นี่เป็นรอบที่ 7 แล้วที่ผมวนกลับมาเล่นฉากนี้ และมันกำลังจะจบลงด้วยการที่ผมถูกฆ่าอีกครั้ง — Lucky seven ทั้งทีลองทำอะไรที่ต่างออกไปดีไหมนะ ลอง 'ยั่ว' ฆาตกรสักหน่อยดีกว่า…

Dead Trap เกมสยอง กับดักมรณะ - Chapter 1 Game on (1) โดย wandery @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ระทึกขวัญ,ชาย-ชาย,เลือดสาด,ดาร์ค,เกม,ติดลูป,เกมสยองขวัญ,ติดอยู่ในเกม,เกมเมอร์,ฆาตกร,ผู้รอดชีวิต,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Dead Trap เกมสยอง กับดักมรณะ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ระทึกขวัญ,ชาย-ชาย,เลือดสาด,ดาร์ค

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เกม,ติดลูป,เกมสยองขวัญ,ติดอยู่ในเกม,เกมเมอร์,ฆาตกร,ผู้รอดชีวิต

รายละเอียด

Dead Trap เกมสยอง กับดักมรณะ โดย wandery @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

นี่เป็นรอบที่ 7 แล้วที่ผมวนกลับมาเล่นฉากนี้ และมันกำลังจะจบลงด้วยการที่ผมถูกฆ่าอีกครั้ง — Lucky seven ทั้งทีลองทำอะไรที่ต่างออกไปดีไหมนะ ลอง 'ยั่ว' ฆาตกรสักหน่อยดีกว่า…

ผู้แต่ง

wandery

เรื่องย่อ

คำเตือน

นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มีการใช้ถ้อยคำหยาบคาย, มีการบรรยายฉากการฆ่า, เลือด, ความรุนแรง และบรรยายฉากการร่วมเพศที่ละเอียด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน


'อารัญ' นักศึกษาชีวิตอาภัพที่หลุดเข้าไปในเกมสยองขวัญ ทุกครั้งที่ถูกฆาตกรฆ่า เกมจะรีเซตกลับมาที่จุดเริ่มต้น ทางเดียวที่จะหยุดลูปนรกและออกจากเกมได้ คือต้องกำจัดฆาตกร

 

 

 

ถ้าพร้อมแล้ว ขอให้สนุกกับเกม Dead Trap ค่ะ

สารบัญ

Dead Trap เกมสยอง กับดักมรณะ-แนะนำเรื่อง ตัวละครหลัก,Dead Trap เกมสยอง กับดักมรณะ-Chapter 0 Dead Trap,Dead Trap เกมสยอง กับดักมรณะ-Chapter 1 Game on (1),Dead Trap เกมสยอง กับดักมรณะ-Chapter 1 Game on (2),Dead Trap เกมสยอง กับดักมรณะ-Chapter 2 Secret Character (1),Dead Trap เกมสยอง กับดักมรณะ-Chapter 2 Secret Character (2),Dead Trap เกมสยอง กับดักมรณะ-Chapter 2 Secret Character (3),Dead Trap เกมสยอง กับดักมรณะ-Chapter 3 Endless Loop (1),Dead Trap เกมสยอง กับดักมรณะ-Chapter 3 Endless Loop (2),Dead Trap เกมสยอง กับดักมรณะ-Chapter 4 Lucky Seven (1),Dead Trap เกมสยอง กับดักมรณะ-Chapter 4 Lucky Seven (2)

เนื้อหา

Chapter 1 Game on (1)

 

“เราเลิกกันเถอะ”

แฟนที่คบกันมาเจ็ดปีเพิ่งจะบอกเลิกผมไปอย่างหน้าด้าน ๆ นี่เขาไม่เสียดายเวลาที่เราร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาเลยหรือไง ผมเงยหน้ามองใบหน้าของคนที่สูงกว่า

อ่า… นี่สินะ ใบหน้าของคนหมดรัก

“บอกเหตุผลหน่อยได้ไหม”

ผมถามคนที่เพิ่งจะกลายเป็น ‘แฟนเก่า’ เมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้ว ดวงตาสีดำมองผมด้วยสายตาที่เรียบเฉยเพราะเขาไม่รู้สึกอะไรกับผมอีก

น่าแปลกที่แม้ตอนนี้พวกเราจะอยู่กันที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัยซึ่งมักจะมีเสียงดังในช่วงพักกลางวัน แต่เสียงเดียวที่ผมได้ยินกลับเป็นเสียงของแฟนเก่า

“นายน่าเบื่อ”

โห นี่กำลังจะบอกว่าเขาทนเบื่อผมมาเจ็ดปีเลยอย่างนั้นเหรอ

“อืม”

ให้ตายเถอะ อารัญ นายจะตอบแค่นั้นจริงเหรอ

อย่างน้อยผมน่าจะด่าเขาสักฉอดที่ทำให้ผมเสียเวลาชีวิตเจ็ดปีไปโดยไม่เกิดประโยชน์

เฮ้อ แต่สุดท้าย ผมก็ไม่ได้ด่าเขา

แฟนเก่าเดินออกจากโรงอาหารไปแล้ว เขาทิ้งให้ผมยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางสายตานับร้อย

เดี๋ยวนะ! แล้วไหงมันไปควงคนอื่นต่อละวะ?! ไอ้เวรนี่ เล่นกับความรู้สึกฉันงั้นเหรอ

หน็อย... ฉันจะหาแฟนใหม่ที่ใหญ่กว่านายเลย คอยดู!

