เกิดใหม่มีพ่อเป็นพญาครุฑ มีแม่ เป็น พญานาค มีพี่ชายเป็นพญาครุฑ 2 ตัวร้อย ขยันสร้างความบันเทิงให้(ประชด) แต่ว่าเเม่ครับพี่มันจะเอาผมไปทำซาชิมิแล้วครับ;-;
ชาย-ชาย,ตลก,แฟนตาซี,เกิดใหม่,ครอบครัว,พี่เถื่อน,หิมพานต์,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
บันเทิงชีวิตใหม่ครอบครัวหิมพานต์หรรษาเกิดใหม่มีพ่อเป็นพญาครุฑ มีแม่ เป็น พญานาค มีพี่ชายเป็นพญาครุฑ 2 ตัวร้อย ขยันสร้างความบันเทิงให้(ประชด) แต่ว่าเเม่ครับพี่มันจะเอาผมไปทำซาชิมิแล้วครับ;-;
นี่ก็ผ่านไปหนึ่งเดือนเเล้วหลังเหตุระทึกขวัญที่ผมกระโดดใส่ปากพี่เวหาใช่ครับ อันนี้ระทึกสุดแล้วครับ เเลนดิ้งผิดชีวิตเกือบวิบัติ ทุกวันนี้ยังโดนเจ้าพวกนั้นล้อไม่หยุด ผมเลื้อยคาบหมอนน้อยของตัวเองกระดิ้บไปเวี่ยงหมอนหน้ารีโมต โทรทัศน์ ใช่ครับโลกหิมพานต์มีทีวีช่องโทรทัศน์เป็นของตัวเอง เเล้วก็มีช่องของโลกมนุษย์ด้วย การเปิดทีวีฟังโน้นฟังนี่จึงค่อนข้างเปิดโลกให้ผมทันยุคทันสมัยกับเขาบ้าง เเละก็ได้ข้อมูลเกี่ยวกับโลกหิมพานต์เพิ่มเติมมาพอสมควร
ตื้ด
ผมใช้หางกดเปิดช่องแรกที่ฉายขึ้นมาคือ ช่องที่ฉายซีรีย์หน้าของไอคนที่เปิดดูก็ลอยเข้ามาโดยไม่ต้องเอ่ยนาม ไอพี่บ้าเจ้าของฉายาการละครนั่นเเหละครับ ผมหรี่ตามองตารางซี่รีย์ที่จะฉายวันนี้ มีเเต่ละครตบตีแย่งสามีทั้งนั้น ผมคิดว่าช่วงนี้ไอพี่มันน่าจะอินกับบทเมียหลวงผู้ถูกรังแกเป็นแน่
ติ้ด ผมกดปลายหางของตัวเองเพื่อเปลี่ยนช่อง
“จากข่าวสะเทือนขวัญหิมพานต์ เมื่อสี่เดือนก่อน ตอนนี้เป็นที่เเน่ชัดเเล้วนะครับว่าผู้อยู่เบื้องหนังการกระทำอันต่ำช้าไร้มนุษยธรรม ครั้งนี้คือตระกูล บรรณาครุฑา พวกเขาให้การสารภาพว่าป็นผู้จัดจ้างให้มีการล่าเนื้อของนาคเพื่อนำมาประมูลขายในอีกสักครู่ จะมีการสรุปคดีที่เกิดขึ้น ในช่องไลฟ์ของทางกระทรวงรัฐมนตรีความมั่นคง”
ติ้ด
ผมกดเปลี่ยนช่องหาช่องที่พวกเขาบอกซึ่งในช่องน่าจะมีแม่นาวีกับคุณพ่อธานิลร่วมด้วยเพราะพวกเขาถือเป็นกำลังหลักในการเเก้ไขความมั่นคงของสองเผ่าพันธุ์
“ซาชิมิ ทำไรอยู่จ้ะ”
แอ้ก
เสียงของเวหาดังขึ้นไปทันตั้งตัวพร้อมรบ ตัวก็กระเด้งกระดอนขึ้นเนื่องจากพี่มันกระโดดนั่งโซฟาที่แสนจะนุ่มนิ่มเด้งดึ้ง สร้างคลื่นช็อกเวฟส่งมาตรงจุดที่ผมนอนอยู่ หมอนที่ผมคาบมาด้วยลอยร่วงตกใส่หัวดังตุบ
ฟ่อ!
แน่นอนว่าผมนั่นหันไปขู่ฟ่อใส่พี่มันทันที ถามว่ามันกลัวไหม คำตอบคือ ไม่เหลือ หมายถึงผมนี่แหละที่ไม่เหลือ!
