นายกฯหนุ่มสบตาเขา แล้วก็ถามขึ้นมาตรงๆว่า “ผมอยากรู้ว่าคุณต้องการอะไร” นายทหารหนุ่มหัวเราะออกมา “ผมจูบคุณขนาดนั้นแล้ว คุณยังไม่รู้อีกหรือว่าผมต้องการอะไร” เมื่อเห็นอีกฝ่ายชะงักและกำลังจะโกรธ ชายหนุ่มจึงตอบอย่างจริงจังว่า “ผมสนใจคุณ ผมชอบคุณ” อี้หมิงซือชะงัก หน้าแดงขึ้นมาด้วยความโกรธและอายผสมกัน **อี้หมิงซือ นายกเทศมนตรีที่หล่อและเก่งที่สุด ชีวิตนี้มีแต่งาน จนเขาได้ช่วยชีวิตเว่ยหมิงซือ นายทหารหนุ่มอนาคตไกลเอาไว้ การต่อสู้ฝ่าฟันทั้งเรื่องรักและเรื่องงานเพื่อให้ได้ใช้ชีวิตด้วยกันจึงเริ่มต้นขึ้น**

กลยุทธ์คว้าใจนายกฯอี้หมิงซือ (มี E-book ที่เด็กดี meb ปิ่นโต)) - 7 วิธีพิชิตใจเธอ โดย Clear Clouds @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-ชาย,จีน,ยุคปัจจุบัน,ผู้ใหญ่,นิยายวาย,โรแมนติค ,18+,จบดี ,พระเอกเก่ง,พระเอกหล่อ,นายเอกเก่ง,นายกเทศมนตรี,กลยุทธ์คว้าใจนายกฯอี้หมิงซือ,การเมือง,พระเอกเป็นทหาร,นิยายจีนปัจจุบัน,ชิงไหวชิงพริบ,อี้หมิงซือ,เว่ยซีหลง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

กลยุทธ์คว้าใจนายกฯอี้หมิงซือ (มี E-book ที่เด็กดี meb ปิ่นโต))

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-ชาย,จีน,ยุคปัจจุบัน,ผู้ใหญ่

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นิยายวาย,โรแมนติค ,18+,จบดี ,พระเอกเก่ง,พระเอกหล่อ,นายเอกเก่ง,นายกเทศมนตรี,กลยุทธ์คว้าใจนายกฯอี้หมิงซือ,การเมือง,พระเอกเป็นทหาร,นิยายจีนปัจจุบัน,ชิงไหวชิงพริบ,อี้หมิงซือ,เว่ยซีหลง

รายละเอียด

กลยุทธ์คว้าใจนายกฯอี้หมิงซือ (มี E-book ที่เด็กดี meb ปิ่นโต)) โดย Clear Clouds  @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

นายกฯหนุ่มสบตาเขา แล้วก็ถามขึ้นมาตรงๆว่า “ผมอยากรู้ว่าคุณต้องการอะไร” นายทหารหนุ่มหัวเราะออกมา “ผมจูบคุณขนาดนั้นแล้ว คุณยังไม่รู้อีกหรือว่าผมต้องการอะไร” เมื่อเห็นอีกฝ่ายชะงักและกำลังจะโกรธ ชายหนุ่มจึงตอบอย่างจริงจังว่า “ผมสนใจคุณ ผมชอบคุณ” อี้หมิงซือชะงัก หน้าแดงขึ้นมาด้วยความโกรธและอายผสมกัน **อี้หมิงซือ นายกเทศมนตรีที่หล่อและเก่งที่สุด ชีวิตนี้มีแต่งาน จนเขาได้ช่วยชีวิตเว่ยหมิงซือ นายทหารหนุ่มอนาคตไกลเอาไว้ การต่อสู้ฝ่าฟันทั้งเรื่องรักและเรื่องงานเพื่อให้ได้ใช้ชีวิตด้วยกันจึงเริ่มต้นขึ้น**

