เกิดใหม่มีพ่อเป็นพญาครุฑ มีแม่ เป็น พญานาค มีพี่ชายเป็นพญาครุฑ 2 ตัวร้อย ขยันสร้างความบันเทิงให้(ประชด) แต่ว่าเเม่ครับพี่มันจะเอาผมไปทำซาชิมิแล้วครับ;-;
ชาย-ชาย,ตลก,แฟนตาซี,เกิดใหม่,ครอบครัว,พี่เถื่อน,หิมพานต์,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
บันเทิงชีวิตใหม่ครอบครัวหิมพานต์หรรษาเกิดใหม่มีพ่อเป็นพญาครุฑ มีแม่ เป็น พญานาค มีพี่ชายเป็นพญาครุฑ 2 ตัวร้อย ขยันสร้างความบันเทิงให้(ประชด) แต่ว่าเเม่ครับพี่มันจะเอาผมไปทำซาชิมิแล้วครับ;-;
นี่เป็นครั้งเเรกที่เวหารู้สึกว่าตัวเองแม่งโคตรพลาด ทั้งที่รู้สึกเอะใจเเละสัญชาตญาณก็ร้องเตือนเเต่ก็เลือกที่จะมองข้ามเพราะรูปลักษณ์อ่อนแอนั่น คิดว่าก็เเค่เด็ก….เเต่เด็กนั่นเร็วกว่ามาก…ไม่รู้เพราะว่าแม่งตัวเท่าลูกหมา ด้วยหรือเปล่า ไอจะใช้พลังตัวเองก็ต้องมาระวังพวกนาคและคนในงาน เวหารู้สึกหงุดหงิดเมื่อทุกอย่างดูไม่ได้ดั่งใจ เขาอยากจะเผาทุกคนที่ขวางทางทิ้งๆ ไปซะ ถ้าหากว่ามันทำให้เขาช่วยวารินได้
นทีกลับร่างเดิมของตัวเอง พุ่งตามไปพร้อมกับนาคตัวอื่น พร้อมคิ้วที่ขมวดเข้าหากันอย่างเคร่งเครียด กับการก่อความวุ่นวายในครั้งนี้คงสร้างความหวาดผวาให้กับเหล่านาคไม่น้อย ทั้งที่เราถูกปลดปล่อยแล้วแท้ๆ
นาวีสะดุดล้มหน้าทิ่ม เจ็บไม่น้อยเลย และยังอยู่ในอารามตกใจอย่างทำอะไรไม่ถูกที่ถูกฉกเจ้าตัวเล็กไปต่อหน้าต่อตา
วาโยอาสาอยู่ดูแลแม่ให้ เวหาจึงมุ่งความสนใจไปหาเจ้าตัวเล็กได้อย่างไม่ต้องกังวล คำสั่งห้ามฆ่าเด็กคนนั้นจากคนเป็นแม่ทำให้ไม่สามารถใช้พลังได้อย่างถนัดนัก
เวหาหยุดลงข้างลุงนทีที่กำลังประคองร่างชุ่มเลือดของเตโชที่ถูกครุฑในชุดคุมดำทำร้าย
“เด็กนี่คงถูกข่มขู่มา…เขาไม่ได้ตั้งใจ”
เวหาเเค่นหัวเราะ ไม่ได้ตั้งใจ เเต่มึงวิ่งราวน้องกู หนีกูตัวปลิวเลย ขาก็ขามึง ตัวก็ตัวมึง มือก็มือมือมึงที่หยิบตระกร้าน้องกูไป
“ขอโทษ..อึก… ไม่ได้…ต้องการ…” ให้เป็นเช่นนี้… เตโชสำลักเลือดออกมา เมื่อฝืนพูด
“เก็บปากไว้ขอโทษ แม่กับน้องกูโน้น!”
เวหาปรายตามองร่างที่กำลังหายใจรวยรินอย่างน่าสมเพซนั่น ก่อนจะดีดนิ้วให้ไฟลุกท่วมร่างที่กำลังจะตายห่าอยู่แล้ว เปลวเพลิงน่ะนอกจากเป็นสัญลักษณ์ของการทำลายล้างแล้วก็ยังเป็นสัญลักษณ์เเห่งการสร้างด้วย ก็เเค่สร้างส่วนที่เสียหายขึ้นมาใหม่ ก็สามารถห้ามเลือดได้ เเต่ไม่ได้มีคุณสมบัติรักษาเพราะงั้น จะตายไม่ตายก็ขึ้นอยู่กับหลังจากนี้
เวหาแปลงกลับมาเป็นพญาครุฑ พุ่งตามไปคนร้ายตัวจริงที่กำลังหิ้วน้องบินอยู่เหนือผิวน้ำ ทางน้ำเองก็มีเหล่าพญานาค นาคที่มีฤทธิ์ว่ายไล่ตามไปเเต่ก็ช้ากว่าพญาครุฑที่บินอยู่ในอากาศ
“ไอเวร กล้าดียังไงมาเเตะต้องน้องกู”
เวหาสร้างลูกไฟ เข้าโจมตีไม่กล้าที่จะใช้มนต์บทใหญ่เพราะก็ กลัวน้องจะถูกลูกหลงเช่นกัน ทุกอย่างดูจะไม่ได้ดั่งใจไปเสียหมด
ตุมซ่า!