“โห่ ไอซาชิมิมันกำแหงว่ะ โยวันนี้กินไรกันดี”
พี่มันเรียกหาวาโยแต่ตานี่มองผมพร้อมเลี้ยงริมฝีปากโชว์ผมอย่างสื่อความนัย
“อืออ”
ผมเปลี่ยนท่าทีแทบไม่ทัน รีบส่งสายตาอ้อนไปให้อย่างขออภัย เมื่อกี้เขาเปล่าขู่ตัวเขาแค่ตกใจ
ว่าแล้วก็กระพริบตาปริบๆ ส่งให้พี่ชายคนโต
“มีอ้อน อยากรอดก็มานี่”
เวหาแบรมือก่อนยกมาวางหน้าผมเป็นการบอกให้ผมเลื้อยขึ้นไปบนฝ่ามือเขา ไอเรานั้นมันก็แค่เหยื่อพวกไม่อยู่ก็ได้แต่จำใจนักล่ามันไป คอยดูแม่มาจะฟ้องให้หมดเลย ฮึม
“เก่งมาก”
ชมผมเป็นหมาเลยเจ้าพี่นี่ ผมกรอกตามองบนอย่างเหนื่อยใจขยับเบียดหัวกับมือหนาที่กำลังลูบหัว เพื่อเอนเตอร์เทน ก่อนหางจะกระดิกเมื่อได้กลิ่นคุ้นเคย ปลาส้ม! แพคปลาแซลม่อนอยู่ในมือของเวหาที่ละจากหัวผมไปหยิบออกมาจากถุง เปลี่ยนจากพี่บ้า เป็นพี่ชายสุดรักให้เลย นาทีนี้
“แอ้ แอ้”
ผมเลื้อยพันข้อมือของเวหาที่ถือแพคปลาส้มไว้ เอาหัวไถน้องที่อยู่ในแพคอย่างรักใคร่ ก่อนหันไปส่งสายตาวิบวับให้พี่ชาย
“รู้แล้วก็ซื้อมาให้นั่นแหละ เห็นของกินนี่เปลี่ยนสีอย่างไวเลยนะ ซาชิมิ”
เวหาอดจะแขวะผมไม่ได้แต่ผมหาแคร์ไม่จังหวะนี้ คนให้ปลาส้มคือมิตรแท้ คนฉีกปลาส้มให้คือที่สุดแห่งมิตรแท้ กินเสร็จค่อยจัดลำดับใหม่
“กินดีดี ค่อยค่อย กิน”
เวหาเช็ดขอบปากที่เลอะเนื้อปลาส้มออกให้อย่างเบามือ ผมยังพันตัวอยู่ที่ข้อมือของพี่ชายไม่ปล่อย หัวก็ชูขึ้นรับปากส้มที่เวหาป้อนเข้าปากรัวๆ
“งื้ออ” อร่อยยย หวานฉ่ำละมุนลิ้นยิ่งกว่าที่คุณแม่นาวีซื้อให้กินรอบล่าสุดอีก พี่มันไปซื้อจากไหนมากันเนี้ย
“หึ ชอบขนาดนั้นเลย กินมากมากจะกลายเป็นปลาส้มนะไม่รู้เหรอ”
มุกหลอกเด็กมาก ผมไม่เชื่ออยู่แล้ว อ้าปากรอรับคำต่อไปเป็นเชิงบอกให้พี่ชายเลิกเพ้อเจ้อแล้วป้อนต่อได้แล้ว
“จะดูพ่อกับแม่เหรอ”
วาโยที่มาเงียบๆ เอ่ยถามเมื่อเห็นทีวีอยู่ในช่องทางการของกระทรวงหิมพานต์ทีกำลังอยู่ในหน้าเตรียมไลฟ์สด ในมือพี่ชายคนรองมีอีถุงที่คุ้นตาดี ไอเราก็ว่าหายไปไหน ไปเอาชุดมาให้ฟิตติ้งอีกแล้ว!
“หื้ม รอบนี้ตัดเองเหรอ”
เวหาหยิบหมวดมีปีกที่เว้นตรงกลางหัวไว้เพื่อหงอนผมโดยเฉพาะขึ้นมาพินิจ ก่อนจะร้องถามน้องชายที่กำลังตั้งใจผูกโบว์ให้ปลายหางผม
“อื้อ แบบในร้านผมซื้อมาหมดแล้ว คอลเลคชั่นใหม่ก็ไม่มีอันที่ถูกใจแล้วด้วย เลยซื้อผ้ากับจักรมาลองตัดเอง”
“...”
ก็สมควรหมด ฟิตติ้งมันทุกอาทิตย์ชุดไม่ซ้ำเดิมสักชุด หมดร้านแทนที่พี่ท่านจะพอ เปล่าเลย มันตัดเย็บเอง!! อะไรมันจะขนาดนั้น วาโยยย!!!!
