เกิดใหม่มีพ่อเป็นพญาครุฑ มีแม่ เป็น พญานาค มีพี่ชายเป็นพญาครุฑ 2 ตัวร้อย ขยันสร้างความบันเทิงให้(ประชด) แต่ว่าเเม่ครับพี่มันจะเอาผมไปทำซาชิมิแล้วครับ;-;

บันเทิงชีวิตใหม่ครอบครัวหิมพานต์หรรษา - บทที่ 8 โลกมนุษย์มันเหลี่ยมแต่พี่มันเหลี่ยมกว่า โดย wah_cherly @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ตลก,แฟนตาซี,เกิดใหม่,ครอบครัว,พี่เถื่อน,หิมพานต์,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

บันเทิงชีวิตใหม่ครอบครัวหิมพานต์หรรษา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ตลก,แฟนตาซี,เกิดใหม่,ครอบครัว

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พี่เถื่อน,หิมพานต์

รายละเอียด

บันเทิงชีวิตใหม่ครอบครัวหิมพานต์หรรษา โดย wah_cherly @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เกิดใหม่มีพ่อเป็นพญาครุฑ มีแม่ เป็น พญานาค มีพี่ชายเป็นพญาครุฑ 2 ตัวร้อย ขยันสร้างความบันเทิงให้(ประชด) แต่ว่าเเม่ครับพี่มันจะเอาผมไปทำซาชิมิแล้วครับ;-;

ผู้แต่ง

wah_cherly

เรื่องย่อ

สารบัญ

บันเทิงชีวิตใหม่ครอบครัวหิมพานต์หรรษา-บทนำ ขอไข่ในน้ำ ฉอฉิบ ไปไหน,บันเทิงชีวิตใหม่ครอบครัวหิมพานต์หรรษา-บทที่ 1 ตัวน้อยตัวนิด ๆ ตัวนิดเดียว คำเดียวก็หมดแล้ว,บันเทิงชีวิตใหม่ครอบครัวหิมพานต์หรรษา-บทที่ 2 ซาลาเปาขาวๆ อ้วนๆ หอมๆ อร่อยหรือเปล่าต้องชิม,บันเทิงชีวิตใหม่ครอบครัวหิมพานต์หรรษา-บทที่ 3 ซาชิมิชอบกินปลาส้ม,บันเทิงชีวิตใหม่ครอบครัวหิมพานต์หรรษา-บทที่ 4 โบราณว่าอย่าพูดอะไรบ่อย ๆ เดี๋ยวได้เป็นจริง,บันเทิงชีวิตใหม่ครอบครัวหิมพานต์หรรษา-บทที่ 5 เผลอเอาเข้าปาก ดันอร่อยเฉย!?,บันเทิงชีวิตใหม่ครอบครัวหิมพานต์หรรษา-บทที่ 6 นาคน้อยเด็กเอนสังกัดแม่เล้าเวหา!,บันเทิงชีวิตใหม่ครอบครัวหิมพานต์หรรษา-บทที่ 7 ครอบครัวบันเทิง,บันเทิงชีวิตใหม่ครอบครัวหิมพานต์หรรษา-บทที่ 8 โลกมนุษย์มันเหลี่ยมแต่พี่มันเหลี่ยมกว่า

เนื้อหา

บทที่ 8 โลกมนุษย์มันเหลี่ยมแต่พี่มันเหลี่ยมกว่า

บทที่ 8 

โลกมนุษย์มันเหลี่ยมแต่พี่มันเหลี่ยมกว่า!

สวัสดีผมวารินคนดีคนเดิมเพิ่มเติม เดินได้แล้ว หลังผ่านไปสามเดือนหลังไปเยือนสวรรค์ร่างจำแลงมนุษย์ก็โตประมาณเด็กสามขวบ ส่วนร่างพญานาคก็ตัวโตน้องๆ ไอหลามแล้ว รัดตัวเวหาได้สองรอบแหนะ แม่นาวียังสอนผมใช้มนต์ย่อขยายร่างพญานาคให้ตัวเล็กตัวใหญ่ตามที่ต้องการให้ด้วย เลยยังสามารถหดตัวเป็นงูน้อยไปนอนหลับในไข่น้อยได้

“วาริน”

เสียงเรียกของแม่ทำให้ผมเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์ที่แม่ให้เป็นของขวัญ ผมก็เอาไว้หาข่าวแล้วก็เรียนรู้โลกหิมพานต์

“หนูเตรียมตัวเสร็จหรือยังคะ คนเก่ง”

ตอนนี่เรากำลังไปโลกมนุษย์กันเพราะแม่นาวีมีธุรกิจเปิดอยู่ที่นั่นต้องกลับไปดูแล พ่อธานิลเองก็ต้องกลับไปประสานงานจัดการดูแลความเรียบร้อยเหล่าชาวหิมพานต์ที่ข้ามไปแดนมนุษย์

“รอบนี้ไปอยู่นาน อยากเอาอะไรบ้างก็ขนไปให้หมดนะ”

พ่อธานิลที่เดินตามหลังท่านแม่กล่าวบอกผม

“คับ เตียมคบหมดแย้ว”

ผมกึ่งวิ่งกึงเดินไปกอดเอวแม่นาวีและฉีกยิ้มหวานเพื่อออดอ้อน

“น่ารักใส่อย่างนี้จะเอาอะไรหืม”

