นี่เป็นรอบที่ 7 แล้วที่ผมวนกลับมาเล่นฉากนี้ และมันกำลังจะจบลงด้วยการที่ผมถูกฆ่าอีกครั้ง — Lucky seven ทั้งทีลองทำอะไรที่ต่างออกไปดีไหมนะ ลอง 'ยั่ว' ฆาตกรสักหน่อยดีกว่า…
แฟนตาซี,ระทึกขวัญ,ชาย-ชาย,เลือดสาด,ดาร์ค,เกม,ติดลูป,เกมสยองขวัญ,ติดอยู่ในเกม,เกมเมอร์,ฆาตกร,ผู้รอดชีวิต,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Dead Trap เกมสยอง กับดักมรณะนี่เป็นรอบที่ 7 แล้วที่ผมวนกลับมาเล่นฉากนี้ และมันกำลังจะจบลงด้วยการที่ผมถูกฆ่าอีกครั้ง — Lucky seven ทั้งทีลองทำอะไรที่ต่างออกไปดีไหมนะ ลอง 'ยั่ว' ฆาตกรสักหน่อยดีกว่า…
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มีการใช้ถ้อยคำหยาบคาย, มีการบรรยายฉากการฆ่า, เลือด, ความรุนแรง และบรรยายฉากการร่วมเพศที่ละเอียด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
'อารัญ' นักศึกษาชีวิตอาภัพที่หลุดเข้าไปในเกมสยองขวัญ ทุกครั้งที่ถูกฆาตกรฆ่า เกมจะรีเซตกลับมาที่จุดเริ่มต้น ทางเดียวที่จะหยุดลูปนรกและออกจากเกมได้ คือต้องกำจัดฆาตกร
•
•
•
•
•
ถ้าพร้อมแล้ว ขอให้สนุกกับเกม Dead Trap ค่ะ
สวัสดีเช้าวันใหม่อันสดใสแต่แสนปวดเอว ตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับพี่รามิล ผมก็โดนจัดหนักทุกวันเลยครับ หนักถึงขั้นที่ว่าไอ้ภูเป็นห่วงสภาพที่ล่อแล่เหมือนศพเดินได้ของผม
ก็ว่าไป มันไม่ขนาดนั้นหรอกครับ
ผมมองแฟนที่กำลังยกป้ายบอกเมนูไปวางที่หน้าร้าน พอเห็นแบบนั้นผมก็อดยิ้มไม่ได้ วันก่อนผมเสนอพี่เขาไปว่าร้านของเราควรจะมีพวกขนมเค้กหรือเบเกอรี่มากินคู่กับกาแฟบ้าง ทีแรกผมคิดว่าพี่เขาคงจะปฏิเสธ แต่พี่รามิลกลับตอบตกลงทันทีเลย
แบบนั้นไม่รู้จะทำให้ผมเสียคนหรือเปล่า เพราะไม่ว่าผมจะขออะไร พี่เขาก็จะหามาให้หมด
กรุ๊ง กริ๊ง
ไอ้ภูเปิดดันประตูกระจกเข้ามาก่อนจะยกมือทักทายผม
“หวัดดีมึง โทรมเหมือนเดิม”
“มึงก็โทรมเหมือนกันนั่นแหละ”
ใช่ครับ อย่างที่ผมเพิ่งพูดไปนั่นแหละ คนที่สภาพเหมือนศพเดินได้ ไม่ได้มีแค่ผมหรอก ไม่รู้ว่าช่วงนี้ไอ้ภูไปทำอะไรมา หน้าตามันถึงได้ดูหมองขนาดนี้
ผมมองขอบตาที่ดำคล้ำของมัน ก่อนจะรีบไล่ให้มันไปเปลี่ยนชุดได้แล้ว จะได้รีบออกมาทำงาน เพราะอีกไม่นานก็จะถึงเวลาเปิดทำการของร้าน
วันนี้พี่รามิลบอกว่าจะมีเพื่อนมาหาด้วย ก็เลยรีบมาเปิดร้านก่อน เพราะกลัวว่าถ้าเปิดตามเวลา เดี๋ยวพอลูกค้ามาจะไม่ได้คุยกัน สงสัยจังว่าเพื่อนพี่เขาจะเป็นคนแบบไหน จะเป็นคนโหดเหมือนพี่รามิล? หรือจะเป็นคนใจดีเหมือนพี่นัท? พี่รามิลเล่าให้ผมว่าฟังในกลุ่มเพื่อนสนิทของพี่เขานั้นมีกันอยู่สามคน คือ พี่รามิล พี่นัท และอีกคนหนึ่ง แต่พี่รามิลไม่ได้บอกผมว่าพี่คนนั้นชื่ออะไร พี่เขาแค่เตือนผมกับไอ้ภูว่า