ก่อนจะหยุดชะงักกับภาพที่เห็นตรงหน้า เมื่อมีพญานาคตัวสีดำลำตัวขนาดใหญ่ราวกับเสาสวรรค์พุ่งขึ้นจากผิวน้ำ ฉกเอาพญาครุฑที่กำลังถือตระกร้าน้องน้อยตน ลากพาอีกฝ่ายลงไปในน้ำฉีกกระฉากอย่างไร้ปราณีในเสี้ยวนาที ร่างของพญาครุฑตนนั้นก็เป็นเพียงเศษเนื้อทิ้งเลือดสีแดงไว้เป็นทางยาว
เวหาได้สติเมื่อเห็นตะกร้าในมือของร่างจำเเลงกึ่งมนุษย์ของพญานาคที่มีรัศมีของเทพชั้นสูงอยู่ด้านหลังศีรษะ บ่งบอกให้รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นร่างจุติของเทพสวรรค์ที่อยู่สูงกว่าสวรรค์ชั้นจาตุราชิกา…เพราะตัวเวหาเองก็มีมันเช่นกัน…ความไม่ชอบขี้หน้าตีตื้นขึ้นมาทันทีเมื่ออีกฝ่ายปรากฏตัวขึ้น
“ส่งน้องกูมา”
“…”
อีกฝ่ายจ้องมองมานิ่งๆ ยิ่งทำให้เวหารู้สึกหงุดหงิด ที่เหมือนจะไม่ได้รับการตอบสนองที่ต้องการ
“เวหะคีรัตน์…”
“ฮะ!?” ท่องเหี้ยไรวะนั่น
“ไม่มีอะไร…เเค่รู้สึกคุ้นหน้าเจ้า”
“ฮ่ะ ติดมุกจีบสาวโลกมนุษย์มาเหรอ”
“….”
ร่างสูงของมองร่างกึ่งพญาครุฑตรงหน้าด้วยใบหน้าไร้อารมณ์กับความหยาบคายนี้...ตนเเค่ถามไปตามที่สงสัย
“เหอะ หยุดตีสนิทเเล้วส่งไอซาชิมิมา…”
“…นั่นชื่อเด็กคนนี้เหรอ”
“…เออ! ส่งมา”
ปฎิกิริยา นิ่งสงบดุจสายน้ำยิ่งทำให้เวหารู้สึกหงุดหงิด เพราะเป็นห่วงน้องที่อยู่ในตระกร้า ไม่รู้จะได้รับบาดเจ็บหรือลูกหลงอะไรไหม เขาอยากสำรวจน้องจะเเย่แล้ว เเต่พญานาคหน้าเอ๋อตรงหน้าดูจะไม่เข้าใจ
ผลั่ว!
“ปากเหรอนั้นลูกกู ไม่ดูสถานการณ์เลย ให้มันรู้จักบ้างมารยาทอะ เขาจะหาว่าบ้านไม่สอน!”
