เพราะรักจึงตามตื้อเพียงแค่อยากเห็นหน้าอยากได้รักตอบ แต่ไม่เคยจะรู้เลยว่ามันทำให้อีกคนทั้งลำบากใจ ทั้งหงุดหงิดและไม่ชอบ
ชาย-ชาย,ดราม่า,ไทย,รัก,ยุคปัจจุบัน,พระเอกใจร้าย,พู่กัน,บ้านรวย,พระเอกหล่อ,รักตั้งแต่เด็ก,ไม่รัก,ท้องได้,นักเรียนแพทย์,เฮียเนม,ตามตื้อ,พระเอกเย็นชา,กุหลาบดิน,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
พู่กันของวรานนท์ (Mpreg)เพราะรักจึงตามตื้อเพียงแค่อยากเห็นหน้าอยากได้รักตอบ แต่ไม่เคยจะรู้เลยว่ามันทำให้อีกคนทั้งลำบากใจ ทั้งหงุดหงิดและไม่ชอบ
เนม วรานนท์ ทายาทคนโตของบ้านโชติกุลวัฒนา ที่บ้านทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จึงเลือกที่จะเรียนบริหารธุรกิจ
ตอนเด็กที่น้องคลอด “ลุงหมอครับน้องเนมของน้อยน้อยมาเป็นเจ้าสาวให้น้องเนมได้ไหมครับ”
พอโตมาโดนน้องบอกรักและตามตื้อ โคตรน่าหงุดหงิดรำคาญ
พู่กัน พนัชกร ทายาทคนโตของบ้านธีรวัฒนาวัฒน์ ที่บ้านเป็นเจ้าของโรงพยาบาลจึงเลือกที่จะเรียนแพทย์
ตกหลุมรักพี่ชายใจดี พอบอกรักและตามต้ือ กลับเป็นว่าสร้างความลำบากใจและหงุดหงิดรำคาญใจให้อีกคน
“สวัสดีค่ะ คุณพนัชกร ผู้ปกครองของน้องพัตเตอร์ใช่ไหมคะ”
“ใช่ครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ” พนัชกรรับโทรศัพท์ที่ตัวเองได้บันทึกไว้จากทางโรงเรียนของน้องพัตเตอร์ แปลกจังปกติจะไม่เคยโทรมา คนเป็นแม่จึงร้อนใจเพราะไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกับลูกชายตัวเองหรือเปล่า
“เอ่อ พอดีน้องมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเพื่อนในห้องค่ะ ทางโรงเรียนเลยต้องขอเชิญท่านผู้ปกครองของน้องมาตกลงกับผู้ปกครองของคู่กรณีค่ะ”
ร่างบางได้ทราบเรื่องเลยค่อนข้างจะตกใจเพราะปกติลูกชายจะไม่ชอบเรื่องการใช้กำลัง แล้วไม่รู้ตอนนี้บาดเจ็บอะไรหรือเปล่า
“ตอนนี้เลยใช่ไหมครับ”
“ใช่ค่ะ”
“โอเค เดี๋ยวผมจะเดินทางไปเดี๋ยวนี้ครับ” ร่างบางรีบโทรไปบอกบิดาเพื่อลางานและรีบขับรถไปที่โรงเรียนที่น้องพัตเตอร์เรียนอยู่ทันที
“สวัสดีค่ะ ใช่คุณแด็ดเนมผู้ปกครองของน้องพัตเตอร์หรือเปล่าคะ”
“ใช่ครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ” วรานนท์รับโทรศัพท์จากสายแปลกๆ พอรับเป็นเสียงผู้หญิงถามว่าเป็นผู้ปกครองของน้องพัตเตอร์หรือเปล่าร่างสูงเลยคิดว่าจะเป็นคุณครูที่โรงเรียนลูกชาย
