยต้องใช้เวลาหยุดคิดก่อน ก่อนจะถอนหายใจด้วยความหนักหน่วง
“น้องคิดว่ารักพี่เนมจนถึงขั้นอยากเป็นคู่ชีวิตแต่ถ้าหากพี่เนมไม่รักตอบ น้องก็คงเสียใจแต่น้องคิดว่าน้องคงต้องหันมารักตัวเองให้มากขึ้น เพราะยังมีมาม๊ากับปะป๊าที่ต้องเสียใจไปกับน้องถ้าน้องต้องอยู่กับความเสียใจนั้นนาน”
“เก่งมากลูก ปะป๊าอยากให้น้องตั้งใจเรียน ในโอกาสข้างหน้าพู่กันของปะป๊าต้องเจอผู้คนอีกมากมาย พี่เนมอาจจะแค่เหมือนคนที่ผูกพันกันมาตั้งแต่เด็กแต่พอน้องเจอคู่แท้ของน้อง น้องอาจจะรักได้มากกว่าพี่เนมอีกแต่ปะป๊ากับมาม๊าก็เป็นกำลังใจให้นะครับ ขอให้พู่กันของปะป๊ากับมาม๊าสมหวังนะครับ”
“น้องจะขอตื้ออีกแค่ช่วงระยะเวลาก่อนที่พี่เนมจะไปเรียนต่อได้ไหมถ้าพี่เนมพูดตัดเยื่อใยน้องอีก น้องคิดว่าน้องจะเลิกตามไปตอแยแล้วปล่อยพี่เนมไปแล้วครับปะป๊า”
“ครับลูก ปะป๊ากับมาม๊าดีใจที่น้องจะเข้มแข็ง นอนเถอะลูกดึกแล้ว ฝันดีนะครับลูกรักของมาม๊า ฟอดดดด”
“ฝันดีครับลูกรักของปะป๊า ฟอดดด”
“ฝันดีเช่นกันครับที่รักของน้อง ฟอดดดด ฟอดดดด”
สามคนพ่อแม่ลูกหอมแก้มราตรีสวัสด์กันก่อนที่ผู้เป็นพ่อกับแม่จะเดินออกจากห้องของลูกชายไป เห็นลูกเข้มแข็งพ่อแม่ก็คลายกังวล
อาทิตย์กว่าแล้วที่พนัชกรทั้งโทรทั้งส่งไลน์หาวรานนท์แล้วอีกฝ่ายไม่รับสาย ส่วนไลน์ขึ้นว่าอ่านแล้ว แต่ไม่มีการตอบสนองไม่มีข้อความใดๆ แม้แต่สติกเกอร์สักตัวส่งตอบกลับมา ทำให้คนส่งไปทั้งรู้สึกนอยด์ทั้งต้องการเอาชนะคนใจแข็ง วันนี้เลยโทรหาเพื่อนสาวชวนกันไปที่บริษัทตอนเย็นหลังเลิกเรียน เพราะกะจะชวนเด็กฝึกงานไปทานอาหารเย็น นัดหมายกันแล้วก็ให้เพื่อนสาวขับรถมารับที่คณะและไปที่บริษัทของแด็ดดี้เวทานนท์กันส่วนรถของพนัชกรให้คนขับรถที่บ้านมาขับกลับไปให้
พอพากันมาถึงที่บริษัท ทั้งคู่สองเพื่อนซี้ก็พากันขึ้นไปชั้นผู้บริหารซึ่งตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาลิกงานของวรานนท์เลยพากันไปหาแด็ดดี้กับมามี้ก่อน
“สวัสดีค่ะคุณหนูเนย สวัสดีค่ะคุณหนูพู่กันมาหาท่านประธานเหรอคะ”
เลขาหน้าห้องถาม ส่วนเลขาส่วนตัวอย่างนวพรรษภรรยาคนสวยของเวทานนท์อยูในห้องเดียวกันกับท่านประธาน เนตรนภาคุ้นเคยกับคุณหนูทั้งสองมาตั้งแต่ยังเด็กเพราะตอนเด็กๆพากันมาที่บริษัทกันบ่อยๆ