ผู้แต่ง

Clear Clouds

เรื่องย่อ

      อี้หมิงซือเป็นนายกเทศมนตรีเมืองชิงต่าว ที่หนุ่มและหล่อที่สุด ชีวิตของเขามีแต่การทำงาน จนวันหนึ่งได้ไปพบกับนายทหารหนุ่มรูปหล่อ เว่ยหมิงซือ และรักแรกพบก็มีจริง เว่ยหมิงซือทำทุกทางเพื่อให้ได้อยู่ใกล้ชิดกับนายกเทศมนตรีที่ถือตัวและยังเก่งกาจคนนี้ แต่ความรักของพวกเขาก็ไม่ง่าย พวกเขาต้องพบเจอกับอุปสรรคจากหน้าที่การงานและจากครอบครัว ที่ไม่อยากให้พวกเขาเอาหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์นี้ ไปเสี่ยงกับความรักระหว่างผู้ชายสองคน  และยังต้องต่อสู้กับความเข้าใจผิดจากตัวพวกเขาเองอีกด้วย ในนี้จะมีทั้งการต่อสู้เรื่องงานการเมือง การทหาร และความรัก เพื่อให้ครบรสตามที่ควรจะเป็น

สารบัญ

กลยุทธ์คว้าใจนายกฯอี้หมิงซือ (มี E-book ที่เด็กดี meb ปิ่นโต))-1 เมื่อเราพบกัน,กลยุทธ์คว้าใจนายกฯอี้หมิงซือ (มี E-book ที่เด็กดี meb ปิ่นโต))-2 พบกันอีกครั้ง,กลยุทธ์คว้าใจนายกฯอี้หมิงซือ (มี E-book ที่เด็กดี meb ปิ่นโต))-3 ผมชื่อเว่ยซีหลง ,กลยุทธ์คว้าใจนายกฯอี้หมิงซือ (มี E-book ที่เด็กดี meb ปิ่นโต))-4 กินข้าวด้วยกันไหม,กลยุทธ์คว้าใจนายกฯอี้หมิงซือ (มี E-book ที่เด็กดี meb ปิ่นโต))-5 เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ,กลยุทธ์คว้าใจนายกฯอี้หมิงซือ (มี E-book ที่เด็กดี meb ปิ่นโต))-6 เราอยู่ห่างไกลกันเหลือเกิน,กลยุทธ์คว้าใจนายกฯอี้หมิงซือ (มี E-book ที่เด็กดี meb ปิ่นโต))-7 วิธีพิชิตใจเธอ,กลยุทธ์คว้าใจนายกฯอี้หมิงซือ (มี E-book ที่เด็กดี meb ปิ่นโต))-8 พ่อหนุ่มเจอคนสำคัญคนนั้นแล้วนะ,กลยุทธ์คว้าใจนายกฯอี้หมิงซือ (มี E-book ที่เด็กดี meb ปิ่นโต))-9 คุณอยู่ที่ไหน,กลยุทธ์คว้าใจนายกฯอี้หมิงซือ (มี E-book ที่เด็กดี meb ปิ่นโต))-10 ปล่อยให้มันเป็นไป,กลยุทธ์คว้าใจนายกฯอี้หมิงซือ (มี E-book ที่เด็กดี meb ปิ่นโต))-11 ยังไงกันนะ,กลยุทธ์คว้าใจนายกฯอี้หมิงซือ (มี E-book ที่เด็กดี meb ปิ่นโต))-12 คุณคือใคร,กลยุทธ์คว้าใจนายกฯอี้หมิงซือ (มี E-book ที่เด็กดี meb ปิ่นโต))-13 ห้องนี้มีสองเตียงนะ (NC 18)

เนื้อหา

7 วิธีพิชิตใจเธอ

วันนี้อี้หมิงซือเลิกงานเร็วกว่าปกติ แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นเวลาหกโมงเย็นแล้ว เขาลงจากรถหยิบของและขอบใจคนขับ ในระหว่างที่หยิบคีย์การ์ดเพื่อเปิดประตู ก็ต้องชะงักเมื่อรู้สึกว่ามีคนเดินเข้ามาใกล้ๆ ชายหนุ่มหันไปมอง แต่ก็โล่งใจเมื่อพบว่าเป็นเว่ยซีหลง ก่อนที่เขาจะพูดอะไร นายทหารหนุ่มก็ถามยิ้มๆ ว่า “คุณกินข้าวเย็นแล้วหรือยัง”

