"ระหว่างเป็นผู้พิพากษากับเป็นเมียผู้พิพากษาอันไหนเป็นง่ายกว่ากันคะ?" "...เอาเวลาที่จีบฉันไปอ่านหนังสือจะดีกว่าไหม..."

ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book] - 39 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก โดย Dogsmile @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ยุคปัจจุบัน,ไทย,ผู้ใหญ่,nc,เย็นชา,เด็กฝึกงาน,ผู้พิพากษา ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ยุคปัจจุบัน,ไทย,ผู้ใหญ่

แท็คที่เกี่ยวข้อง

nc,เย็นชา,เด็กฝึกงาน,ผู้พิพากษา

รายละเอียด

ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book] โดย Dogsmile @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"ระหว่างเป็นผู้พิพากษากับเป็นเมียผู้พิพากษาอันไหนเป็นง่ายกว่ากันคะ?" "...เอาเวลาที่จีบฉันไปอ่านหนังสือจะดีกว่าไหม..."

ผู้แต่ง

Dogsmile

เรื่องย่อ

สารบัญ

ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-1 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-2 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-3 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-4 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-5 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-6 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก Nc18+,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-7 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-8 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-9 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-10 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-11 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-12 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-13 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-14 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-15 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก Nc25+,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-16 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก Nc25+,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-17 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-18 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-19 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-20 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-21 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-22 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-23 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-24 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-25 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-26 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-27 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก Nc18+,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-28 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 28 Nc25+,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-29 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-30 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก ,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-31 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-32 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-33 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-34 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-35 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-36 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก Nc25+,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-37 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก Nc25+,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-38 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-39 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-40 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-41 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก,ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก [E-book]-42 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก Nc25+

เนื้อหา

39 ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก

 ปัง!

 เมื่อหญิงสาวเปิดประตูเข้ามาเสียงประทัดดังลั่นไปทั่วสำนักงาน ทำให้ลัลน์ที่กำลังจะก้าวเข้ามาในห้องหยุดชะงัก หญิงสาวเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เศษพลาสติกหลากสีปลิวว่อนเต็มอากาศราวกับฝนทำให้ทั้งสำนักงานเลอะเทอะอย่างช่วยไม่ได้


 “เฮ้! สุขสันต์วันคล้ายวันเกิดนะลัลน์!” เสียงทักดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มกว้างจากพี่ๆทั้งสาม ตรงกลางห้องมีเนตรนภาเดินถือเค้กวันเกิดเดินตรงเข้ามาหาเธอ น้ำตาคลอเบ้าในดวงตาของลัลน์อย่างห้ามไม่อยู่ เธอรู้สึกซาบซึ้งใจกับความตั้งใจของพี่ๆ 


 หญิงสาวยืนนิ่งมองเค้กวันเกิดตรงหน้า เค้กช็อกโกแลตบัตเตอร์ครีมขนาด 2 ปอนด์ ประดับด้วยเฟอร์เรโร รอชเชอร์เรียงรายอย่างสวยงาม และบนยอดเค้กยังมีสตรอว์เบอร์รีสดสีแดงเพิ่มความหรูหรายืนมองเค้กช็อกโกแลตบัตเตอร์ครีม 


 “เป่าสิลัลน์ ก็อย่าลืมอธิษฐานด้วยล่ะ” กุลธิดาเมื่อเห็นน้องเล็กยืนนิ่ง เพลงจบแล้วก็ยังไม่เป่าเค้กเสียที เนตรนภาส่งเค้กให้นานแล้วจนกล้ามจะขึ้นจึงเอ่ยเตือนให้หญิงสาวเป่าเค้ก


 “ขอบพระคุณพี่ๆมากเลยนะคะ ไม่เห็นต้องลำบากกันเลย” ลัลน์หลุดจากภวังค์ ยิ้มบางๆ ก้มหน้าเป่าเทียนบนเค้กที่พี่ๆเตรียมมาให้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาด้วยดวงตาเป็นประกาย รอยยิ้มของเธอเต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ


 “วันเกิดเมียเพื่อนทั้งที ต้องให้ความสำคัญหน่อยสิ” เจษฎาเอ่ยอย่างหยอกเย้าติดตลก เล่นทำเอาทั้งห้องหัวเราะกันครืน แต่เมื่อคนตัวเล็กได้ยินเจษฎาเอ่ยถึงบุคคลที่สามที่ทำให้เธอเสียใจเมื่อเช้า พาใจกระตุก แต่ฝืนหยอกเย้าเจษฎากลับไปอย่างไม่มีอะไร


 “นี่ถ้าหนูไม่ใช่แฟนพี่คิณณ์ พี่เจษก็จะไม่ฉลองให้หนูงั้นเหรอคะ” ใบหน้าหวานยิ้มรับบางๆ พลางตอบกลับไปอย่างแสร้งสนุก ในใจกลับกระตุกเบาๆ เมื่อได้ยินชื่อของเขาบุคคลที่ทำให้เธอเสียใจก่อนที่จะขึ้นมานี้เอง


 “ลัลน์ เธอไม่ใช่สาวๆในสต็อกของเขา อย่าหวังเลยว่าจะได้” กุลธิดาเอ่ยขัดหนุ่มรุ่นน้องที่ทำตัวเป็นพ่อพวงมาลัยลอยชาย


 “โห พี่กวางก็พูดเกินไปครับ วันเกิดพี่ผมนี่ไม่เคยลืม” เจษฎารีบแก้ตัว ก่อนจะยักคิ้วให้กวางอย่างทะเล้น


 “แล้วพี่เกิดวันไหนก่อน” เสียงทวงถามว่าจำวันเกิดของตนได้หรือไม่ดังขึ้น พร้อมยกคิ้วสูงใส่ ทำเอาเจษฎาที่เพิ่งพูดอวดเมื่อครู่ถึงกับชะงัก ดวงตาคู่คมเลิ่กลั่กเล็กน้อย


 “เอ้า! นี่ลัลน์ พี่ซื้อมาให้เป็นของขวัญวันเกิด เห็นปุ๊บก็คิดถึงลัลน์เลยนะ ไม่ต้องสนใจพี่กวางแล้ว” เจษฎาพยายามหาคำตอบ แต่เหมือนสมองจะไม่อำนวยนักตอนว่าความมันก็แล่นดีอยู่หรอก แต่พอมาเจอการคาดคั้นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆแบบนี้ผู้ชายอย่างเขาจะไปจำได้อย่างไรกัน ก่อนจะก็รีบคว้าตุ๊กตาสุนัขไซบีเรียนตัวใหญ่ข้างตัว ยื่นไปให้ลัลน์พร้อมรอยยิ้มกลบเกลื่อน


 “โอ๊ย ตลกจริงๆ ลืมวันเกิดฉันแล้วยังกล้าเฉไฉอีก” ทุกคนในห้องระเบิดเสียงหัวเราะเมื่อเห็นท่าทีเฉไฉของเขา กวางส่ายหัวพลางหัวเราะ 


 “ขอบคุณนะคะพี่เจษ”ลัลน์รับตุ๊กตามากอดแนบอกพร้อมรอยยิ้มที่กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง 


 “อ่ะนี่ของพี่” เนตรนภาและกุลธิดาต่างยิ้มและส่งของขวัญในส่วนของตนให้แก่หญิงสาว


 “ขอบคุณค่ะพี่นก พี่กวาง” นักศึกษาสาวยิ้มกว้างขึ้นมาอีกครั้งในขณะที่รับของขวัญจากทั้งสองคน ความอบอุ่นจากพี่ๆ ทำให้เธอรู้สึกดีใจและซาบซึ้งใจไม่น้อยจนเธอฉีกยิ้มกว้างอย่างมีสุข