“ค่ะ ป้าเนตร ตอนนี้แด็ดดี้มีแขกไหมคะ เนยกับพู่กันเข้าไปได้เลยไหมคะ”
วราภรณ์ถามเลขาหน้าห้องอย่างมีมารยาทก่อนเข้าไป
“ไม่มีค่ะใกล้จะเลิกงานแล้วมีแต่ท่านประธานกับคุณนิวค่ะ เชิญคุณหนูทั้งสองเข้าไปได้เลยค่ะ”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำเอาคนที่นั่งกอดภรรยาคนสวยอยู่ที่เก้าอี้ทำหน้าไม่สบอารมณ์ทันที ก่อนที่จะได้ยินเสียงลูกสาวตัวแสบขออนุญาตเข้ามาผู้เป็นเจ้าของห้องเลยจำใจต้องปล่อยวงแขนที่โอบกอดเมียรักไว้ให้อีกฝ่ายลุกขึ้นก่อนที่ลูกจะเข้ามาเห็น
“ทำอะไรกันอยู่คะแด็ดดี้มามี้”
“สวัสดีครับแด็ดดี้ สวัสดีครับมามี้”
“หวัดดีลูก เลิกเรียนเร็วจัง พากันโดดเรียนหรือเปล่าเนี่ย” เวทานนท์แซวเด็กๆ
“แล้วโน้ตไม่ได้มาด้วยเหรอลูก” นวพรรษถามอีกเมื่อไม่เห็นลูกชายอีกคนมาด้วยปกติจะตัวติดกันสามคนไปไหนไปด้วยกัน
“ไม่ได้มาด้วยค่ะ เห็นบอกติดธุระ”
“มาถึงนี่มีอะไรหรือเปล่าลูก จะพากันมาซนอะไรหรือเปล่า”เวทานนท์ถามลูกสาว กับหลานชายลูกชายเพื่อนรัก
“ไม่ใช่ซะหน่อย แค่เนยกับพู่กันอยากจะมาชวนแด็ดดี้กับมามี้และเฮียเนมไปทานอาหารเย็นที่ร้านเปิดใหม่แค่นั้นแหละ แล้วนี่เด็กฝึกงานยังไม่เลิกงานเหรอคะ เดี๋ยวเนยโทรตามดีกว่า” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้โทรตามพี่ชายคนโต เสียงเคาะประตูจากด้านนอกก็ดังขึ้น
ก่อนที่จะได้ยินเสียงขออนุญาตจากเสียงทุ้มน่าฟัง วราภรณ์เลยเป็นคนวิ่งไปเปิดประตูให้พี่ชาย ทำเอาอีกคนที่กำลังจะก้าวเข้าห้องทำหน้างงเมื่อเห็นน้องสาวคนสวยมาเปิดประตูให้ พอเข้ามาในห้องเห็นพนัชกรอยู่ด้วยยิ่งงงอีกสงสัยจะพากันหาเรื่องหงุดหงิดใจให้เขาอีกเป็นแน่
“มาได้ไง” ถึงแม้จะทำเหมือนกับถามน้องสาว แต่หลังจากนั้นก็ปลายตาทางพนัชกรเป็นนัยว่าถามร่างบาง
“ก็นั่งแท็กซี่มาค่ะ” วราภรณ์ตั้งใจตอบยั่วโมโหคนหน้านิ่ง
“น้องๆพากันมาชวนไปทานอาหารเย็นที่ร้านเปิดใหม่ เนมพาน้องไปหน่อย พอดีแด็ดดี้กับมามี้มีนัดกับลูกค้าเลยพาไปไม่ได้” เวทานนท์เกริ่นนำเชิงบังคับกรายๆว่าต้องพาน้องๆทั้งสองคนไปทานอาหารเย็นแทนตัวเองกับภรรยา
“เฮ้อ แต่….”
