เพราะรักจึงตามตื้อเพียงแค่อยากเห็นหน้าอยากได้รักตอบ แต่ไม่เคยจะรู้เลยว่ามันทำให้อีกคนทั้งลำบากใจ ทั้งหงุดหงิดและไม่ชอบ
ชาย-ชาย,ดราม่า,ไทย,รัก,ยุคปัจจุบัน,พระเอกใจร้าย,พู่กัน,บ้านรวย,พระเอกหล่อ,รักตั้งแต่เด็ก,ไม่รัก,ท้องได้,นักเรียนแพทย์,เฮียเนม,ตามตื้อ,พระเอกเย็นชา,กุหลาบดิน,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
พู่กันของวรานนท์ (Mpreg)เพราะรักจึงตามตื้อเพียงแค่อยากเห็นหน้าอยากได้รักตอบ แต่ไม่เคยจะรู้เลยว่ามันทำให้อีกคนทั้งลำบากใจ ทั้งหงุดหงิดและไม่ชอบ
เนม วรานนท์ ทายาทคนโตของบ้านโชติกุลวัฒนา ที่บ้านทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จึงเลือกที่จะเรียนบริหารธุรกิจ
ตอนเด็กที่น้องคลอด “ลุงหมอครับน้องเนมของน้อยน้อยมาเป็นเจ้าสาวให้น้องเนมได้ไหมครับ”
พอโตมาโดนน้องบอกรักและตามตื้อ โคตรน่าหงุดหงิดรำคาญ
พู่กัน พนัชกร ทายาทคนโตของบ้านธีรวัฒนาวัฒน์ ที่บ้านเป็นเจ้าของโรงพยาบาลจึงเลือกที่จะเรียนแพทย์
ตกหลุมรักพี่ชายใจดี พอบอกรักและตามต้ือ กลับเป็นว่าสร้างความลำบากใจและหงุดหงิดรำคาญใจให้อีกคน
พอพนัชกรเปิดประตูห้องทำงานเข้ามาก็พบว่ามีดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน ก็สงสัยว่าใครเอามาวางไว้หรือใครส่งมาให้ พอพลิกดูการ์ดที่แนบมามีคำว่า “รักเสมอ” นอกนั้นไม่มีอะไรเลยแม้แต่ชื่อของคนส่ง ด้วยความอยากรู้ว่าใครส่งมาเลยเดินออกไปถามเลขาหน้าห้องว่าใครส่งมา
“ไม่ทราบเลยค่ะคุณหมอพู่กัน ทรายถามแมสเซนเจอร์เค้าแล้วค่ะว่าใครส่งมา เค้าบอกว่าไม่ทราบเหมือนกันทางร้านจ้างมาอีกทีค่ะ”
เลขาหน้าห้องตอบรองผู้อำนวยการโรงพยาบาล พนัชกรชอบให้ทุกคนเรียกคุณหมอพู่กันมากกว่าที่จะเรียกว่าท่านรองตามตำแหน่ง
“โอเคครับถ้างั้นไม่เป็นไร” พอไม่ได้คำตอบที่ต้องการพนัชกรก็กลับเข้าไปในห้องและถ่ายรูปดอกไม้ช่อสวยไว้แล้วถือช่อดอกไม้นั้นออกมาหาเลขาของตัวเอง
“คุณทรายครับ รบกวนคุณทรายเอาดอกไม้ช่อนี้ไปแยกจัดใส่แจกันให้หน่อยนะครับจะวางไว้เฉยๆก็สงสารมัน สู้จัดใส่แจกันแล้วเอาแบ่งไปให้ที่ห้องปะป๊าอันหนึ่งนะครับ”