“พิโยบอกว่า แม่จะให้ไปโยงเยียน...หนูไม่ไปได้มั้ย”

ผมพยายามส่งสายตาที่คิดว่าแป๋วที่สุดเพื่อหวังให้แม่นาวีใจอ่อน

“ไม่ได้ครับ หนูต้องฝึกเข้าสังคมปะปนกับมนุษย์”

แม่นาวีอมยิ้มถึงจะเป็นเด็กดีแต่ก็คงมีมุมแอบดื้อ ตอนนี้งอแงไม่อยากไปเรียนเสียแล้ว

ผมยู่หน้าเมื่อเผลอนึกถึงอดีตที่เคยโดนเพื่อนร่วมห้องรังแก อดกังวลไม่ได้อยู่ดีแม้จะรู้ดีว่าตัวเองยามนี้แตกต่างจากในอดีตมากก็ตาม

“ว้ายตรงนี้มีเด็กไม่อยากไปโรงเรียน หนึ่งตัวครับ”

ไม่ต้องเดาครับเสียงล้อเลียนผมแบบเล่นใหญ่ใส่เกินเบอร์ก็มีแค่ไอพี่เวหาคนโฉดคนนั้นนั่นแหละครับ ผมแยกเขี้ยวใส่ทันทีเมื่อหันไปเจอ พร้อมพุงตัวกะเอาหัวโหม่งท้องเอาให้จุกเลย!!!

“ลูกรักวีวี่คลั่งแล้ว ฮ่าฮ่า”

แต่ด้วยขนาดตัวที่ต่างกัน ผมที่ตัวเท่าหน้าแข่ง เวหาใช้มือเดียวยันก็ขยับเข้าใกล้เจ้าตัวไม่ได้แล้ว เลยเปลี่ยนร่างกลับเดิมจะเลื้อยไปฉกหน้าพี่มัน แต่ก็โดนรู้ทัน

เวหาจับตัวผมชูขึ้นและสลับมือสาวตัวผมไปมาไม่ให้เลื้อยไปฉกหน้าได้ คล้ายเลื้อยอยู่บนลู่วิ่ง จะไปต่อก็ไปไม่ถึง แถมเจ้าลู่วิ่งยังไม่คิดจะปล่อยด้วย!! จากบทนักล่า (?) กลายเป็นเหยื่อเฉย!

“อย่าแกล้งน้อง ไหว้ละ”

เสียงของแม่นาวีเอ่ยปรามอย่างเหนื่อยอ่อนใจ ใช่แล้วนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เวหาอุกอาจรังแกต่อหน้าต่อตาแม่เช่นนี้

“วีวี่ลำเอียงอีกแหละ ลูกวีวี่มันจะสวบเราก่อนนะ”

“มากับแม่มา วาริน ฟันลูกเฉาะหน้าพี่ลูกไม่เข้าหรอกแม่ว่า”

“วีวี่หลอกด่าเราล่ะ”

ผมเปลี่ยนร่างกลับเป็นเด็กสามขวบห้อยต่องแต่งอยู่ในมือเวหา ที่จับผมชูยกขึ้นประหนึ่งลูกสิงโตในเรื่องไลออนคิงที่ผมดูเมื่อคืน

ผมกระตุกยิ้มมุมปากอาศัยจังหวะที่เวหาหันไปสนใจคุณแม่ ยกขาขึ้นกะเสยเตะคางเวหาสักที โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยเสียด้วย 

วืด

ใช่ครับวืดเพราะขามันสั้นเกินไป...

“หืม?”

เวหาหันมาหาผมคล้ายสงสัยว่าผมทำอะไรลงไป แน่นอนว่าผมไม่มีทางแฉตัวเอง

“จะเตะพี่แต่ขาไม่ถึงน่ะครับ”

แต่มันมีเจ้าคนปากไม่มีหูรูดมองอยู่นี่แหละ!!!! วาโยที่เข้ามาทันเห็นฉากผมเตะวืดกล่าวบอกพี่ชายคนโตที่กำลังทำหน้างงกับลมที่ผ่านหูไปก่อนหน้า

“ฮาฮาฮา เจ้าจิ๋วของพี่จะเตะพี่เหรอ กำแหงใหญ่แล้วนะเราอะ”

พี่เวหาหัวเราะร่วน ผมได้แต่ต้องกำกลืนความอับอาย ปล่อยให้พี่มันดึงตัวเข้าไปกอดรัด ชูผมที่หน้าแดงก่ำหมุนเหวี่ยงไปมา

“เวหาบอกว่าอย่าแกล้งน้อง! พี่ธานิลห้ามลูกพี่ดิ รุมแกล้งน้องกันอีกแล้ว ผมยังเก็บของไม่เสร็จ”

แม่นาวีที่เห็นผมไม่เดินเข้าไปหาเขาสักทีเลยเงยหน้าขึ้นจากของที่กำลังตรวจเช็ค เห็นเวหากำลังเหวี่ยงผมหมุนติ้ว ๆ ก็เอ็ดเสียงแข็งอีกครั้ง แต่ก็นั่นแหละเจ้าพวกนี้มันฟังแม่นาวีที่ไหน สุดท้ายก็ต้องเรียกหาตัวช่วยอย่างคุณพ่อ

