ชาย-ชาย,รัก,ตลก,ดราม่า,ไทย,คลั่งรัก,ครอบครัว,วัยรุ่น,เพื่อน,ธงเขียว,หล่อรวย,รุ่นพี่วิศวะ,น่ารัก,ชีวิตประจำวัน,ดราม่า,โรแมนติก ,รัก,มหาลัย,วาย,YAOI,BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
แม่ครับ แม่เห็นหรือเปล่า ตอนนี้เด็กคนนั้นสนุกกับชีวิตแล้วก็มีความสุขมากแค่ไหน เขามีเพื่อนแล้วด้วยนะครับจากที่เคยตัวคนเดียวมาตลอด
สำหรับเด็กคนนั้น... มานั่งคิดดู เขาไม่เคยร้องขออะไรเลยครับ ความปรารถนาเดียวที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนั่นก็คือการยอมรับจากครอบครัว
ไม่ต้องรักก็ได้ ขอแค่อย่ามองเป็นคนอื่นก็พอ ...ทั้งที่เป็นเพียงความปรารถนาเล็ก ๆ แต่สมหวังยากเหลือเกิน
"สมคำร่ำลือ อร่อยอย่างที่โพลล์มหาชนของมหา'ลัยลงไว้จริงด้วย ข้าวที่โรงอาหารวิศวะอร่อยโคตร ๆ แบบแสงออกปากไม่เกินจริง!"
หมีพูห์ทำท่าพ่นแสงออกจากปากเลียนแบบก็อดซิลล่า ตักข้าวขาหมูเข้าปากคำใหญ่เคี้ยวหมุบหมับ รสชาติอร่อยอย่างที่เจ้าตัวว่าจริง ๆ ครับ ผมเองก็พลอยเจริญอาหารตามไปด้วย
หลังจากตะลุยด่านเปียกน้ำของคณะวิศวะเสร็จก็ถึงเวลาพักกลางวันพอดี เช่นเดิมบรรยากาศคึกคักไปด้วยเหล่านักศึกษาปีหนึ่งเนื้อตัวมอมแมมเปรอะเปื้อนไปด้วยสีหลากสีสัน เสื้อผ้าเปียกชื้นให้ความรู้สึกไม่สบายตัวกันไป
เดินกันให้ควั่ก พยายามขอให้รุ่นพี่คนดังเซ็นลายเซ็นให้ แน่นอนว่าพี่เขาไม่เซ็นให้ใครเลยครับ บอกสิบนาทีก็สิบนาทีจริง ๆ นี่เขาก็นั่งกินข้าวกับกลุ่มเพื่อนห่างออกไปไม่ไกล ได้ยินได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
"โชคดีจริง ๆ เนาะที่เราบุกทะลุเข้าไป"
"อื้ม ถ้าไม่มีหมีพูห์เราเองก็คงเป็นเหมือนพวกนั้น ไม่กล้าทำอะไร"
พอผมพูดแบบนั้นก็ยิ้มทำหน้าภูมิใจยกใหญ่ ผมหัวเราะพลางตักข้าวกิน ดีจัง ดีจังเลย...
ขณะที่เรานั่งคุยกันถึงเรื่องอื่น ๆ สถานการณ์ซอมบี้บุกเหมือนจะทวีคูณความรุนแรงขึ้น รอบกายของรุ่นพี่คนดังรายล้อมไปด้วยเหล่าผู้ต้องการเอาชีวิตรอด ร้องขอให้พี่เขาช่วยเซ็นให้ ทิ้งความเกรงใจไว้เบื้องหลังอย่างหน้าไม่อาย อย่าว่าแต่พวกนั้นเลยครับ ผมกับหมีพูห์เองก็ไม่ต่าง ไม่มีสิทธิ์ว่าใครด้วยซ้ำ
ส่วนพี่เขาเองก็ไม่ไหวติงราวกับชินชา เพื่อน ๆ ของพี่เขาก็เช่นเดียวกัน ต่างไม่สนใจยังคงนั่งกินอาหารและพูดคุยกันอย่างเป็นธรรมชาติ
"เราจะไปซื้อขนมนายเอาอะไรป่ะ"
"ไปด้วย"
"ไม่ต้อง ๆ นั่งเฝ้าโต๊ะไว้เดี๋ยวมีคนแย่ง แล้วตกลงจะเอาอะไร ขนมปังปิ้งไหม"
"ได้ เอานมกับช็อกโกแลตนะ"
"โอเค"
หมีพูห์นิสัยดีถึงขนาดเอาจานข้าวของผมไปเก็บให้ด้วย หลังจากนี้คงต้องทำอะไรเป็นการตอบแทนบ้างแล้ว จะเอาแต่รับอย่างเดียวไม่ได้
ปึง!
