จิงซิงอี้ แพทย์จีนจบใหม่ กลับมาเปิดคลินิกรักษาโรคที่หมู่บ้านกับคุณตาที่เลี้ยงดูเขามา เขารักษาคนไข้ที่อยู่ห่างไกล ทำธุรกิจสมุนไพร ทำแหล่งท่องเที่ยว และค้นหาความลับจากชาติกำเนิดที่เป็นปริศนาของตัวเอง เนื้อหาครึ่งแรกอยู่ในยุคปัจจุบัน ครึ่งหลังย้อนยุคไปราชวงศ์ซ่งเหนือ

จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN) - 7 7 โดย Clear Clouds @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ย้อนยุค,แฟนตาซี,ผจญภัย,จีน,ข้ามเวลา,จีนปัจจุบัน,แพทย์แผนจีน,พระเอกเป็นหมอจีน,ย้อนยุค,พระเอกเก่ง,พระเอกหล่อ,จิงซิงอี้,จิงซิงอี้แพทย์จีน2ยุค,ทำธุรกิจสมุนไพร,รักษาโรค,ทำสมุนไพรขาย,พบกับเปาบุ้นจิ้น,พบกับจั่นเจา,พระเอกซึนเดเระ,ผจญภัย,อบอุ่นหัวใจ,อบอุ่น,จบดี ,พระเอกอยู่กับคุณตา,ช่วยราชสำนักแก้ไขคดี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ย้อนยุค,แฟนตาซี,ผจญภัย,จีน,ข้ามเวลา

แท็คที่เกี่ยวข้อง

จีนปัจจุบัน,แพทย์แผนจีน,พระเอกเป็นหมอจีน,ย้อนยุค,พระเอกเก่ง,พระเอกหล่อ,จิงซิงอี้,จิงซิงอี้แพทย์จีน2ยุค,ทำธุรกิจสมุนไพร,รักษาโรค,ทำสมุนไพรขาย,พบกับเปาบุ้นจิ้น,พบกับจั่นเจา,พระเอกซึนเดเระ,ผจญภัย,อบอุ่นหัวใจ,อบอุ่น,จบดี ,พระเอกอยู่กับคุณตา,ช่วยราชสำนักแก้ไขคดี

รายละเอียด

จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN) โดย Clear Clouds  @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จิงซิงอี้ แพทย์จีนจบใหม่ กลับมาเปิดคลินิกรักษาโรคที่หมู่บ้านกับคุณตาที่เลี้ยงดูเขามา เขารักษาคนไข้ที่อยู่ห่างไกล ทำธุรกิจสมุนไพร ทำแหล่งท่องเที่ยว และค้นหาความลับจากชาติกำเนิดที่เป็นปริศนาของตัวเอง เนื้อหาครึ่งแรกอยู่ในยุคปัจจุบัน ครึ่งหลังย้อนยุคไปราชวงศ์ซ่งเหนือ

ผู้แต่ง

Clear Clouds

เรื่องย่อ

จิงซิงอี้เป็นแพทย์แผนจีนจบใหม่ ที่เก่งและมีชื่อเสียงในมหาวิทยาลัย แต่เขาตัดสินใจกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านนอกในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งกับคุณตาของเขาที่เป็นแพทย์จีนที่มีชื่อเสียงเช่นกัน 

จิงซิงอี้เริ่มต้นชีวิตที่นี่ด้วยการเปิดคลินิกขนาดเล็ก และทำทุกอย่างเอง เพื่อให้ชาวบ้านรู้จักและยอมรับ เขาไปรักษาฟรีตามสถานที่ต่างๆ และสืบสานธุรกิจสมุนไพรจากคุณตาจิงเซียว 

ที่นี่ เขาไม่เพียงแต่ทำธุรกิจให้เลี้ยงตัวเองได้ เขายังสืบสานเจตนารมณ์ในการสร้างสำนักแพทย์ฉางซานตามที่คุณตาต้องการ และยังช่วยเหลือคนในหมู่บ้านให้มีรายได้เลี้ยงตัวเองไปด้วยกัน

ในแต่ละวันจะมีเคสคนไข้ที่ป่วยกด้วยโรคต่างๆแวะเวียนมาให้เขารักษา บางครั้งเขารักษาคน บางครั้งรักษาสัตว์ป่าบาดเจ็บ และบางครั้งยังช่วยทางการสืบคดีและชันสูตรศพที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาพิษจากสมุนไพร!

สิ่งที่เป็นความลับของเขามาตลอด คือ จิงเซียวช่วยเหลือเขา และเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็ก ปริศนาชาติกำเนิดนี้ทำให้เขาได้ย้อนยุคกลับไปอยู่สมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ และได้พบกับคนดังในตำนานทั้งเปาบุ้นจิ้น กงซุนเช่อ และแมวหลวงจั่นเจา

ปริศนาชีวิตของเขาและจิงเซียวได้รับการเปิดเผยจากการผจญภัยในตอนนี้นี่เอง!!!

สารบัญ

จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN)-1 1,จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN)-2 2,จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN)-3 3,จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN)-4 4,จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN)-5 5,จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN)-6 6,จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN)-7 7,จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN)-8 8,จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN)-9 9,จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN)-10 10,จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN)-11 11,จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN)-12 12,จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN)-13 13,จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN)-14 14,จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN)-15 15,จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN)-16 16,จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN)-17 17,จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN)-18 18,จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN)-19 19,จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN)-20 20,จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN)-21 21,จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN)-22 22,จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค (มี E-book ครบ 4 เล่มจบ ที่ meb เด็กดี ปิ่นโต ARN)-23 23

เนื้อหา

7 7

ระหว่างที่ถาม จิงซิงอี้กวาดสายตาไปรอบๆ ด้านอย่างระมัดระวัง เขากลัวแม่ของมันจะพุ่งออกมาจู่โจม ถึงเจ้าตัวเล็กจะทำตัวฟู และมีแววตาหวาดระแวง แต่ก็ยังจ้องตาเขาไม่หลบ 

จิงซิงอี้ค่อยๆ ถอยออกมานั่งที่เดิม ทั้งสองปรึกษากันว่าจะนั่งรอห่างๆ และดูว่าแม่จิ้งจอกจะมารับลูกหรือไม่ และค่อยตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร เวลาผ่านไป 15 นาที ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีแม่จิ้งจอกเดินออกมา แต่แล้วลูกสุนัขจิ้งจอกก็ค่อยๆ โผล่หน้ามาออกมาจากหลังต้นไม้ และมองมาที่สองตาหลาน 

ในที่สุดจิงซิงอี้และจิงเซียวจึงลุกเดินไปหามันช้าๆ  จิงเซียวพูดกับมันด้วยเสียงมีเมตตาว่า 

“เจ้าอยากจะให้พวกเราทำอะไรให้ บอกมาสิเจ้าตัวเล็ก”

ลูกสุนัขจิ้งจอกเอียงคอฟัง จากนั้นมันก็หันหลังเดินเข้าไปในป่าด้านหลัง มันเดินไปสองสามก้าว และหยุดหันมามองพวกเขาหลายครั้ง เหมือนจะบอกให้ทั้งสองเดินตาม จิงซิงอี้และจิงเซียวมองหน้ากัน พวกเขารู้ว่าเจ้าตัวเล็กคงอยากจะให้พวกเขาเดินตาม 

ทั้งสองจึงเดินตามมัน ที่พามุดเข้าไปในป่าที่เริ่มรกทึบ พวกเขาต้องก้มตัวหลบเถาวัลย์และลุยเข้าไปในพุ่มไม้ที่ขวางทางเอาไว้หลายครั้ง 

 ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงโพรงหินที่ซ่อนอยู่หลังพุ่มไม้ เจ้าตัวเล็กรีบมุดเข้าไป ทั้งสองตาหลานเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง และเมื่อก้มตัวลงมองเข้าไปในโพรง พวกเขาก็เห็นสุนัขจิ้งจอกขนสีแดงโตเต็มวัยแล้วตัวหนึ่งนอนนิ่งอยู่ในโพรง ลูกสุนัขจิ้งจอกยืนเลียหน้ามันและส่งเสียงร้องครางหงิงๆ  จิงเซียวเข้าใจทันทีว่า “น่าจะเป็นแม่ของมัน”

ทั้งสองพบว่า แม่สุนัขจิ้งจอกนอนแน่นิ่งหายใจระรวย และมีร่องรอยบาดแผลถูกกัดที่ขาเป็นแผลใหญ่ เลือดเริ่มแห้งกรัง และมีรอยกัดขนาดเล็ก 2-3 แผลทั่วตัว รอยเลือดแห้งกระเซ็นตามขนของมัน 

มันน่าจะบาดเจ็บมาสองสามวันแล้ว และคงสลบไปเพราะเสียเลือดและแผลอักเสบ เจ้าตัวเล็กก็คงจะหิวและห่วงแม่ จึงออกมาขอความช่วยเหลือจากพวกเขา 

ทั้งสองตัดสินใจว่าจะช่วยพวกมัน จิงเซียวเป็นฝ่ายอุ้มลูกสุนัขจิ้งจอก ในขณะที่จิงซิงอี้ใช้ผ้าพันคอห่อตัวแม่จิ้งจอกไว้ และอุ้มมันขึ้นมา เขาตรวจดูร่องรอยบาดเจ็บ และเห็นว่าแผลสาหัสที่สุดอยู่ที่ขาหลังของมัน ที่ถูกกัดจนเหวอะเข้าไป 

จิงซิงอี้หันไปบอกเจ้าตัวเล็กว่า “พวกเราจะพาแม่ของเจ้าไปรักษานะ ไม่ต้องห่วง!” เจ้าตัวเล็กดูเหมือนจะรู้ความ มันส่งเสียงร้องเบาๆ 

ทั้งสองเก็บข้าวของเพื่อเตรียมเดินลงเขา จิงเซียวเอาอาหารและน้ำที่มีเหลือนิดหน่อยให้เจ้าตัวเล็ก  มันกินด้วยความหิวโหย จากนั้นพวกเขาก็เดินลงเขาทันที

เมื่อมาถึงบ้าน พวกเขาเดินเข้าไปในห้องตรวจรักษา จิงซิงอี้ปูผ้ายางเอาไว้บนโต๊ะและวางแม่จิ้งจอกลงไป เขาให้จิงเซียวเป็นคนดูแลมัน ในขณะที่เขาเดินเข้าไปในครัว รินน้ำข้าวต้มที่เหลือเมื่อเช้าใส่ถ้วยเล็กๆ และยกมาให้เจ้าตัวเล็ก 

เขายกถ้วยน้ำข้าวต้มขึ้นใกล้ปากของมันและสอนให้มันเลีย เมื่อรู้รสชาติแล้ว น้ำข้าวต้มถ้วยนั้น ก็หายวับลงท้องลูกสุนัขจิ้งจอกไปในพริบตา 

จิงเซียวซึ่งกำลังตรวจดูบาดแผลของแม่สุนัขจิ้งจอก หยุดมองและหัวเราะด้วยความเอ็นดู เขาพูดว่า “เจ้านี่มันไม่ธรรมดานะ”

จิงซิงอี้เดินเข้าไปช่วยจิงเซียวตรวจแผลแม่สุนัขจิ้งจอกที่นอนไม่ได้สติ เขาถามด้วยความไม่แน่ใจว่า “คุณตาจะทำยังไงครับ จะพาไปหาสัตวแพทย์หรือจะรักษาเอง” 

จิงเซียวยิ้มและตอบว่า “ตาจะรักษาเอง”

       จิงซิงอี้หัวเราะ เขาคาดเอาไว้อยู่แล้วว่าจิงเซียวจะต้องตอบเช่นนี้ สมัยที่จิงเซียวยังแข็งแรงและหนุ่มกว่านี้ เวลาที่พวกเขาเดินทางไปเก็บสมุนไพรและออกรักษาชาวบ้านตามที่ต่างๆ บางครั้งก็เจอสัตว์บาดเจ็บ ทั้งสัตว์ป่าและสัตว์เลี้ยง พวกเขาก็จะช่วยรักษาพวกมัน

ถึงตอนนี้ เจ้าตัวเล็กเดินมาหาจิงซิงอี้ มันยกสองขาหน้าขึ้นมาเกาะขาของเขาเอาไว้ จิงซิงอี้ก้มลงอุ้มมัน  เขายกตัวมันขึ้นสูงและสบตามัน หูของมันลู่ไปข้างหลัง มันแลบลิ้นเล็กๆ สีชมพูเลียน้ำข้าวที่ติดอยู่รอบปาก และส่งเสียงร้องเบาๆ ชายหนุ่มหัวเราะออกมา ใบหน้าของเขาอ่อนโยนลง และบอกมันว่า