 “แล้วคุณเจ้าของสำนักงานคะ กรุณารับผิดชอบเก็บกวาดไอเดียของคุณด้วยค่ะ สกปรกไปทั้งสำนักงานแล้ว” กุลธิดาแกล้งบ่นพลางหันไปมองเจษฎาที่ทำให้สำนักงานยุ่งเหยิงด้วยประทัดและเศษพลาสติกต่างๆ ที่ปลิวไปทั่ว


 “โห่พี่กวาง” เจษฎาโอดครวญออกมาเสียงเบา พร้อมท่าทางที่แกล้งทำเป็นทุกข์ใจ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้ดีว่าคงไม่มีทางเลือกอื่นให้แก่เขาเสียแล้ว


 “ไม่ต้องมีต่อรองรีบเก็บค่ะ จะได้ทำงานกันต่อ” กุลธิดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความเด็ดขาดแต่หางเสียงนั้นกับแฝงไปด้วยอารมณ์ขัน ซึ่งทำให้ทั้งห้องหัวเราะกันเกรียว


 “ค้าบบบ” ชายหนุ่มตอบรับคำสั่งอย่างไม่เต็มใจนัก เดินห่อไหล่หลังตกอย่างห่อเหี่ยวไปหยิบไม้กวาดมาทำความสะอาด ตัวเขาเป็นเจ้าของสำนักงานแล้วอย่างไร รับผิดชอบคดีหลักแสนหลักล้านแล้วอย่างไรก็ต้องยอมให้กับสาวๆในสำนักงาน


 “ทำไปเถอะนะ พี่เจษ” เนตรนภาหัวเราะออกมาพร้อมยิ้มกว้าง เมื่อเห็นเจษฎาเดินห่อไหล่ไปทำความสะอาด เธอรู้ดีว่าเจ้าตัวไม่ได้อยากทำเท่าไร แต่ก็ยังต้องยอมรับการเล่นสนุกของพวกเธอ


 บรรยากาศในห้องเริ่มกลับมาครื้นเครงอีกครั้ง เสียงหัวเราะของสาวๆ ยังคงดังไปทั่วห้อง เมื่อเห็นเจษฎาที่ต้องทำตามคำสั่งอย่างจำใจ หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายไปทำงานตามปกติ ลัลน์ก็กลับไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง เสียงเครื่องพิมพ์และการพูดคุยเล็กน้อยดังข้างๆ ทำให้บรรยากาศของการทำงานในสำนักงานกลับมาเป็นปกติดังเช่นเคย


  

 “ลัลน์มาเขียนเอกสารให้พี่หน่อย เดี๋ยวพี่เรียงเอกสารก่อน” เจษฎาซึ่งกำลังวุ่นวายกับกองเอกสารของตน เรียกนักศึกษาสาวของเขามาช่วยปั๊มช่วยเขียนเอกสารเช่นเคย ไหนเขาจะต้องดูแลลูกความอีก ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะประเดประดังเข้ามาในวันเดียว จนทำให้วันนี้เป็นวันที่วุ่นวายของเขาเสียเหลือเกิน


 “ได้ค่ะ” ลัลน์พึ่งเดินเข้ามาในห้องพิจารณาได้ไม่ทันไร ลัลน์ตอบรับเสียงเรียกของเจษฎาทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในห้องพิจารณา ร่างเล็กยังไม่ทันได้หายเหนื่อยดี ก็ต้องก้มหน้าก้มตาลงมือจัดการเอกสารช่วยเจษฎา ท่วงท่าของเธอดูคล่องแคล่วกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด บัดนี้เธอแทบไม่ต้องสอบถามหรือรอคำสั่งจากพี่ๆ ทนายอีกต่อไป เพียงแค่ได้รับมอบหมาย เธอก็ลงมือทำในส่วนของตนได้อย่างเป็นระบบ