“ซาชิมิชอบสีอะไร แดงแน่ๆ เลย หรือสีส้มดี “
เวหาว่าพร้อมกับดึงผ้าสีแดงแป้ดกับส้มแสบตาสะท้อนแสงมาโบกไปมา เอาเป็นว่าฝืนแรกควายวิ่งขวิด ฝืนสอง แสบสันนึกว่าพระอาทิตย์เดินได้!
“ฟ่ออ!!! “ไม่เอาสักสี
“กำแหงอีกแฮะ ซาชิมิจิ๋วนี่มันเปรี้ยวจริงๆ”
เวหาใช้นิ้วดันหัวผมที่จะเข้าไปสวบนิ้วเขาไว้อย่างรู้ทัน วาโยรายนั้นผูกโบว์แดงให้หางผมเสร็จก็ยิ้มมองผลงานอย่างชอบใจ
กุ้งกิ๋ง
เดี๋ยวนะ...ผมพึ่งเห็น ตรงโบว์มันมีกระดิ่งประดับไว้ด้วยพอขยับหางเสียงกุ้งกิ๋งก็ดังกังวาล ผมเลื้อยหนีมันก็ดัง ประหนึ่งร้องเท้าปีปเด็กเดิน!
กุ้งกิ๋ง กุ้งกิ๋ง!
“งื้อออ!!”
ผมลองเขย่าหางแรงแรงเผื่อให้มันจะได้หลุดออก กลายเป็นว่าไม่ต่างจากยกมันเขย่าเล่น บันเทิงเลยทีนี้
“ฮาฮาฮา อันนี้ได้อยู่วาโย”
เวหาหัวเราะขำอย่างชอบใจกับเเฟชั่นสุดล้ำของวาโย
“ผมทำไว้สามสี เขียว ฟ้า แดง”
จะเอาไปผูกศาลพระภูมิหรือไงแต่ละสีเจ้าพี่บ้าพวกนี้มันก็ขยันสร้างความบันเทิงให้ชีวิตผมจริงๆ !! (ประชด)
“ตอนออกข้างนอกก็ติดอันนี้ไป เวลามีเรื่องก็สั่นเรียกได้ มีประโยชน์อยู่”
เวหาวิเคราะห์แฟชันใหม่ของน้องชายไม่วายโบกหางน้องคนเล็กที่ติดโบว์ประดับกระดิ่งให้ส่งเสียงกุ๋งกิ๋ง
ผมทำหน้าปลงตกให้พี่มันจับหางโบกไปมา ขัดขืนหรือก็กลัวจะหาว่าเป็นงูกำแหงอีก เอาเถอะเชิญเล่นกันให้พอใจ เเล้วก็ไปที่ชอบที่ชอบกันได้แล้ว;-;
“เห็นว่าเสาร์หน้า พ่อจะพาน้องไปแนะนำกับปู่กับย่า”
วาโยลองใส่หมวกครอบหัวให้ผม พอเห็นว่าไม่เข้าที่ก็เปลี่ยนเอาสายวัดมาวัดเเล้วก็จดตัวเลขลงสมุด ดูจริงจังมากกับเรื่องไร้สาระนี้..
“อือ ก็นะ ข่าวดังขนาดนี้ถ้าไม่รีบไปก็กลัวจะแห่ลงจากสวรรค์มาดูหลานกัน”
ผมหูกระดิก ถ้าปู่กับย่าแสดงว่าเป็นญาติทางฝ่ายพ่อที่เป็นพญาครุฑสินะ
“แล้วน้องจะไม่กลัวเหรอ”
“หึ ไอซาชิมินี่มันอยู่เป็นจะตาย ห่วงแต่มรดกจะโดนยกให้เจ้าจิ๋วนี่หมดนะสิ”
เวหาเหมือนจะรู้นิสัยผมทะลุปุโปร่งเลย เจ้าพี่ชายบ้านี่ที่ต้องอยู่เป็นก็เพราะพวกนายสองตัวเลย!
“อานั่นสิ สินสอดแม่ได้ข่าวว่า ทองที่ได้ นำมาปูเป็นทางเดินขึ้นจาตุมาชิกาไปกลับได้เลย”
วาโยลูบคางครุ่นคิดถึงข้อมูลที่ได้ยินมา สมแล้วที่คุณแม่นาวีบอกให้ฟังว่าเป็นคนสวยที่รวยมาก ถ้าได้สิดสอดเป็นทองขนาดใช้ปูเป็นทางขึ้นสวรรค์ไปกลับได้ ก็โครตอภิมหาเศรษฐีแห่งหิมพานต์แล้วครับ!!!
“เงินขวัญถุงนายได้เยอะกว่าพี่อีก”
“ก็ผมน่ารักกว่าพี่นี่ครับ ท่านชอบคนน่ารักเหมือนแม่ด้วยซึ่งพวกเรามันห่างไกลกับคำนั่นเยอะครับ”
เหมือนวาโยจะรู้ตัวดีนะครับว่าตัวเองกับพี่เป็นเด็ก... นั่นแหละครับ เอาเป็นว่าผมจะไม่พูดเพราะก็รู้ๆ กันเนอะ
“ซาชิมิต้องทำตัวอ้อนๆ ไว้ พี่จะเกาะเรากิน”
เวหาตบหัวผมตุบๆ แผ่วเบาอย่างฝากฝังภารกิจในการปลอกลอกแค่กๆ ขอเงินขวัญถุงคุณปู่คุณย่า
“มี้!”
ผมตอบรับอย่างยินดี เรื่องเงินสู้ตายครับ! ต่อให้เบื้องหน้าจะเป็นอดีตผู้นำเหล่าครุฑที่น่าหวาดหวั่นสักเพียงใดก็ตาม
“ฮาฮาฮา ดูทำหน้าเข้า ตาเป็นรูปเงินแล้ว ซาชิมิน้อย ตัวแค่นี้ จะเอาเงินไปทำไรหืม”
เวหายกตัวผมที่พันมือเขาอยู่ขึ้นก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา
ผมส่ายหัว ตอนนี้ไม่รู้ ขึ้นชื่อว่าเงิน มีไว้มันอุ่นใจกว่านี่น่า ได้ใช้ไม่ใช้ค่อยว่ากันเผื่อมันใช้ซื้อพี่ชายสองตัวนี้ให้ไปที่ชอบที่ชอบไม่แกล้งผมได้
“หึ มาให้พี่สอนไหมว่าคุณปู่คุณย่าชอบอะไร”
ผมผงกหัวจนหัวสั่น ข้อเสนอน่าสนใจ อย่างไรเวหาก็สนิทและรู้จักคุณปู่กับคุณย่าดีกว่าผมแน่ๆ เพราะรู้จักท่านมานานกว่าผมที่มาทีหลัง คงรู้ว่าท่านชอบอะไรไม่ชอบอะไรดี
“ฮาฮา เยี่ยมมาพี่จะปั้นให้เป็นดาวเลย”
เวหาขยับยิ้มกว้างอย่างยินดีที่จะให้การช่วยเหลือผม
แต่แท้จริงแล้วมันคือการแสยะยิ้ม ซึ่งผมในตอนนั้นโดนเงินบังตาเกินกว่าที่จะไหวตัวทัน
...
..
วันไปหาคุณปู่คุณย่าก็เดินทางมาถึงอย่างรวดเร็วประหนึ่งเขียนไปได้ย่อหน้าเดียว ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาแม่นาวีกับพ่อธานิลเหมือนงานจะเยอะกว่าจะกลับบ้านกันก็มืดค่ำ ส่วนใหญ่ผมจึงใช้เวลาไปกับเหล่าพี่ชายที่สามนาทีดีห้าชั่วโมงร้าย เอาแน่เอานอนกับอารมณ์พี่มันไม่ได้ ยังดีที่วาโยเหมือนติดใจในการตัดเย็บเสื้อผ้า (ให้ผม) ไถจักรอยู่ในห้องตัวเอง ผมเลยได้รบรากับแค่เวหาตัวเดียว แต่ทั้งวันเราก็หมดไปกับการซ้อมเอาใจคุณปู่คุณย่าตามที่เวหาแนะนำผมเลยพอผ่านวันคืนที่โหดร้ายไปได้ ถึงจะโดนจับฟัดทุกสิบนาทีก็ตาม
การไปสวรรค์จตุมหาราชิกาของครอบครัวเรานั้นง่ายกว่าชาวบ้านชาวช่องเพราะคุณพ่อกับพี่ชายมีปีก ไม่ต้องเหนื่อยขึ้นบันได หรือไปต่อแถวรอลิฟท์
“ห้ามทำน้องตกแล้วก็อย่าแกล้งน้องกันด้วย”
คุณพ่อธานิลจะอุ้มคุณแม่ไป ส่วนผมพี่เวหาอาสาพาหิ้วไปพร้อมตระกร้าส่วนวาโยก็ช่วยถือของที่คุณแม่เตรียมไว้ไป
คุณแม่นาวีไม่วายหันมากล่าวกำชับก่อนกอดคอคุณพ่อที่ช้อนอุ้มเจ้าตัวไว้
“รู้แล้วน่าวีวี่ ไว้ใจเวหาแอร์ไลน์ได้เลย”
“บรรลัยการบิน ยินดีให้บริการสินะครับ”
“ใช่แล้ว บริการทุกระดับประทับบาทา”
วาโยเตรียมสโลแกนการบริการให้กับบริการการบินของเวหาอย่างรู้ทันพี่ชาย ที่ยิ้มรับไม่ปฏิเสธต่อเสริมให้อีก ทำให้นาวีได้แต่กุมขมับอย่างปวดหัว ผมที่อยู่ในตระกร้าที่ต้องโดยสารไปกับพี่มันน้ำตาคลอรอเลย
“ล้อเล่นน่าแต่ รับรองซาชิมิ อยู่ครบทุกคำ”
“ก็เป็นสะแบบนี้มันน่าไว้ใจตรงไหนกัน พี่ปรามลูกพี่ดิผมหัวจะปวดแล้ว”
แม่นาวีหันไปขอความช่วยเหลือจากพ่อธานิลดูจะเหนื่อยพูดกับพี่มันแล้ว
“เฮ้อ เลิกเล่นได้แล้ว อย่างไรก็ระวังกันหน่อย”
“คราบบ”
“ครับ”
ผมเชื่อว่าสองตัวร้อยอย่างเวหากับวาโยก็ครับไปงั้นแหละครับเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาตีมึนตามเดิม
พรึบ
ปีกปรากฏบนแผ่นหลังของธานิล เวหาและ วาโย คุณพ่อธานิลกับวาโยมีขนสีแดงชาด ส่วนขนของเวหาเป็นสีทอง ดูเหมือนจะเป็นร่างครึ่งพญาครุฑ
“มี้!!!!”
ผมร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ ๆ ตระกร้าก็ถูกโยนขึ้นสูงด้วยพละกำลังเหนือมนุษย์ ประหนึ่งจรวจพุ่งทะยานสู่ฟากฟ้า เริ่มมาก็สาดความบันเทิงระทึกขวัญกันเลยไอพี่บ้าโว้ยย!
“จ้ะเอ๋ คุณผู้โดยสารครับ”
ก่อนจะกรีดร้องจนหมดเสียงก็รับรู้ได้ว่าตระกร้าหยุดอยู่ในมือของเวหาที่โผล่หน้ามาโชว์เขี้ยว สะท้อนแสง
“อ้ะ”
เหมือนผมเห็นรองเท้าคุ้นตาปะทะกับหัวเวหาที่ก้มมาแกล้งผมในตระกร้าที่ถือไว้จนหัวโยกก่อนพี่มันจะจับรองเท้าข้างนั้นไม่ให้ล่วงลงไป
“แม่เห็นนะเวหา! ไอเด็กนี่บอกว่าอย่าแกล้งน้อง!”
แว่วได้ยินเสียงแม่นาวีผมก็พอเดาได้ว่ารองเท้าข้างนั้นเป็นของใคร สุดยอดดด!แม่ปาแม่นมาก ผมขอคารวะ!
“วีวี่มันเจ็บนะ หัวเราปูดแล้ว เราจะไปแจ้งนครบาลว่าวีวี่ใช้ความรุนแรงในครอบครัว”
ม่านการละครเวหาเปิดแล้วจ้า พี่มันยกตระกร้าผมขึ้นปิดหน้าบิดไปมาประหนึ่งสาวน้อยโดนรังแก
ปัก
“เลิกเล่นได้แล้วสายแล้ว โยเอารองเท้ามาคืนให้แม่ที”
ไม่นานรองเท้าอีกข้างของคุณแม่ก็ประเคนลงบนหัวพี่มันอีกครั้ง เป็นอันปิดม่านเวหาการละครเหนือท้องฟ้า วาโยบินมารับรองเท้าที่พี่มันถือไว้ไปคืน เพื่อจะได้ใช้ปาหัวพี่มันอีกล่ะผมว่า ฮาฮา อย่างพี่เวหาต้องให้คุณแม่นาวีปราบจริงๆ
“วีวี่ไม่อ่อนโยนเลยเนอะชาชิมิ ปะพี่พาไปชมวิวสวยสวย”
เมื่อเห็นว่าคุณแม่ไม่เล่นด้วยเวหาก็เปลี่ยนเป้ากลับมาเล่นกับผมแทน รอบนี้ควักผมออกจากตระกร้า ผมนี่เลื้อยเกาะพันมือพี่มันแทบไม่ทัน! ลมบนฟ้าพัดปะทะเล่นเอาผมแทบปลิว ตะกร้าผมพี่มันก็โยนให้วาโยไปถือ
“มี้!!!” ไอพี่บ้า
“หึ มาๆ ไม่ตกหรอกน่า พันคอพี่ไว้”
เวหาพาผมมาไว้ตรงส่วนลำคอเขา ผมรีบพุ่งใส่อย่างเร็ว
“อยากเลื้อยเข้าเสื้อไปชม ของดี พี่ก็ไม่ขัดนะ”
พี่มันส่งวิ้งให้ เผื่อพี่มันลืมผมพึ่งออกจากไข่ได้ไม่ถึงปีผมฟ้องพี่มันข้อหาอนาจารเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะได้ไหม ถึงอายุจิตจะเกินไปแล้วก็เถอะ ถึงได้ไปฟ้องคุณตำรวจเขาก็คงฟังผมไม่รู้เรื่องอยู่ได้ สุดท้ายก็ทำได้แค่เมินมันไป
พึบ
เวหาลดระดับการบินให้ต่ำลงพร้อมบินให้ช้าลงด้วย ภาพวิวทิวทัศน์ด้านล่างจึงเด่นชัดขึ้น
“มี้!” ว้าว
“สวยใช่ไหมล่ะ”
ผมพยักหน้ารับอยู่ข้างแก้มของเวหา สวยจริงๆ นั่นแหละ ภาพบางส่วนของป่าหิมพานต์จากมุมนี้สวยมากผมไม่รู้ว่าตรงส่วนนี้คือตรงไหน ภูเขาแต่ละลูก ราวกับถูกจับวางไว้กลางสายน้ำที่เลี้ยวขดพาดผ่านได้อย่างลงตัว มีฝูงสัตว์ที่เหมือนในหนังสือวรรณคดีที่ผมรู้จักมีให้เห็นอยู่ไม่น้อย และตัวที่ไม่คุ้นตาก็อีกมาก