        “รอสักพักนะ ตอนเย็นจะออกไปหานมแพะมาให้กิน” 

เจ้าตัวน้อยกะพริบตา มันหันไปมองแม่ที่นอนอยู่บนโต๊ะ และเห่าเบาๆ จิงซิงอี้พูดกับมันว่า

        “ไม่ต้องห่วง พวกเราจะรักษาแม่เจ้าเอง”

        ในระหว่างนั้น จิงเซียวทำความสะอาดบาดแผลของแม่จิ้งจอก จิงซิงอี้วางเจ้าตัวเล็กลง เขาใส่ถุงมือและเตรียมตัวเป็นลูกมือให้จิงเซียว

จิงเซียวมองนาฬิกาที่ผนังและถามเขาว่า “วันนี้เจ้าไม่ไปคลินิกแล้วรึ”

        ชายหนุ่มส่ายหน้า “ไม่ครับ ถ้ามีอะไรด่วน คนไข้คงโทรมาเอง..อีกอย่างนึง ช่วงเปิดใหม่แบบนี้ ยังไม่มีคนไข้มากนัก”

        เมื่อหันไปมองเจ้าตัวเล็ก เขาก็พบว่ามันขดตัวนอนบนผ้าที่จิงซิงอี้ปูเอาไว้ที่พื้น และนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย

        จากการตรวจบาดแผลของแม่จิ้งจอก พวกเขาพบว่า มันน่าจะต่อสู้กับสัตว์ใหญ่บางอย่างมา แต่โชคดีที่บาดแผลไม่รุนแรงมาก มันหมดสติไปเพราะเสียเลือด ขาดน้ำและอาหาร ส่วนลูกจิ้งจอกคงจะเฝ้าแม่อยู่สองสามวัน ไม่มีอาหารและนมให้กิน จนเมื่อได้ยินเสียงของพวกเขา มันจึงออกมาแอบมองอยู่หลังต้นไม้

        จิงซิงอี้ขอเป็นคนรักษาแทน เขาไม่อยากให้ชายชราเหนื่อยมากไปกว่านี้ จิงซิงอี้ทำความสะอาดแผล และใช้ยาหยุนหนานไป๋เหยาโรยแผล และป้อนยาตัวเดียวกันให้แม่สุนัขจิ้งจอกกิน เพื่อแก้ปวดและห้ามเลือด

เขาและจิงเซียวปรึกษากัน และคิดว่าหลังจากนี้ จะต้มเช่อไปเยี่ยให้มันกินเพื่อแก้ช้ำในและหยุดเลือด เพราะยาหยุนหนานไป๋เหยาอาจทำอันตรายต่อระบบทางเดินอาหารของสุนัขได้ จึงไม่ควรจะใช้รักษาติดต่อกันนาน 

สำหรับการรักษาสัตว์ด้วยแพทย์แผนจีนและแพทย์ทางเลือกอื่นๆ นั้น  เริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ทั้งการรักษาด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีนร่วมกับแพทย์แผนปัจจุบัน และการรักษาด้วยแพทย์แผนจีนเพียงอย่างเดียว 

วิธีการรักษายังมีคล้ายกับของมนุษย์ ทั้งการฝังเข็ม การลนยา การใช้สมุนไพร และการนวด ในประเทศจีนมีการสอนเป็นหลักสูตรในระดับมหาวิทยาลัยด้วย และยังมีการสอนเป็นหลักสูตรให้กับสัตวแพทย์จากประเทศอื่นด้วย

เมื่อรักษาแม่สุนัขจิ้งจอกเสร็จแล้ว พวกเขาก็ออกไปล้างมือและอาบน้ำ จากนั้นจิงซิงอี้ก็เตรียมทำอาหารกลางวัน ซึ่งกลายมาเป็นอาหารบ่ายแทน เพราะตอนนี้ก็ได้เวลาบ่ายสองแล้ว พวกเขาหิวกันมาก ถึงแม้ว่าจะนำอาหารกลางวันติดตัวไปกินบนเขาด้วย แต่ก็ได้กินเพียงเล็กน้อย เพราะต้องลงเขามาก่อน ตอนนี้ จิงซิงอี้จึงคิดจะต้มบะหมี่แบบง่ายๆ 