ขณะที่ผมกำลังฉุนเฉียว โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงก็สั่นครืด ผมล้วงหยิบโทรศัพท์รุ่นเก่าที่ถนอมเอาไว้อย่างดีจนสามารถยืดอายุมันได้ แต่ถึงอย่างนั้นหน้าจอสัมผัสที่เริ่มสัมผัสไม่ติดก็เปรียบเหมือนเสียงตะโกนของโทรศัพท์ที่กำลังบอกผมว่าให้ปล่อยมันไปเถอะ

ผมอ่านชื่อของคนที่กำลังโทรเข้าอย่างตะบี้ตะบัน ก่อนจะกดย้ำที่ปุ่มเพื่อรับสาย

“ครับ พี่นัท”

พี่นัทเป็นเจ้าของร้านคาเฟ่แมวหน้ามหาวิทยาลัย ส่วนผมก็เป็นลูกจ้างพาร์ตไทม์ให้กับร้านพี่เขา การที่พี่นัทโทรมานอกเวลางานมันทำให้ผมรู้สึกไม่ดีเท่าไร ก็เมื่อวานผมเผลอพูดจารุนแรงกับลูกค้าไปหน่อยน่ะสิ หรือคงจะไม่หน่อยสำหรับพี่นัทล่ะมั้ง

“นายเป็นเด็กที่ขยันนะ อารัญ”

เกริ่นมาแบบนี้ มันต้องเป็นเรื่องไม่ดีชัวร์ ให้ตายสิ คนเรามันจะซวยได้ขนาดนี้เลยเหรอ

“เข้าเรื่องเถอะ พี่นัท”

“เฮ้ย ทำไมเสียงเป็นแบบนี้”

“ช่างเถอะพี่ พูดเรื่องของพี่เถอะ”

เสียงของผมสั่นมากเพราะเพิ่งจะเสียน้ำตาให้กับคนเฮงซวย พี่นัทเองก็คงรับรู้ได้จากน้ำเสียงของผม

“เอ่อ... นายแน่ใจนะ”

“ครับ ผมไม่เป็นไร”

ไม่เป็นไรกับผีน่ะสิ ตอนนี้น้ำตาของผมกำลังไหลพรากเหมือนเขื่อนแตกเลยแม้คนในโรงอาหารจะพากันมองแค่ไหน แต่ผมก็ไม่สน

“คือว่า... ลูกค้าคนเมื่อวานที่นายไปทะเลาะด้วย เขาเป็นลูกเจ้าของตึกที่พี่เช่าอยู่...”

แค่พี่นัทบอกมาแบบนั้น ผมก็เข้าใจได้ทันที แม้จะหงุดหงิดที่รู้ว่าไอ้เด็กเวรนั่นดันเป็นลูกเจ้าของตึก แต่เพื่อไม่ให้พี่นัทต้องเจอปัญหา ผมก็มีแต่จะต้องรับผลของการกระทำ…

“เจ้าของตึกเขาโทรมาหาพี่ว่าถ้านายยังอยู่...”

“ผมเข้าใจครับพี่นัท”

ผมเข้าใจจริง ๆ แม้ตอนนี้จะเสียใจที่เมื่อวานไม่ได้ตะบันหน้าไอ้เด็กวีไอพีเมื่อวานก็ตาม ก็จะไม่ให้ผมโมโหได้ยังไง แมวในคาเฟ่น่ะ! มีกฎตัวโตเขียนไว้ทุกมุมห้องเลยว่าห้ามอุ้ม! แต่ไอ้เด็กบ้านั่นมันอุ้มจับแมวไปทั่ว แถมยังเล่นกับแมวแรงจนแมวเริ่มรำคาญ นี่ถ้าผมไม่หวังดีเข้าไป มีหวังไอ้เด็กเปรตนั่นได้เลือดสาดเข้าโรงพยาบาลไปแล้ว

แต่ว่าความหวังดีของผมดันกลายเป็นประสงค์ร้ายซะงั้น เพราะเด็กนั่นดันคิดว่าผมจะไปแย่งแมวจากมัน...