ร่างสูงของเวหาเซไปตามการตบหัวของนาวีที่ถูกประคองโดยวาโยที่บินตามมาถึง
“เด็กคนนั้นชื่อวาริน ธาราริน เวทไตยวงศ์สุบรรณ ท่านคงเป็น ท่านอนาคิน ”
อนาคินพยักหน้ารับคำของผู้มาใหม่ที่มีมารยาทเเตกต่างจากผู้ที่ถูกเรียกว่าลูกชาย
“ไม่ต้องเรียกข้าว่าท่าน ตอนนี้ข้าเพียงจุติเป็นเดรัจฉานไม่ต่างจากเจ้า.อดีตชาติของข้าคือสิ่งใดก็ไม่สำคัญกับปัจจุบันที่ข้าเป็น เขาคงกำลังตกใจ… ”
“ครับ…ขอบคุณมากครับที่ท่านช่วยชีวิตเขาไว้..ข้าจะไม่ลืมบุญคุณท่าน”
นาวีรับตระกร้ากลับคืนเปลือกไข่ที่กำลังสั่นไหว ทำให้นาวีรับรู้ว่าวารินยังคงอยู่ในอาการหวาดกลัว
“กฏสวรรค์เปลี่ยนไปแล้ว ข้าเองก็ไม่อาจนิ่งเฉยกับการกระทำที่ป่าเถื่อนนี้ได้ อีกทั้งข้ากับเจ้าตัวน้อยนี่อาจจะมีกรรมที่ให้ต้องข้องเกี่ยวกัน”
“ฮึ”
เวหากรอกตามองขึ้นฟ้า เขาละเบื่ออะไรแบบนี้จริง คำตอบช่างอย่างกับพระเอกในหนังเกรดต่ำ นาวีก็ให้ค่าอีกฝ่ายซ่ะสูงส่งทั้งที่อีกคนมีตำแหน่งต่ำกว่าด้วยซ้ำ อีกฝ่ายก็เเค่คนที่ท้าววิรูปักษ์รับเป็นลูกหลาน หลังการจุติแบบโอปปาติกะที่ลำน้ำทิพย์ของท้าววิรูปักษ์….เเค่อดีตเป็นเทพสวรรค์ชั้นสูงและระลึกชาติได้ก็เท่านั้น เเม้ความทรงจำจะขาดๆ หายๆ ก็ตาม ถ้ารู้ว่ารู้ได้ไงว่าเจ้างูดำนี่เป็นเทพชั้นสูงมาก่อน ก็ดูเอาจากรัศมีเทพบนหัวมันไง เก็บบ้างก็ได้เเสบตา เวหาเองก็ได้ยินเรื่องของอดีตเทพสวรรค์ชั้นสูงผู้นี้เช่นกัน…ว่ากันว่า ลงมาเวียนวายตายเกิดตามสวรรค์ชั้นต่างๆ รวมถึงโลกมนุษย์หรือเเม้เเต่ จุติเป็นพญายมราชในนรกเพื่อตามหาคนรัก ช่างหวานเลี่ยนซ่ะจริงสำหรับเวหา…
“ซาชิมิมานี่มา”
เวหายกเปลือกไข่ที่สั่นไหวเคาะเรียกเจ้าตัวน้อย ที่คงขดตัวสั่นกลัวอยู่ภายใน
“อุ้ก!!”
วารินที่ได้ยินเสียงเรียกของเวหา สะดุ้งจากความกลัวกระโดดพุ่งตัวออกจากรูไข่ไปหาพี่ชาย เเต่เพราะเวหายกเปลือกไข่ขึ้นมาเสมอหน้าตนเพื่อหวังส่องดูเจ้าน้องชาย จึงกลายเป็นว่า เจ้าตัวน้อย กระโดดพุ่งตัวใส่เข้าปากพี่ชายที่กำลังเรียกหา
“เวหา!!”
“อัก”
นาวีที่หันมาเห็นพุ่งตัวเข้าหาลูกชายคนโต พร้อมสับมือใส่หลังสุดแรงทำเอาเวหาทรุดลงไปกับพื้น วาโยที่เห็นเหตุการณ์ ก็เท้าไวไม่ต่างจากเเม่ กระโดดเตะก้านคอพี่ชายด้วยความตกใจเช่นกัน เจ้าตัวน้อยที่ถูกพี่ชายคายออกอย่างเเรงพุ่งกระเด้นออกจากปากพี่ชายลอยอยู่กลางอากาศ ด้วยใบหน้าเหวอ ที่ชุ่มด้วยน้ำลายพี่ชาย
อนาคินที่เห็นก้อนขาวๆ ลอยมาทางตนจึงรับไว้ เเละใช้พลังช่วยเบาเเรงปะทะลง
เจ้าตัวกลมที่ตัวโชกด้วยน้ำลายพี่ชาย เบิกตาโตมองซ้ายมองขวา อย่างตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น…!
