ชาย-ชาย,รัก,ตลก,ดราม่า,ไทย,คลั่งรัก,ครอบครัว,วัยรุ่น,เพื่อน,ธงเขียว,หล่อรวย,รุ่นพี่วิศวะ,น่ารัก,ชีวิตประจำวัน,ดราม่า,โรแมนติก ,รัก,มหาลัย,วาย,YAOI,BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
"รับอะไรเพิ่มอีกไหมคะ ครัวซองแฮมชีสตอนนี้มีโปรโมชั่นซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง สนใจรับด้วยไหมคะ"
"ครับ รับด้วยครับ"
"ค่ะ ทั้งหมดเป็น xxx นะคะคุณลูกค้า"
เช้านี้ผมกับหมีพูห์แยกทางกันครับ รายนั้นบอกปวดฟันตั้งแต่เมื่อคืน น่าจะปวดน่าดูล่ะครับเช้ามาเลยรีบไปโรงพยาบาลใหญ่ทันที
ย่านนี้เป็นอีกย่านที่ทันสมัย ขนาดโรงพยาบาลยังใหญ่โตแข่งกับห้างสรรพสินค้า ศูนย์รวมการรักษาเพราะมีทุกแผนก รักษาคน สัตว์ ทำฟัน ตลอดจนศัลยกรรมเสริมความงาม
ส่วนผมเช้านี้แวะร้านเบเกอรี่หน้ามหาวิทยาลัย หมายมั่นว่าจะซื้อขนมไปขอบคุณรุ่นพี่คนนั้น... ชื่อพี่แพกซ์หรือเปล่านะ น่าจะใช่แหละ
มาถึงอาคารกลาง เช็คชื่อเรียบร้อยก็ไปนั่งต่อแถว มีความรู้สึกว่าวันนี้อาจจะฉายเดี่ยวเพราะเพื่อนรักส่งข้อความมาบอกว่าต้องถอนฟัน
"ไงนาย หวัดดีนะ"
ด้วยความนั่งแยกหญิงชาย ผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ จึงหันมาสะกิดที่แขนพร้อมเอ่ยทัก
"อื้ม หวัดดี" ผมทักกลับพร้อมรอยยิ้มที่คิดว่าหวานหยดย้อยที่สุด
"คิกคิก ไม่ต้องฝืนก็ได้นะ เรารู้ว่านายยิ้มไม่เก่ง"
"อ่า..." รู้จริงแฮะ
"ชื่อปลาวาฬใช่ป่ะ ดูจากป้ายชื่อ"
"อือฮึ ส่วนเธอก็แครอท?"
"ช่ายยยย เรายังไม่มีเพื่อนเลยอะ คนอื่นเขารวมเป็นกลุ่มเป็นก้อนกันหมดละ ส่วนเราไม่รู้จักใครสักคน"
"เหมือนกัน"
"แต่นายก็มีเพื่อนแล้วหนิ"
"อ๋อ! ใช่ โชคดีที่ได้เพื่อนตั้งแต่วันแรก ชื่อหมีพูห์น่ะ วันนี้คงไม่มาเพราะไปทำฟัน"
"งั้นเราขอเป็นเพื่อนด้วยคนได้ไหมอ่า~ นะ ๆ ขออยู่กลุ่มด้วยคนดิ สัญญาว่าจะทำตัวดี ๆ"
แครอทเป็นสาวอวบหน้าตาน่ารัก เขย่าแขนผมทำตาปิ๊ง ๆ เว้าวอนขอเป็นเพื่อนด้วยคน โธ่เอ๊ย...แล้วคนอย่างผมจะปฎิเสธได้ยังไง มีเพื่อนเยอะ ๆ สิดี ชีวิตนี้เคยมีเพื่อนที่ไหน
"ได้สิ.. ได้เลย"
"เย่! ขอบคุณนะปลาวาฬ งั้นวันนี้เราไปด้วยกันเนาะ"
"อื้ม"
เราสองคนยิ้มให้กันก่อนที่แค
รอทจะหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข บอกดีใจมีเพื่อนกับเขาสักที ซึ่งผมเองก็ดีใจเหมือนกัน
นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อย หลัก ๆ ก็ทำความรู้จักกันให้ลึกขึ้น สิ่งที่น่าตกใจจนทำให้เราต่างก็ไม่อยากเชื่อเลยคือแครอทเป็นหลานของคุณลุงกับคุณป้าเจ้าของหอที่ผมเช่าอยู่
"อเมซิ่งเกินนนน" ผมร้องอย่างตื่นเต้น ไม่ว่าจะความบังเอิญหรือพรหมลิขิตก็ขอขอบคุณนะครับที่ส่งเพื่อนมาให้
"จริงงงงง ดีจังเลยเนาะ แสดงว่าฟ้าลิขิตมาแล้วล่ะ เราคบกันไปนาน ๆ เลยนะหลังจากนี้"
ก็หวังให้เป็นความสัมพันธ์ที่ยืดยาวจวบจนแก่เฒ่า...
