"ระหว่างเป็นผู้พิพากษากับเป็นเมียผู้พิพากษาอันไหนเป็นง่ายกว่ากันคะ?" "...เอาเวลาที่จีบฉันไปอ่านหนังสือจะดีกว่าไหม..."

ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก - 13 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก โดย Dogsmile @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ยุคปัจจุบัน,ไทย,ผู้ใหญ่,nc,เย็นชา,เด็กฝึกงาน,ผู้พิพากษา ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ยุคปัจจุบัน,ไทย,ผู้ใหญ่

แท็คที่เกี่ยวข้อง

nc,เย็นชา,เด็กฝึกงาน,ผู้พิพากษา

รายละเอียด

ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก โดย Dogsmile @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"ระหว่างเป็นผู้พิพากษากับเป็นเมียผู้พิพากษาอันไหนเป็นง่ายกว่ากันคะ?" "...เอาเวลาที่จีบฉันไปอ่านหนังสือจะดีกว่าไหม..."

ผู้แต่ง

Dogsmile

เรื่องย่อ

สารบัญ

ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก-1 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก-2 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก-3 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก-4 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก-5 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก-6 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก Nc18+,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก-7 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก-8 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก-9 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก-10 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก-11 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก-12 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก-13 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก-14 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก

เนื้อหา

13 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก

 ลัลน์กับกุลธิดามาถึงศาลก็เป็นเวลาบ่ายโมงแล้ว พระอาทิตย์กำลังขึ้นตรงหัวแผ่กระจายความร้อนไปทั่วทุกอณูจนแสบร้อนผิวไปตามๆ กัน หญิงสาวถือเอกสารสำนวนเดินตามกุลธิดาเข้าศาลไป


 "ลัลน์พี่ฝากไปเลื่อนคดีของเจษที่บัลลังก์ 3 ของท่านณรงค์ให้พี่ที เอาสมุดนัดพี่ไปลงวันให้พี่ด้วยนะ" กุลธิดาไหว้วานพร้อมยื่นเอกสารมาให้เธอเสร็จสรรพก่อนจะเดินจากไปไม่ให้ลัลน์ทักท้วงอันใดได้อีก เสียงข้อความโทรศัพท์แจ้งเตือนขึ้นมา 


 Pkinn: ลุกขึ้นมากินข้าวหรือยัง?


 หาใช่คนอื่นคนไกลที่ไหนแต่เป็นคนที่เธอพยายามหลบหน้าอยู่ในตอนนี้ส่งข้อความมา ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนกีดกันเธอเองรึไงเธอถึงต้องทำตัวแบบนี้กับเขา


 ไม่กี่อึดใจหญิงสาวนั่งทำใจได้แล้ว สูดลมหายใจเข้าหนักๆ ไม่เข้าไปตอบข้อความของเขา เขากับเธอต่างกันเกินไปเขาเป็นถึงผู้พิพากษาจะมาสนใจเด็กกะโปโลอย่างเธอทำไมกัน สู้คบกับผู้พิพากษาด้วยกันจะไม่สมฐานะกว่ากันหรือเมื่อลัลน์ทำใจได้แล้วจึงนั่งตรวจเช็คเอกสารที่จะต้องยื่นเซ็นเอกสารตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนที่จะทำการยื่นเอกสาร


 "หู้ยย ท่านนันท์วันนี้ไปทานข้าวกับท่านคิณณ์มาหรือคะ อย่าบอกนะคะว่าคบกันแล้ว" เสียงวีดว้ายดังขึ้นทางด้านหลังเธอ 


 บทสนทนาที่ทำเอาลัลน์ใจกระตุกเมื่อปรากฏชายหนุ่มที่ชอบพออยู่ในใจนั้นไปทานข้าวกับผู้พิพากษาด้วยกันกุลนันท์ไม่กล่าวตอบอะไรเพียงแต่ยิ้มอย่างขวยเขินก่อนที่จะเดินลับสายตาเธอไป