ถึงจะไม่รู้ที่มาของดอกไม้ช่อสวยแต่พนัชกรก็ไม่อยากทิ้งดอกไม้สวยๆนี้เสียดายของ ดอกไม้มันไม่ได้ผิดอะไรสู้เอาไปจัดใส่แจกันไว้ชื่นชมความงามนานๆดีกว่า และช่อดอกไม้ก็ถูกส่งมาทุกๆวันเป็นอาทิตย์แล้วพนัชกรก็ไม่ได้ทิ้งไปไหนกลับกันร่างบางให้เลขาไปซื้อแจกันมาเพิ่มและให้จัดดอกไม้ใส่แจกันให้สวยงามแล้วเอาไปวางตามจุดต่างๆของโรงพยาบาลดีเสียอีกมีคนซื้อดอกไม้ให้ฟรีๆ ให้เขาได้เขามาใช้ประโยชน์นำมาตกแต่งตามโต๊ะตามจุดต่างของโรงพยาบาลให้สดชื่นขึ้น
พอเที่ยงอีกวันก็มีกับข้าวจากห้องอาหารฉัตรมณีของมาม๊ามาส่ง แปลกมากปกติถ้ามาม๊าจะส่งอาหารมาให้มาม๊าจะโทรมาบอกก่อนนี่คงจะยุ่งมากถึงลืมโทรมาบอก พอวันที่สองปิ่นโตก็ถูกส่งมาอีกมีแต่กับข้าวที่ร่างบางชอบกินทั้งนั้น พอทานเสร็จเลยโทรไปขอบคุณมาม๊า
“มาม๊าครับ ขอบคุณนะครับสำหรับข้าวเที่ยงนะครับพู่กันทานเกลี้ยงไม่เหลือเลยมีแรงทำงานทั้งวันเลยครับ”
“อร่อยไหมลูก พี่เนม เอ่อ มาม๊ากลัวว่าลูกมาม๊าจะหิวไม่มีแรงทำงาน”
พีรฉัตรเผลอหลุดปากไป เลยทำให้ร่างบางได้ยินและสงสัยทันที
“ใครนะครับมาม๊า”
“ปะป๊าไงลูก ปะป๊าบอกว่าพู่กันของมาม๊าทำงานหนัก มาม๊าเป็นห่วงเลยส่งอาหารไปให้”
“ไม่จริงอ่ะ เนี่ยตอนนี้พู่กันอยู่กับปะป๊า ปะป๊าไม่รู้เรื่องด้วยเลย มาม๊าจะโกหกลูกลงเหรอครับ”
“เอ่อ มาม๊าขอโทษลูก ที่จริงพี่เนมเค้าเป็นคนสั่งไปให้น้องพู่กันของมาม๊าเองครับ”
“งั้นวันหลังบอกเค้าด้วยนะครับมาม๊าว่าไม่ต้องสั่งให้แล้ว พู่กันหากินเองได้”
“ถ้างั้นเดี๋ยวพู่กันหาเผื่อเฮียเนมด้วยนะครับ เดี๋ยวเฮียไปกินด้วย เราจะไปกินกัน” วรานนท์ที่แวะมาขอเบอร์โทรของพนัชกรจากอาพรีนว่าที่แม่ยายที่ใจดีของเขา ร่างสูงได้ยินพอดีเพราะอาพรีนเปิดลำโพงโทรศัพท์เลยพูดสวนออกไปแกล้งคนน้อง
“เชิญไปบอกภรรยาคุณโน่นหาให้กิน แถวนี้ไม่ใช่โรงทาน” พนัชกรสวนมาอย่างเจ็บแสบมีภรรยาอยู่แล้วจะมาพูดเกี้ยวพาราสีเขาทำไมกัน
“เฮียก็บอกภรรยาของเฮียอยู่นี่ไงครับ เป็นไงบ้างถูกใจดอกกุหลาบเฮียมากใช่ไหมถึงเอามาประดับไปทั่วโรงพยาบาลเลย วันนั้นเฮียแวะไปเห็นประชาสัมพันธ์เค้าบอกว่าแฟนคุณหมอพู่กันเอามาให้ เฮียเลยแก้ข่าวให้แล้วนะว่าไม่ใช่แฟนแต่เป็นสามี เป็นพ่อของลูก” วรานนท์แหย่ต่อ
“ใคร ใครเป็นภรรยาคุณ ใครเป็นลูกคุณ น้องส้มโอโน่นลูกคุณ”