 “ลูกความมาแล้วใช่ไหมลัลน์?” เจษฎาเอ่ยถามทั้งที่มือยังพลิกสำนวนเอกสารตรงหน้า ร่างสูงดูรีบเร่งจนแทบไม่มีเวลาเงยหน้าขึ้นมามองหญิงสาว


 “มาแล้วค่ะ อยู่หน้าห้องค่ะ” ลัลน์หันมาตอบเจษฎาเมื่อเธอเป็นคนไปรับลูกความขึ้นมาเอง เนื่องจากทางขึ้นมาค่อนข้างซับซ้อน จึงเป็นอีกหน้าที่หนึ่งที่เธอมักทำประจำ


 “ท่านจะลงแล้วนะคะ กรุณาปิดเสียงโทรศัพท์และห้ามใช้โทรศัพท์ในเวลาพิจารณานะคะ” เสียงหน้าบัลลังก์ขานให้ทุกคนเริ่มเตรียมพร้อม บรรยากาศในห้องพิจารณาเริ่มตึงเครียดขึ้น ทนายความต่างเร่งสวมชุดครุยเตรียมเข้าปฏิบัติหน้าที่ เจษฎาเองแม้จะง่วนอยู่กับกองเอกสารตรงหน้าก็ไม่ลืมที่จะจัดตัวเองให้เรียบร้อยเช่นเดียวกัน


 “ทุกคนยืนค่ะ” เสียงพี่เก๋เจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ 4 เอ่ยขึ้นเมื่อได้ยินเสียงประตูจากอีกฟากหนึ่งเปิดออก ลัลน์ที่กำลังจัดการเอกสารอยู่ต้องรีบวางมือ ลุกขึ้นยืนพร้อมคนอื่นเพื่อทำความเคารพสายตาของเธอพลันหยุดนิ่งเมื่อเห็นบุคคลที่เดินเข้ามา


 ไม่ใช่ใครอื่นใดท่านคิณณ์ ผู้พิพากษาประจำบัลลังก์ 4 และคนรักของเธอเองนั่นเอง หัวใจของลัลน์สั่นไหวเล็กน้อย เมื่อเขาก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ด้วยท่วงท่ามั่นคงและสง่างามในชุดครุยผู้พิพากษา


 “เชิญนั่งครับ” เมื่อชายหนุ่มเอ่ยเสียงทุ้มติดเย็นชา บรรยากาศในห้องพิจารณากลับมาสงบนิ่ง ร่างบางของลัลน์รีบทิ้งตัวนั่งลงพร้อมกับก้มหน้าจัดการเอกสารตรงหน้าต่อไป ราวกับใช้มันเป็นเกราะกำบังความวุ่นวายในใจ โชคดีที่เจ้าของสำนวนวันนี้ไม่ใช่ท่านคิณณ์ ไม่เช่นนั้นคงได้โดนเอ็ดกันถ้วนหน้า


 ลัลน์ยังคงยุ่งอยู่กับกองเอกสารจนไม่ได้เงยหน้าขึ้นสังเกตความเปลี่ยนแปลงรอบตัว เสียงฝีเท้าบางเบาที่เดินเข้ามาพร้อมบุคคลใหม่ไม่ได้ดึงความสนใจของเธอไปแม้แต่น้อย เนื่องด้วยปกติแล้วห้องพิจารณามีคนเข้าออกเป็นว่าเล่นอยู่แล้ว หากแต่ในเวลาเดียวกันหนูนาซึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับอัยการหนุ่มหน้าตาคมคายสะดุดตา กลับเป็นจุดที่หลายคนในห้องพิจารณาเริ่มจับตามอง


 สายตาของคนรอบข้างมองไปยังชายหนุ่มที่ดูโดดเด่นในชุดครุยเช่นเดียวกันกับทนายความ หากมีความแตกต่างเพียงตรงที่สำนวนนั้นหน้าปกเป็นสีน้ำตาล นอกจากนั้นก็ไม่อาจแยกออกได้ถ้าไม่รู้จักกัน หญิงสาวยังคงตั้งหน้าตั้งตาเขียนเอกสาร โดยไม่รู้เลยว่าเพื่อนสนิทของเธอได้กลายเป็นจุดสนใจของคนทั้งห้องไปเสียแล้ว