“มี้ๆ”
ผมตื่นเต้นจนอดใช้หางตีเสี้ยวหน้าเวหา พร้อมชี้ปลายหางไปยังทิศทางที่อยากให้อีกฝ่ายมอง
“อันนั้นต้นมักกะลีผม สนใจของดีด้วยนะเรา ฮาฮา แต่หน้านี้ยังไม่มีผลสุกหรอกนะ ไว้มีผลสุกพี่จะเอามาให้เล่น”
ผมตาโตผมแค่ชี้ให้ดูเพราะตื่นเต้น ที่ได้เห็นของจริงหนึ่งในของท๊อปของหิมพานต์ต้นไม้ที่ว่าออกลูกเป็นหญิงงาม ไม่ได้อยากได้สักหน่อย อีกอย่าง ผมจะเล่นอะไรกับคุณมักกะลีผลกัน หมากเก็บยังเล่นไม่ได้เลย!
“มิ้ว”
ผมส่ายหัวปฏิเสธ
“ไม่เอาเหรอ นั้นสินะ สวยงามได้เพียงอาทิตย์เดียวก็เน่าเปื่อยมีแต่พวกโง่งมที่อยากได้จน ยื้อแย่กันจนตัวตาย ซาชิมิของพี่ช่างตาถึงเสียจริง”
“….”
....ผมกลืนน้ำลาย เมื่อเห็นรอยยิ้มของเวหา เมื่อกี้พอผมเหมือนอยากได้ พี่มันก็อวยเป็นของดี พอผมปฏิเสธ ก็เผยด้านมืดออกมาได้รู้ ไอพี่บ้า! ถ้ามันเป็นสิ่งไม่ดีก็เตือนกันก่อนสิ
“เอาล่ะ เวหาพาทัวร์หมดรอบแล้ว เดี๋ยววีวี่จะบ่นเอาถ้าเราไปสายกัน”
เวหาพาผมบินขึ้นสูง ทะลุก้อนเมฆขึ้นมาด้วยความเร็วที่เร็วมาก ไม่รู้เพราะอยู่ตรงตำแหน่งใต้คางเวหาที่กำลังบินหรือเปล่าเลยไม่ค่อยรับรู้ถึงกระแสลมที่เข้าปะทะ
พุบ
“มี้!” ว้าว
ยังไม่ทันได้คิดอะไรต่อผมก็ต้องตกใจกับความงามของประตูที่ทองอร่ามที่ตั้งตระง่านสูงใหญ่ยิ่งกว่าตึก สิบชั้น และกำแพงที่ประดับด้วยเพรชพลอยส่องแส่งประกายระยับ
“ยินดีต้อนรับสู่สวรรค์ จาตุมหาราชิกา”
เวหาเหยียบลงบนปุยเมฆหน้าประตู ส่งมือมาให้ผมเลื้อยขึ้นไปอยู่บนฝ่ามือเขา เพื่อให้ชมวิวรอบๆ ได้สะดวกขึ้น
“ยินดีต้อนรับเพคะ ท่านชลานนท์”
ผู้หญิงที่มีปีกของครุฑเดินเข้ามารับพวกเรา มองไปทางด้านทางเข้าก็เดินแถวของครุฑที่เรียงแถวรอต้อนรับ ยิ่งใหญ่สมเป็นตระกูลที่ปกครองครุฑานคร
“ทักทายน้องเล็กเราด้วยสิ เรยินทร์”
เวหากล่าวด้วยร้อยยิ้ม พลางยื่นผมไปตรงหน้าของพี่สาวเรยินทร์
“ขออภัยเพคะหม่อมฉันไม่ทันสังเกต ท่านธารารินตัวน้อยมาก ยินดีต้อนรับเพคะ ท่านธาราริน”
พี่เรยินทร์ค่อมหัวลงเพื่อขอโทษผม ผมเข้าใจแหละ ผมตัวนิดเดียวตัวก็ใสเวลาอยู่ท่ามกลางแสงตกกระทบตัวก็ตัวระยิบระยับมองไกลๆ นึกว่าสร้อยเพชร ยิ่งคล้องคอพี่มาเป็นผมก็นึกว่าเวหาใส่เครื่องประดับมา
ผมฉีกผมหวานพลางพยักหน้ารับคำเรยินทร์
“ท่านพ่อท่านแม่ละ”
“เข้าไปด้านในวังแล้วเพคะ”