“แค่ก แค่ก! หวานชิบ ซาชิมิ! ให้ตายเหอะอยากเป็นซาชิมิขนาดถึงกับกระโดดเข้าปากพี่เลยเหรอ ฮะ! ”
“หงิงง”
เวหาที่เห็นน้องน้ำตาอาบเเก้ม ทำหน้าสลดก็ลดเสียงตัวเองลง เขาเองก็ตกใจเลยเผลอเสียงดังไป
“ทีหลังอย่ากระโดดอย่างนั้นอีก…มันอันตราย..ส่วนมึงอย่าเนียน ส่งน้องกูมา”
เวหาพุ่งมาจับวารินออกจากมือของอนาคินที่ช่วยรับไว้ก่อนหน้า อนาคินยกยิ้มและส่ายหน้ากับการกระทำอันไร้มารยาทของพญาครุฑ แต่ก็ไม่ได้ถือสา ต่อให้อีกฝ่ายจะหยาบคายเเต่การกระทำดูจะตรงข้ามไม่น้อยก็พยายามอุ้มประคองเจ้านาคตัวน้อยอย่างทนุถนอมเสียขนาดนั้น ไม่เรียกอ่อนโยนแล้วจะเรียกอะไรได้อีก…
“ระวังหน่อย เธอตัวเล็กอยู่ พี่ชายเธอกลืนที่เดียวคงไหลลงท้องไปเลย…”
อนาคินกล่าวหยอกล้อยิ้มบางพลางส่งมือเรียวไปหยอกเอินนาคตัวน้อยที่อยู่บนฝ่ามือของคุณพี่ชาย ลูบเช็ดน้ำตาให้อย่างเบามือ นัยน์ตาสีแดงดั่งทับทิมไม่ได้ทำให้ดูน่ากลัวเลย เมื่ออีกฝ่ายแย้มยิ้ม กลับดูอบอุ่นอย่างมาก..วารินถึงกับหยุดชะงักจ้องอย่างเผลอไผล ทำให้เวหาที่จะชักมือหนีไม่กล้าที่จะขยับ ได้เเต่กัดฟันข่มอารมณ์หวุดหงิดของตัวเอง พรมนต์เสน่ห์เหล่าพวกนาคนี่มันอันตรายจริงๆ ให้ตายเหอะ!
“เหอะ เสือก”
“เวหา!”
“ผมพูดลอยๆ วีวี่”
“เฮ้อให้ตายเถอะ ต้องขออภัยในความหยาบคายของลูกชายของผมด้วยนะครับ…เมื่อไรมันจะโตก็ไม่รู้ครับ”
นาวีสุดจะต่อว่าลูกชายของตน รับเอาลูกชายคนเล็กจากมือลูกชายคนโตมาเเนบอกเเละลูบหัวปลอบเจ้าตัวน้อยอย่างเบามือ
“ขวัญเอ่ยขวัญมา”
“งืออ มิ้ ”
นาวีที่ปลอบเจ้าตัวน้อย และปลอบใจตัวเองให้สงบลงได้ ฝากเจ้าตัวเล็กไว้กับลูกชายคนกลางที่ยามนี้กลับร่างเป็นมนุษย์เเต่ยังคงปีกของครุฑไว้ เดินบนน้ำไปหาพี่ชายที่รุดหน้ามาถึงพร้อมเหล่าทหารองค์รักษ์
“เเล้วนี่ พี่เอาไข่น้องไว้ไหน”
วาโยเอ่ยถามเมื่อพาวารินกลับตะกร้าแล้วไม่พบเปลือกไข่ของน้อง เจ้าตัวเล็กก็มองหน้าเป็นเชิงถามหา ล่าสุดคือพี่ชายถือไว้
“….”
เวหาทำสายตาว่างเปล่าตอบกลับดวงตาแป๋วของเหล่าน้องชายที่ส่งคำถามมา…ภาพเหตุการณ์ระทึงขวัญไหลย้อนกลับมาให้ทวนความจำถึงเจ้าไข่ที่หายไป
“เหมือนพี่จะทำหลุดมือ…”
ตอนช่วงที่ตกใจเพราะน้องกระโดดใส่ปาก เขาก็เผลอปล่อยมือออกจากเปลือกไข่...แล้วเบื้องล่างก็คือน้ำมหาสมุทรที่กว้างใหญ่
“…” วาโยมองกลับพี่ชายด้วยสายตาว่างเปล่าเช่นกัน
“ฮึก แงงงงง”
วารินที่ได้ยินคำตอบของเวหาก็ปล่อยโฮออกมาทันทีที่ได้ยินว่า เปลือกไข่ของตนจมหายลงไปในลำน้ำที่กว้างใหญ่ เเละสายน้ำก็ไหลเชี่ยวมาก ยิ่งพึ่งมีคลื่นน้ำจากเหล่านาคที่มาสมทบ เปลือกไข่ของตนคงลอยละลิ้วไปไกลเเล้ว อาจหาไม่พบอีกแล้ว คิดได้เช่นนั้น ดวงใจของวารินก็เหมือนถูกบีบรัด อย่างเจ็บปวด เขาผูกพันธ์กับเปลือกไข่ใบนั้นมากๆ ไม่รู้ทำไม เเต่อยากมีมันอยู่ด้วยกันตลอดไปต่อให้ตัวจะโตก็ไม่อยากจะทิ้ง เขาเเพลนไว้เเล้วด้วยว่าจะให้นาวีทำเป็นลูกแก้วหรือผลึกสตาฟมันไว้ให้…มันเป็นสิ่งเเรกบนโลกใบนี้ที่ปกป้องเขาไว้…และอยู่ด้วยกันมาตลอด..