 “คดีของพนักงานอัยการกับนายวรวุฒิ พุฒิสารชัย จำเลย” เสียงทุ้มที่เต็มไปด้วยอำนาจและความสุขุมดังขึ้นจากบัลลังก์ ร่างบางของลัลน์ที่กำลังก้มหน้าจัดการเอกสารสะดุ้งเล็กน้อย เธอเงยหน้าขึ้นมองไปยังอัยการที่ลุกขึ้นยืน พร้อมกับจำเลยซึ่งถูกใส่กุญแจมือแน่นโดยมีตำรวจยืนประกบอยู่ด้านข้าง


 ภาพจำเลยที่ถูกคุมตัวและมองด้วยสายตาว่างเปล่า ทำให้หัวใจของลัลน์เต้นแรงอย่างไม่อาจควบคุม ความเงียบสงัดในห้องพิจารณาเพิ่มความกดดันในจิตใจของเธอ แม้จะมาศาลเป็นเวลาหลายเดือนแล้วก็ตาม ก็ไม่อาจทำให้ความหวาดหวั่นที่เกาะกุมในจิตใจลดน้อยถอยลงตามไปด้วย 


 เมื่อจัดการเอกสารเสร็จลัลน์ลุกขึ้นเดินไปยื่นสำนวนให้พี่เก๋ที่โต๊ะหน้าบัลลังก์ เมื่อหันตัวจะไปนั่งก็พบกับหนูนาที่นั่งอยู่ด้านหลังห้องอยู่แล้ว ร่างบางจึงก้าวขาไปนั่งกับเพื่อนเธอเพื่อเฝ้าดูการพิจารณาคดีอย่างเงียบๆ ตั้งแต่ที่คิณณ์เดินเข้ามาเธอไม่ได้มองเขาเลย เนื่องจากเร่งมือทำเอกสารให้แก่เจษฎาซึ่งขณะนี้กำลังไปซักซ้อมพยานอยู่นอกห้อง 


 “ผู้เสียหายมาไหมครับท่าน” คิณณ์หันไปเอ่ยถามอัยการที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ด้วยน้ำเสียงเรียบ


 “มาครับ คุณพ่อเชิญครับ” อัยการหนุ่มหันไปตอบอย่างนอบน้อม ก่อนจะหันไปเรียกชายสูงวัยรูปร่างผ่ายผอมที่นั่งรออยู่ด้านหลังให้เดินมายังคอกพยาน


 “เล่าให้ศาลฟังสิว่าเหตุเกิดขึ้นอย่างไร” ชายหนุ่มซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้พิพากษามองชายสูงวัยอย่างพิเคราะห์ ก่อนจะเอ่ยถามชายสูงวัยด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่หนักแน่น


 “วันนั้นเวลาบ่ายๆ ลุงนั่งดูทีวีอยู่ในบ้าน แล้วลูกลุงก็ขี่รถมาขอตัง 30 บาท บอกว่าจะเอาไปเติมน้ำมัน พอลุงไม่ให้ลูกชายเลยเอาไม้เบสบอลที่อยู่แถวนั้นตีลุง” ชายสูงวัยรูปร่างผ่ายผอมที่อยู่ในคอกพยาน ก้มหน้าลงเล็กน้อย ขณะที่พูดน้ำเสียงของเขาเจือความเศร้าหนักแน่น ชายสูงวัยก้มหน้าลงเล็กน้อย รวบรวมสติ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้งแต่ชัดเจน 


 “วันนั้นเวลาบ่าย ๆ ครับ ผมนั่งดูทีวีอยู่ที่บ้านตามปกติ...” เขาหยุดพูดครู่หนึ่งราวกับภาพความทรงจำอันเจ็บปวดกำลังย้อนกลับมา 