“พอดีน้องมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเพื่อนในห้องค่ะ ทางโรงเรียนเลยขอเชิญผู้ปกครองของน้องมาตกลงกับคู่กรณีค่ะ ที่จริงเมื่อสักครู่ทางเราโทรแจ้งกับคุณพนัชกรไปแล้วนะคะ แต่น้องพัตเตอร์ให้โทรหาคุณแด็ดด้วยค่ะ”
“ครับ เดี๋ยวผมจะรีบไปตอนนี้เลยครับ ขอบคุณนะครับ” ดีนะที่น้องพัตเตอร์จำได้ว่าเขาจดเบอร์โทรศัพท์ไว้ในสมุดถ้ามีอะไรให้คุณครูโทรให้ ร่างสูงของวรานนท์เดินเข้าไปในห้องทำงานของท่านประธานที่มีเวทานนท์กับนวพรรษอยู่ข้างในเปิดเข้าไปยังมีท่านเจ้าสัวเวทินกับธนศิลป์อยู่ด้วย ตนเลยแจ้งกับบิดาว่าจะไปโรงเรียนลูกทุกคนจึงไปด้วยกันหมดเลย
“เป็นยังไงบ้างลูกป๋า ดูซิตาปูดตาบวมเลยปากก็แตก ไหนไอ้เด็กเหลือขอคนไหนมันทำลูกชายป๋าขนาดนี้ ป๋าจะเอาเรื่องพ่อแม่มันให้ถึงที่สุด”
คุณอนันต์ผู้ปกครองของเด็กคู่กรณีของน้องพัตเตอร์ที่มาถึงโรงเรียนก่อนโผเข้าไปหาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวที่คุณครูแจ้งเรื่องทะเลาะวิวาท ด้วยความที่บริษัทอยู่ใกล้จึงมาถึงเร็วกว่า พอเห็นสภาพลูกชายผู้เป็นพ่อถึงกับโมโหคนที่ทำลูกของตัวเองเจ็บขนาดนี้ มันเป็นใครทำลูกเอาเจ็บตัวขนาดเขาเป็นพ่อยังไม่เคยตีลูกสักครั้งเลย
“ใจเย็นๆ ก่อนนะคะท่านผู้ปกครอง เดี๋ยวรอผู้ปกครองของน้องพัตเตอร์มาก่อนนะคะ ค่อยตกลงกัน”
ครูประจำชั้นและครูห้องปกครองพยายามบอกผู้ปกครองของเด็กให้ใจเย็น ที่จริงคุณครูก็อยากบอกว่าให้พูดจาให้สุภาพเพราะมีเด็กอยู่ด้วยเดี๋ยวเกิดพฤติกรรมเลียนแบบขึ้น
“คุณเป็นครูประสาอะไรปล่อยให้เด็กต่อยตีกัน ดูซิเนี่ยถ้าเกิดลูกผมตาบอดเลือดออกในสมองขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ ไอ้เด็กคนนี้ใช่ไหมที่มันต่อยลูกชายป๋า มึงมานี่ซิไอ้ลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอนมึงทำลูกกูเจ็บก็จะเอาเลือดหัวมึงออก” คุณอนันต์เกรี้ยวกราดเดินย่างสามขุมเข้าหาน้องพัตเตอร์ ซึ่งตอนนี้เด็กชายตัวสั่นด้วยความกลัวเพราะไม่เคยเห็นกริยาท่าทางน่ากลัวแบบนี้จากทางผู้ใหญ่บ้านตัวเอง
“หยุดค่ะ ขอความกรุณานั่งลงก่อนนะคะท่านผู้ปกครองเรายังไม่ได้สอบสวนเด็กเลยนะคะว่าทำไมถึงทะเลาะกัน ยังไม่รู้ใครผิดใครถูก”
“จะสอบสวนทำไมดูก็รู้ว่าใครผิด” คุณอนันต์ไม่รับฟังมองดูก็รู้เพราะไอ้เด็กนั่นไม่มีบาดแผลให้เห็นเลยด้วยซ้ำต่างกับปีโป้ลูกเขาลิบลับ