เวหาที่เห็นน้องร้องไห้จนตัวสั่นปานจะขาดใจก็ใจไม่ดีเช่นเดียวกับวาโยที่พยายามปลอบให้น้องสงบลง…เวหารู้ดีสำหรับวารินนั่นไม่ใช่ความรู้สึกที่น้องมีต่อเปลือกไข่ธรรมดา…เเต่เป็นเพราะเปลือกไข่ใบนั้นถูกหลอมด้วยพลังของมณีนาคของคนในครอบครัวน้องที่สละชีวิตเพื่อปกป้องน้องไว้…การสูญเสียมันก็เหมือนการสูญเสียสิ่งสำคัญ…สูญเสียสิ่งที่เยื่อมโยงกับผู้ให้กำเนิดและครอบครัวที่แท้จริง
อนาคินเองก็ขมวดคิ้วเมื่อเห็นท่าทีทรมานของนาคตัวน้อย เเต่ก่อนจะได้คิดสิ่งใดต่อเสียงของเวหาก็ดังขึ้น
“ช่วยตามหามันที…ขอร้องล่ะ ถ้าเป็นนายอาจหาเจอ..เจ้าเปลือกไข่นั่นสร้างขึ้นจากมณีของพวกนาคมีพลังของพวกนาคสถิตอยู่,”
ตูม
ว่าจบ เวหาก็กระโดดลงไปในน่านน้ำทิ้งตัวให้จมลงสู่ก้นน้ำเพื่อตามหาเปลือกไข่ของน้องชายด้วยกำลังของตัวเองด้วยเช่นกัน
อนาคินนิ่งค้างไปสักครู่เมื่อคาดไม่ถึงว่าเวหาจะเอ่ยขอร้องตนที่เจ้าตัวดูจะไม่ชอบขี้หน้า
“เกิดอะไรขึ้น วาโย”
นาวีที่เห็นลูกชายคนโตดำไปในน้ำและลูกชายคนเล็กก็ร้องไห้ปานจะขาดใจ ต่อให้วาโยจะพยายามปลอบก็ดูจะไม่ยอมสงบลง ทำให้ใบหน้าของนาวีเคร่งเครียดขึ้นเช่นกัน
“…พี่เวหาทำเปลือกไข่วารินตกลงไปในน้ำ”
นาวีที่ได้ยินเช่นนั้นคล้ายหายใจสะดุดด้วยความตกใจ โกรธร และเป็นห่วง
“เจ้าเด็กนั้นคิดว่าตัวเองเป็นนกเงือกหรือไง!”
พญาครุฑเเม้จะกลั้นหายใจได้นานเเต่ไม่ได้หายใจใต้น้ำได้เช่นเหล่านาค…กลยุทธ์ที่นาคใช้ในการต่อกรกับเหล่าครุฑก็คือการจับลงน้ำ ซึ่งถือได้ว่า น้ำเป็นจุดอ่อนของเหล่าครุฑเลยก็ว่าได้…เเถมที่เเห่งนี้คือน่านน้ำ ไตรชล ปากน้ำทั้งสามกว้างยิ่งกว่าสระอโนดาต และอันตรายมาก จึงถูกเป็นเขตห่วงห้าม ก่อนที่อนาคินจะขอมาจำศีลเพื่อปรับสมดุลพลังเทพให้เข้ากับร่างของพญานาค แม้เเต่พญานาคก็ไม่กล้าที่จะมาทีนี่โดยลำพังทั้งที่เราได้ชื่อว่าเป็นที่สุดเเห่งห่วงโซ่อาหารในน่านน้ำก็ตาม…เวหากลับดำลงไปอย่างไม่ลังเล
“เเต่นกเงือกก็หายใจในน้ำไม่ได้นะครับ”
วาโยเเก้ต่างความเข้าใจผิดของนาวี นกเงือก เเม้จะได้ชื่อว่าเงือกเเต่มันก็หายใจใต้น้ำไม่ได้
“….”
“ฮึก ฮึฮึ เเเงงงง”
“…เดี๋ยวข้าจะช่วยหาด้วย…เจ้านั่นอุตส่าห์ถึงกับขอร้องด้วยตนเอง”
อนาคินที่เห็นบรรยากาศแปลก ๆ พูดขึ้นท่ามกลางความเงียบประหลาดที่ก่อตัวขึ้น ระหว่างสองแม่ลูกต่างสายพันธุ์โดยมีเสียงร้องของเจ้าตัวน้อยประกอบฉาก
“เวหาน่ะหรือครับ..เฮ้อ งั้นฝากด้วยนะครับ ผมจะไปตามเวหากลับ…พี่นทีขอกำลังคนหน่อยครับ ตรงนี้มีพญาครุฑอยากทดลองเป็นเงือกตัวหนึ่งครับ!”