“เฮ้อ เตรียมของครบกันแล้วใช่ไหม พวกลูกต้องจ่ายค่าปรับกันก่อนแล้วเขียนใบชี้แจงเสร็จหมดหรือยัง”

พ่อโผล่มาหยุดยืนตรงหน้าเวหาและดึงผมออกจากมือพี่ชาย มาอุ้มประคองไว้ มุมสายตาผมเลยสูงขึ้นมองต่ำลงไปหาพี่มันอย่างท้าทาย พร้อมกับแลบลิ้นส่งท้าย สมน้ำหน้าโดนพ่อดุ

พวกเราเดินทางผ่านช่องทางปกติกัน หรือที่เรียกว่า ตม. หิมพานต์ ผมคุณแม่แล้วก็พ่อไม่มีปัญหาแต่ เวหากับวาโยที่มีคดีแดงติดตัวจากการเดินทางผ่านไปโลกมนุษย์ด้วยช่องทางธรรมชาติต้องเขียนชี้แจงเหตุผล และจ่ายค่าปรับกันก่อนถึงจะได้รับอนุญาตให้ผ่านไปโลกมนุษย์ได้

“ผมจ้างวาโยเขียนเรียบร้อย เชิญตรวจสอบครับคุณพ่อที่เคารพ”

วาโยวางกระดาษรายงานปึกหนึ่งลงบนฝ่ามือที่หงายขึ้นรอของเวหา แทนที่ปึกเงินของเวหาที่วางรอไว้ก่อนหน้า

“....”

สองพี่น้องนี่มันความสัมผัสแบบธุรกิจสุด ๆ ส่วนวาโยค่าผ้ามันแพงสินะถึงได้รับเหมามันทุกงานที่เวหาโยนให้ทำ

“รบกวนฝากพ่อที่เคารพรักยื่นให้ด้วยนะครับ”

เวหายัดรายงานชี้แจงกับเช็คเงินค่าปรับของเขาให้คุณพ่อจัดการต่อ วาโยที่เห็นพี่ทำก็ทำตาม ดูทรงแล้วคงไม่อยากไปต่อแถวยื่นเอกสารและฟังคำบ่นของพี่เจ้าหน้าที่กันสินะ

“ฝากด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับคุณพ่อ”

แต่ยังดีที่พี่วาโยมันยังเอ่ยขอบคุณพ่อธานิล ส่วนเวหาปล่อยมันไปครับ รายนั้นเกินเยียวยา!!!

ผมที่ถูกพ่ออุ้มด้วยแขนข้างเดียว วาดแขนเล็กๆ โอบกอดรอบคอพ่อและ หันไปซุกกอดปลอบใจพ่อที่ถูกเจ้าพวกนั้นโยนเรื่องมาให้จัดการแบบหน้าด้าน ๆ แน่นอนว่าในฐานะผู้ปกครองของลูก ๆ ก็ทำได้แค่ทำใจ...

“เจริญมากลูกกู เฮ้อ มาพี่เอามาเดี๋ยวผมจัดการเอกสารพวกนี้เองครับ วาโยเวหา! มานี้เลยไอตัวดีจะหนีไปไหน ไปใช้พ่อแบบนั้นได้ไง นี่มันความผิดลูกเว้ยย อย่ามาสร้างความลำบากให้คนอื่นไอสองตัวร้อยเวรนี่!”

แม่นาวีสมเป็นคุณแม่ รับเอกสารจากพ่อไปม้วนเป็นกระบอง (?) แล้วก็ไปวิ่งไล่ตีหัวเวหากับวาโย ที่เหมือนจะรู้ตัวว่าจะโดนพากันออกวิ่งบินหนีไปอย่างรวดเร็ว

“ชิบแล้วโย ไปไป! วีวี่ควันออกหูแล้ว”

“ไอครุฑเวรพวกนี้นิ คิดว่ามีปีกแล้วจะหนีพ้นเหรอฮะ!”

แม่นาวีถอดรองเท้าคู่โปรดของตัวเอง ก่อนจะจับเหวี่ยงปาใส่ไอพี่สองตัวที่บินอยู่บนฟ้า

ผมกับพ่อ มองความวุ่นวายที่บังเกิดด้วยสายตาว่างเปล่า

“หึ”

พ่อธานิลยกยิ้มมุมปาก ก้าวเดินช้า ๆ ตามหลังแม่นาวีที่วิ่งไล่กวาด สองพี่น้อง ด้วยเท้าเปล่า ก่อนที่แม่จะเปลี่ยนร่างเป็นพญานาคเลื้อยไล่กวาดพวกพี่มัน ที่อยู่ ๆ ก็ร่วงจากฟ้าตกพื้นดังตุบ เมื่อพ่อยกมือร่ายมนต์บางอย่าง

“กรี้ดดด วีวี่ ผิดไปแล้วจ้า แอ็กแม่ใจเย็น!!!”