 พลันรู้สึกเจ็บลึกในหัวใจเมื่อพบว่าท่านคิณณ์ผู้นั้นมีคนที่คบหาด้วยเสียแล้ว ยิ่งทำให้เธอน้ำเอ่อรื้นขอบตา ท่านนันท์ทั้งสวย ร่างเล็กตามรสนิยมของชายไทย ฐานะทางสังคมก็เชิดหน้าชูตาเขาได้เป็นอย่างดี ซึ่งตรงข้ามกับเธอทุกอย่างที่ไม่อาจเชิดหน้าชูตาเขาได้ยังไม่พออาจฉุดรั้งทำให้ชื่อเสียงของเขามัวหมองเสียด้วยซ้ำ


 เมื่อหญิงสาวทำใจได้แล้วจึงเดินเข้าห้องจารณายื่นเอกสารให้แก่เจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ ก่อนจะนั่งลงคนละฝั่งเพื่อไม่ให้ตรงกับเขา


 "ท่านกำลังจะลงมาแล้ว กรุณาปิดเสียงโทรศัพท์และไม่เล่นในระหว่างการพิจารณาคดีนะคะ" เสียงพี่เก๋เจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์เอ่ยเตือนให้ทุกคนเตรียมพร้อม


 หัวใจเธอเต้นตุ้มๆต่อมๆ เพราะไม่อาจทราบได้ว่าท่านคนใดจะลงมาก่อนกัน ถึงแม้จะเตรียมใจมาแล้วก่อนเข้าห้องมาแต่ก็ไม่อาจทำให้เธอรู้สึกพร้อมที่จะเจอหน้าเขา


 ผู้พิพากษาร่างสูงใหญ่ค่อนไปทางเจ้าเนื้อเปิดประตูออกมา ลัลน์ลุกขึ้นยืนทำความเคารพถอดถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอแค่มาเลื่อนคดีคงไม่นานมากนัก ถ้าโชคดีก็คงไม่ต้องพบหน้ากันหากโชคร้ายสักหน่อยก็คงพบเจอกันเพียงครู่เดียวเท่านั้น


 "คดีของนายกุณฑล วิรหเสนา โจทก์ กับนางสาวเพ็ญศรี อ่อนฤทัย จำเลย"


 "ค่ะท่าน"


 "เสมียนทนายรึ" เสียงทุ้มอย่างใจดีหันมองหญิงสาวนักศึกษาซึ่งลุกขึ้นเดินมาคุยกับตน


 "ค่ะท่าน" เสียงหวานตอบท่านอย่างประหม่าที่ต้องมาเจรจากับผู้พิพากษาคนเดียว ถึงแม้ว่าจะมาเพียงเลื่อนคดีก็ตาม


 "ทนายว่าอย่างไร ให้มาเลื่อนคดีเป็นวันไหน"


 "ขอเป็นวันที่ 15 ธันวาคม ช่วงเช้าค่ะท่าน" 


 "ทนายจำเลยสะดวกหรือไม่" ณรงค์หันไปถามทนายความฝ่ายตรงข้าม


 "สะดวกครับท่าน เอาเป็นศาลสั่งอนุญาตให้เลื่อนคดีไปเป็นวันที่ 15 ธันวาคม เวลา 9.00 นาฬิกานะ"


 "ค่ะ/ครับท่าน" เธอและทนายความของจำเลยต่างขานรับท่านณรงค์


 ในขณะที่เธอกำลังจดคดีในสมุดนัดของพี่กวาง ชายหนุ่มตัวต้นเรื่องปัญหาหัวใจของลัลน์ก็เดินออกมานั่งบนบัลลังก์เคียงข้างกับท่านณรงค์ คิ้วหนาขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด สายตาคิณณ์จับจ้องเขม็งดุดันไปยังร่างบาง ที่ตั้งแต่เขาเดินเข้าห้องพิจารณาเธอกลับไม่ชายตามองเขาเลยสักนิด หนีมาฝึกงานพอทำเนา แชทไปถามก็ไม่ตอบ มาเจอเขาในห้องนี้ยังทำเมินเขาอีก!!!