“ขอโทษนะครับ ผมเป็นผู้ปกครองของน้องพัตเตอร์ที่คุณครูโทรไปตามครับ” ร่างบางของพนัชกรปรากฎตัวขึ้นที่ห้องปกครองที่มีคุณครูสองท่านและเด็กชายสองคนหนึ่งในนั้นคือลูกชายตัวเองกับเด็กอีกคนที่สภาพดูไม่ได้คิ้วแตกปากแตกหน้าบวมมีเลือดกรัง นั่งอยู่กับผู้ชายวัยกลางคนที่มีสีหน้าดุดันท่าทางโมโหซึ่งน่าจะเป็นผู้ปกครองเด็ก
“เชิญนั่งก่อนนะคะท่านผู้ปกครอง” คุณครูประจำชั้นเชิญพนัชกรนั่งร่างบางจึงนั่งที่โซฟาเดียวกับน้องพัตเตอร์
“คุณมี๊ พัตเตอร์ไม่ผิด” น้องพัตเตอร์บอกมารดาเสียงสั่น แต่ก็เริ่มใจชื้นขึ้นมาบ้างที่มีคุณมี๊มาอยู่ด้วย
“เนี่ยเหรอผู้ปกครองของเด็กอันธพาลเหลือขอคนนี้ พวกประหลาดลักเพศนี่เองถึงไม่มีเวลาอบรมลูกให้เป็นคนดีเหมือนชาวบ้านเขา”
คุณอนันต์มองมาที่ร่างบางของพนัชกรผู้ชายอะไรผิวขาวขนาดนี้ ใบหน้าก็สวยคงไปทำมาเยอะเพื่อจะได้เป็นผู้หญิงหนำซ้ำไอ้เด็กนั่นเรียกมี๊อีกคนพวกนี้สำหรับคุณอนันต์ถือว่าน่ารังเกียจมาก
“ขอโทษนะครับคุณครู ผมอยากรู้เรื่องราวทั้งหมดครับว่าเกิดอะไรขึ้น” พนัชกรไม่ใส่ใจคำพูดและท่าทางดูถูกของผู้ปกครองอีกฝั่ง
“เดี๋ยวให้เด็กเล่าให้ฟังก่อนนะคะ เด็กๆ ไหนใครจะเล่าเหตุการณ์ให้คุณครูและผู้ปกครองฟังก่อนคะว่าทำไมถึงได้ทะเลาะกันและชกต่อยกัน”
“ปีโป้ครับ ปีโป้ว่าพัตเตอร์แค่นิดเดียวเองแต่อยู่ๆ พัตเตอร์ก็โมโหแล้วเข้ามาต่อยปีโป้เลยครับ” น้องปีโป้คนที่บาดเจ็บเยอะถือโอกาสเล่าก่อน
“นั่นไง ไอ้เด็กอันธพาลมันต่อยลูกผม ดูซิหน้าตายับเยินคอยดูเลยนะผมจะเรียกทนายมาฟ้องค่าเสียหายให้เต็มที่เลย ลองดูซิว่าจะมีปัญาจ่ายไหม ได้ยินข่าวว่าเป็นเด็กใหม่เพิ่งย้ายเข้ามาเรียนด้วยนี่”
คุณอนันต์ยิ่งได้ยินลูกเล่ายิ่งโมโหไอ้เด็กนั่นโดนลูกเขาว่านิดเดียวมันซัดลูกเขาซะดูไม่ได้เลย เขาไม่ยอมหรอกนะต้องเรียกร้องค่าเสียหายซะให้เข็ด
“คุณจะไม่ฟังความข้างเดียวเกินไปเหรอครับ ฟังแค่ลูกตัวเองพูดก็เชื่อแล้วเหรอ ไหนน้องพัตเตอร์เล่าให้คุณมี๊ฟังซิครับทำไมลูกชายคุณมี๊ถึงไปทำร้ายเพื่อน”
“คุณมี๊พัตเตอร์ขอโทษครับ ที่น้องพัตเตอร์อดทนไม่พอ ก็ปีโป้ว่าพัตเตอร์อีกแล้วครับ” เด็กน้อยรีบขอโทษคุณมี๊ทันทีเพราะคุณมี๊เคยบอกว่าให้ใช้สมองมากกว่ากำลัง
“ปีโป้ว่า ว่ายังไงบ้างลูก หนูถึงได้อดทนไม่ไหวเล่าให้ทุกคนฟังซิครับ”