"เพื่อนอีกคนชื่อหมีพูห์ใช่ไหม"
"อื้ม เช่าอยู่บนดาดฟ้าของตึกบี"
"โหย อิจฉาอะ เราอยากอยู่ด้วยบ้าง อย่างนี้ต้องขอลุงบ้างแล้ว"
เดิมแครอทอยู่ระยองกับครอบครัว แล้วคือเหตุผลที่มาเรียนที่นี่เป็นเหตุผลเดียวกับหมีพูห์ไม่มีผิดเพี้ยน ผมหัวเราะพลางเล่าให้เพื่อนใหม่ฟังว่าหมีพูห์เป็นคนยังไง
"สวัสดีค่ะน้อง ๆ ทุกคน วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการรับน้องแล้ว หวังว่าสองวันที่ผ่านมาจะสนุกสนานกับกิจกรรมที่พวกพี่ ๆ เตรียมไว้ให้น้าาา เอาล่ะ! วันสุดท้ายแบบนี้ภารกิจก็ต้องพิเศษกันหน่อย ก่อนอื่นเดี๋ยวพี่แจกสมุดล่าลายเซ็นให้เหมือนเดิม คราวนี้แต่ละหน้าระบุรายชืืื่อเอาไว้ ล่าให้ครบภายในวันนี้นะคะ เจ้าของรายชื่อเขาก็วนเวียนกันอยู่ในมหา'ลัยจนถึงเย็นอยู่ที่ว่าจะหาเจอหรือเปล่า"
ระหว่างนี้มีคนยกมือสงสัย พี่พิธีกรจึงเปิดโอกาสให้ถาม
"มีบทลงโทษเหมือนของเมื่อวานไหมครับ"
"ฮ่า ๆ ก็ต้องมีสิคะมันถึงจะสนุก ของเมื่อวานต้องใส่วิกผมสีทองตลอดหนึ่งอาทิตย์ใช่ไหม ของวันนี้เป็นสายสะพายนางงาม ที่ป้ายจะเขียนชื่อคณะเอาไว้"
ทันทีที่ได้ยินบทลงโทษต่างก็พากันโห่ร้อง โอดครวญโดยมีเสียงหัวเราะจากพี่ ๆ คลอร่วมด้วย ผมยิ้มขำเล็กน้อยเพราะสายสะพายก็ยังดีกว่าวิกผมสีทองล่ะนะ
ผมไม่ลืมถามพี่ที่มาแจกสมุดว่าถ้าเพื่อนไม่มาจะเป็นอะไรไหม พี่เขาบอกว่าก็จะได้สายสะพายอัตโนมัติ
"ทำแทนกันไม่ได้หรือครับ"
"ก็ถ้าคนในรายชื่อยอมเซ็นให้น่ะนะ"
"อ่า... งั้นผมขออีกเล่ม"
"จะทำแทนเพื่อนด้วย?"