เวหาพยักหน้ารับวางผมกลับคืนไหล่ตัวเอง พลางออกเดินนำเข้าประตูทองคำที่สูงเทียมเมฆ ผมมองรอบๆ อย่างสนใจเมื่อเห็นเพียงเหล่าครุฑที่เข้าออก
“มี้มี้”
ผมสะกิดเวหาชี้ปลายหางไปที่ประตูและตัวเองเป็นเชิงถาม
“อ่อ ประตูจาตุมหาราชิกามีด้วยกัน สี่ทิศ ตามจำนวนท้าวที่ปกครอง ของใครของมัน นี้ป็นประตูฝั่งทางทิศตะวันตกที่ท้าววิฬุหกเป็นผู้ปกครอง จึงมีเพียงเหล่าพญาครุฑที่เข้าออก พวกนาคใช้ประตูตะวันออกที่ท้าววิรูปักษ์ปกครอง”
ผมพยักหน้ารับให้กับคำอธิบายขอฃพี่ชาย ที่ร้อยวันจะมีสาระกับเขาบ้าง
“อู้!” สุดยอด!
เมื่อผ่านพ้นประตูทองคำมาผมก็เป็นต้องอ้าปากค้างตระลึงในความงดงามของพระราชวังของเวทไตยวงศ์สุบรรณ ตระกูลที่ทำหน้าที่เฝ้าทางขึ้นของจตุรามาชิกา ที่เชื่อมถึงวิมานของท้าววิฬุหก จะเข้าเฝ้าท้าวท่านก็ต้องผ่านที่นี่ก่อน อีกทั้งเวทไตยวงศ์สุบรรณยังสนิทชิดเชื้อกับท้าววิฬหก เนื่องจากท้าวท่านสนิทสนมกับพญาเวทไตยที่เป็นต้นตระกูลเวทไตยวงศ์สุบรรณ
เรียกว่าเพื่อนซี้ลูกหลานพญาเวทไตยก็เอ็นดูเหมือนเป็นลูกหลานตนเอง
เวหาพาผมบินขึ้นมายังวิมานลอยฟ้าที่เด่นสง่าที่สุด มันคงคล้ายกับท้องพระโรงของพระราชวัง ด้านหน้ามีพญาครุฑที่ถือหอกอยู่หน้าทางเข้าพวกเขาคงเป็นองครักษ์ที่ให้การดูแล พวกเขาทำความเคารพเวหากันเสร็จก็หันไปนิ่งสงบ มีระเบียบกันมาก
“มาแล้วจ้า สวัสดีครับคุณปู่คุณย่า
เวหายกมือขึ้นผายออกและโค้งกายลงทักทายผู้ใหญ่ ประหนึ่งพิธีกรบนเวทีท่านหนึ่ง ผมที่อยู่บนไหล่พี่มันก็เล่อล่า ผงกหัวตามแทบไม่ทัน เงยขึ้นก็คู่ชายหญิงที่ดูมีอายุและดูน่าเกรงขามนั่งอยู่บนบังลังก์คู่กัน ทั้งสองคนยิ้มส่งมาให้ คงเป็นคุณปู่กับคุณย่า
“เวหาลูกสายนะ “
ได้ยินเสียงแม่นาวีก็พออุ่นใจขึ้นมาหน่อยมาเวหาไม่ได้แกล้งเล่น รู้สึกถึงเสียงหัวใจตนเองเต้นแรงอยู่ไม่น้อยเพราะความตื่นเต้น มองไปก็เห็นคุณแม่นาวีนั่งอยู่ข้างคุณพ่อธานิลที่นั้งทางฝั่งซ้ายของบังลังก์ทอง วาโยนั่งทางฝั่งขวาโดยเว้นที่ไว้ช่องหนึ่งคงเป็นที่ของเวหา
“ตัวเอกเขาก็เปิดตัวหลังสุดกันทั้งนั้นแหละวีวี่ เนอะ”
เวหายกมือขึ้นมาวางตรงหน้าผมให้ผมเลื้อยขึ้นมือเขา เจ้าตัวไม่ได้รีบเดินเข้าไปนั่งที่ตัวเอง
“จำที่สอนได้ไหมซาชิมิ”
“มี้”
ผมครางรับเวหาด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น ร้องฮึบในใจเพื่อเลือกขวัญและกำลังใจ
“เอาล่ะไปเลยวารินพี่เลือกนาย! It shows time~!”