อี้หมิงซือชะงัก เขากำลังจะบอกอีกฝ่ายว่า วันนี้เขาเหนื่อยและไม่อยากออกไปกินข้าวที่ไหน แต่เหมือนเว่ยซีหลงจะรู้ใจ เขายกถุงที่มีอาหารหลายกล่องขึ้นมา “ผมซื้ออาหารเย็นกับอาหารเช้ามาให้ คุณเอาไปทานซะ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยทำเอง”

จากนั้นเขาก็คว้ามือของอี้หมิงซือ และยื่นถุงใส่มือให้เขาอย่างอ่อนโยน อี้หมิงซือมองหน้าเขาอย่างงงๆ 

 “กินข้าว แล้วก็พักผ่อนซะนะ ผมไปก่อนล่ะ” เว่ยซีหลงพูด จากนั้นก็หันหลังเดินไปที่ลานจอดรถโดยไม่รอให้อีกฝ่ายปฏิเสธ

อี้หมิงซือมองตามนายทหารหนุ่มที่เดินไปขึ้นรถ และขับออกไปจากลานจอดรถของอพาร์ทเม้นท์ทันที เขาไม่เข้าใจว่าเว่ยซีหลงทำไปเพื่ออะไร แต่สิ่งหนึ่งที่เขารู้ดีอยู่ในใจ คือ นายทหารหนุ่มไม่มีเจตนาร้ายกับเขาแน่นอน ชายหนุ่มจึงใช้คีย์การ์ดเปิดประตูกระจก และเดินไปขึ้นลิฟต์ทันที

เมื่อมาถึงห้องพัก เขาเปิดประตูห้อง เปิดไฟ จากนั้นก็ถอดรองเท้าหนัง เปลี่ยนมาเป็นรองเท้าแตะ และเดินเอาของกินไปวางบนโต๊ะในครัว 

วันนี้เขาหิวมาก อี้หมิงซือจึงรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และเดินมาเปิดถุงและกล่องอาหารที่ได้รับมา ในนั้นมีอาหารที่เขาชอบกินหลายอย่าง เว่ยซีหลงคงจะสังเกตตอนไปกินอาหารด้วยกัน และรู้ว่าเขาชอบกินผักและเนื้อสัตว์บางอย่าง วันไหนที่เหนื่อยมาก เขาจะกินอาหารที่ย่อยง่ายและไม่มันมาก วันนี้อาหารที่เว่ยซีหลงซื้อมาให้ก็เป็นแบบนั้น

ชายหนุ่มนั่งกินอาหารอย่างมีความสุข เขาดีใจที่ไม่ต้องเหนื่อยทำอาหารเย็นเอง และยังมีอาหารเช้าสำหรับพรุ่งนี้ ที่เป็นข้าวต้มซี่โครงหมู ซาลาเปาและน้ำเต้าหู้ เขาจึงไม่ต้องตื่นเช้ามาทำเอง จะได้มีเวลานอนเพิ่มอีกสักพัก 

เมื่อตื่นเช้ามา อี้หมิงซืออุ่นอาหารเช้าที่ยังมีรสชาติดีอยู่ และกินอย่างพึงพอใจ เช้านี้เขาจึงไปทำงานอย่างอารมณ์ดี  

นับตั้งแต่นั้นมา เว่ยซีหลงจะเอาอาหารและบางครั้งก็ขนมมาส่งแบบนี้หลายครั้ง บางครั้งก็มาเอง และบางครั้งก็ให้คนส่งอาหารนำมาให้ ทำให้อี้หมิงซือเกรงใจมาก จนในที่สุดเขาต้องโทรศัพท์ไปหานายทหารหนุ่ม “ซีหลง คุณซื้ออาหารให้ผมบ่อยๆแบบนี้ ผมเกรงใจนะ ผมขอจ่ายค่าอาหารคืนได้มั้ย”

แต่เว่ยซีหลงกลับย้อนถามว่า “อาหารถูกปากคุณหรือเปล่าล่ะ” 

 “อร่อยมากครับ” อี้หมิงซือยอมรับ นายทหารหนุ่มจึงหัวเราะด้วยน้ำเสียงเสียงทุ้มนุ่มของเขา ทำให้อี้หมิงซืออดรู้สึกรู้สึกจั๊กจี๋ที่หูไม่ได้ 

เว่ยซีหลงพูดต่ออย่างอารมณ์ดีว่า “แค่คุณชอบ ผมก็พอใจแล้ว ผมไม่ได้อยากให้คุณตอบแทนอะไรสักหน่อย” แล้วก็วางหูไป

