เวรกรรม !! "แฟนเก่า" ในคราบ "เพื่อนร่วมงาน" มันคงไม่วุ่นวายขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา พยายามจะกินฉันให้ได้น่ะสิ !!! ชเวฮัลวอล : เธอเสร็จฉันแน่ ยัยหมอแสบ
รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,เกาหลี,ยุคปัจจุบัน,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,รัก,รักดราม่า,รักดุเดือด,รักโรแมนซ์,คุณหมอ,ความรัก,อีโรติก,NC,มหาลัย,วัยทำงาน,คลั่งรัก,โบ้,ฟินแซบ,ผู้ใหญ่,โรมานซ์,ง้อแฟนเก่า,ครอบครัว,ท้อง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
คุณหมอครับ ช่วยรักษาหัวใจผมทีเวรกรรม !! "แฟนเก่า" ในคราบ "เพื่อนร่วมงาน" มันคงไม่วุ่นวายขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา พยายามจะกินฉันให้ได้น่ะสิ !!! ชเวฮัลวอล : เธอเสร็จฉันแน่ ยัยหมอแสบ
ชเวฮัลวอล x คิมดายอน
“ ช่วงนี้คนไข้งดเหล้าด้วยนะคะ ”
“ งดไม่ได้ครับ ผมมีเรื่องเครียด…”
“ ตรวจเจอเอดส์หรอคะ ”
“ ปากแบบนี้ระวังโดนตบ ด้วยลิ้น นะครับหมอ ”
จากใจนักเขียน
นิยายเรื่องนี้ เป็นผลงานเขียนเรื่องแรกในชีวิตของไรท์ ซึ่งยังอยู่ในช่วงที่เรียกว่า “ มือใหม่ ” ลองผิด ลองถูก เรียนรู้สิ่งต่างๆในวงการนี้ ดังนั้น หากมีข้อผิดพลาด คำติ คำชม คำแนะนำใดๆ ไรท์ยินดีรับฟังเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไข พัฒนาตัวเองต่อไป
ทั้งนี้ ขอให้คุณผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน ช่วยส่งเสริมและเป็นกำลังให้ไรท์ตัวน้อยๆ คนนี้ด้วยนะคะ
คำเตือน !
นิยายเรื่องนี้ ถูกสร้างขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งหมด ทั้งตัวละคร พฤติกรรม เหตุการณ์และสถานที่ เป็นเรื่องสมมุติ มิได้มีเจตนาส่งเสริมการกระทำใดๆ ทั้งในเรื่องเพศ การใช้ความรุนแรง รวมถึงคำที่ไม่เหมาะสม นิยายเรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้อ่านที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป
ผู้เขียน : LNari
ภาพปก : LNari
นักวาดตัวละคร : Minnaree Panyapong
พิสูจน์อักษร : LNari
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามผู้ใดทำการคัดลอก เลียนแบบ หรือดัดแปลงเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของงานเขียนนี้ รวมทั้งการจัดเก็บ ถ่ายทอด สแกน บันทึก ถ่ายภาพ ไม่ว่าในรูปแบบหรือวิธีการใดๆ ในกระบวนการอิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เท่านั้น หากพบการฝ่าฝืนดังกล่าว จะดำเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุด
ฝากติดตาม Tik Tok และ Blusky ด้วยนะค้าาาา
“อื้อออ...”
ฉันบิดขี้เกียจ หยีตามองเพดาน แสงสีขาว ภาพไม่คุ้นทำให้สะดุ้งจนแทบจะตกจากเตียง เพราะฉันลืมตัวว่าเข้าเวรกะดึกอยู่นะสิ แถมนอนจนฟ้าสว่างอีกด้วย
“เวรละ กี่โมงแล้วเนี้ย” ฉันเดินโซเซไปคว้าโทรศัพท์บนโต๊ะ
7.14 น.