เขาเปิดตู้เย็น นำมะเขือเทศออกมาล้างและหั่นเป็นชิ้นเล็กๆเพื่อให้จิงเซียวเคี้ยวได้สะดวก จากนั้นนำน้ำซุปไก่ที่แช่แข็งออกมาต้มในหม้อ เขาตั้งน้ำอีกหม้อและต้มเส้นบะหมี่สำหรับสองคน เมื่อเส้นสุกนิ่มดีแล้วจึงตักขึ้นมาแช่น้ำเย็น 

ระหว่างนั้น เขาตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย ใส่กระเทียมสับลงไป ตามด้วยมะเขือเทศ ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ซีอิ๊วเล็กน้อย และตอกไข่ลงไป ผัดให้ทุกอย่างสุกนุ่ม 

เขาตักน้ำซุปใส่ถ้วย ใส่บะหมี่ลงไป ราดหน้าด้วยมะเขือเทศผัดไข่ และโรยหน้าด้วยต้นหอมซอยอีกเล็กน้อย 

อาหารที่เขากินกับจิงเซียวมักจะมีรสไม่จัดมากนัก และต้องทำให้เปื่อยนุ่มกว่าปกติ เพื่อให้จิงเซียวกินง่ายและย่อยง่าย 

เขายกถ้วยบะหมี่ไปวางที่โต๊ะ และตามจิงเซียวมากินด้วยกัน 

เมื่อกินอิ่มแล้ว จิงซิงอี้ออกไปข้างนอกอีกครั้ง เพื่อซื้อนมแพะและเนื้อไก่มาให้สุนัขจิ้งจอกสองแม่ลูก 

เขาขี่จักรยานไปบ้านหลังเล็กๆ ที่อยู่ถัดไป 4-5 หลัง ซึ่งมีสองสามีภรรยาสูงวัยอาศัยอยู่ พวกเขาปลูกผักและเลี้ยงสัตว์เอาไว้กินเอง เหมือนกับบ้านหลังอื่นๆ แถวนี้ 

เมื่อมาถึงหน้าบ้าน เขาจอดจักรยานเอาไว้และตะโกนเรียกเจ้าของบ้าน ซ่งฮ่าวเทียน ซึ่งเป็นชายรูปร่างผอมบางตัวเล็ก อายุประมาณ 60 กว่าปี เดินออกมาเปิดประตูรั้ว ชายหนุ่มจึงบอกว่า เขามาขอซื้อนมแพะและเนื้อไก่เพื่อเอาไปเลี้ยงลูกสุนัขบาดเจ็บ แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นสุนัขจิ้งจอก เพราะชาวบ้านอาจจะหวาดกลัว

ซ่งฮ่าวเทียนบอกให้เขานั่งรอในบ้าน ส่วนตัวเขาเดินไปที่คอกหลังบ้านเพื่อรีดนมแพะ และเตรียมไก่ให้ ระหว่างที่จิงซิงอี้นั่งรอนั้น เขาได้ยินเสียงป้าซ่งถามออกมาจากห้องนอนว่า “พ่อ ใครมาน่ะ”

จิงซิงอี้จึงตอบแทนว่า “ผมจิงซิงอี้ มาขอซื้อนมแพะครับ”

ป้าซ่งเปิดประตูและเดินออกมาจากห้องนอนช้าๆ เขาสังเกตเห็นว่าสีหน้าป้าซ่งซีดเซียว และเดินกระย่องกระแย่ง เขารีบเดินเข้าไปประคองและพาเธอไปนั่งที่เก้าอี้ จากนั้น จิงซิงอี้ก็ถามว่า

“ป้าปวดเข่าเหรอครับ มีอาการยังไงบ้าง”

ป้าซ่งลังเล แต่ก็ตัดสินใจเล่าอาการว่า

“ป้าปวดเข่าจ้ะ เป็นมาหลายปีแล้ว ยิ่งตอนเช้ายิ่งปวดมากขึ้น”