อี้หมิงซือไม่ชอบกินของใครฟรี  เขาจึงส่งข้อความบอกเว่ยซีหลงว่า “ผมขอเลี้ยงอาหารตอบแทนคุณได้มั้ย” นายทหารหนุ่มที่อ่านข้อความเสร็จก็ยิ้มมุมปากออกมา เขาพิมพ์ข้อความตอบตกลงทันที และเพิ่มเติมว่า “แต่ผมอยากกินอาหารฝีมือของคุณนะ ไม่อยากไปกินที่ร้าน”

อี้หมิงซืออึ้งไป แต่เขาก็ยอมรับปากที่จะทำอาหารเลี้ยงตอบแทน พวกเขาจึงนัดเจอกันในตอนเย็นวันเสาร์ที่จะถึงนี้  เมื่อใกล้วันนัด เขาโทรถามเว่ยซีหลงว่า “คุณอยากจะกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า”

นายทหารหนุ่มบอกชื่ออาหารที่เขาชอบไป แล้วบอกว่า “ผมจะซื้อวัตถุดิบหลักไปให้เอง ผมรู้จักร้านที่ขายอาหารทะเลสดๆ คุณจะได้ไม่ต้องเหนื่อยออกไปซื้อเอง” ซึ่งนายกเทศมนตรีหนุ่มก็เห็นด้วย เขากลัวว่าตัวเองจะไม่มีเวลาไปซื้อได้ครบเช่นกัน และไม่กล้าเสี่ยงสั่งซื้อออนไลน์ด้วย เพราะกลัวคนขายเอาของไม่ดีมาส่ง 

ทุกวันเสาร์ จะเป็นวันที่แม่บ้านมาทำความสะอาดที่อพาร์ทเม้นท์ อี้หมิงซือปล่อยให้คนงานทำความสะอาดไปตามปกติ ส่วนตัวเขาออกไปซื้อของสดที่ตลาดใกล้ๆ ไม่เพียงแต่ซื้อของมาทำอาหารให้เว่ยซีหลง แต่เขาต้องการซื้อเก็บเอาไว้ทำกินเองในภายหลังด้วย 

ช่วงบ่ายเขากลับมาทำงานเอกสาร จากนั้นจึงเริ่มต้นเตรียมทำอาหาร เมื่อได้ยินเสียงกระดิ่งประตูดังขึ้น จึงเดินไปที่อินเตอร์คอม และเห็นที่จอว่าเป็นเว่ยซีหลง ชายหนุ่มจึงเปิดประตูให้เขาเดินเข้ามาในอาคารได้ จากนั้นเขาก็ยืนรอเปิดประตูห้องให้

วันนี้เว่ยซีหลงแต่งตัวง่ายๆ เขาใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีครีมเข้ารูปเล็กน้อย ทำให้มองเห็นรูปร่างเพรียวบางแต่มีกล้ามเนื้อกำลังพอดี และขาเรียวยาวของเขาที่อยู่ภายใต้กางเกงยีนส์สีน้ำตาลเข้ม ชายหนุ่มถือของและกล่องมาเต็มมือ 

“ผมช่วยถือของให้” อี้หมิงซือรีบช่วยชายหนุ่มถือถุงและกล่องโฟมเก็บความเย็นใช้ที่ใส่อาหารทะเล 

“รองเท้าแตะอยู่ที่ชั้นทางนี้นะ ผมจะเอาของไปไว้ในครัวก่อน” จากนั้นเขาก็ปล่อยให้อีกฝ่ายดูแลตัวเอง และรีบกลับไปทำอาหารต่อ กลิ่นอาหารน่ากินลอยอยู่ในอากาศ

เว่ยซีหลงมองไปรอบๆ อพาร์ทเม้นท์ด้วยความสนใจ ห้องของอี้หมิงซือมีสองห้องนอน เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะพบพื้นที่สำหรับวางรองเท้าและตู้ใส่ของขนาดเล็ก ถัดเข้าไปเป็นห้องนอนสองห้องเผชิญหน้ากัน โดยมีทางเดินตรงกลางนำไปสู่ห้องนั่งเล่นด้านใน เมื่อเดินเข้าไปเขาเห็นห้องนอนทางซ้ายเปิดประตูเอาไว้ ซึ่งจัดเป็นห้องทำงาน ข้างในมีโต๊ะเก้าอี้ คอมพิวเตอร์ ชั้นหนังสือ และโซฟาเบดวางอยู่ด้านในสุด ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องนอนของอี้หมิงซือที่ปิดประตูเอาไว้

เมื่อเดินผ่านเข้าไปข้างในจะพบห้องนั่งเล่น ซึ่งมีโซฟายาว เก้าอี้เดี่ยว โต๊ะวางกาแฟขนาดเล็ก และโทรทัศน์บนผนัง มุมหนึ่งของห้องเป็นโต๊ะกินข้าวที่นั่งได้ 4 คน ถัดเข้าไปข้างในเป็นห้องครัว ที่ฝั่งหนึ่งเป็นตู้เย็น ชั้น เตาไฟฟ้า เตาอบ อีกฝั่งเป็นเครื่องซักผ้าและอบผ้า และมีห้องน้ำอยู่ด้านในสุดของอพาร์ทเม้นท์

 อี้หมิงซือตกแต่งห้องด้วยโทนสีขาวครีมและน้ำตาลอ่อน ดูอบอุ่นสบายตา เขาไม่ได้แต่งห้องเป็นแนวสแกนดิเนเวียนแบบที่คนนิยม แต่เป็นแบบแบบคลาสสิคเรียบง่ายที่แฝงความสง่างามเอาไว้ เว่ยซีหลงสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและเงียบสงบ สะท้อนบุคลิกของเจ้าของ สำหรับอี้หมิงซือแล้ว ที่นี่เป็นเหมือนที่พักพิง ที่ช่วยให้เขารู้สึกอบอุ่นใจและรู้สึกปลอดภัยเมื่อกลับมาถึง

เว่ยซีหลงเดินเข้าไปในครัวเพื่อช่วยทำอาหาร วันนี้อี้หมิงซือสวมเสื้อยืดสีฟ้าอ่อนและกางเกงขายาวสีครีม และสวมผ้ากันเปื้อนสีน้ำเงิน นายทหารหนุ่มถามเขา ซึ่งกำลังวุ่นวายล้างผักผลไม้และจัดเตรียมเนื้อสัตว์ว่า “ให้ผมช่วยทำอะไรบ้างครับ” 

ชายหนุ่มจึงหันมาถามอย่างไม่แน่ใจ “คุณทำอาหารเป็นด้วยหรือ”

เมื่อเห็นเว่ยซีหลงพยักหน้า เขาจึงขอให้ช่วยล้างผัก โดยทำตามขั้นตอนที่เขาบอก ในระหว่างนั้นอี้หมิงซือก็เริ่มต้นทำอาหาร ที่นี่มีเตาไฟฟ้าแบบ 4 หัว ทำให้สามารถทำอาหารได้พร้อมกันหลายอย่าง

ทั้งสองพูดคุยกันเรื่องวิธีการทำอาหารและสูตรที่ใช้ เว่ยซีหลงทำอาหารเป็นในระดับหนึ่ง เมื่อมาช่วยเป็นลูกมือ เขาก็บอกให้อี้หมิงซือสั่งมาเลยว่าต้องทำอะไรบ้าง “เพราะแต่ละคน แต่ละบ้านมีวิธีทำที่แตกต่างกัน ผมไม่ชอบมานั่งเถียงกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ถ้าวิธีของอีกฝ่ายสะดวกและไม่แปลกประหลาดเกินไป ผมก็ยอมรับได้นะ”

 อี้หมิงซือเข้าใจ “ก็จริงนะ เวลาแม่ทำอาหารก็เป็นอย่างนึง พอผมมาอยู่คนเดียว ก็ทำอีกแบบนึงที่ง่ายกว่า สะดวกกว่า แต่พอเห็นผมทำ แม่ก็ไม่ชอบ บอกว่าผมมักง่าย ฮ่าๆๆๆ” เขาหัวเราะเสียงดังเมื่อนึกถึงเวลาที่แม่มาอยู่กับเขาและช่วยกันทำอาหาร

“แล้วคุณทำยังไงต่อ” นายทหารหนุ่มถามพร้อมกับแกะเปลือกกุ้งสดออก เพื่อเตรียมผัดกับผงกะหรี่