“ปีโป้บอกว่าน้องพัตเตอร์เป็นเด็กกำพร้า เป็นลูกไม่มีพ่อ แต่พัตเตอร์บอกแล้วว่าพัตเตอร์ไม่ใช่เด็กกำพร้า พัตเตอร์มีคุณแด็ด ปีโป้ก็หาว่าน้องพัตเตอร์โกหก ถ้ามีคุณแด็ดจริงก็ต้องมารับมาส่งที่โรงเรียนเหมือนปีโป้ ต้องตอบได้ว่าแด็ดชื่ออะไร พัตเตอร์บอกว่าชื่อแด็ดเนมเค้าก็ไม่เชื่อบอกว่าพัตเตอร์เป็นเด็กเลี้ยงแกะ และบอกเพื่อนๆไม่ให้เล่นกับพัตเตอร์ แล้วปีโป้ก็ผลักพัตเตอร์ก่อนครับแต่พัตเตอร์หลบได้ปีโป้ก็ล้มเอง แล้วที่นี้ปีโป้โมโหมากเลยให้เพื่อนๆ จับพัตเตอร์ไว้และต่อยที่พุงพัตเตอร์ครับ พัตเตอร์เจ็บมากพอหลุดออกมาได้เลยต่อยคืนไปสองทีครับคุณมี๊ ทีนี้ทิชเชอร์มาห้ามก่อนครับ”
น้องพัตเตอร์เล่าให้คุณมี๊และทุกคนฟังด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นน้ำตาคลอ พร้อมกับเปิดเสื้อให้คุณมี๊ดูที่ท้องที่ยังเป็นรอยแดงอยู่ พนัชกรจุกอยู่ในอกที่เห็นลูกเจ็บ
“ไม่จริงไอ้เด็กคนนี้มันโกหก อ๋อ นอกจากจะมีแม่เป็นตัวประหลาดลักเพศแล้ว ยังเป็นเด็กกำพร้าไม่มีพ่ออีกเหรอ มิน่าล่ะถึงได้เป็นเด็กมีปัญหาชอบทำตัวเป็นอันธพาล”
“สวัสดีครับคุณครู ผมเป็นแด็ดของน้องพัตเตอร์ครับขอโทษครับที่มาถึงช้า” วรานนท์ที่แอบฟังอยู่นานทนไม่ไหวที่มีคนว่าลูกเมียเขา เลยปรากฎตัวทันที
"ท่านรอง ท่านประธาน ท่านเจ้าสัว เอ่อ สวัสดีครับ” คุณอนันต์อ้าปากค้างเมื่อเห็นผู้บริหารบริษัทที่ตัวเองทำงานอยู่เดินเข้ามาในห้อง ไหนจะมีคุณนวพรรษคุณธนศิลป์ตามมาด้วยมากันทั้งตระกูลเลย
“คุณแด็ด” น้องพัตเตอร์พอเห็นคุณแด็ดก็รีบลุกขึ้นจากโซฟากระโดดเข้าหาอ้อมกอดของบิดาทันที
“เป็นไงบ้างลูก เจ็บตรงไหนไหมครับลูกคุณแด็ด” วรานนท์ถามลูกชายพลางจับตัวลูกหมุนเพื่อดูร่องรอยบาดเจ็บ
“คุณย่า คุณปู่ คุณทวด ยาย่าสวัสดีครับ” พัตเตอร์เด็กชายตัวน้อยหันมายกมือไหว้ทุกคนท่ีมาใหม่ ตอนนี้ใจชื้นขึ้นมามากที่ตัวเองมีพวกเยอะ ก่อนจะเดินเข้าไปจูงมือคุณทวดเวทินมานั่ง และทุกคนก็ทยอยกันมานั่งตาม
“นี่อย่าบอกนะครับว่าไอ้เด็กคนนี้เป็นเอ่อ” คุณอนันต์ตกใจยิ่งกว่าตกใจตอนนี้เพราะสรรพนามที่ไอ้เด็กอันธพาลเหลือขอ ไอ้เด็กไม่มีพ่อที่ตัวเองด่าว่าเมื่อสักครู่เรียกคนที่เข้ามาใหม่ที่เป็นเจ้านายของเขาที่เขาทำงานและรับเงินเดือนทั้งนั้น
“ใช่ครับเด็กที่คุณบอกว่าไม่มีพ่อ เป็นเด็กอันธพาล เป็นเด็กเหลือขอคือลูกชายคนเดียวของผมเอง” วรานนท์ตอบผู้ปกครองของคู่กรณีทันที