อ่า โล่งใจไป ยังไม่ถึงเวลาทำงานของพนักงานคนอื่น ไม่งั้นฉันคงโดนฟ้องว่าแอบนอนในเวลางานแน่ ...ว่าแต่ ไอ้คนดื้อ ไปไหนแล้วนะฉันกดโทรศัพท์โทรหาตามชื่อ ‘เจ้ากรรมนายเวร’ ของฉันทันที
< ...ครับๆๆ ตื่นมาก็คิดถึงเลยหรอครับ >
“คิดถึงบ้านนายสิ แค่จะถามว่ากลับรึยัง”
< กลับแล้ว พึ่งถึงคอนโด >
“อืม แค่นั้นแหละ”
< เป็นห่วงหรอ >
“ไม่อ่ะ ไม่เลยสักนิด”
< เธอพูดแบบนี้ฉันก็เสียใจอยู่น้าาา >
“เรื่องของนาย แค่นี่”
ตู้ด
ฉันกดตัดสายทันที เพราะใจเต้นแรงกับน้ำเสียงหวานปนอ้อนของเขา ไม่นานก็มีข้อความตามมา
1 ข้อความ จาก เจ้ากรรมนายเวร
< เที่ยงจะไปรับ อยู่รอด้วย ไม่งั้นฉันให้ประชาสัมพันธ์ประกาศหาเธอแน่>
สติค่ะ ดายอนสติ อย่าหลวมตัวไปกับความรู้สึกบ้าๆ นั่นอีกนะ เธอลืมสิ่งที่ไอ้ชั่วนั่นทำแล้วหรอ ฉันเอามือตบหน้าตัวเองเบาๆ ก่อนจะตั้งสติไปล้างหน้าแปรงฟัน แล้วเตรียมมาทำงานต่อ
“มาแล้วครับบบ” เสียงหล่อๆ ของพี่อุนกูดังขึ้น
“มาไวจังเลยค่ะ”
“พี่รีบมาเพราะจะได้แวะไปกินข้าวกับเรา ก่อนเราออกเวรน่ะ”
“แหะๆๆ วันนี้ดายอนคงไม่กินข้าวเที่ยงค่ะ พอดีมีธุระ”
“หืม ไปเยี่ยมแม่หรอครับ”
“เอ่ออออ ค่ะ ..ยะ เยี่ยมแม่ค่ะ”
ฉันโกหกไป เพราะใครจะกล้าบอกล่ะว่ามีผู้ชายโรคจิตมารอรับ จนถึงเวลาออกเวร ฉันรีบลาพี่อุนกูแล้วบึ่งออกไปหน้าบริษัททันที และเป็นจริง รถสีดำคันเดิมจอดเทียบท่าไม่ไกลจากป้ายรถเมย์
“มาไวนี่”
“แห้กๆๆ ก็นาย.. อึก ว่าจะมารับนิ” ฉันหอบแห้กจากการวิ่ง 100x100 เมตร
“ไปซื้อของเข้าห้องกัน”
“ห้ะ ฉันด้วยหรอ?”
“อืม ก็เธอเป็นแม่บ้านนิ ฉันจะไปรู้ได้ไงว่าเธอต้องใช้อะไรบ้าง”
“เอ่อ งั้นขอกลับไปอาบน้ำก่อนได้ไหม ตัวฉันเหม็นน่ะ”
ฮัลวอลหันมามองตั้งแต่หัวจรดเท้า สีหน้าของเขามันไร้อารมณ์จนฉันเดาไม่ออกว่าเขากำลังซ้ำเติมหรือปฏิเสธความคิดนั้น จู่ๆ เขาก็ทำสิ่งที่ฉันไม่คาดคิด โดยการยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้จนจมูกแทบชนแก้มฉัน
ฟุดฟิด ๆ
...ทำจมูกอย่างกับหมาเลยแฮะ
“ไม่เหม็น”
“ก็ฉันเหม็นตัวเองนี่”
“ก็ได้.. ให้เวลาครึ่งชั่วโมงนะ ขี้เกียจรอ หิวข้าว”
“แล้วทำไมไม่กินก่อนมารับยะ”
“ก็อยากรอกินพร้อมเธอ..”