แว่วได้ยินเสียงเวหากรีดร้องอย่างโหยหวน เมื่อแม่นาวีตวัดหางเวี่ยงใส่พี่มันจนหน้าทิ่มพื้น แม่นาวีที่ได้ตัวพี่เวหาเปลี่ยนร่างกลับเป็นมนุษย์ใช้ม้วนกระดาษทุบพี่มันพลางเทศนาบ่นด่าพี่มันไปด้วย

“วาโย! ถ้าไม่อยากโดนแบบพี่ลูก มาช่วยแม่จับพี่มันไว้”

วาโยรีบตรงดิ่งไปช่วยจับตึงขอมือของพี่ชายไว้โดยไว ไม่ให้พี่ชายขัดขืนแม่นาวีที่รัวม้วนกระดาษตีพี่เวหา เปลี่ยนฝั่งไวมากพี่ชายคนนี้

พ่อธานิลยกมือขึ้นลูบหัวผมทำให้ผมล่ะสายตาจากฉากตรงหน้าเงยหน้ามองเขาตาแป๋ว จากสายตาพ่อธานิลเองก็มองแม่นาวีที่กำลังทุบพี่เวหาอยู่เช่นกัน ก่อนจะก้มลงมาหาผมเมื่อรับรู้ถึงสายตาของผม

“สงบสุขดีเนอะ”

สงบสุขตรงไหนก่อนพ่อ!!!!! ผมตาโตทันทีเมื่อได้ยินคำที่พ่อกล่าว พี่เวหามันจะตายคามือแม่แล้ว!!! แต่คิดอีกที ตรงผมกับพ่อก็สงบสุขจริง...

ลมเย็นพัดผ่านผมกับพ่อที่เฝ้ามองกรรมในรูปของแม่ที่ตามสนองเวหาลูกเวร..พี่มันสมควรโดนแล้วจริงๆ คิดได้ถึงตรงนี้ก็รู้สึกว่า ภาพตรงหน้า ช่างสงบสุขจริงๆ ....

“กรี้ดดดดดดด ซาชิมิช่วยพี่ด้วย”

ตุบๆ

เสียงลมเพราะจังเลย...

---------

 

ตอนนี้เรากำลังอยู่บนเครื่องบินครับ ฟังไม่ผิดเราต้องข้ามผ่านโลกผ่านทางเครื่องบิน เพราะตัวตนพ่อกับแม่ในโลกมนุษย์คือนักธุรกิจที่บินไปมาระหว่างประเทศ ตบตาเป็นข้ออ้างเวลาที่พวกเขากลับหิมพานต์ก็สามารถอ้างได้ว่าไปดูงานที่ต่างประเทศ ถ้าโดนเช็คประวัติก็จะได้รู้ว่าบินไปมาจริง เครื่องบินเราบินลงที่สนามบินของมนุษย์จริงแต่จะมีช่องทางพิเศษที่รู้กัน ที่ถูกร่ายมนตร์พรางตาไว้แล้ว

พนักงานในส่วนนี้ก็จะเป็นคนของหิมพานต์ที่ช่วยเช็คและสร้างประวัติตัวตนปลอมให้เรา ว่าบินมาจาก อเมริกาหรือที่ใดใดในโลก จากนั้นก็จะถูกร่ายเวทปลอมแปลงเปลี่ยนสีผมสีตาให้เหมือนประวัติที่ถูกแต่งขึ้น แต่ผมเด็กเกินกว่าที่จะควบคุมคาถาเปลี่ยนสีผมสีตา ทำให้อาจโป๊ะได้ทางเจ้าหน้าที่จึงสร้างประวัติให้ว่า ผมเป็น ลูกบุตรธรรมของแม่กับพ่อที่ไปรับเลี้ยงมาจาก ต่างประเทศแถบประเทศที่มีผมและดวงตาสีอ่อน ยังลงประวัติไว้ด้วยว่าเป็นโรคผิดปกติทางเม็ดสีในร่างกายทำให้เนียนเข้าไปอีก แล้วเราก็จะผ่านประตูมนตราปะปนไปกับมนุษย์ปกติได้อย่างเนียนๆ

ทางเวหากับวาโยมีประวัติอยู่ก่อนแล้ว พอผ่านประตูมนตราแปลงกายคาถาก็ทำงาน เวหากลายเป็นมนุษย์เด็กเกรียน ตาดำ ผมดำ ยิ่งทำให้พี่มันดูหล่อแบดขึ้นไปอีก! ส่วนวาโยเลือกสีตาเป็นสีน้ำตาลอ่อนเหมือนแม่นาวีแต่ความหล่อไม่ได้ลดน้อยลงจากตอนที่ตาสีทองเลย เป้าหน้าพ่อธานิลการันตีโตไปพี่มันก็หล่อไม่แพ้ใคร ส่วนคุณพ่อที่เปลี่ยนมาใส่แว่นบอกเลยว่า ผมนี่ถึงกับยกมือทาบอกทุกคนต้องอิจฉาแม่นาวี พ่อผมหล่อมากครับ!! ส่วนแม่นาวีคือที่สุดของความหล่อเท่ห์ครับด้วยความเป็นเจ้าพ่อแฟชั่นอยู่แล้วด้วยแม่ไม่ได้เปลี่ยนจากร่างแปลงมนุษย์ในหิมพานต์เลย นอกตาสีตา

“ร้อนไหม”

ผมพยักหน้ารับคำแม่นาวีที่อุ้มผมอยู่ รอพ่อกับพี่ไปเอากระเป๋า

“ทนหน่อยนะคนดี เดี๋ยวแม่เอาน้ำให้ดื่ม”

นาวีเปิดกระเป๋าที่ภายในบรรจุของใช้จำเป็นของผมอย่างขวดนมและขวดน้ำ ของใช้ที่จำเป็นสำหรับเลี้ยงเด็ก ทั้งใช้กับผมและตบตาเหล่ามนุษย์ แม่หยิบขวดน้ำที่บรรจุน้ำทิพย์มายื่นให้ผมดูด แก้คลายร้อน