“คุณครูครับ เราฟังเด็กสองคนเล่าไม่ตรงกันเราควรที่จะหาหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้มาดูนะครับ ว่าใครผิดใครถูกที่เกิดเหตุผลมีกล้องวงจรปิดใช่ไหมครับ” ท่านเจ้าสัวเวทินหันไปถามคุณครูปกครองและครูประจำชั้น
“มีค่ะท่านเจ้าสัว”
“เอ่อ ขออนุญาตครับท่านผมว่าน่าจะมีการเข้าใจผิดกันครับแค่เด็กๆ เล่นกันเองครับ แล้วลูกผมคงผิดและดื้อเองที่ไปว่าคุณหนูพัตเตอร์แบบนั้น ปีโป้ขอโทษคุณหนูพัตเตอร์หรือยัง”
“ขอโทษทำไมป๋า ก็ไหนป๋าบอกว่าหนูเจ็บกว่าแสดงว่าหนูเป็นฝ่ายถูกไง ป๋าบอกจะเรียกเงินเยอะๆไง”
“ป๋าบอกว่าผิดก็คือผิด ขอโทษคุณหนูพัตเตอร์เค้าเดี๋ยวนี้ อย่าให้ป๋าต้องโมโห”
“เดี๋ยวผมว่าเราเปิดกล้องดูดีกว่าครับคุณครูจะได้ไม่เป็นข้อกังขาว่าใครถูกผิด” ท่านเจ้าสัวเวทินย้ำคุณครูอีกครั้ง
“ค่ะท่านเจ้าสัว”
คุณครูฝ่ายปกครองก็เปิดกล้องวงจรปิดให้ทุกคนได้ดู และก็เป็นไปตามที่น้องพัตเตอร์เล่า จนตอนนี้คุณอนันต์ที่ว่าแน่รู้สึกหน้าแตกที่ลูกตัวเองเริ่มก่อน และพาเพื่อนไปรุมคุณหนูพัตเตอร์คนเดียว ที่สำคัญว่าอายหน้าแตกคือตอนนี้กลัวว่าตัวเองจะตกงาน
“ทีนี่ก็รู้แล้วนะว่าใครเริ่มก่อน” ท่านเจ้าสัวพูดขึ้นหลังจากที่ดูจอภาพวิดีโอที่บันทึกจากกล้องวงจรปิด
“แต่ถึงยังไงน้องพัตเตอร์ก็ทำเพื่อนเจ็บ พัตเตอร์เด็กดีของคุณมี๊ต้องทำยังไงครับ”
พนัชกรถามลูกชาย น้องพัตเตอร์เลยเดินเข้าไปหาปีโป้ ก่อนจะพูดกับเพื่อน
“ปีโป้เราขอโทษที่ทำนายเจ็บ ขอโทษนะเห็นแล้วใช่ไหมว่าเรามีคุณแด็ด ถ้าปีโป้ว่าเราอีกเราจะไม่ขอโทษแล้วนะเราจะต่อยอีกให้หัวแตกไปเลย” คำทิ้งท้ายของน้องพัตเตอร์ที่พูดกับเพื่อนคุณมี๊อยากจะเป็นลม
“ก็ได้เราขอโทษเหมือนกัน ว่าจะไม่ว่าพัตเตอร์อีกแล้วหมัดหนักชิบหาย”
“เอาล่ะเคลียร์แล้วนะคุณอนันต์ มีอะไรสงสัยหรือพูดอะไรอีกไหม” เวทานนท์หันไปถามผู้ปกครองของปีโป้ที่ตนรู้ว่าทำงานที่บริษัทตัวเอง
“เคลียร์แล้วครับท่านประธาน ผมกับลูกต้องขอโทษด้วยนะครับที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น แล้วก็เอ่่่อขอความกรุณาท่านอย่าไล่ผมออกจากงานได้ไหมครับผมไม่อยากไปหางานใหม่แล้วครับ”
“เรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานผมไม่เอามาปะปนกันหรอก สบายใจได้” เวทานนท์บอกกับคุณอนันต์ ถึงอีกคนจะฉุนเฉียวง่านแต่งานในหน้าที่ที่รับผิดชอบก็ใช้ได้คุมลูกน้องในแผนกได้