ฉันนั่งนิ่งเพราะกำลังรู้สึกหน่วงๆ กับคำตอบของเขา ทั้งๆ ที่มันก็เป็นแค่คำพูดธรรมดานะ... แต่ทำไม ใจฉันพองโต ดีใจแปลกๆ ยังไงไม่รู้
“เงียบทำไม”
“ปะ เปล่า”
“กำลังเขินหรอ”
“ก็บอกว่าเปล่า”
“แต่เธอหน้าแดงอยู่นะ”
“ฉันกั้นตดอยู่น่ะ”
ฉันตอบแก้เขินแล้วจ้องหน้าเขาเพื่อยืนยันความจริง ฮัลวอลขมวดคิ้ว ทำตาปริบๆ ใส่ จากนั้นจึงหันหน้าหนี เม้มปากเหมือนกั้นขำฉันอยู่
“เธอนี่มัน …น่าเกลียดชะมัด ฮ่าๆ ๆ”
ฮัลวอลหัวเราะลั่นรถ พอฉันเห็นแบบนั้นก็เผลอหัวเราะตามเขา จนตอนนี้เราทั้งคู่หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง น้ำหูน้ำตาไหล
“อะ แฮ่มๆ ..”
ฉันแกล้งกะแอมกะไอทันทีที่รู้ตัวว่ากำลังหลงมีความสุขไปกับเขา เจ้าตัวหยุดมองฉันชั่วครู่แล้วหลบสายตาไปขับรถต่อ
หลังถึงห้อง ฉันเร่งอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงไปหาคนตัวโตข้างล่าง เขายืนเก๊กมาดเข้ม พิงรถสูบบุหรี่อยู่
“ทำไมใส่สั้นขนาดนั้น”
ฉันก้มมองกางเกงตัวเอง แปลกตรงไหน เสื้อยืดโอเวอร์ไซส์สีขาว กางเกงยีนส์ขาสั้นแต่งขาดนิดหน่อย ก็ไปแค่ซื้อของเข้าห้องเอง จะให้แต่งชุดราตรีรึไงล่ะ
“ก็ปกตินิ”
“ไปเปลี่ยน …เดี๋ยวนี้”
“ไม่ ฉันจะใส่”
“นับหนึ่งสาม ฉันจับถอดตรงนี้แน่”
“อะไรของนาย....”
“หนึ่ง”
“นี่!! มันเรื่องของฉะ...”
“สอง”
ฮัลวอลนับสองแล้วโยนก้นบุหรี่ลงพื้น สองขายาวๆ นั้นก้าวเข้าหาฉันอย่างรวดเร็ว และมันดูจะไม่หยุดจนฉันต้องก้าวถอยหลังอย่างหวาดหวั่น
“กรี้ดดด รู้แล้ว ไอ้บ้า!”