“มามัดผมให้ เอาไหม”

ผมพยักหน้ารับ เส้นผมผมค่อนข้างยาวแล้ว แม่นาวีที่เห็นผมร้อนจึงกะจะมัดผมที่สยายบังคอออกให้ เลยพาผมไปนั่งที่ม้านั่งและค้นหาหนังยางในกระเป๋าโดเรม่อน (?) ของตัวเองคุ้นๆ ว่า เป็นแบรนด์เมนที่ราคาขั้นต่ำแต่ล่ะใบไม่น้อยเลย แต่แม่นาวีรวยมากผมไม่แปลกใจถ้าเขาจะใช้ของแพง ผมสงสัยมากกว่าว่า เขายัดอะไรลงไปบ้าง เพราะถึงกับคว้านหายางรัดผมไม่เจอจนต้องเอามานั่งงมหาอย่างยากลำบาก

ผมนั่งดูดน้ำรอแม่อยู่ข้างๆ พลางมองไปรอบๆ อย่างสนใจ นี่คือโลกทางฝั่งมนุษย์ ก่อนข้ามมาก็ตื่นเต้นอยู่หรอกแต่พอข้ามมาแล้วกลับรู้สึกงั้น ๆ เสียมากกว่า โลกฝั่งหิมพานต์ยังสร้างความตื่นตาตื่นใจได้มากกว่า อาจเพราะผมเคยเป็นมนุษย์มาก่อนล่ะมั้ง

“ว้ายตรงนี้มีเด็กติดขวดนมด้วย”

เวหาที่โผล่หัวมาถึงก็ตรงดิ่งเข้ามาจิ้มแก้มที่กำลังดูดขวดน้ำของผมเล่น

เพี้ย!

ผมล่ะมือข้างหนึ่งจากขวดน้ำ ตีเพี้ยที่มือพี่มันให้หยุดแกล้ง มองค้อนตาเขียวใส่ ยิ่งร้อน ๆ อยู่ไอพี่บ้าเดี๋ยวก็ฝังเขี้ยวใส่เลย

“อย่ากวนน้อง แม่ขอล่ะ อากาศมันร้อนคนก็เยอะ น้องไม่ชินเหมือนเราที่เคยมากัน แล้วพ่อเราอะ”

นาวีว่าพลางรวบผมหน้าม้าผมมัดเป็นจุกให้หนึ่งจุก แล้วก็ไปมัดแกะเพิ่มให้อีกสองข้าง บนหัวผมเลยประดับด้วยจุกสามจุก...แม่ไม่ถามเลยว่าอยากได้ทรงอะไรอะ ;-;

“กระเป๋าหายไปใบหนึ่งพ่อไปตามเรื่องอยู่ ให้ผมกับวาโยมาบอกแม่ก่อน อาจล่าช้าไปชั่วโมงกว่าเลย”

“สงสัยเป็นใบนั้นแน่เลย”

ใบนั้นที่แม่นาวีว่าคือใบที่แม่หิ้วน้ำทิพย์ใส่มาด้วย...เอาไว้ให้ผมชงนมดื่มนั่นแหละครับ...เนื่องจากมันเป็นของที่วิเศษมากๆ ทั้งตัวคุณสมบัติแสนวิเศษและวิธีการได้มาในครอบครอง เจ้าหน้าที่ตรวจกระเป๋าหิมพานต์คงขอตรวจสอบที่มาก่อนว่าใครเป็นเจ้าของ ได้มาอย่างไร ถูกต้องตามกฎหมายไหม ก็เข้าใจพวกเขาได้

“แม่ติดอันนี้ด้วย”

วาโยที่เห็นแม่มัดผมให้ผมด้วยหนังยางเสร็จ คล้ายว่าพี่มันรู้สึกว่าหัวผมมันยังโล่งเกินไปเลยยื่นกิ๊บดอกทานตะวันที่เป็นต้นทานตะวันดึ๋งดึ๋งแกว่งไปมาได้ให้แม่...ผมสงสัยมากว่าพี่มันพกของพวกนี้ติดตัวด้วยเหรอ เจตนาชัดเจนมากว่าพกมาแกล้งผมเพราะผมไม่เคยเห็นวาโยใช้ของพวกนี้เลย

“อันนี้น่ารัก”

แม่นาวีรับมาติดเหน๊บไอผมน้ำพุจุกแรก อย่างรวดเร็ว

“ฮาฮา เรียกซาชิมิไม่ได้แล้วสิต้องเรียกว่าหนูน้อยทานตะวันแล้วปะ”

แชะ

พี่เวหามันไม่ว่าเปล่า ถ่ายรูปผมในสารรูปหนูน้อยทานตะวันส่งเข้ากรุ๊ปครอบครัวที่มีคุณปู่คุณย่าคุณทวดคุณเทียดอย่างรวดเร็ว เรื่องประจานผมไว้ใจพี่มันได้เลย เร็วมาก ทั้งเวหาวาโย ทำอะไรพี่มันคืนไม่ได้ จะเอาออกก็กลัวแม่เสียใจ เลยได้แต่ยกน้ำขึ้นดูดอย่างไม่สบอารมณ์