“เอ๋ สงสัยจะเข้าใจผิดแล้วล่ะที่รักเดี๋ยวเฮียอธิบายให้ฟังนะ” วรานนท์ยังไม่ได้อธิบายอะไรเลยร่างบางก็กดวางสายเสียแล้ว เพราะคิดได้ว่าตอนนี้วรานนท์ซึ่งเป็นสามีของพี่มะนาวเป็นพ่อของน้องส้มโอกำลังทำตัววอแวตัวเองเหมือนจะจีบนี่กะจะให้เขารับบทบาทชู้หรือไงอยู่ดีๆก็มาชวนเขาปืนต้นงิ้ว เขาไม่ยอมเล่นด้วยหรอกนะถึงแม้ตอนแรกจะใจสั่นที่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนส่งอาหารส่งดอกไม้มาให้ตัวเองเหมือนจะจีบก็เถอะ
ส่วนวรานนท์หลังจากที่โดนตัดสายโทรศัพท์ พอได้เบอร์โทรของคนน้องแล้วก็ลาพีรฉัตรเพื่อที่จะไปหาร่างบางที่โรงพยาบาลทันที
“คุณอนงค์วันนี้เป็นยังไงบ้างครับ ยังมีใจสั่นแน่นหน้าอกหรือมีอาการผิดปกติอะไรไหมครับ” พนัชกรตรวจคนไข้ที่ห้องตรวจหลังจากที่ผ่าตัดหัวใจแล้ว
“ไม่มีเลยค่ะคุณหมอ หลังผ่าตัดเสร็จก็ดีขึ้นเลยค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น หมอให้ยาเหมือนเดิมนัดมาตรวจอีกที 3 เดือนนะครับ แต่ถ้ามีอาการผิดปกติอะไรให้มาโรงพยาบาลก่อนได้เลยนะครับ”
“ต้องขอบคุณคุณหมอพู่กันมากเลยนะคะที่ช่วยรักษาป้าจนหายดี คุณหมอใจดีมากเลยค่ะ หน้าตาดีอย่างนี้คุณหมอมีแฟนหรือยังคะ ถ้ายังไม่มีนี่ลูกชายป้าค่ะเรียนจบทำงานเปิดบริษัทเป็นของตนเองแล้วก็โสดสนิท คุณหมอสนใจไหมคะ” คุณป้าอนงค์เอาลูกชายหน้าตาดีมาแนะนำให้คุณหมอรู้จัก
“เอ่อ คือ” พนัชกรเริ่มอึกอักไม่รู้จะตอบว่ายังไง
“ต้องขอโทษด้วยนะครับคุณป้า คุณหมอเค้าไม่โสดครับเพราะผมเป็นสามีเขาเอง คงให้ลูกคุณป้าจีบไม่ได้แล้วล่ะครับ ที่รักเคสสุดท้ายแล้วใช่ไหมครับ จะได้ไปรับลูกที่โรงเรียนด้วยกัน”
วรานนท์ที่มาแอบรอคุณหมออยู่นานได้ยินคุณป้าคนไข้จีบคุณหมอให้ลูกชายตัวเองเลยต้องรีบแสดงตัวก่อน ทำเอาคุณป้าอนงค์อึ้งไปเลยเพราะคุณหมอหน้าสวยแต่งงานแล้วที่สำคัญมีลูกแล้วและสามีหล่อมากเหมาะสมกันมาก สามีคุณหมอคุณป้าอนงค์เคยเห็นตามข่าวสังคมไฮโซคุณวรานนท์ลูกหลานตระกูลโชติกุลวัฒนาของเจ้าสัวเวทินทีี่ร่ำรวยมาก
“อุ๊ย ป้าขอโทษค่ะคุย ป้าไม่รู้ป้าแค่แซวเล่นเฉยๆ ว่าแต่สามีคุณหมอพู่กันหล่อและดูดีมากค่ะ ดูรักกันมากเลยนะคะ ถ้าอย่านั้นป้ากลับก่อนดีกว่าไว้เจอกันอีกสามเดือนค่ะคุณหมอ”