อีกฝ่ายตอบยิ้มๆ ว่า “ผมก็ให้แม่ทำไปเลย เป็นคนคอยกินอย่างเดียว แล้วก็ช่วยเก็บจานล้างให้ก็พอ”

“แม่ของคุณคงไม่อยากให้คุณเหนื่อยมากกว่า เลยบอกว่าไม่ชอบที่คุณทำ”

“ผมก็ว่าอย่างนั้น” อี้หมิงซือเห็นด้วย

พวกเขาพูดคุยกันสัพเพเหระ ทำให้บรรยากาศผ่อนคลาย อี้หมิงซือรู้สึกสบายใจที่จะคุยกับอีกฝ่ายไปเรื่อยๆ และที่สำคัญการพูดคุยกันโดยไม่ตั้งใจเกินไปในขณะที่ทำอาหารไปด้วย ทำให้พวกเขาไม่ตั้งการ์ดป้องกันตัวเองมากเกินไปด้วย

ทั้งสองทำอาหารเสร็จและช่วยกันยกมาวางที่โต๊ะกินข้าว ในระหว่างที่กินข้าวด้วยกันนั้น เว่ยซีหลงเล่าเรื่องตัวเองให้อีกฝ่ายฟัง และตอบคำถามที่ว่าทำไมเขาถึงมาที่นี่ได้บ่อย 

“ผมได้รับคำสั่งให้มารับผิดชอบโครงการร่วมกับกองทัพเรือแล้วก็หน่วยงานอื่นๆ ที่นี่ เดี๋ยวคุณก็น่าจะได้รับรายงานอีกที”

อี้หมิงซือรู้ว่าข้อมูลบางอย่างจะเปิดเผยรายละเอียดมากไม่ได้ “เป็นโครงการเกี่ยวกับอะไรครับ ผมจะได้เตรียมตัวสนับสนุน”

“โครงการทดลองสร้างระบบต่อต้านการจารกรรมที่ใช้เทคโนโลยีล่าสุด”

“ทำไมถึงเลือกที่นี่ละครับ” ที่จริงแล้วนายกฯหนุ่มพอจะเดาได้ แต่เขาอยากจะได้รับการยืนยัน

 “คุณก็รู้อยู่แล้วว่าชิงต่าวเป็นเมืองที่อยู่ติดกับคาบสมุทรเกาหลีและญี่ปุ่น ที่มีกองทัพเรือประจำการอยู่ ผมก็เลยเสนอโครงการนี้ขึ้นมาเอง และกองทัพก็สนใจการป้องกันข้อมูลรั่วไหลและการจารกรรมอยู่ด้วย โครงการนี้เลยเป็นการทดลองนำร่อง”

“แล้วโครงการนี้จะมีระยะเวลานานแค่ไหนครับ” อี้หมิงซือถามในขณะที่อีกฝ่ายช่วยตักอาหารใส่จานให้ 

“ประมาณปีนึง ผมก็เลยได้ย้ายมาอยู่ที่นี่จนกว่าโครงการจะสำเร็จด้วย” อี้หมิงซือชะงัก ทั้งสองสบตากัน จากนั้นนายกฯหนุ่มก็กินอาหารต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในขณะที่อีกฝ่ายยังคงเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ต่อ ด้วยท่าทางนิ่งสงบด้วยเช่นกัน

สำหรับนายทหารหนุ่มแล้ว เวลาหนึ่งปีที่มีนี้ ก็มากเพียงพอที่จะไล่ตามจีบนายกเทศมนตรีอี้หมิงซือ ให้กลายมาเป็นคนรักของเขาได้  

จากนั้น เขาก็เล่าเรื่องโครงการให้อี้หมิงซือฟังโดยไม่ปิดบัง เพราะนายกเทศมนตรีต้องรับผิดชอบความปลอดภัยและความมั่นคงของเมืองด้วย เมื่อรู้ว่าเว่ยซีหลงเคยไปศึกษาต่อด้านเทคโนโลยีด้านข่าวกรอง และการต่อต้านการจารกรรมจากต่างประเทศ อี้หมิงซือรู้ในทันทีว่านายทหารคนนี้จะต้องมีอนาคตไกลอย่างแน่นอน