“ฮาฮา ไม่ล้อล่ะ โอ๋โอ๋ วีวี่ผมพาน้องไปเดินเล่นได้ไหม”

เวหาว่าขึ้นพลางอุ้มผมขึ้นไม่ถามสักคำว่าผมอยากไปกลับเขาหรือเปล่า ไอพี่บ้ามันมัดมือชกอีกล่ะ ผมเอามือยันหน้าพี่มันที่จะเข้ามาหอมแก้มที่ป่องเพราะดูดน้ำอยู่ไว้ ไม่ให้เข้ามาฟัดแก้มผมได้

“เฮ้อ ไปเถอะ เดี๋ยวแม่ไปช่วยพ่อเราก่อน ห้ามแกล้งน้อง วารินถ้าพี่มันแกล้งหนู หนูฟ้องได้เลยไม่ต้องกลัว แม่จะตีพี่มันให้”

ผมพยักหน้ารับคำแม่ ที่ดูเหมือนจะมีเรื่องต้องไปจัดการ ผมเลยไม่ขอไปด้วย โลกมนุษย์พี่มันใช้มนต์รังแกผมไม่ได้ คงรับมือได้ไม่ยาก

“เก่งมาก เดี๋ยวแม่มาแปบเดียว ให้ตายสิ บอกให้เอาเงินยัดก็จบแล้วพี่ธานิลนี่ให้ตายสิ”

“....”

แม่นาวีเดินมาลูบหัวผมก่อนเดินออกไปคำบ่นด้านหลังของแม่นาวีขอให้ทุกคนลืมๆ มันไปนะครับเพราะมันเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีสุดๆ ว่าแล้วแม่ก็เดินจ้ำอ่าวออกไป ทิ้งผมไว้กับพี่ชายที่แสนดี ดีแตกน่านะ!!!

“หึหึหึ แม่ไม่อยู่แล้วนะวารินนน”

ผมกลืนน้ำลายเหนียวลงคอเมื่อพี่มันกระซิบเสียงเย็น หันไปมองหน้าพี่มันช้าๆ แม่ยังไปไม่พ้นสายตาพี่มันก็กะเล่นผมเลยเหรอวะครับ!!

“ฮาฮา ดูทำหน้าเข้า พี่ไม่ใช่ยักษ์ใช่มารเสียหน่อย ทำหน้าดีดี สัญญาว่าจะไม่แกล้ง จนกว่าแม่จะมา”

“คนโกหกต้องจืนเข้มพันเย่มนะ” 

ผมว่าขู่พี่เวหาที่เอ่ยยกสัญญาขึ้นมาให้ผมลดการ์ดกับพี่มันลง ปรายตามองพี่มันอย่างไม่เชื่อใจสุด ๆ ขึ้นชื่อว่าเวหาด้วยแล้ว วาโยยังว่าไปอย่าง

“อืมสัญญา พี่เป็นพี่ชายวารินเลยนะเชื่อได้อยู่แล้ว”

“ถ้าเอานิ้วชี้ไคว้กับนิ้วกลาง ขณะทำสัญญา สัญญาจะถือเป็นโมฆะนะครับ”

วาโยปรายตาลงมองนิ้วที่ไคว้กันอยู่ของเวหาให้ผมมองตาม ผมกลับหันกลับมามองเวหาด้วยสายตานิ่ง ๆ ใช้สายตาสื่อความนัย

“เหลี่ยมทุกดอก บอกพี่ชาย”

ดูเหมือนวาโยจะแปลความสายตาผมที่มองพี่เวหาออก

ใช่แล้ว ไอพี่บ้านี่มันเชื่อใจไม่ได้!!!!

“ฮาฮาฮา ครั้งนี้ไม่แกล้งจริง ๆ จะพาไปซื้อของเล่น ไปไหม ปู่ให้เงินมาตอนส่งรูปหนูน้อยทานตะวันไปให้ท่านดู พี่เลยเอามาซื้อของให้เรานี่ไง”

คุณปู่ก็โอนไวมาก

“คุณทวดกับคุณเทียดก็โอนมานิครับ”

วาโยกล่าวเสริมประโยคพี่ชาย พลางเลื่อนอ่านแชทในโทรศัพท์หันมาให้ผมดู

ทุกคนโอนไวมากแต่ไม่เข้ากระเป๋าผมสักคน ทำไมต้องโอนเข้ากระเป๋าตังไอพี่เวหาด้วยครับ ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน นั่นรูปผมน่ะ อาจเพราะผมยังไม่มีบัญชีธนาคารสินะ แม่เปิดบัญชีให้ผมด่วน!!!

“ผมว่าเราทำโฟโต้บุควารินขายกันดีไหมครับ”

“ความคิดดีวาโย”

“...”

ดีกับพี่มันสิ!!! แม่อยู่ไหนครับพวกนี้มันกำลังวางแผนสร้างความอับอายให้ผมอีกแล้วครับ

ผมหน้าบึ้งมองพี่มันสองตัวที่ไอเดียบรรเจิดสรรหาความบันเทิงให้ผมกันอีกแล้ว

“ไม่อ้าว ไม่ท่าม จะฟ้องแม่”

ผมสะบัดหน้าใส่ไอพวกพี่บ้าที่อยู่ๆ ก็ได้ไอเดียบรรเจิดในการหลอกตบทรัพย์เหล่าคุณปู่ เรื่องอะไรผมจะยอมละทิ้งศักดิ์ศรีตัวเองอีกครั้งกัน

ครั้งที่แล้วผมโดนพวกพี่มันหลอกลวงครั้งนี้ผมจะไม่พลาดอีกแล้ว!!