“ขอบพระคุณท่านมากนะครับ”
“เอ่อ ว่าแต่น้องปีโป้เจ็บขนาดนั้นไปโรงพยาบาลไหมครับ เพราะผมจะเอาน้องพัตเตอร์ไปตรวจพอดีจะได้ไปด้วยกัน”
พนัชกรถามคุณอนันต์เพราะเห็นแล้วว่าลูกชายตัวเองต่อยเพื่อนแค่สองครั้งแต่หน้าตายับเยินมากอย่างน้อยไปทำแผลให้ยาแก้ปวดยาลดบวมก็ยังดีเดี๋ยวเขาจะได้ซีทีสแกนให้
“เอ่อ ไม่เป็นไรครับ” คุณอนันต์ปฏิเสธ
“ไม่เป็นไรหรอกคุณอนันต์พาน้องปีโป้ไปโรงพยาบาล…ได้เลย ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย เพราะคุณมี๊ของน้องพัตเตอร์เป็นคุณหมอและเป็นเจ้าของที่นั่น” วรานนท์บอกกับพ่อของเด็ก
คุณอนันต์ได้ยินชื่อโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่มีแต่คนมีเงินมหาเศรษฐีเท่านั้นถึงจะกล้าเข้า มีเงินและรวยธรรมดาอย่างเขาไม่อาจเข้าได้ ยิ่งพอรู้ว่าคนที่เขาดูถูกไปก่อนหน้าเป็นถึงคุณหมอและเป็นถึงเจ้าของโรงพยาบาลเข่าแทบทรุด คนพวกนี้จะรวยไปถึงไหน เขาไม่กล้าให้ลูกมีเรื่องกับใครอีกเลยทีนี้
“ครับไปถึงก็แจ้งชื่อได้เลยหรือไปพร้อมกันก็ได้ครับเดี๋ยวหมอจะได้ให้หมอเด็กตรวจให้ละเอียดอีกที จะได้สแกนสมองกับหน้าด้วยครับ” พนัชกรแสดงความรับผิดชอบที่ลูกตัวเองทำเพื่อนเจ็บ
เมื่อเคลียร์กันแล้วก็แยกย้ายกันเอาเด็กๆ ทั้งสองคนไปตรวจที่โรงพยาบาลโดยละเอียดอีกทีตามคำขอของพนัชกร
“ที่รัก เฮียว่าเรารีบแต่งงานกันเถอะจะได้ประกาศให้โลกรู้ว่าหนูพู่กันเป็นเมียเฮียและน้องพัตเตอร์เป็นลูกเฮีย”
วรานนท์ที่ทำหน้าที่ขับรถของพนัชกรกลับโรงพยาบาล โดยที่มีร่างบางและลูกชายเป็นผู้โดยสารกิตติมศักดิ์เพื่อจะพาลูกไปตรวจที่โรงพยาบาลส่วนคนอื่นๆก็ขับรถตามไปอีกคัน
“เกี่ยวอะไรกันครับ” พนัชกรแกล้งถามขึ้นเพราะเขาก็สงสารลูกเหมือนกันที่โดนเพื่อนบูลลี่ว่าเป็นเด็กกำพร้าไม่มีพ่อ
“ก็ถ้าเราแต่งานกันน้องพัตเตอร์ก็จะไม่โดนเพื่อนล้อไงครับ เฮียสงสารลูก”
“คุณมี๊แต่งงานกับคุณแด็ดเถอะนะครับ” น้องพัตเตอร์ช่วยคุณแด็ดอ้อนคุณมี๊ให้ใจอ่อน
“เหรอลูก เห็นแก่ลูกหรอกนะ ก็ได้ๆถ้าอย่างนั้นรีบแต่งก็ได้ งั้นเดี๋ยวพู่กันให้มาม๊าไปหาฤกษ์ดีนะครับเฮีย”
“เย้” สองพ่อลูกดีใจที่คุณมี๊ยอมใจอ่อนเสียที
"ดูซิว่าจะอีกปีค่อยแต่งนี่ยังไม่ถึงสองอาทิตย์เลย” พนัชกรบ่นพ่อกับลูก