เฮ้อ... นี่มันไม่เห็นผ้ากันเปื้อนกับหมวกแก๊ปที่มีโลโก้ร้านเลยหรือไง

“พี่ขอโทษนะ อารัญ”

เสียงของพี่นัทช่วยเรียกให้ผมหลุดจากภวังค์ ก่อนจะที่จะเตลิดไปไกลกว่านี้

“งั้น... วันนี้รัญมาเก็บของนะ ส่วนค่าจ้างพี่จะโอนทั้งหมดของเดือนนี้ให้นะ”

“เฮ้ยพี่! แต่เดือนนี้ผมเพิ่งทำงานไปแค่สองอาทิตย์เอง พี่จ่ายแค่ส่วนที่ผมทำงานเถอะ”

“ไม่เป็นไร”

พี่นัทเป็นแบบนี้เสมอ เป็นคนใจดี รักพี่รักน้อง ใครขาดเหลืออะไรก็พร้อมช่วยเหลือเสมอ

“ผมเกรงใจพี่”

“รับไปเถอะ ถือว่าเป็นโบนัสของคนขยันก็แล้วกัน เฮ้ย! รัญ! เป็นอะไร? หยุดร้องก่อน!”

ผมไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป ความรู้สึกมากมายในวันนี้มันถาโถมและผสมปนเปกันไปหมด ทั้งโดนแฟนทิ้ง โดนให้ออกจากงาน และได้รับไมตรีจากพี่ที่เคารพในเวลาเดียวกัน เอาจริง ๆ ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองควรจะต้องรู้สึกยังไง

“ฮึก พี่นัท... ผ... ผม... ฮึก”

ผมพยายามจะขอบคุณพี่เขา แต่น้ำตาที่ไหลพรากกำลังเป็นอุปสรรคอยู่

“ใจเย็น ๆ นะ รัญ”

ผมสูดลมหายใจเข้า ดึงสติให้อยู่กับเนื้อกับตัว ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา

“ผม... ขอบคุณพี่มากเลยนะครับ”

“อืม อารัญคนขยันไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”

แล้วบทสนทนาของผมกับพี่นัทก็จบลงแค่นั้น ผมกดวางสายเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง เดินไปล้างหน้าล้างตาที่ห้องน้ำแล้วเข้าเรียนวิชาภาคบ่ายต่อไป

แต่คงเป็นเพราะวันนี้ผมเจอเรื่องมาเยอะเกินไป สภาพจิตใจผมก็เลยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวสักเท่าไร

“รัญ”

“ฮะ… มีไรวะ ภู”

ผมหันไปถามเพื่อนสนิทที่นั่งเรียนอยู่ข้าง ๆ มันมีชื่อว่า ‘ภูมิ์วา’ เป็นเพื่อนกับผมมายี่สิบปีแล้ว เรารู้จักกันตั้งแต่เกิดเลยก็ว่าได้ บ้านอยู่ติดกัน เรียนโรงเรียนเดียวกันแถมยังสอบติดเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันอีก แม้ว่าจะเรียนคนละคณะก็ตาม

พวกเรามาเรียนภาคบ่ายวิชาเดียวกันได้เพราะพวกเราเลือกลงทะเบียนวิชาภาษาอังกฤษเซคเดียวกัน

“มึงไหวปะเนี่ย”

“แล้วคิดว่าไง” ผมถามทั้งที่ตาสองข้างยังบวมเป่ง

“กูบอกละ สุดท้ายเดี๋ยวก็เลิก”

“แต่ก็ยังคบมาได้ตั้งเจ็ดปีนะมึง”

“นั่นเพราะมึงยื้ออยู่คนเดียวไง”

นั่นสินะ ที่ผ่านมา เป็นผมเองที่พยายามอยู่คนเดียว

“นั่นสินะ”

“กูดีใจนะ ที่มึงตาสว่างได้สักที”

“ไอ้ภู นี่มึงด่ากูเหรอ”

“กูเพื่อนรักมึงนะ”

ผมกำลังจะดีใจที่อย่างน้อยก็มีไอ้ภูอยู่ข้าง ๆ เสมอ ดวงตาแววประกายขึ้นมาก่อนที่แสงจะดับลงเมื่อมันพูดต่อว่า

“กูก็ต้องด่ามึงอยู่แล้ว”

“ไอ้ห่า”

ผมด่าไอ้เพื่อนรักที่กำลังหัวเราะร่วน มุมปากของผมขยับยกขึ้นหัวเราะตามมันเบา ๆ

“ยิ้มได้สักทีนะมึง”

“ขอบใจมึงมากนะ ที่อยู่ข้างกูเสมอ”

หลังจากที่เรียนวิชาภาษาอังกฤษเสร็จ ผมก็แยกกับไอ้ภู แม้มันจะเป็นห่วงผมเพราะกลัวว่าจะกลับไปทำเรื่องบ้า ๆ แต่สุดท้ายมันก็ยอมให้ผมกลับไปคนเดียวเพราะมันมีเรียนต่อ

อืม… ก็นั่นแหละ

ผมดูเวลาบนหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง ตอนนี้บ่ายสามแล้ว ไปเก็บของที่ร้านพี่นัทดีกว่า

 

 

 

“:♡•♬✧⁽⁽ଘ (ˊᵕˋ) ଓ⁾⁾*+:•*∴

จริง ๆ ภูก็ห่วงเพื่อน แต่เรื่องเรียนต้องมาก่อน 😆