"เฮ้ย! ไอ้ขี้แซง"
ผมสะดุ้งตกใจอย่างแรงบวกกับกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่ ๆ ก็มีชายหนุ่มพร้อมพวกอีกสองคนมาทุบโต๊ะด้วยท่าทางหาเรื่อง
"มะ...มีอะไรเหรอ" หัวใจเต้นรัวด้วยความกลัว มองพวกนั้นอย่างหวาดระแวง
"เพราะแกกับเพื่อนแซงคิวเข้าไปพวกเราเลยไม่ได้ลายเซ็นไงล่ะ"
"อ่า..." บางทีผมก็อาจจะผิดจริง ๆ พยายามมองหาหมีพูห์แต่ไม่เห็นเจ้าตัวเลย เอายังไงดีทีนี้
"เอาสมุดแกมา" อีกฝ่ายฉกฉวยกระเป๋าของผมไปหมายจะเอาสมุดลายเซ็น
ผมเองก็เร็วเหมือนกันรีบดึงเอาไว้กลายเป็นยื้อยุดฉุดกระชาก ความสนใจจากที่มีให้รุ่นพี่คนดังในตอนแรกบัดนี้แปรเปลี่ยนมาทางผมอย่างรวดเร็ว ผู้คนสงสัยใคร่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
"เอามา! แกต้องรับผิดชอบดิวะ!"
"ไม่ให้! ปล่อยอย่ามายุ่งกับของของเรา"
ใครจะไปยอม กว่าจะได้มาแต่ละลายเซ็นมันง่ายซะที่ไหน ใช้แรงทั้งหมดที่มีดึงกระเป๋ากลับมาได้ กอดเอาไว้ในอ้อมแขนแน่น
"เอามา!" อีกฝ่ายเสียงดัง ยิ่งดังคนก็ยิ่งมองรวมถึงพวกรุ่นพี่ด้วย
"ไม่!" ทำไมต้องมาหาเรื่องกันด้วย
ผมมองดูรอบ ๆ ประหม่ากับสายตามากมายก่อนจะปะทะเข้ากับรุ่นพี่คนดังซึ่งก็กำลังมองมา มุมปากได้รูปยกขึ้นเพียงเล็กน้อย แววตากรุ่มกริ่มคล้ายมีเลศนัยตลอดเวลา เขาอาจจะกำลังสนุกอยู่ก็ได้เพราะมีอะไรดึงความสนใจไปเสียทีไงล่ะ
"พวกแกทำแบบนั้น หัดสำนึกบ้างดิวะ!" ทั้งตะคอกทั้งเสียงดัง
ผมไม่ใช่ประเภทเถียงเก่งสู้เก่งก็เลยได้แต่ยืนนิ่ง
"ใครเร็วใครได้ผมก็บอกอยู่ ช้าเองทำไมถึงกล้าหาเรื่องคนอื่นอย่างหน้าไม่อาย"
ทันใดนั้นรุ่นพี่คนดังเข้ามาแทรกแซงสถานการณ์ ร่างสูงใหญ่ดูดีเดินมายืนบังตัวของผมไว้ สร้างความฮือฮาให้กับคนที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นอย่างมาก
"พะ...พี่แพกซ์" อีกฝ่ายผงะถอยหลัง ตกใจกลัวหรือไรไม่ทราบ เห็นแค่ว่ามีท่าทางไม่สู้ดีเมื่อต้องเผชิญหน้ากับบุคคลคนนี้
"อยู่ยากนะถ้ายังทำตัวแบบนี้" พี่เขาว่า
"ผม.. ผมแค่...!"