“นายแบบน้อย คิดดี ๆ สนใจหาค่าของเล่นไหมจ๊ะ”

ผมพยักหน้าขึ้นลงประหนึ่งต้องมนต์เมื่อเวหาหันโทรศัพท์ที่โชว์จำนวนเงินค่าตัวมาให้ ศักดิ์ศรีผมมันราคามากกว่า 5 หลักเลยนะ นาทีนี้ ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้!!!

“พิต้องจ่ายมัดจำมาก่องนะ”

เพราะผมยังไม่มีบัญชีทำให้ ไอยี่สิบเปอร์เซนจากคลิปเต้นอันน่าอับอายนั่นก็ยังไม่ได้รับ เวหาบอกรอโอนตอนมีบัญชีแต่ผมว่าคนชั่วอย่างเวหากะบิดผมแน่ ๆ รอบนี้เลยว่าจะให้ซื้อของที่มีมูลค่ามาค้ำประกันไว้ก่อน จะได้ไม่อับอายฟรีเหมือนรอบนั้น

“รอบนี้ซาชิมิมันฉลาดขึ้นว่ะโยเอาไงดี”

เวหาเอียงตัวไปกระซิบวาโยคล้ายปรึกษากันผสมนินทาผมไปด้วย

แต่ขอร้อง!!! พี่มันอุ้มผมอยู่ไง ได้ยินชัดทุกคำ!

“เดี๋ยวเราอัพราคาของเพิ่มเอาได้ พี่ หก ผม สี่ เหมือนเดิมนะ”

“โอเคดิล”

ว่าจบพี่มันก็จับมือกัน ประหนึ่งนักธุรกิจที่เจรจากันเสร็จสิ้น...จากรูปประโยคของพี่มันผมแน่ใจล่ะว่าพี่มันกะบิดผมเต็มที่ชัด ๆ ไม่มีความเกรงกลัวหรือเกรงใจเลยสักนิด!!!!

“ว่าแต่นายแบบอยากได้อะไรเป็นของจ่ายมัดจำจ้ะ จิ๋วพี่”

ไอพี่เวหากลับมาคุยกับผม ด้วยน้ำเสียงยียวนประหนึ่งจิกโก๋หน้าปากซอยทักสาวสวย

ผมชี้ไปที่ร้านตุ๊กตาก่อนเป็นอันดับแรก

“เงินค่าหนมปู่ชื้อ ตุกตา เงินพิชื้อ อันนั้น”

บอกเลยว่าผมยังไม่ลืมว่าเวหาจะซื้อของขวัญให้ก่อนซึ่งเป็นเงินของปู้ เงินค่าตัวผมต้องควักมาจากกระเป๋าเวหาเท่านั้น!!! ไม่ต้องมาเนียน ผมรู้ว่าพี่มันกะซื้อของให้ชิ้นเดียวแล้วโมเมว่าเป็นค่าจ้างไปในตัวเลย พี่เวมันเหลี่ยมจัดจะตาย ไม่ได้ไม่ได้ ครั้งนี้ผมต้องได้อะไรติดมือกลับไปบ้าง

“หึ รู้ดีจริงไอจิ๋วนี่ ไปไป เอาเงินปู่ซื้อตุ๊กตา เงินพี่ซื้อทองใช่ไหม”

ผมพยักหน้าหงึก ๆ เมื่อเวหาทวนความต้องการผม

“แต่เงินปู่มันรวมอยู่กับเงินพี่เวหาแล้วนะวาริน”

“...”

วาโยหยุดจี้ดิ ใช่สุดท้ายแล้วเวหาก็กำไรอยู่ดีครับเพราะเงินที่ปู่โอนให้ซื้อของ สามารถซื้อได้ทั้งทองคำทั้งตุ๊กตาได้แบบเหลือเงินทอนด้วยซ้ำ และเงินทั้งหมดอยู่ในกระเป๋าไอพี่เวมันครับ ;-;

....

“ตุ๊กตาเชี่ยไรว่ะโคตรแพง”

ผมยิ้มหน้าบานออกมาในมือก็หิ้วตุ๊กตาที่พี่เวหากำลังบ่นถึงราคานั่นแหละครับ เนื่องจากร้านค้าในสนามบินเป็นร้านแบรนด์เนมและถูกอัพราคาขึ้นให้แพงกว่าท้องตลอด เวหาน่าจะไม่เคยซื้อของในนี้มั้งเลยไม่ทราบข้อนี้ ตุ๊กตาที่ผมอยากได้มีราคาถึง 5 หมื่น ตอนรู้ราคาก็แอบอึ้งเหมือนกันแต่ผมไม่ได้จ่ายเลยไม่ได้คิดอะไรมากแถมน้องหมียังมีฟังก์ชันพิเศษที่ผมต้องการพอดีด้วย เลยยื่นคำขาดให้เวหาว่าต้องเป็นตัวนี้เท่านั้นถ้าไม่ซื้อให้จะไม่เป็นนายแบบให้ด้วย สุดท้ายเวหาเลยต้องยอม