‘อย่าไปยุ่งกับมัน’
ทั้ง ๆ ที่เตือนแบบนั้น แต่พี่รามิลกลับเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับเรา
รถเก๋งสีดำจอดลงที่หน้าร้าน ประตูรถถูกเปิดออกมาพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่งที่ตัดผมทรงวูฟคัท พี่รามิลโบกมือให้ ส่วนพี่คนนั้นก็เดินเข้ามาตบไหล่ทักทายพี่รามิล ก่อนจะพากันเปิดประตูเข้ามาด้านใน
คนนั้นแน่เลย เพื่อนอีกคนหนึ่งของพี่รามิล
“มึงหายหัวไปไหนมาวะ ไอ้มิล”
“กูติดเกมว่ะ”
“นี่มึงติดเกมเป็นเดือน จนไม่ทำมาหากินเลยเหรอ”
“เออ... กูก็ไม่ได้อยากจะติดไอ้เกมเวรนี่นักหรอก”
พี่รามิลพาเพื่อนคนนั้นไปนั่งที่โต๊ะติดเคาน์เตอร์ ก่อนจะหันมาบอกผมให้ชงอเมริกาโน่ให้หน่อย ผมมองสองคนนั้นแลกเปลี่ยนบทสนทนาพลางคิดในใจว่า เพื่อนพี่เขาก็ดูปกตินี่ ทำไมถึงเตือนพวกเราว่าอย่าไปยุ่ง
“เหรอ” เพื่อนพี่เขาหัวเราะก่อนจะพูดต่อ “ว่าง ๆ มาเล่นเกมกับกูบ้างดิ”
“ไม่ว่ะ ช่วงนี้กูไม่มีอารมณ์”
“เอ้า ทำไมวะ”
ผมยกแก้วกาแฟอเมริกาโน่ไปเสิร์ฟที่โต๊ะ พี่รามิลรับแก้วไปจากมือผมก่อนจะยื่นมันส่งให้เพื่อนพี่เขา จากนั้นก็จับมือผมไปถูแก้มตัวเองเบา ๆ ก่อนจะตอบเพื่อนของตัวเองไปว่า
“เพราะตอนนี้กูมีอารมณ์กับอย่างอื่น”
ผมตีไหล่พี่เขาเบา ๆ เพราะจู่ ๆ ก็พูดอะไรน่าไม่อายออกมา ส่วนคนต้นเรื่องก็หัวเราะชอบใจ ทางด้านเพื่อนพี่รามิลมองผมสลับกับพี่เขาจนตาโต ก่อนจะยิ้มแล้วเหล่ตาแซวพี่รามิล
“มีคนทนปากมึงได้ด้วยเหรอ”
ผมนึกหัวเราะในใจเมื่อได้ยินดังนั้น แต่สีหน้าของผมคงจะเก็บความตลกเอาไว้ไม่มิด พี่รามิลเห็นผมที่เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จึงดึงผมลงมานั่งตัก ก่อนจะซุกเข้าหอมที่คอของผม ผมตกใจก็เลยรีบปรามพี่รามิล แต่คนตัวโตกลับไม่สนใจสิ่งรอบตัวเลยสักนิด แถมยังหันไปพูดกับเพื่อนตัวเองได้อย่างหน้าตาเฉย
“ทำไมจะทนไม่ได้ กับรัญ ฉันพูดเพราะอยู่แล้ว”
“กูเชื่อก็ได้ แต่มึงหยุดทำแบบนี้ก่อนได้ไหม กูยังไม่อยากเห็นฉากต่อไป”
พี่รามิลหัวเราะก่อนจะปล่อยให้ผมลุกในที่สุด แต่ทว่ามือหนายังจับข้อมือของผมไว้อยู่ไม่ยอมให้กลับเข้าเคาน์เตอร์เสียที
“นี่รัญ แฟนกู”
“อืม ไม่บอกก็รู้” เพื่อนพี่รามิลส่งยิ้มก่อนจะหันมาทักทายผม “สวัสดีครับ พี่ชื่อเธียรไธ เรียกว่าพี่เธียรเฉย ๆ ก็ได้”
“ครับ พี่เธี...”