นาวีวิ่งกลับไปหาพี่ชายก่อนจะพากันกลับร่างเป็นพญานาคไปตามหาเวหาที่ดำลงไปก่อน
ตอนนี้จึงเหลือเพียงอนาคิน วาโย และ วารินที่ยังคงร้องไห้โฮ
“ไม่เอาไม่ร้อง เจ้าจะทรมานเอานะ ส่งน้องเจ้าให้ข้าเถอะ ถึงเป็นข้าก็ต้องมีสื่อกลางในการหาบ้างสิ่งนะ”
อนาคินเอ่ยปลอบวารินก่อนจะ หันไปสบสายตาร้อนแรงของพี่ชายอีกคนที่ดูจะหวงน้องไม่แพ้กัน
“ห้า ไม่สิ เเค่สามนาที ข้าขออุ้มเขาเเค่สามนาที”
นึกเเล้วก็อดจะรู้สึกขำไม่ได้ ทั้งที่ถูกขอร้องมา กับต้องมาเกรงอกเกรงใจและขออนุญาต ผู้ที่มาขอความช่วยเหลือ
“ตกลงถ้าหลังจากนั้น…มือคุณอาจจะหายไป”
วาโยยอมส่งวารินที่ยังคงสะอื้นไปให้อนาคิน และข่มขู่ทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“เอาละ ถึงแม้จะเสกมันขึ้นมาตรงหน้าให้เธอไม่ได้ แต่ก็พอทำให้หามันง่ายขึ้นได้อยู่ ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับพี่ชายเธอแล้ว ”
เเสงสีทองระยิบระยับปรากฏรอบกายของอนาคินก่อนจะเคลื่อนไปรวมที่วารินที่อยู่บนฝ่ามือ เจ้าตัวน้อยหยุดสะอื้นและก้มลงมองตัวเองที่เปล่งแสงอย่าง งงงวย ความเจ็บปวดในจิตใจเบาบางลง ทำให้พอควบคุมตนเองได้อีกครั้ง จึงเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของพลังอันอบอุ่นที่ครอบครองดวงตาสีทับทิม ด้านหลังศีรษะของชายคนนี้ปรากฎรัศมีกรงจักร ที่ชวนให้เลื่อมใสและทำให้ใจเย็นลงได้…ดวงตาสีฟ้ากระพริบตาปริบๆ จ้องตอบอย่างฉงนกับรอยยิ้มยกมุมปากที่ประดับอยู่บนใบหน้าของอนาคิน
“เจอแล้วล่ะ…”
ขณะเดียวกัน ภายในมวลน้ำที่มืดมิดเวหา ก็พยายามดำดิ่งลงสู่ก้นนทีที่เขาคาดหวังว่าจะพบของสำคัญของน้องชายที่เขาทำหลุดมือ ทั้งที่เขารู้ดีถึงความสำคัญของมันต่อวารินมากกว่าใครๆ เเต่ก็ประมาทเลินเล่อทำมันหล่นหายอย่างไม่น่าให้อภัย
กระเเสน้ำค่อนข้างเชี่ยวทำให้มีความลำบากในการเเหวกว่ายไปในทิศทางที่ต้องการ เขาเป็นพญาครุฑไม่ใช่พญานาคความยากลำบากในการฝ่ากระเเสน้ำจึงยิ่งทวีคูณ เเละเขาไม่ได้หายใจใต้น้ำได้เหมือนนาคยิ่งดำลงมาลึกก็ยิ่งอันตรายเพราะอากาศในปอดเขาเองก็มีจำกัด ภายใต้ความมืดมิดและอึดอัด เสียงของกระเเสน้ำใหลผ่านโสตประสาททำให้ยิ่งสร้างความมึนงงในการรับรู้ทิศทาง เเต่ถึงอย่างนั้นเวหาก็ไม่ได้นึกถอดใจยังคงกวาดสายตาของตนที่พอมองเห็นไปรอบๆ
พรึบ
แสงสว่างจุดหนึ่งสาดส่องขึ้นใต้ก้นนทีที่ลึกลงไปจากจุดที่เวหาอยู่…เจ้าตัวไม่ลังเลเลยที่จะดำดิ่งลึกลงไปอีก..ตามสัญชาตญาณที่ร้องสั่งว่านั้นคือสิ่งที่ตนตามหา…และก็ไม่ผิดนัก เปลือกไข่สีเงินเจือทองที่ยามนี้ส่องประกายเเสงสีทองบริทธิ์ อยู่ไกลไปเพียงเอื้อมมือ…เขาก็แทบจะพุ่งสุดตัวเพื่อไคว้คว้ามัน ทั้งที่เริ่มทรมานจากการขาดอากาศหายใจก็ไม่คิดที่จะปล่อยมือ
“เด็กบ้า”
เสียงกระซิบข้างหูและแรงเกี่ยวรัดที่เอวสอบทำให้เวหารับรู้ถึงความช่วยเหลือจากผู้เป็นแม่ มุมปากขยับยิ้มและโอบกอดเปลือกไข่ไว้อย่างทนุถนอม ปล่อยให้ผู้เป็นแม่และลุงที่ยามนี้อยู่ในร่างของพญานาคพาขึ้นเหนือน้ำ
“แค่กๆ”
เวหาสำลักน้ำเมื่อในตอนสุดท้ายไม่อาจกั้นหายใจเอาไว้ได้ทำให้หายใจกลืนน้ำเข้าไปหลายอึก เล่นเอาเเสบจมูกแสบคอไม่น้อย
ปัก!
“แค่กๆ เดี๋ยววีวี่ตีเราทำไมก่อน”
“ไอลูกคนนี้นิลูกเป็นครุฑไม่ใช่นาคหายใจใต้น้ำไม่ได้ สติคุณลูก! มีปีกก็บินบนฟ้าไป เห็นแม่เป็นหัวตอหรือไง แม่เป็นนาคนะในน้ำคือถิ่นแม่ ปากมีก็บอกสิ เราเป็นครอบครัวเดียวกันมีปัญหาอะไรก็ร่วมกันเเก้ไข้ไม่ใช่ตัดสินใจเอาเอง! ถ้าแม่ไปช้ากว่านี้ ลูกได้ขึ้นหน้าหนึ่งหิมพานต์เเน่! ”
พอเห็นลูกชายคนโตสำลักน้ำจนหน้าซีดนาวีก็ยิ่งรัวมือตีไหล่ลูกชายที่ทำอะไรไม่ค่อยจะคิด ผู้หลักผู้ใหญ่พญานงพญานาคมาเต็มไปหมด ไม่คิดจะมาขอให้ช่วย ไอที่น่าโมโหคือเด็กๆ ไม่เรียกหาตนเลย ตอนนี้นาวีทั้งโกรธทั้งน้อยใจ น้ำตาก็พาลไหลออกมา
“ขอโทษ…วีวี่ก็ดูหน้าไอจิ๋วดิ ร้องไห้ใจจะขาดขนาดนั้นรู้ตัวอีกทีเราก็อยู่ก้นน้ำแล้ว หรือว่า!ลูกรักวีวี่มันต้องทำมนต์ใส่เราเเน่ๆ ”
เวหาทำหน้าตกใจเอามือป้องปากด้วยจริตที่ทำให้คนมองรู้สึกอยากจะจิกหัวตบ
“…”
ความเศร้าความน้อยใจปลิวหายไปจากสมงสมองนาวีอย่างรวดเร็ว…ลูกชายเขาคนนี้มันบ้า!
“เฮ้อออ แม่ล่ะเหนื่อยใจกับลูกจริงๆ เอาไปคืนน้อง ดูโน้นจ้องตาแป๋วแล้ว”
นาวีกุมศีรษะที่เต้นตุบๆ ของตน เผยอหน้าไปหาเจ้าจิ๋วที่ลูกชายเรียก คำเรียกเเต่ล่ะคำช่างขยันสรรหาตั้ง เเต่ก็พอน่าฟังกว่าซาชิมิ ซาลาเปาหน่อย
“หงิงง”
“ปาดคิดถึงพี่ชายคนหล่อจนตาปูดเลยเหรอ ซาชิมิน้อยย”
เวหายื่นนิ้วไปเกลี่ยดวงตากลมที่เเดงปูดเพราะผ่านการร้องไห้อย่างหนักหน่วงของน้องชายคนเล็กที่อยู่บนฝ่ามือของวาโย
“ฟ่อ!”