มาต่อกันที่ร้านทอง ผมก็ให้เวหาซื้อทองคำแท่งให้ 2 บาท แล้วก็เอามาเก็บยัดไว้ในตุ๊กตาหมี ใช่แล้วน้องหมีของผมมีช่องเก็บของถ้าลูดซิบตรงคอน้องจะสามารถถอดหัวน้องหมีได้ ตรงกลางลำตัวน้องจะมีช่องว่างให้สามารถใส่ของได้ น้องคือตู้เก็บสมบัติเคลื่อนที่ของผม 

“เข้าตัวเฉย ไอซาชิมินี่มันร้ายจริงๆ ”

เวหาเอ่ยบ่นผมพร้อมรอยยิ้ม พลางยีหัวผมที่กำลังกอดน้องหมีเล่น เชื่อเถอะอย่างไงเวหาก็กำไร พี่มันบ่นไปงั้น ตามสไตล์เวหา โอเวอร์เล่นใหญ่ไว้ก่อน

“ได้เวลาทำงานแล้วนายแบบ”

เวหาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเข้าโหมดกล้องพร้อมกดชัตเตอร์ วาโยตรงเข้ามาดูกิ๊บดอกทานตะวันให้เข้าที่และช่วยอุ้มผมไปอยู่หน้าซุ้มที่เขาทำไว้ให้ถ่ายรูป

“อ้าวยิ้ม~”

ผมยิ้มกว้างพลางชูตุ๊กตาเล่น เปลี่ยนท่าไปเรื่อยให้พี่มันถ่ายได้หลายๆ มุม ได้รับค่าจ้างมาแล้ว มีกำลังใจทำงานขึ้นเยอะครับ

“โปรมากน้องกู หึหึ บอกว่าถูกบังคับมาไม่มีใครเชื่อแล้วนะ”

เวหายกยิ้มขำ ก็นะ เงินมาอะไรก็ง่ายเหมือนพี่นั่นแหละ ดูเหมือนผมจะติดนิสัยเสียมาจากไอพี่สองตัวแล้วสินะ!!!

เอาเถอะครับ เพื่อตังซื้อขนมท่องไว้ ถ้าเก็บได้เยอะเพื่อไว้ซื้อพี่มันในอนาคตได้ด้วย พวกพี่มันหน้าเงินกันพอตัว แต่ทำไปทำมาก็แอบสนุกอยู่เหมือนกัน

 

นาวีเดินกลับมาเห็นลูกชายคนเล็กกับลูกชายคนโตที่มักไม่ถูกกัน ตอนนี้เข้าขากันได้ดีก็หยุดยืนดูนิ่ง ๆ อย่างไม่เชื่อสายตา วารินที่เขม่นคนพี่เสมอ พี่เผลอเป็นจะกระโดดฉกพี่ เจ้าตัวเล็กกำลังยิ้มให้กล้องโทรศัพท์ของเวหาที่กำลังยกถ่ายเจ้าตัว พี่ชายบอกให้ทำท่าอะไรก็ทำตามไม่มีบ่น มีวิ่งไปกอดคอพี่ชายดูรูปที่พี่ถ่ายด้วยว่าโอเครไหม จะมองว่าน่ารักก็น่ารักอยู่หรอก แต่ไม่ชินตาเลยสักนิดที่ลูกๆ ญาติดีกันโดยที่ไม่มีตนกำกับ

“ความสัมพันธ์แบบธุรกิจน่ะครับ”

วาโยที่เห็นพ่อกับแม่เดินมามองสองพี่น้องคู่กัดที่อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขได้ด้วยใบหน้าแปลกใจก็ช่วยไขความกระจ่างให้

“พี่เวจ้างด้วยทอง 2 บาทครับ”

“...”

ทั้งนาวีและธานิลได้แต่นิ่งเงียบ...กับข้อเท็จจริงที่ได้รู้ว่าทำไมลูกชายคนเล็กถึงยอมเล่นไปตามพี่ชายคนโต

“เพราะไอพี่ชายสองตัวมันชอบไถเงินให้น้องเห็นบ่อย ๆ สินะ วารินเลยหน้ามืดไปกับเงินตรา...”

นาวียกมือขึ้นกุมขมับที่ลูกคนเล็กติดเชื้อเหล่าพี่ชาย ยอมถูกอำนาจเงินตราควบคุมได้

“...”

ธานิลปรายตามองคนรักข้างกาย ผู้เป็นหนึ่งในบุคคลที่ชอบใช้เงินแก้ปัญหาและมีความเชื่อที่ว่า เงินเท่านั้นที่น็อคเอวี้ติง...เอาเป็นว่าเขาจะไม่พูดว่าต้นต่อของนิสัยเสียของลูก ๆ มาจากใคร

 


เฮฮาหลังม่าน

ว่าด้วยเรื่อง ทาสเงินตรา

วาริน:รักพี่เวหาที่สุดในโลกเลย! //หยิบสร้อยทองคล้องคอ

วาโย:รายงานที่สั่งเสร็จแล้วครับ //หยิบปึกเงินเข้ากระเป๋า

นาวี:เลิกเเกล้งน้องเอากี่บาทว่ามา// พร้อมโอน

เวหา:ราคาคนกันเองครับ// แสยะยิ้ม ลูบมือ

ธานิล:เฮ้อ....//กุมขมับ