 ลัลน์แสร้งทำตัวปกติไม่หันไปมองสบตาคมที่จ้องมองมาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อเธอ ตัวเองมีแฟนแล้วอยู่แล้วจะมายุ่งวุ่นวายกับเธอไปอีกทำไม หญิงสาวเซ็นรับทราบในกระบวนรายงานพิจารณาเสร็จจึงค้อมศีรษะทำความเคารพศาลก่อนเดินออกจากห้องพิจารณาไป


 "จ้องน้องเขาทำไมสนใจรึเจ้าคิณณ์" ณรงค์กระซิบถามอย่างหยอกเย้า ไม่เคยเห็นท่านคิณณ์ผู้นี้ชายตามองหญิงใด


 "เปล่าครับ" เสียงทุ้มเอ่ยปฏิเสธอย่างเย็นชา หันหน้าเรียกขานคดีของตนต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไว้เขาค่อยไปคิดบัญชีกับหญิงสาวทีหลังแล้วกัน


 เธอเดินตามโถงทางเดินเพื่อไปยังห้องพิจารณาคดีอย่างใจลอย ในหัวใจเจ็บหนึบกับรักครั้งใหม่ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นรักข้างเดียวของเธอฝ่ายเดียวเสียด้วย ลัลน์ทำใจให้มีแรงไล่ความคิดฟุ้งซ่านจะได้เรียนรู้งานอย่างที่ตั้งใจไว้


 "ยื่นเลื่อนคดีให้พี่เจษเขาแล้วใช่ไหมลัลน์" กุลธิดาเอ่ยปากถามเมื่อสาวรุ่นน้องเดินเข้าห้องพิจารณามาทรุดตัวลงนั่งข้างตน


 "เรียบร้อยค่ะพี่กวางลงวันนัดไว้วันที่ 15 ธันวาช่วงเช้าค่ะ" เสียงใสกระซิบตอบกุลนันท์อย่างแผ่วเบา เกรงว่าหากพูดดังกว่านี้ท่านจะเขม่นเธอเอา


 "คดีพี่ของท่านนันท์ รอท่านเรียกไม่นานเราคงได้กลับกัน"


 "ค่ะ" เสียงแผ่วรับอยู่ในลำคอจนกุลธิดาแทบไม่ได้ยินแต่เห็นหญิงสาวพยักหน้าอย่างรับรู้จึงไม่ได้ว่ากล่าวอะไรต่อไป


 เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดของเธอจริงๆ ก่อนหน้านี้เธอไปบัลลังก์ของท่านคิณณ์แฟนของท่านนันท์บัลลังก์นี้พอดิบพอดี ยิ่งเห็นร่างเล็กทะมัดทะแมงในชุดครุยผู้พิพากษาท่วงท่ามีสง่าราศีน่าเคารพช่างเหมาะสมกับท่านคิณณ์เสียนี่กระไร


 ถึงแม้ภายในใจเธอจะถูกบีบคั้นด้วยความเจ็บปวดมากสักเพียงใด เธอก็ต้องยอมรับในความแตกต่างนี้ในส่วนที่เธอไม่อาจเป็นให้เขาคนนั้นได้ ถึงว่าเมื่อคิณณ์ถึงผลักไสเธอเช่นนั้นเพราะเขามีคนของใจของเขาอยู่แล้ว เธอคงเป็นเพียงดอกไม้ริมทางที่เขาแวะมาเชยชม