 “ผมไม่ได้ให้ครับ เพราะวันนั้นผมไม่มีเงินติดตัวเลยจริง ๆ...” น้ำเสียงของเขาเริ่มสั่นไหวเล็กน้อย ดวงตาฉายแววเจ็บปวด 


 “พอผมบอกว่าไม่มีเงินให้ เขาก็เริ่มโวยวายขึ้นมา...” คิณณ์หน้าตึงขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว ก่อนที่จะกลับมาเรียบเฉยดังเดิม


  “ตอนนั้นลุงก็พยายามพูดให้เขาใจเย็นลง แต่ไม่ทันไรลูกชายลุงก็หันไปหยิบไม้เบสบอลที่วางอยู่ใกล้ ๆ แล้วตีลุงจนล้มลงกับพื้น” คำพูดของชายสูงวัยทำให้ทุกคนในห้องพิจารณาคดีนิ่งอึ้ง 


 “แล้วซี่โครงนี่หักได้ยังไงครับ” คิณณ์อัดเสียงเสร็จก่อนจะถามรายละเอียดอีกครั้ง


 “ลูกลุงโมโหครับ ตอนที่ลุงบอกไม่มีเงินให้ เขาเลยเตะอัดลุงจนล้ม ตัวกระแทกโต๊ะข้าง ๆ จนทำให้ซี่โครงหัก”


 “ตอนที่เขาทำร้ายลุง มีใครอยู่ในเหตุการณ์ด้วยหรือเปล่าครับ” อัยการหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านข้างขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะถามเพิ่มเติมด้วยน้ำเสียงรอบคอบ


  “ไม่มีใครอยู่เลย บ้านลุงอยู่ลึก ไม่มีเพื่อนบ้านใกล้ ๆ วันนั้นมีแค่ลุงกับเขาสองคน” ชายสูงวัยส่ายหัวเบา ๆ


 “หลังจากที่ถูกทำร้ายลุงทำอย่างไรต่อ”คิณณ์พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามขึ้นบ้าง


 “หลังจากเขาตีลุงจนล้ม เขาก็ขี่รถหนีไปเลยครับ ลุงนอนเจ็บอยู่พักใหญ่ถึงได้พยายามลุกขึ้นมาโทรเรียกตำรวจ พอตำรวจมาเขาก็พาลุงไปโรงพยาบาล” ชายสูงวัยตอบพลางยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลออกมา


 “หมอวินิจฉัยว่ายังไงครับ” 


  “หมอบอกว่าหัวโดนตีจนแตก ต้องเย็บไป 20 เข็ม กระดูกซี่โครงหักต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล 2 เดือน” คำพูดนั้นทำให้ผู้คนในห้องพิจารณาคดีบางส่วนสูดลมหายใจลึกด้วยความตกใจไม่เว้นแม้แต่ลัลน์ที่ฟังแล้วยังตกใจ ไม่เข้าใจได้ว่าลูกนั้นจะกระทำต่อบุพการีได้ถึงขนาดนี้ คิณณ์จดรายละเอียดลงในสมุดอีกครั้ง ก่อนจะถามต่อ


 “อัยการมีคำถามเพิ่มเติมหรือไม่” คิณณ์หันมาเอ่ยถามกับอัยการด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งอย่างไม่อาดคาดเดาความคิดได้


 “หมดคำถามครับท่าน” อัยการโค้งศีรษะเล็กน้อยก่อนตอบ


 “จำเลย รับผิดตามฟ้องข้อหาพยายามฆ่าบุพการีหรือไม่” คิณณ์หันไปถามจำเลยซึ่งอยู่ทางเข้าออกของนักโทษซึ่งถูกจำคุก


 “รับครับ” จำเลยพยักหน้าเอ่ยตอบไป คิณณ์จึงพยักหน้าให้ทุกคนนั่งลงก่อนที่จะไปอัดเสียงเรียบเรียงกระบวนพิจารณาของตนต่อไป