"ครับ ตอนนี้เขารอคิวทำฟันอยู่"
"อ๋อ.. งั้นก็ลองดูนะ"
"ครับ ขอบคุณครับ"
รับสมุดมาอีกเล่ม นี่แหละคือสิ่งที่จะตอบแทนหมีพูห์ สำเร็จไม่สำเร็จขอพยายามทำดูก่อนแล้วกัน เพราะของตัวเองก็ไม่รู้จะได้ครบไหม ตื่นเต้นมาก ๆ เลยครับ
"ก่อนเริ่มก็ขอให้เพลิดเพลินกับการตะลุยด้านต่าง ๆ นะคะทุกคน สิ่งเดียวที่พวกพี่หวังไม่ใช่การเคารพนบน้อมแต่ประการใด แต่พี่หวังว่าพวกน้อง ๆ จะเรียนที่นี่อย่างสนุกแล้วก็มีความสุข ดีใจมากที่ได้พบกัน เริ่มทำกิจกรรมได้ค่ะ"
สัญญาณนกหวีดดังขึ้นนักศึกษาปีหนึ่งทุกคนต่างก็มุ่งหน้าไปทำกิจกรรมกันอย่างคึกคัก บ้างก็ดีใจที่วันนี้เป็นวันสุดท้ายในการรับน้องเสียที บ้างก็ตื่นเต้นลุ้นว่าวันนี้จะได้เจออะไรบ้าง บ้างก็ทำหน้าเบื่อโลกเดินแยกไปอีกทางเพื่อหาที่หลับนอนไม่สนว่าจะโดนลงโทษหรือไม่
"น้อง ๆ ที่อยากได้ลายเซ็นของพวกพี่ฟังให้ดี ถ้าใครปีนขึ้นไปเอาผ้าสีแดงนั่นได้พวกพี่จะเซ็นให้"
เราสองคนเดินมารวมกลุ่ม ทันได้ยินภาระกิจพิชิตลายเซ็นจากรุ่นพี่ บอกว่าให้ปีนต้นไม้ใหญ่ขึ้นไปเอาผ้าสีแดงซึ่งสูงพอสมควร ต้องเป็นคนที่ปีนต้นไม้เป็นและมีความคล่องตัวถึงจะขึ้นไปได้
ผมคิดว่าผมน่าจะทำได้ เพราะสมัยก่อนปีนบ่อย ปีนขึ้นไปแอบไม่ให้พี่ชายเห็น
"โหย สูงขนาดนั้นใครจะทำได้วะ" แครอทบ่น หน้างอไม่สบอารมณ์
"เราลองดีไหม" ชั่งใจ...
"เฮ้ย! ไม่เอานะปลาวาฬ เดี๋ยวก็ได้ตกลงมาหรอก"
"เราปีนได้ แค่นี้เอง"
"ตลกแล้ว แค่สายสะพายเอง ยังดีกว่าใส่วิกไหมอะ ไม่เอา ๆ เราไปตะลุยด่านให้เสร็จ ๆ กันเถอะ"
จบการสนทนา แครอทไม่ยอมท่าเดียวแถมยังลากผมไปที่ลานกิจกรรม เอาเถอะไม่ได้ก็ไม่ได้ ความปลอดภัยต้องมาก่อน
ตั้งแต่ออกจากบ้านมาอยู่ด้วยตัวเองเป็นเวลากว่าสี่เดือนเห็นจะได้ ไม่มีความเคลื่อนไหวจากที่บ้าน พวกเขาคงสบายใจที่ไม่มีผมอยู่ซึ่งผมเองก็สบายใจเช่นกันครับ ขออย่ามายุ่งวุ่นวายกันเลย ทำเหมือนผมไม่เคยมีตัวตนน่ะดีแล้ว
อีกอย่างผมเลือกไม่ติดต่อพี่เลี้ยงเลยไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง พี่ทรายเป็นเพียงคนเดียวที่ดูแลผมจากใจจริง เธอเคยเป็นคนรับใช้คนสนิทของแม่ด้วย แปลกที่เธอไม่โกรธไม่เกลียดผม
ใช้เวลาฝ่าด่านสุดโหดนานพอสมควร วันสุดท้ายคณะนี้เขาจัดเต็มกันสุด ๆ สภาพปีหนึ่งแต่ละคนเละเทะดูไม่ได้ มองหน้ากันทีก็ขำกันที
เสร็จก็พักกลางวันพอดี เรียกได้ว่าใช้เวลาอยู่ที่คณะวิศวะนานกว่าใครเพื่อน ข้าวที่โรงอาหารอร่อยยกให้เป็นอันดับหนึ่งต้องมากินบ่อย ๆ
แม่ครับ เด็กคนนั้นกำลังตั้งใจใช้ชีวิตอย่างดีเลยเห็นไหมครับ มีเพื่อนเพิ่มมาอีกหนึ่งคนแล้วด้วย นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่หนีออกมา ถ้าเด็กคนนั้นยังอยู่ที่นั่นรับรองได้เลยว่าแม้แต่ชีวิตในมหาวิทยาลัยก็ใช้อย่างไม่มีความสุข
...ยังไงช่วยดลบันดาลให้คนพวกนั้นไม่มายุ่งกับเด็กคนนั้นทีนะครับแม่
Tbc.