ฉันวิ่งแบบไม่คิดชีวิต กลับขึ้นห้องไปใส่กางเกงวอร์มขายาวทับอีกชั้นทันที จากตอนแรกสภาพพอดูได้ ตอนนี้เหงื่อผุดใบหน้า หัวฟูกระเซอะกระเซิง แต่งตัวทรงแม่บ้านของแทร่ก่อนจะวิ่งลงมาอีกรอบ
“แห้กๆๆๆ อึก พอใจ… แห้กๆ รึยัง”
“ก็แค่เนี้ย… ขึ้นรถ” เขาทำสีหน้าพอใจแล้วขึ้นรถไปก่อน
“ฉันจะเอาพริกทากางเกงในนาย คอยดูเถอะ” ฉันแอบบ่นแล้วยอมขึ้นรถตาม
“อยากกินอะไร”
“อะไรก็ได้ แล้วแต่นาย”
“แล้วแต่ฉันหรอ” ฮัลวอลทวนถาม แล้วทำสีหน้าพิจารณาหนัก
“อืม นายอยากกินอะไรล่ะ”
“...เธอ”
“อะไรนะ”
“เธอ …เลือกเลย ฉันกินอะไรก็ได้”
ไอ้บ้านี่เล่นใจฉันหล่นวูบไปช่วงนึง กับคำตอบสองแง่สองง่าม ฉันรีบตัดบทก่อนจะชวนไปกินปิ้งย่างในห้างที่เราจะไปซื้อของนั่นแหละ
หลังกินเสร็จ เราก็มาเดินซื้อของกัน ส่วนมากจะเป็นของสำหรับไว้ทำอาหาร และของใช้ทั่วๆ ไป และอีกเล็กน้อยคือของใช้ส่วนตัวฉัน
ฮัลวอลเดินเข็นรถตามก้นฉันต้อยๆ ประหนึ่งสามีกำลังรอภรรยาเลือกซื้อของ
“พอแล้วหรอ” เขาถาม
“อืม พอแล้ว”
“ของใช้ส่วนตัวเธอล่ะ”
“ไม่ล่ะ ฉันมีงบแค่นี้”
“ฉันจะจ่ายให้ ไปเลือกมา”
“ไม่เอา ฉันไม่อยากติดหนี้นายเยอะ ค่าเช่าห้องอันเก่าก็ยังไม่ได้ให้เลย”
“คิดเยอะไปไหน บอกว่าจ่ายให้ ก็คือจ่ายให้สิ”
“เกรงใจ”
“นี่… ถ้าเธอไม่เลือกมา ฉันจะกวาดหมดชั้นนะ”
ฮัลวอลกอดอกมองและหลี่ตาลง ประหนึ่งกำลังหน่ายใจกับฉัน เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทำท่าเดินไปที่ชั้นของใช้ผู้หญิง ฉันรีบดึงข้อมือไว้
“ระ รู้แล้ว เดี๋ยวฉันเลือกเอง”
หลังเดินเลือกของใช้ส่วนตัวอีก 3-4 อย่าง สองขาหยุดอยู่หน้าราวเสื้อผ้าผู้หญิงอย่างสนใจ อาา อยากใส่เสื้อผ้าสวยๆ แบบนี้จัง ฉันยกป้ายราคาขึ้นดูก็ต้องวางไว้ที่เดิม…ทำไมเสื้อผ้าสมัยนี้มันแพงจังนะ ฉันกลับไปช็อปที่ร้านมือสองดีกว่า
ฮัลวอลเห็นท่าทางตลกๆ ของฉัน เขาหยิบเสื้อผ้าผู้หญิง ในแบบที่ฉันชอบใส่เป็นประจำและไซส์เล็กๆ เท่าขนาดตัวฉัน เกือบทุกแผงอย่างไม่คิด และไม่มีคำถามใดก่อนจะเดินเอาไปให้พนักงานคิดเงิน
“เดี๋ยว.. นาย ไม่ได้ซื้อให้ฉันใช่ไหม”
“ฉันซื้อเสื้อผ้าผู้หญิงใส่เองมั้ง”
“เอ่อ มันเยอะไป เอาสักตัวสองตัวพอ”
“หันหลังไป แล้วยืนเฉยๆ”
ฮัลวอลจับไหล่ฉันแล้วดันให้หันไปทางอื่นไม่นานถุงเสื้อผ้านับสิบถุงก็เรียงรายเต็มหลังรถ พร้อมกับของกินของใช้ ประหนึ่งเรากำลังย้ายบ้าน
“อ่ะ เอานี่ไป” ฮัลวอลส่งบัตรเครดิต ที่เขียนว่า black card ให้