“อุ้ย คิดถึงมากเลยสินะคะ ”
เวหาวางเปลือกไข่น้องกลับลงตระกร้าคล้ายไม่ใส่ใจมันอีกและยกตัววารินขึ้นวางบนฝ่ามือหมุนตัวเวี่ยงหมุนไปมา…เขาไม่ต้องการให้ใครรับรู้ถึงความพิเศษของมัน…ถึงจะเป็นคนของเผ่าพันธุ์นาคเขาก็ไม่ไว้ใจ…จึงเลือกที่จะลงมืออย่างรวดเร็วด้วยตนเองส่วนที่ว่าทำไมถึงบอกอนาคิน นั่นก็เพราะอนาคินเหมือนจะเป็นเผ่านาคเเต่ก็ไม่ใช่คนของใคร เจ้าหมอนี่เเยกตนเองอยู่อย่างโดดเดี่ยวเเม้จะทำพันธะสัญญาเป็นบุตรของท้าววิรูปักษ์ หลังกำเนิดเเบบโอปปาติกะในบ่อน้ำอมฤต เป็นเเค่เทพที่ลงมาทำเรื่องไร้สาระคงไม่ลดตัวลงมาเสวนากับพวกชั้นต่ำที่จ้องเเต่จะก่อความวุ่นวายให้ตัวเองต้องมีมลทิน
“ยังไม่มุดดินกลับไปอีกเหรอ”
เวหาปรายตาขึ้นสบกับดวงตาสีแดงที่จ้องมองที่เขาเเละน้องด้วยรอยยิ้มที่ชวนให้รู้สึกหงุดหงิด
“หึ ใช้งานกันเสร็จเเล้วก็ขับไล่กันเลยหรือ มารยาทของเจ้า ไม่ว่าชาติไหนก็เกินเยียวยา”
อนาคินปิดเปลือกตาลง ระบายยิ้มอ่อนเมื่อนึกถึงใครบ้างคนจากความทรงจำที่ย้อนคืนกลับมา
“เหอะ พอดี เก็บไว้ใช้กับคนที่คู่ควรอะนะ และหนึ่งในนั้นก็ไม่ใช่เจ้าเเน่ๆ”
ฝ่ามือหนาของเวหายกบังวารินออกจากสายตาที่จ้องมองมา อนาคินที่เห็นเช่นนั้นก็ยิ่งนึกขัน ตัวเล็กจนพี่ใช้ฝ่ามือเดียวบังก็มิดเสียแล้ว คงพึ่งเกิดได้ไม่ถึงปีด้วยซ้ำ
“หึ…เอาเถอะยังคงตัวเล็กอย่างนี้…ข้าเองก็คงต้องรออีกหน่อยเหมือนกัน...” รอมาเป็นแสนปี การรอแค่นี้ไม่ต่างจากการกระพริบตา
ใบหน้าของเวหาไร้ซึ่งรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้า จ้องมองอนาคินอย่างไม่ปกปิดความอาฆาต
“เด็กคนนี้ไม่ใช่คนที่เจ้าตามหา”
“ข้ายังไม่ได้พูดอะไรเลย…”
“ชิ…ไอเวร….วาโย วีวี่กลับบ้านกันเถอะ ที่นี่ไม่ปลอดภัยเท่าไหรเเล้ว”
เวหาที่โดนไล่ต้อนจนหลุดปากบ้างสิ่งออกไป ริมฝีปากขยับด่าให้เพียงคู่สนทนาได้ยิน และหมุนตัวพาวารินหนีไป ทำให้ดวงตาสีแดงโค้งลงอย่างยินดี ในตอนเเรกอนาคินไม่มั่นใจเลยสักนิดเเต่ท่าทีของเวหาหรืออดีตคนรู้จักของเขาเฉลยทุกสิ่งที่เขากังขา
…ยังคงเป็นไอบ้าที่ตามหวงน้องไม่เปลี่ยนไปเลย…
พูดคุยกานนน; เอะอย่างไงงง ไม่รู้ รู้เเต่คุณอนาคินเห็นติ๋มๆ นางร้ายเด๋อ พี่เวหาถึงกับเหยียบเบรก ถอนสมอหนีกลับแดนฉิมพลีอย่างไว 55555 ใช่ค่ะคุณอนาคินเป็นพระเอกกกก เรือหลวงเปิดตัวแล้ว แต่ เรือผีทั้งหลาย พายได้ค่ะ5555 เปิดตัวให้รู้ว่ามีพระเอก หลังจากนี้พี่เเกจะกลายเป็นตัวประกอบแล้ว5555555
คุณชายเวเปล๊า!ยัดเงินดิฉันแต่อย่างใด 5555
นาวี: เอ็น ดู สะกดอย่างนี้คุณลูก! / จิกหัวเวหาหันมาดูปากตนเอง
เวหา: ไอซาชิมิมันเล่นของง / สะดีดสดิ้งใส่
วาโย: อร่อยไหมนะ / กอดเข่าเอานิ้วจิ้มน้อง
วาริน: ;-;