“ไม่มีแต่ค่ะเฮียเนม ไม่ได้ยินที่แด็ดดี้บอกเหรอคะ ว่ามามี้กับแด็ดดี้ไม่ว่าง ให้เฮียพาน้องๆไปแทน”
วรานนท์พูดยังไม่จบก็โดนน้องสาวตัวแสบเจ้ากี้เจ้าการเอาคำพูดผู้เป็นพ่อมาขู่ ทำให้วรานนท์ต้องจำใจพาเด็กไปกินข้าวซึ่งคนสองคนยิ้มกริ่มที่ปฏิบัติภารกิจบรรลุวัตถุประสงค์
“ป่ะเฮียไปกันเถอะเนยกับพู่กันหิ้วววหิว”
“ไปพาน้องไปเถอะลูกทานเผื่อมามี้กับแด็ดดี้ด้วยนะ”
นวพรรษบอกกับเด็กๆอีกที ทั้งสามคนเลยพากันออกจากห้องไปร้านอาหารที่น้องสาวเล็งไว้ว่าอยากกิน ระหว่างทางเวทานนท์ก็ทำหน้าที่เป็นสารถีขับรถน้องสาวแทนส่วนผู้โดยสารกิตติมศักดิ์ที่ได้นั่งข้างหน้าจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพนัชกร เพราะวราภรณ์บอกกับพี่ชายว่าอยากนั่งข้างหลัง ตั้งแต่เจอหน้ากันกับร่างสูงของวรานนท์ พนัชกรยังไม่ได้ยินเสียงทักทายจากอีกคนเลยจนทนไม่ไหวเลยอดที่จะถามไม่ได้
“พี่เนมฝึกงานหนักเหรอครับช่วงนี้”
“อือ”คนตัวโตได้แค่ทำเสียวตอบรับในลำคอเหมือนไม่อยากคุย ดูแลเหมือนต้องการสมาธิในการขับรถเป็นอันมาก
”มิน่า ไม่เห็นไม่เห็นรับโทรศัพท์พู่กันเลย ไลน์ไปแล้วก็อ่านแต่ไม่ยอมตอบน้อง น้อยใจนะเนี่ยสติกเกอร์สักตัวก็ไม่ยอมส่ง”
พนัชกรพูดทำเสียงงอแงน้อยใจอย่างน่ารักเหมือนงอนคนรักในสายตาของเพื่อนสาวที่นั่งสังเกตการณ์อยู่เบาะหลังเงียบๆ แต่สำหรับคนขับรถกลับคิดว่ามันน่ารำคาญ
“พี่ไม่ได้มีเวลามาทำเรื่องไร้สาระมากขนาดนั้นหรอกนะ พี่ต้องต้องใจฝึกงานเรียนรู้งานหลายอย่าง”
“พี่เนมคิดว่าการที่คนเราห่วงอีกคนด้วยความจริงใจด้วยความคิดถึงอยากรู้ความเป็นไปในชีวิตประจำวันว่าอยู่สุขสบายดีไหมในแต่ละวันมันเป็นเรื่องไร้สาระไปแล้วเหรอครับ”
คนพูดพูดด้วยเสียงสั่นๆอุตส่าห์คิดถึงอยากรู้ความเป็นไปของอีกคนแต่ดูอีกคนรอบซิหาว่าเขาไร้สาระมันน่าน้อยใจไหม ขนาดเราไม่ค่อยว่างเรายังพยายามส่งข้อความหา เฮ้อ พนัชกรถอนหายใจใส่ หลังจากนั้นทั้งรถก็เงียบกริบ จนคนด้านหลังทนไม่ไหวเพื่อไม่ให้บรรยากาศมันตึงเครียดไปกว่านี้วราภรณ์จึงต้องทำหน้าที่ชวนพี่ชายคุยบ้างเพื่อนซี้คุยบ้างจนถึงร้านอาหารที่ตั้งใจอยากทาน
“อ้าวเนม นึกว่าหนุ่มหล่อที่ไหนมาทานอาหารที่นี่ ดีใจจังที่เจอตั้งแต่แยกย้ายกันฝึกงานไม่เจอกันเลยสบายดีนะ”