ผมกำลังจะตอบ แต่ก็ถูกพี่รามิลขัดจังหวะไว้เสียก่อน
“เพื่อนครับ นี่แฟนกู”
“กูก็แค่แนะนำตัว”
“แนะนำตัวอ่ะได้ แต่ระวังสายตามึงด้วย”
พี่เธียรยิ้มและขยิบตาให้ผม ส่วนพี่รามิลพอเห็นดังนั้น ก็รีบดันผมออกไปให้กลับไปอยู่ที่เคาน์เตอร์ ทางด้านพี่เธียรเมื่อเห็นอาการของพี่รามิลก็ขำยกใหญ่
“กูแหย่มึงเล่นเฉย ๆ ใครจะคิดว่าคนอย่างมึงพอมีแฟน จะขี้หึงขนาดนี้วะ”
“เพราะกว่าจะได้มา มันยากลำบาก”
พี่รามิลยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหันไปคุยเรื่องสัพเพเหระกันต่อ
ไอ้ภูเปลี่ยนชุดเสร็จพอดีเลย มันเดินออกมาหาผมก่อนจะสะกิดแขนผมแล้วกระซิบถามว่า
“มึง ๆ คนนั้นใครวะ”
“นั่นพี่เธียร เป็นเพื่อนพี่รามิล”
ไอ้ภูร้องอ๋อ ก่อนจะบ่นอุบอิบ
“คนที่พี่รามิลบอกว่าจะมาหาอ่ะนะ โคตรหล่อเลยว่ะ เพราะแบบนี้เลยบอกไม่ให้เราเข้าไปยุ่งเหรอ หวงเพื่อนจังวะ”
ผมมองไอ้ภูที่กำลังจ้องพี่เธียรตาเป็นมัน
“เช็ดปากด้วย น้ำลายจะไหลแล้ว”
ไอ้ภูรีบหุบปากที่กำลังอ้าค้างทันที
“เออ ไอ้รัญ กูถามอะไรมึงหน่อยดิ”
“ถามมาดิ”
“มึงเคยเจอเรื่องเหนือธรรมชาติไหมวะ”
มันถามผมด้วยสีหน้าของคนที่เหมือนเพิ่งเจอผีหลอกมา ผมเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะคิดย้อนถึงเรื่องตัวเองว่า ไอ้ที่หลุดเข้าไปติดอยู่ในเกมนี่ก็นับเป็นหนึ่งในเรื่องเหนือธรรมชาติหรือเปล่า
“เคย”
ไอ้ภูถอนหายใจ ก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบา ๆ
“แสดงว่ามีอยู่จริงสินะ”
“อะไรมีอยู่จริงวะ”
“จะว่ายังไงดี... ก็แบบเรื่องเหนือธรรมชาติ... อย่างวิญญาณ”
ผมกลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่ ก่อนจะมองมันนิ่ง ๆ แล้วถามมันไปตรง ๆ
“มึงเจอผีมาเหรอ”
“ไอ้รัญ! มึงอย่าพูดดัง กูกลัว!”
“โทษทีว่ะ”
ไอ้ภูทำหน้าเครียด มองซ้ายมองขวาก่อนจะลูบต้นคอและบ่าของตัวเอง กระทั่งมันเหลือบไปเห็นว่าพี่เธียรดื่มกาแฟจนหมดแก้วแล้ว มันจึงรีบเสนอตัวออกไปเพื่อเก็บแก้วทันที และปล่อยให้ผมยืนงงกับเรื่องที่มันเพิ่งจะขอความเห็น แล้วคิดในใจว่าทำไมมันเปลี่ยนอารมณ์ได้ไวขนาดนี้
ไอ้ภู มึงนี่น้า เห็นผู้ชายหล่อเป็นไม่ได้
“เดี๋ยวผมเก็บให้นะครับ”
ไอ้ภูยิ้มร่าก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบแก้วใส่ถาด ส่วนพี่รามิลก็มองมันด้วยสายตาแบบอิหยังวะ ก่อนจะหันมาขอความเห็นจากผม ผมพยักหน้าให้พี่รามิลเบา ๆ แล้วส่งสายตาเป็นเชิงว่ารู้กัน
พี่เธียรมองมันนิ่ง ๆ ทั้งสองคนมองสบตากันสักพัก ไอ้ภูที่เริ่มกระดากอายจึงหันหลังกลับ แต่ว่าก็ถูกพี่เธียรคว้าข้อมือของมันไว้ก่อน
“ครับ?”