“สวัสดีครับคุณป้าอย่าลืมแวะรับยานะครับ”
คุณหมอย้ำคนไข้ของตัวเองอีกรอบ ก่อนที่จะโทรออกไปหาพยาบาลผู้ช่วยที่อยู่นอกห้อง
“คุณหวานผู้ป่วยรอตรวจด้านนอกหมดหรือยังครับ มีนัดอีกไหม”
“ไม่มีแล้วค่ะคุณหมอพู่กัน หมดผู้ป่วยนัดตรวจแล้วค่ะ”
“โอเค ถ้าอย่างนั้นผมกลับแล้วนะครับ”
“ค่ะคุณหมอ”
วางสายโทรศัพท์เสร็จพนัชกรก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจแขกไม่ได้รับเชิญที่อยู่ในห้องเลยสักนิดแม้แต่หันมามองยังไม่มีหรือแม้แต่จะชายตามองหรือก็ไม่ ทำเอาวรานนท์รีบเดินตามร่างบางออกไปอย่างรวดเร็ว
พนัชกรขึ้นไปที่ห้องทำงานประจำตำแหน่งรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลของตัวเอง ก่อนที่จะหยิบของส่วนตัวใส่กระเป๋าสะพายพอจะเดินออกจากห้องก็เจอร่างสูงของวรานนท์เข้ามาอยู่ในห้องกับตัวเองแล้ว
“คุณเข้ามาทำไมไม่ทราบครับ ต้องการอะไรหรือเปล่า” ร่างบางถามออกไปพร้อมทำหน้าเรียบเฉย เหมือนคุยกับคนที่ไม่เคยรู้จักมักคุ้นกัน วรานนท์ฉีกยิ้มหวานให้คนน้องแต่ในใจก็แอบเจ็บที่อีกคนทำเหมือนคนไม่รู้จักกัน
“เข้ามาหาเมียครับจะได้พากันไปรับลูกที่โรงเรียนด้วยกัน” พอได้ยินคนตัวโตเรียกตัวเองว่าเมียพนัชกรถึงกับโมโห ตัวเองมีเมียแล้วยังจะมาเรียกเขาว่าเมียอีกไอ้คนมักมาก
“งั้นคุณคงเข้าผิดห้องผิดที่แล้วล่ะครับ เพราะเมียคุณไม่ได้มาที่นี่”
“เฮียว่าไม่ผิดหรอกครับ หนูพู่กันไงเมียเฮียลืมหรือเปล่า” วรานนท์แย้ง อีกคนเริ่มหน้างอใส่ทันทีที่ได้ยิน
“ขอโทษนะครับผมไม่เคยเป็นเมียใคร เท่าที่จำได้คือผมโสดครับไม่เคยแต่งงาน”
“สถานภาพโสดครับแต่ไม่สด หรือหนูจะเถียงว่าเราเคยไม่เคยมีอะไรกัน”
“มันก็แค่อารมณ์อยากลองของเด็กวัยรุ่นน่ะครับ และตอนนี้ไม่ก็เป็นแค่อดีตไปแล้วไม่มีค่าอะไรให้จำ ผมลืมมันไปหมดแล้วครับ”
“แล้วพอเป็นผู้ใหญ่หนูไม่อยากลองเหรอเดี๋ยวเฮียสอนให้ใหม่เอาไหม รับรองว่าเด็ดจนหนูติดใจต้องขอลองซ้ำๆ”
“ไม่ดีกว่าครับ ผมไม่ชอบลองของเก่า และผมก็ชอบอะไรที่ไม่ใช่ของมือสองโดยเฉพาะสามีคนอื่น ขอตัวก่อนนะครับถ้ายังไงฝากปิดไฟปิดประตูให้ด้วยนะครับ” พนัชกรบอกร่างสูงแล้วรีบเดินออกจากห้องไปโดยไม่รอร่างสูงและโทรหาคุณทวดให้ไปรับลูกชายให้ที