สิ้นเสียงเวหาที่เสียงดังขึ้น วาโยก็เปิดเพลงที่เตี้ยมกันไว้ เวหาสร้างลูกไฟเป็นวงวง ผมก็พุ่งทะยานตัวผ่านเปลวเพลิงเหล่านั้นแลนดิ้งบนพื้นตามที่ซ้อมแต่กะจังหวะผิดไปนิดหน้าจุ่มพื้นนิดหน่อย แต่หัวใจนักสู้มันยังไม่ยอมแพ้
เวหาบอกให้ท่องไว้ เงินขวัญถุง เงินขวัญถุง เงยหน้าขึ้นได้ก็ฉีกยิ้มหวาน และเริ่มเต้นส่ายเอวตามที่พี่เวหาสอนบรีพมา ม้วนหน้าม้วนหลังตีรังกาตามจังหวะเพลง กระดิ่งที่ติดพู่ตรงหางก็ดังตามจังหวะที่เคลื่อนไหว
“เอ้า!~ ยาวไปยาวไป~ พริ้วได้อีก”
เวหาส่งเสียงคล้ายร้องเชียร์บิ้วผมประหนึ่งดีเจท่านหนึ่ง
จังหวะเพลงเปลี่ยนจากทำนองเต้นระบำเป็นบีทแดนซ์ผมก็ใช้หางยกตัวหมุนๆ เหมือนท่าเต้นบีบอยนั่นแหละผม กระโดดฮึบเอาหัวปักดินหมุนติ้วๆ ขยิบตาเอนเตอร์เอนตามที่ได้รับบรีฟมา
ปิดท้ายโชว์ด้วยการตีลังกาม้วนหลังลอดเปลวเพลิงที่เวหาเสกขึ้น รอบนี้ลงสวยยิ้มเลยฉีกยิ้มกว้างอย่างดีใจ
เสียงเพลงจบลงรอบด้านดูเงียบผิดปกติ ผมกระพริบตาปริบๆ มองคุณปู่คุณย่าก็เห็นพวกท่านตาโตคล้ายแปลกใจและตกใจกับโชว์ของผมโดยเฉพาะคุณย่านี่ยกมือปิดปากเลย
ใจเริ่มไม่ดีผมจึงหันไปหาคุณแม่นาวีก็เห็นคุณแม่ยกมือขึ้นคลึงขมับตัวเอง
แปะๆ
ทั่วทั้งห้องโถงมีวาโยที่คอยเปิดปิดเพลงเป็นคนปรบมือ ผมเริ่มแปลกใจที่เห็นปฏิกิริยาผู้ชมไม่ได้เป็นตามที่คาดคิดหรืออย่างที่พี่ชายกล่าวบอกไว้เลยหันไปหาพี่ชายคนโตที่อยู่ด้านหลังแล้วก็ต้องชะงักกึกเมื่อเห็นท่าทีของเวหา
พี่มันกำลังเอากำปั้นอุดปากตัวเอง...กลั้นขำ...อย่างเอาเป็นเอาตาย
ผมในตอนนั้นตรัสรู้ได้ทันทีว่า...พี่บ้าสองตัวมันเล่นผมแล้ว...
รูอยู่ไหนครับจะมุด....
พูดคุยกัน: เราคิดตอนนี้ได้จากการไปดูการ์ตูนเรื่อง ซาฮาร่า ที่มีน้องงู เต้นได้ แล้วแบบชอบมาก เอาจริงๆ เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ เพราะ อยากเขียนตอนงูเต้น แต่งู เราจะธรรมดาไม่ได้ก็เลยเขียนแนวหิมพานต์มันซ่ะเลย ให้เป็นน้องนาคน้อยเอวพลิ้วเท่ๆ ...เมากาวจัด-.-
วาริน:...นี่เท่ห์เหรอถามจริง...;-;
ไปหาดูได้ครับการ์ตูนสนุกมาก555 ในแอฟอักษรแดงครับ
วาโย:เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าปล่อยน้องไว้กับพี่
เวหา:โดยเฉพาะพี่ชายคนโต// ขยิบตาส่งวิ้ง
วาริน: ;-;