อี้หมิงซือเล่าเช่นกันว่า “ผมก็สนใจจะเรียนต่อปริญญาเอกด้านข้อมูลข้อมูลข่าวสารแล้วก็ความมั่นคงเหมือนกัน แต่ตอนนี้ยังอยู่ในตำแหน่ง ก็เลยปลีกตัวไปเรียนไม่ได้” 

เมื่อได้ยินแบบนี้ เว่ยซีหลงจึงแนะนำว่า “งั้นผมจะแนะนำให้คุณเข้าร่วมในโครงการนี้ มันจะดีกับตัวคุณในอนาคตด้วย” 

ชายหนุ่มยิ้มและขอบคุณที่อีกฝ่ายนึกถึงเขา “ผมอาจจะได้ใช้ประสบการณ์นี้ไปใช้ในการเรียนต่อก็ได้นะ ใครจะรู้”

ด้วยความสนใจที่ใกล้เคียงกัน บุคลิกภาพที่จริงจังในการทำงาน และยังรู้มีบทสนทนาที่ลื่นไหล ทำให้ทั้งสองสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันได้อย่างออกรส

ทั้งสองคนหลีกเลี่ยงการสนทนาที่จะนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ยังคลุมเครือของพวกเขา ถึงแม้ว่าบางครั้ง เว่ยซีหลงจะมองไปที่ริมฝีปากสีชมพูเข้มของท่านนายกเทศมนตรีบ่อยครั้ง และบางทีก็นานไปหน่อย แต่เขาก็จะรีบหันหน้าไปมองทางอื่นทันที ทำให้บรรยากาศไม่อึดอัดแต่อย่างใด

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนสามทุ่มกว่าแล้ว เว่ยซีหลงจึงขอตัวกลับก่อน เขารู้ว่าไม่ควรจะอยู่นานเกินไป และควรจะให้เวลาอีกฝ่ายได้พักผ่อน ทั้งสองจึงช่วยกันเก็บจาน และนายทหารหนุ่มยังช่วยล้างจานด้วย  “ผมจะปล่อยให้คุณทำคนเดียวได้ยังไง คุณอุตส่าห์ทำอาหารอร่อยๆ ให้ผมกินตั้งหลายอย่าง” 

ก่อนกลับ เขายังบอกให้อี้หมิงซือผูกปิ่นโตอาหารเช้าและอาหารเย็น เพราะยิ่งตำแหน่งงานก้าวหน้ามากขึ้น เขาก็จะยิ่งไม่มีเวลาทำอาหารอีกต่อไป นายทหารหนุ่มยังแนะนำร้านอาหารที่อร่อยและถูกสุขลักษณะให้ด้วย 

อี้หมิงซืออดที่จะล้อไม่ได้ว่า “คุณรู้ว่าร้านไหนอาหารอร่อยมากกว่าคนในพื้นที่อย่างผมอีกนะ” 

แต่อีกฝ่ายกลับตอบอย่างจริงจังว่า “อย่าลืมสิว่า ผมย้ายมาอยู่ที่นี่ได้สักพักแล้ว ผมก็ไม่มีเวลาเหมือนกัน เวลาเจออะไรดี ก็อยากจะแชร์กับ ‘เพื่อน’ ที่คุยกันถูกคอ”

อี้หมิงซือใช้หางตามองเขา และยิ้มนิดๆ เมื่อได้ยินคำว่าเพื่อนจากเขา แต่ชายหนุ่มก็ยอมรับคำแนะนำด้วยความยินดี

เมื่อเดินลงมาที่ลานจอดรถ เว่ยซีหลงก็ยืนนิ่ง เงยหน้ามองไปที่ห้องของอี้หมิงซือ เขาดีใจที่ความสัมพันธ์เขยิบไปในทิศทางที่ดีขึ้น เขาต้องการสร้างความไว้วางใจและความสนิทใจแบบเพื่อนให้เกิดขึ้น อี้หมิงซือเป็นคนระวังตัวและไม่เปิดใจให้ใครง่ายๆ การสร้างความคุ้นเคยและไว้วางใจจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด เมื่อเห้นความก้าวหน้าของปฏิบัติการรักแล้ว เว่ยซีหลงก็ขับรถและฟังเพลงไปด้วยอย่างอารมณ์ดีไปตลอดทาง