จู่ๆก็มีสาวสวยหน้าตาดีเข้ามาทักวรานนท์ที่โต๊ะขณะที่พากันทานอาหารอยู่ พนัชกรได้แต่มองคนมาใหม่เธอสวยหุ่นดีมากแต่ไม่รู้ความสัมพันธ์กับร่างสูงถึงขั้นไหนเลยนั่งประเมินคู่แข่งก่อน
“อ้าว หวัดดี มะนาว ไม่เจอกันนานก็ยังสวยเหมือนเดิมเลย เราก็เรื่อยๆ แล้วมะนาวล่ะฝึกงานเป็นยังไงบ้างครับสนุกไหม”
วรานนท์ถามปิยวดีเพื่อนร่วมสาขาคนสวยหญิงสาวเคยวันไนท์สแตนด์กันมาแล้วแต่ตามข้อตกลงครั้งเดียวไม่ผูกมัด หญิงสาวก็พยายามที่จะขอคบกับวรานนท์แต่โดนฝ่ายชายบ่ายเบี่ยงด้วยเหตุผลต้องการทุ่มเทกับการเรียนก่อนอย่างอื่น
“ก็สนุกอยู่เสียดายที่ไม่ได้ไปฝึกที่เดียวกับเนม แล้วนี่เนมมากับใครคะมะนาวขอนั่งด้วยได้ไหมคะระหว่างรอเพื่อนเข้าห้องน้ำ”
“ได้ๆเชิญนั่งก่อนซิ จะกลับแล้วเหรอ เรามากับน้องๆ นี่เนยน้องสาวเรา ส่วนนี่พู่กันลูกของเพื่อนพ่อเรา เด็กๆนี่พี่มะนาวเพื่อนพ่ี”
คนถูกแนะตัวจำใจต้องยกมือไหว้ทักทายหญิงสาวเพื่อนของวรานนท์อย่างมีมารยาท คงเป็นได้แค่ลูกของเพื่อนพ่อซินะร่างบางแอบคิดน้อยใจ
“สวัสดีดีค่ะน้องๆ พี่มะนาว ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ดูซิอีกคนก็สวย อีกคนก็ทั้งหล่อน่ารัก ดีจังครอบครัวเนมมีแต่คนหน้าตาดีๆนะคะเนี่ย”
“พี่มะนาวเป็นเพื่อนสนิทกับเฮียเนมใช่ไหมคะ” วราภรณ์อดถามถามขึ้นไม่ได้ดูเหมือนหญิงสาวคนนี้ไม่จริงใจ
“เอ่อก็ระดับนึงค่ะ ถือว่ารู้ใจ แชร์กันได้ทุกเรื่อง”
ปิยวดีอึกอักตอบถึงแม้อยากจะบอกเคนเป็นคู่นอนแต่เพราะข้อตกลงที่เคยให้ไว้กับวรานนท์ทำให้พูดต่อหน้าชายหนุ่มไม่ได้
“มะนาว กูมาแล้ว อ้าวอยู่กับผัวนี่เองมิน่าโทรมาไม่รับโทรศัพท์”
เพื่อนของปิยวดีออกจากห้องน้ำมาถึงพอดีก็เรียกเพื่อนสาวด้วยความรู้ไส้รูพุงกันหมด รู้แม้กระทั่งว่าเพื่อนสาวชอบวรานนท์จนขั้นเข้าไปขอนอนกับเขาเผื่อเขาติดใจขอคบเป็นแฟนแต่เป็นไงล่ะ พอน้ำแตกก็แยกทางตามคอนเซ็ปคนหล่อ
“เอ่อ เนมงั้นมะนาวขอตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวมะนาวโทรหานะคะ พี่ไปนะคะน้องๆสวัสดีค่ะ”
“ครับค่อยคุยกันหวัดดีครับ”
อีกคนจากไปทิ้งให้คนที่อยู่ช็อคคำคำพูดของเพื่อนสาวสวย คำว่าอยู่กับผัวนี่จะเป็นใครไปได้นอกจากพี่เนมกับสาวสวยคนที่ชื่อมะนาว แล้วค่อยคุยกันหมายความว่ายังไง ทีเขาโทรไปไม่รับบอกว่าไร้สาระ