“อะไรหรอ”
“เอาไว้ใช้ซื้อของ เผื่ออยากได้อะไรอีก”
“ไม่เอา ฉันใช้บัตรพวกนี้ไม่เป็นหรอก”
“แค่ส่งให้พนักงานรูด ยากตรงไหน รับๆ ไปเถอะ ขนหน้าแข้งฉันไม่ล่วงหรอก”
ฮัลวอลยัดบัตรนั่นเข้ามือฉัน ด้วยท่าทีหงุดหงิดกับความดื้อของฉัน ก่อนจะหันไปขับรถกลับคอนโด
เอ่อ รับก็ได้วะ ดุยั้งกับหมา
หลังถึงห้อง ฉันจัดแจงข้าวของเข้ามุมจนเสร็จ นี่ก็เย็นแล้ว แสงแดดลำไล ตกลงกระทบกับคลื่นน้ำในสระ เขาว่ายไปมาอย่างกับซ้อมมาราธอน ฉันนั่งลงข้างๆ แล้วเอาขาจุ่มลงน้ำเพื่อดับความเหนื่อย
“สนุกไหม”
เขาหยุดว่ายน้ำ แล้วหันมามองฉัน ก่อนจะแหวกว่ายมาเกาะขอบสระ เอาแขนคล่อมขาฉันไว้
“อยากเล่นด้วยไหมล่ะ”
“หึ ฉันว่ายไม่ปะ…ว้ายย”
ตุ้มมมม
ไม่ทันพูดจบประโยค ฮัลวอลดึงขาฉันลงสระโดยไม่ทันตั้งตัว สองแขนสองขาตะเกียกตะกายหาจุดยึดเหนี่ยว ฮัลวอลหัวเราะอย่างสะใจที่แกล้งฉันได้สำเร็จ
“แค้กๆๆ ไอ้บ้า …ฮัลวอล ฉันจะฆ่านาย”
“ฮ่าๆๆ ก่อนจะฆ่า เธอว่ายน้ำให้เป็นก่อนเถอะ”
เขาเยาะเย้ยก่อนจะแกล้งดึงมือฉันออก ด้วยสัญชาตญาณแห่งความกลัวตาย ฉันยิ่งกอดรัดคอฮัลวอลแน่น จนก้อนอกก้อนใจไปเบียดกับใบหน้าเขา
“เธอ… รู้ไหมกำลังทำอะไรอยู่” ฮัลวอลถามด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป
“อะไรล่ะไอ้บ้า ก็ฉันจะจมน้ำน่ะเส้” ฉันตอบพลางดิ้นๆ เอาขาตีน้ำ
ฮัลวอลแหวกว่ายไปที่ขอบสระ จากนั้นดันตัวขึ้นจากผิวน้ำ นอนแผ่ทับกัน เขากำลังคล่อมร่างฉันไว้ โดยมีมือเล็กเกาะคอเขาเป็นลูกลิง หยดน้ำบนตัวเขาไหลลงบนตัวฉันหยดแล้วหยดเล่า อย่างกับสายฝนที่กำลังสาดโชน ดวงตาสีน้ำตาลกระทบกับแสงแดดสีส้ม จ้องฉันนิ่งดั่งกำลังร่ายมนต์สะกด
“ถ้าเธอยังไม่ปล่อยมือ ฉันจะจูบเธอนะ”
สิ้นคำขู่ ฉันรีบปล่อยมือจากคอฮัลวอลทันที จากนั้นรีบพลิกตัวออกจากอ้อมแขนของเขา แม้เวลาจะผ่านไปเพียงไม่กี่วินาที แต่หรับฉันมันนานจนหัวใจแทบจะระเบิด เพื่อตัดความรู้สึกนั้นฉันจึงเลี่ยงไปถามเรื่องอื่น
“เอ่อ เย็นนี้จะกินอะไรดี”
“ทำไปเถอะ ฉันกินได้หมดแหละ”
“งั้นกินข้าวต้มกิมจิไหม”
“อื้ม”
“...”
บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง เขาหันมามองฉัน ก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทาง ฉันเห็นใบหูแดงๆ ของเขาก็รู้สึกแปลกใจ
“เสื้อเธอ….” เขาพูดด้วยเสียงแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน
“??”
“...เห็นข้างในหมดแล้ว ยัยหมอบ้า”
ฉันก้มลงมองเสื้อ ก็ต้องรีบยกมือขึ้นปิดหน้าอก เสื้อยืดสีขาวเปียกน้ำ จนแนบเนื้อเห็นบราลายลูกไม้สีดำ และก้อนอกเป็นเต้า ฉันรีบลุกวิ่งกลับเข้าห้องทันทีด้วยความอาย
ปั้ง!!
เสียงปิดประตูอย่างแรงสนั่นห้อง ลมหายใจหอบแห้กด้วยความอาย ฉันกุมใบหน้าตัวเองไว้ ภาพหูแดงๆ ของฮัลวอลยังเด่นชัดในสมอง แถมไอ้ท่าทีเขินอายของเขามันยัง...
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
อัตราการเต้นของหัวใจถึงขั้นวิกฤต มันรุนแรงจนฉันเวียนหัวไปชั่วขณะ เลือดสูบฉีดจนผิวแดงไปทั้งร่าง ความร้อนที่ใบหน้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเหมือนคนเป็นไข้
ใจเย็นๆ นะ ดายอน... แกแค่ห่างผู้ชายมานาน
คำพูดปลอบพายุในใจให้สงบ ฉันนั่งหายใจเข้าพุทธ หายใจออกโธอยู่นาน จนในที่สุดก็ตั้งสติพาตัวเองไปอาบน้ำ และโฟกัสกับเรื่องตรงหน้าได้
“ไหนๆ ก็ทำข้าวต้มแล้ว ทอดเนื้อแดดเดียวด้วยละกัน” ฉันพึมพำ
“เสร็จยัง…หิวแล้ว”
ฮัลวอลอาบน้ำใส่ชุดนอนออกมา ดีหน่อยที่วันนี้เขาแต่งตัวมิดชิด ไม่งั้นฉันคงได้กลับเข้าไปนั่งสมาธิในห้องอีกแน่
“อ่ะ ลองชิม อ้ามมมมม”
ฉันตักข้าวต้มกิมจิ ทำท่าเป่าเหมือนแม่ป้อนข้าวลูกน้อย แล้วยื่นไปจ่อปาก ฮัลวอลหลี่ตามองฉัน ริมฝีปากของเขายกขึ้นหยีใส่ พลางดึงแก้มของฉันอย่างหมั่นเขี้ยว
“ตลกหรอ”
“ก็นายทำหน้าประหลาดนี่...ฮ่าๆ เป็นไง อร่อยไหม”
“อื้ม เธอทำ ก็อร่อยทุกอย่างแหละ”
“ใช่ไหม หน้าตาก็ดี แถมยังทำอาหารเก่งอีก ฉันนี่มันยอดแม่ศรีเรือนจริง..”
“แหวะะะ” ยังไม่ทันพูดจบประโยค ไอ้บ้าฮัลวอลก็แกล้งทำท่าอ้วกออกมา
“ระวังฉันจะแอบใส่ยาเบื่อหนูให้นายกิน แล้วจะฮุบสมบัตินายทั้งหมด”
“เธอจะฮุบได้ก็ต่อเมื่อเป็นเมียฉันเท่านั้นแหละ”
“งั้นฉันยอมจนต่อไปดีกว่า” ฉันว่าแล้วหันไปทอดเนื้อต่อ
“เธอ…”
“...”
“ไม่ได้คบกับไอ้หมอหน้าหล่อนั่นใช่ไหม”
“ใคร.. พี่อุนกูน่ะหรอ”
คำถามนั้นทำให้ฉันละสายตาจากเนื้อทอดในกระทะไปมองที่เขาขมวดคิ้วชนหากันอย่างสงสัย เขาหลบตาฉันแล้วตอบเบาๆ ในลำคอ
“อืม”
“ไม่ได้คบ”
“แล้วมีคนคุยอยู่ไหม”
“ถามทำไม…”
“เปล่า แค่อยากรู้น่ะ”
“ไม่มี ฉันอยากให้เวลาแม่ให้มากที่สุดน่ะ เลยยังไม่คิดเรื่องจะมีแฟนหรือมีครอบครัว”
“อื้ม ดีแล้ว”
“ดีอะไร?.. แล้วนายล่ะ” ฉันถามกลับ
“ถ้ามีคงไม่แบกเธอมานอนที่คอนโดด้วยหรอก”
“เห็นเพื่อนว่านายชอบซื้อกิน จะทำอะไรก็ระวังด้วยนะ… ฉันเตือนเพราะเห็นว่าเราเป็นเพื่อนกัน”
“ฉันเลิกทำแบบนั้นนานแล้ว”
“นานนี่กี่วัน”
“ 2 วัน”
ฉันหมดปัญญาจะหาคำมาด่าเขา จากที่เกือบจะซึ้งก็กลายเป็นอารมณ์ที่อยากจะขว้างตะหลิวใส่หน้าหล่อๆ นั่น
“ล้อเล่น ก่อนเธอมาหลายเดือนแล้ว”
“อย่างนายอ่ะนะ...หึ ไม่เชื่อ”
“หึงหรอ”
“หึงบ้าอะไร ฉันสงสารผู้หญิงที่ต้องรองรับอารมณ์นายย่ะ”
“อ่อออออ..”
ฮัลวอลลากเสียงยาว ลุกจากเก้าอี้เดินมาหาฉันช้าๆ สองแขนแกร่ง หยอกล้อโดยการโอบเอวบางจากด้านหลัง คางหนาเทินไว้บนไหล่เป่าลดลมหายใจเข้าที่ใบหูจนขนลุกซู่ไปทั้งตัว
“นี่ ..ฉันทอดเนื้ออยู่นะ อย่าพึ่งกวน”
“ขอบคุณนะ…” เสียงกระซิบแผ่วเบาแต่หนักไปด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ
“ขอบคุณอะไร”
“ขอบคุณที่เปิดใจให้ฉัน”
“ฉันไม่ได้ปะ…”
ฟอดด..
“อ้ะ ไอ้บ้าฮัลวอล”
จมูกโด่งนั้นกดลงทีหน้าแก้มอย่างแรง สูดหายใจเข้าฟอดใหญ่ ฉันยกตะหลิวไล่ตีไอ้คนผีทะเลทันที ก่อนจะต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้ซะเอง เพราะเริ่มได้กลิ่นเหม็นไหม้ของเนื้อในกระทะ
หลังจากที่เรากินข้าวกันเสร็จ ก็พากันมานั่งดูหนังเรื่องโปรดของฉันที่โถงรับแขกใหญ่ พอได้กินข้าวจนอิ่ม เจอแอร์เย็นๆ บวกกันโซฟาหนานุ่มนี้ ไม่นานตาฉันก็ปิดลงฟุบกับเข่าที่ชันขึ้นไว้
“...ดายอน”
“...”
“...ไม่ระวังตัวซะเลยนะ”
ชายหนุ่มที่เห็นสาวข้างๆ หลับลึกไปแล้ว เขากดปิดทีวี ช้อนตัวเธอขึ้นโอบอุ้มไว้ในอ้อมอกอย่างเบามือ เดินไปที่ห้องนอนเล็กที่ยินดียกให้เธอ
ผ้าผืนหนายกขึ้นห่มให้ร่างกายเธออบอุ่น เขานั่งลงข้างเตียงจ้องมองใบหน้าสาวแล้วยิ้มเล็กๆ ออกมา ความสุขล้นที่เธอและเขามีกำลังหวนกลับมาอีกครั้ง การกระทำที่ดูเหมือนว่าเธอกำลังปิดกั้นเขา ยิ่งดึงดันให้เขานั้นรู้สึกอยากจะเข้าใกล้เธอมากขึ้น
ใบหน้าคมค่อยๆ เคลื่อนไปประทับริมฝีปากสาว และอยู่แบบนั้นเนิ่นนาน ก่อนจะถอนจูบออกเปลี่ยนเป็นหอมหน้าผากมนของเธอ เอ่ยคำล่ำลาสำหรับคืนนี้
“ฝันดีครับ…ที่รัก”