"เครื่องกลเหรอ คีท ๆ โทรตามซานมาหน่อย เด็กสาขามันกร่างใหญ่แล้ว รู้ถึงไหนอายถึงนั่น"
พี่เขาหันไปบอกให้เพื่อนโทรตามใครสักคนมา น่าจะเป็นรุ่นพี่สาขาที่สามคนนั้นเรียนอยู่
"ผมขอโทษครับพี่แพกซ์ เป็นเพราะผมขอลายเซ็นพี่ไม่ทัน"
"แล้วมันใช่ความผิดของเด็กคนนี้หรือไง ใครเร็วใครได้ประโยคที่ผมพูดก็น่าจะชัดเจนดีนะทำไมดูเข้าใจยากนัก เฮ้อ! เอาล่ะ ผมจะเซ็นให้อีกสิบนาที รอบนี้ใครช้าคืออด มางอแงหาเรื่องชาวบ้านทีหลังไม่ได้แล้วนะ ส่วนพวกนายสามคนผมขอไม่เซ็นให้"
พูดจบพี่เขาก็เดินกลับโต๊ะไป จากนั้นพวกที่ต้องการลายเซ็นก็กรูไปรุมล้อมพี่เขาอีกครั้ง สภาพคือเสียงดังวุ่นวายร้องขอให้พี่เขาเซ็นให้ ส่วนสามคนนั้นนิ่งอึ้งกระทั่งรุ่นพี่คนหนึ่งมาเรียกตัว ก่อนไปพี่เขาเอ่ยขอโทษแทนอย่างจริงใจ ผมพยักหน้ารับแล้วนั่งลงรอหมีพูห์เช่นเดิม
สถานการณ์คลี่คลายราวกับเมื่อครู่นี้ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น และเหมือนรู้เวลาเพราะหมีพูห์ซื้อของกลับมาพอดี
"ร้านขนมปังขายดีสุด ๆ เรายืนต่อคิวรอตั้งนาน" เจ้าตัวเอาของที่ซื้อมาวางลงบนโต๊ะ
"น่ากินมาก"
"ขอกินด้วย ๆ กลิ่นหอมมาตลอดทางเลย"
"ได้สิ แล้วนี่ซื้อน้ำมาให้ด้วยเหรอ"
"อร่อยนะ มะพร้าวนมสดปั่น"
"อื้ม ขอบคุณมาก"
ผมเลือกที่จะไม่เล่าให้ฟัง ถือว่าจบแล้วก็ให้จบไป ขอแค่อย่ามาหาเรื่องกันอีกก็พอ
นั่งกินขนมและคุยกันว่าเย็นนี้จะกินอะไรกันดี แถวนี้มีที่เที่ยวที่ไหนบ้างเผื่อว่าง ๆ ไปกัน อยู่กับหมีพูห์สนุกดีเพราะเป็นคนสดใสทำให้บรรยากาศรอบตัวผ่อนคลาย ผมรู้ตัวเลยว่าตัวเองยิ้มเยอะขึ้น
ช่วงบ่ายเรายังคงฝ่าฟันกับด่านต่าง ๆ ที่พวกรุ่นพี่ทำ ด่านไม่ซ้ำกันเลยครับแต่ละคณะ ทั้งเหนื่อยทั้งสนุก ยังเหลือพรุ่งนี้อีกหนึ่งวันก็จะได้หยุดเสาร์อาทิตย์เพื่อพักผ่อน
"พักก่อน ๆ เรายังพอมีเวลา" หมีพูห์วิ่งไปทิ้งตัวลงนอนบนม้าหินอ่อน
รุงรังกันมากครับ ผมดื่มน้ำรวดเดียวหมดขวด ตอนนี้เราอยู่กันที่คณะวิทยาศาตร์การกีฬา คณะสุดท้ายและมีด่านที่โหดที่สุด ใช้ร่างกายล้วน ๆ อย่างกับคัดตัวนักกีฬาก็ไม่ปาน
เสร็จจากที่นี่เราก็จะกลับไปยังอาคารกลางที่ใช้รวมตัวเพื่อส่งสมุดลายเซ็นถึงจะกลับหอพักได้
เรื่องเมื่อกลางวันยังติดอยู่ในใจเล็กน้อยเพราะผมยังไม่ได้ขอบคุณรุ่นพี่คนดังคนนั้นเลย เห็นทรงแบดบอยแบบนั้นดูใจดีกว่าที่คิด อย่างว่าแหละครับ...เราไม่ควรมองคนที่ภายนอกหรือด่วนตัดสินหากยังไม่รู้จักใครดีพอ
Tbc.