ไอ้ภูเอียงคอถามตีหน้าแสร้งว่าสงสัยงุนงง แต่ว่าผมแอบเห็นมันยิ้มนะ... ก็ไอ้ทริคแบบนี้ของมันนี่ใช้ได้ผลตลอดเลย แต่ต้องมาดูกันแล้วล่ะว่าจะใช้ได้ผลกับพี่เธียรไหม
“น้องครับ...”
พี่เธียรพูดกับมันด้วยน้ำเสียงที่นิ่งต่างจากตอนที่คุยกับพี่รามิล นิ่งเกินไปจนน่าขนลุก
“...พี่ว่าน้องกำลังจะตาย”
“เฮ้ย! ไอ้เธียร มึงไปพูดแบบนั้นกับน้องเขาได้ยังไง”
พี่รามิลรีบปราม ส่วนผมเมื่อเห็นว่าไอ้ภูกำลังเริ่มหน้าซีดก็รีบเดินออกจากเคาน์เตอร์มาหามันทันที
พี่เธียรมองจ้องไอ้ภู แต่ทว่าสายตาที่มองกลับเหมือนไม่ได้มองไอ้ภูอยู่
“ไอ้เธียร”
พี่รามิลเรียกอีกครั้ง พี่เธียรสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะขอตัวกลับก่อนพร้อมกับวางเงินค่ากาแฟไว้บนโต๊ะ
“ไว้เจอกัน ไอ้มิล”
“โอเคมึง โชคดี”
พี่เธียรเดินออกจากร้านไปแล้ว แต่ว่าบรรยากาศภายในร้านไม่ได้ผ่อนคลายขึ้นเลยแม้แต่น้อย ไอ้ภูมองตามหลังพี่เขาพร้อมเนื้อตัวที่สั่นเทา ผมเดาว่ามันต้องไปพบเจอเรื่องอะไรไม่ดีมาแน่ ๆ
“ไอ้ภู มึงไหวไหม”
ผมประคองตัวมันให้นั่งลง
ไอ้ภูถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะพยายามควบคุมจังหวะการหายใจแล้วตั้งสติตัวเอง มันหันมามองผมก่อนจะพูดว่า
“มึงเห็นใช่ไหม พี่เขาไม่ได้มองกู”
ผมพยักหน้าเบา ๆ ส่วนพี่รามิลคนที่เตือนเราว่าอย่าไปยุ่ง ก็ทำหน้าเครียดก่อนจะถามพวกเราว่าเกิดอะไรขึ้น
“ไอ้ภูมันเจอผีมาครับ”
“ไอ้รัญ!”
พี่รามิลถอนหายใจ “ถึงได้บอกว่าอย่าไปยุ่งกับมัน”
ทางด้านพี่รามิลพอเห็นสายตาละห้อยของไอ้ภูก็เริ่มสงสาร ก่อนจะพูดเสียงเรียบ
“แต่ว่าจะโทษภูก็ไม่ได้ เพราะคราวนี้ไอ้เธียรเป็นฝ่ายทักก่อน”
“พี่หมายความว่ายังไงครับ” ผมถามออกไปอย่างสงสัย
“มันมองเห็นอะไรแปลก ๆ มาตั้งแต่เด็กแล้ว คนนอกมองเข้ามาก็จะคิดว่ามันเป็นคนประหลาด”
เพราะแบบนั้น สายตาที่พี่เธียรมองไอ้ภูถึงได้ดูแปลกไปใช่ไหม
“มันไม่ค่อยมีเพื่อน จะมีก็แค่ฉันกับไอ้นัทนี่แหละ”
พี่รามิลตบไหล่ไอ้ภูเบา ๆ ก่อนจะพูดต่อไปอีก
“หลัง ๆ มามันก็ไม่ค่อยทักใครแบบนั้นแล้ว แต่ไม่รู้ทำไม...”
สีหน้าของไอ้ภูเครียดขึ้นจนผมเป็นห่วง มันกำมือแน่นก่อนจะถามพี่รามิลว่า
“แล้วผมควรจะทำยังไงดีครับ”
พี่รามิลมองผมเล็กน้อย ก่อนจะสลับไปมองมัน
“ไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวไอ้เธียรก็ต้องกลับมาช่วย”
“พี่มั่นใจเหรอครับ”
ผมถามออกไปและลูบหลังไอ้ภูเบา ๆ
พี่รามิลพยักหน้าตอบพร้อมกับพูดให้ไอ้ภูสบายใจมากขึ้น แต่ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะสบายใจขึ้นหรือเปล่า...
“อืม มันทนเห็นใครตายไม่ได้หรอก”
NEXT
In Danger สัมผัสมรณะ