 ดวงตากลมโตหวานฉายแววเศร้าหมอง ก้มหน้างุดกัดริมฝีปากล่างอย่างแรงพลางกลั้นน้ำตาที่รื้นขังคลอหน่วยตา เสียงของกุลนันท์ดังขึ้นตลอดการพิจารณายิ่งทำให้ตอกย้ำความคิดเกินเลยของเธอหัวใจเจ็บปวดรวดร้าวราบกับมีเข็มนับหมื่นมาทิ่มแทงหัวใจ แต่เธอก็ต้องฝืนทนฟังไปจนเสร็จสิ้นกระบวนพิจารณา


 "เป็นไงบ้างลัลน์น่าเบื่อจนหาวตาแดงเลยรึ" กุลธิดาเอ่ยหยอกเย้าหญิงสาวอย่างเอ็นดูเมื่อหันมาพบว่าสาวน้อยดวงตาแดงกร่ำ การพิจารณาคดีในศาลไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจหากไม่ได้ซักค้านพยานแล้วก็ล้วนน่าเบื่อทั้งสิ้น คงเป็นเหตุให้ลัลน์นั่งง่วงในห้องพิจารณา


 "นิดนึงค่ะ" เสียงหัวเราะกลบเกลื่อนความรู้สึกในใจ ดีแล้วที่พี่กวางคิดเช่นนั้น เธอจะได้ไม่ต้องนั่งคิดเหตุผลมาโกหกพี่เขา


 "แล้วเราจะกลับหอพักเลยไหมพี่จะได้เลยไปส่งเราด้วย"


 "ไม่เป็นไรค่ะพี่กวาง เดี๋ยวลัลน์ต้องเข้าสำนักงานไปเก็บของอีกไม่รบกวนพี่กวางค่ะ"


 "ขยันฝึกไปไหนจ้ะหนูลูก ค่อยๆเป็นค่อยๆไปก็ได้ รีบไปก็เครียดเปล่านะจ้ะ"


 "คิกๆ พี่กวางก็ว่าไปนั่น" หญิงสาวหัวเราะร่อกับการหยอกล้อของกุลธิดาอย่างขำขัน ถึงแม้ชีวิตรักไม่สมหวังแต่คนรอบข้างเมตตาเอ็นดูเธอก็รู้สึกว่าชีวิตนี้แสนจะโชคดีแล้ว


 ลัลน์ถึงหอพักเป็นเวลาบ่ายสามโมงกว่า เมื่อกลับจากศาลมาถึงสำนักงานพี่ๆต่างบอกให้เธอกลับไปพักผ่อน ไม่มีงานอะไรให้เธอทำแล้ว พี่เจษเองก็คะยั้นคะยอให้เธอกลับไม่งั้นเขาจะไปส่งถึงหอ เมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธได้จึงจำใจที่จะต้องเลิกงานแล้วนั่งรถกลับหอมาก่อนเวลาเลิกงาน


 หญิงสาวทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาแหงนหน้ามองเพดานห้องสีขาวอย่างใช้ความคิดราวกับว่าจะพบคำตอบบนเพดาน ในความเงียบงันของห้องมีเพียงเสียงพัดลมเปิดให้ความเย็นแก่ร่างบางเท่านั้น น้ำตาเอ่อคลอด้วยความรู้สึกไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ 


 Pkinn: เลิกงานกี่โมง เดี๋ยวไปรับ


 เสียงข้อความจากบุคคลที่เธอไม่อยากติดต่อด้วยในตอนนี้แจ้งเตือนบนหน้าจอ ในเมื่อเขามีคนรักอยู่แล้วทำไมไม่ไปส่งท่านนันท์จะมาวอแวให้เธอหัวใจสั่นไหวทำไม


 ลัลน์ปิดเสียงโทรศัพท์ก่อนที่จะหลับตาเอนหลังราบไปกับโซฟา น้ำตาที่พยายามอดกลั้นไว้ไม่ให้ไหลออกมา บัดนี้ได้ไหลนองอาบสองแก้มจนหมอนตรงนี้นเป็นวงเล็กๆ ก่อนที่หญิงสาวจะผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย