"เปิดประตูมิติลับ! เผชิญหน้าดาร์คเอลฟ์กระหายเลือด! การต่อสู้ระหว่างผู้สร้างและผู้ถูกสร้าง ใครคือผู้รอด?"
แฟนตาซี,ผจญภัย,ไซไฟ,ชาย-หญิง,ไทย,พล็อตสร้างกระแส,แฟนตาซี,ระบบ,ระบบเกม,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เมื้อฉันได้รับระบบจากผู้สร้าง [2] ภาคการกำเนิดใหม่"เปิดประตูมิติลับ! เผชิญหน้าดาร์คเอลฟ์กระหายเลือด! การต่อสู้ระหว่างผู้สร้างและผู้ถูกสร้าง ใครคือผู้รอด?"
เรื่องย่อ
ในโลกที่ความตายเป็นเรื่องธรรมดา การสังหารราชาแห่งความตายกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะครั้งใหญ่ ดาร์คเอลฟ์ผู้โกรธแค้นได้ก่อการสังหารโหดเหี้ยมนี้ขึ้น ด้วยความเชื่อมั่นว่าราชาแห่งความตายเป็นต้นเหตุของความทุกข์ทรมานทั้งหมดที่เขาและเผ่าพันธุ์ของเขาต้องเผชิญ
ทิม, โรส และลุคส์ สามวีรบุรุษผู้มีอดีตที่ซับซ้อน ต้องเข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์นี้ พวกเขาถูกตามล่าโดยดาร์คเอลฟ์ที่ต้องการล้างบางโลกใบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บอล ผู้สร้างโลกที่ดาร์คเอลฟ์เชื่อว่าเป็นต้นเหตุของหายนะทุกอย่าง
เมื่อบอลปรากฏตัวขึ้น การต่อสู้ระหว่างผู้สร้างและผู้ถูกสร้างก็ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง ณ รอยแยกมิติที่เปิดออก พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ซ่อนเร้นและความลับดำมืดที่ถูกปกปิดมานาน
"ในโลกที่ระบบเป็นศูนย์กลาง ทุกคนต่างแข่งขันเพื่อครอบครองอำนาจเหนือระบบ แต่ความเป็นจริงคือ ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถเข้าถึงและควบคุมระบบได้อย่างเท่าเทียมกัน. แม้บางคนจะมีระบบในครอบครอง แต่ถ้าระบบนั้นไร้ประโยชน์ ก็จะถูกสังคมมองข้ามไปอย่างง่ายดาย. ในโลกที่เต็มไปด้วยรอยแยกของมิติ ระบบจึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการดำรงชีวิต แต่เมื่อระบบไม่เลือกเรา เราก็ต้องเลือกที่จะสร้างระบบของตัวเองขึ้นมา"
"เมื่อสิบปีก่อน ณ หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง แผ่นดินไหวรุนแรงเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับจะทำลายทุกสิ่ง รอยแยกมิติขนาดใหญ่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นกลางหมู่บ้าน สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านเป็นอย่างยิ่ง ทันใดนั้นเอง ทิม ฮันเตอร์ผู้แข็งแกร่งก็ปรากฏตัวขึ้นจากรอยแยกพร้อมกับดาบสั่นในมือ เขาประกาศด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า 'ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงแล้วนะครับ มอนสเตอร์ทุกตัวถูกกำจัดหมดแล้วนะครับ' เร็น เด็กชายตัวน้อยที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ด้วยความตื่นตาตื่นใจ ตะโกนถามด้วยความชื่นชมว่า 'คุณคือฮันเตอร์อย่างที่เล่าขานกันใช่ไหมครับ?' ทิมหันมายิ้มให้เร็นแล้วตอบว่า 'ใช่แล้วล่ะ เจ้าหนู'"
"เร็นสะดุ้งตื่นจากความฝันกลางวันอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นเวลาบนนาฬิกาปลุกดิจิทัลที่แสดงตัวเลขเกินกว่าที่ตั้งใจไว้มากโข 'สายแล้ว!' เขาอุทานออกมาเสียงดัง ก่อนจะรีบลุกจากเตียงนอนทันที ความตื่นตระหนกแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายเมื่อนึกถึงตารางเรียนที่แน่นขนัดในวันนี้"
"ด้วยความเร่งรีบ เร็นกระโดดเข้าห้องน้ำ อาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ ทุกการเคลื่อนไหวของเขาเป็นไปอย่างฉับไวและแม่นยำราวกับเครื่องจักร"
"เมื่อเตรียมตัวพร้อม เร็นก็เปิดใช้งานระบบเสริมประสิทธิภาพส่วนที่ติดตั้งมาในห้องพักของเขาทันที หน้าจอโปร่งใสขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นตรงหน้า แสดงผลข้อมูลต่างๆ มากมาย เขาเลือกใช้สกิล 'ความเร็วขั้นสูง' ทันทีที่ก้าวออกจากห้อง"
"ด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ เร็นวิ่งทะยานออกจากที่พักและมุ่งตรงไปยังมหาวิทยาลัยสมคมฮันเตอร์ สาขาขอนแก่น เวลาทุกวินาทีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเขาในขณะนี้"
เสียงอาจารย์ดังก้องไปทั่วห้องเรียน "วันนี้เป็นวันแรกที่พวกเราจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ร่วมกัน! เราจะเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้ทฤษฎีพื้นฐานก่อน เพื่อเป็นการปูพื้นฐานสำหรับการต่อสู้กับมอนสเตอร์จำลองในวันพรุ่งนี้ จำไว้ว่าทุกการฝึกฝนล้วนสำคัญ อย่าประมาท! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วเราไปเริ่มเรียนกันเลย!"
เมื่อสิ้นเสียงอาจารย์ เร็นก็เดินออกจากมหาวิทยาลัยไปยังรถลีมูซีนคันหรูที่จอดรออยู่ คนรับใช้เปิดประตูรถและกล่าวด้วยน้ำเสียงนอบน้อม "ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ คุณหนูเร็น"
"รถรีมูซีนเคลื่อนตัวออกจากมหาลัยอย่างเงียบเชียบ มุ่งหน้าสู่คอนโดหรูสูงตระหง่านใจกลางเมือง แสงไฟจากตึกสูงระฟ้าส่องประกายกระทบตัวรถที่เคลื่อนตัวอย่างสง่างาม เมื่อถึงที่หมาย คนรับใช้ในชุดสูทสีดำเดินมาเปิดประตูรถให้เร็นด้วยท่าทางนอบน้อม "คุณชายรออยู่ข้างบนแล้วนะครับ" เสียงทุ้มนุ่มกล่าว เร็นพยักหน้ารับคำ ก่อนจะก้าวลงจากรถและเดินตามคนรับใช้เข้าไปในตัวอาคาร
ลิฟต์เคลื่อนที่ขึ้นสู่ชั้นบนอย่างรวดเร็ว เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ภาพตรงหน้าทำให้เร็นถึงกับต้องเบิกตาค้าง เมื่อพ่อของเขากำลังยืนอยู่ข้างโต๊ะอาหารที่จัดเตรียมไว้เรียบร้อยพร้อมอาหารจานโปรดของเขา "กลับมาแล้วเหรอลูก ดีเลย วันนี้พ่อมีเรื่องอยากจะคุยด้วยนะ" บิดาเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้มที่ดูอบอุ่นผิดปกติ เร็นรู้สึกถึงความตื่นเต้นปนหวั่นใจเล็กน้อย"
to be continued....